หลายวันก่อนพิมได้มีโอกาสนั่งรถผ่านถนนเส้นสุขาภิบาล 1 (กม.8-บางกะปิ) ซึ่งพอรถผ่านร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ที่ตั้งอยู่หน้าทางเข้า ม.ศรีนคร ที่พิมคุ้นเคย ไปประมาณ 1 ป้ายรถเมล์ พิมก็มองเห็นว่า ปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่ที่เคยร้างมานาน ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตรงข้าม มีการปรับปรุงครั้งยิ่งใหญ่ ทั้งทำความสะอาด ทาสี ปรับปรุงทัศนียภาพ ปลูกต้นไม้มากมาย มีการเอาโต๊ะไม้ โต๊ะม้าหินมาตั้งมากมายนับเป็นร้อยโต๊ะ สองร้อยโต๊ะ แถมยังมีการก่อสร้างล๊อค (สำหรับขายของ) เป็นแถวยาวนับ 20 กว่าล๊อคทางด้านริมกำแพงด้านข้างปั๊ม พร้อมกับขึ้นป้ายแผ่นใหญ่ที่มีข้อความอะไรสักอย่างที่พิมผ่านไม่ทัน ... แต่จากรูปการณ์สถานที่ ก็พอจะทำให้เข้าใจได้ว่า ป้ายที่พิมอ่านไม่ทันนั้น ต้องเป็นป้ายของการแสดงวันเปิดร้านหมูกระทะอย่างแน่นอน (ก็มีโต๊ะเยอะขนาดนี้ มันจะต้องเป็นร้านหมูกระทะชัวร์ ๆ)
NOTE :: รีวิวนี้พิมเขียนไว้ตั้งแต่ สิงหาคม 2552 เพราะงั้นด้วยวันเวลาที่ผ่านมาแล้วเกือบ 2 ปี (มาอัพเดทวันที่ 12 พ.ค. 54) ร้านนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ซึ่งจะเปลี่ยนไปในทางไหนนั้นพิมก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้ไปกินอีกเลย ดังนั้นพิมไม่ขอบอกนะคะว่าเพื่อน ๆ ที่อ่านรีวิวนี้แล้วตามไปกินที่ร้านนี้ จะเจอสิ่ิงดี ๆ แบบที่พิมเคยเจอไหม หรือเจออะไรที่แย่กว่าพิม ... อ่ะค่ะ
มาเมื่อวานนี้...นึกเบื่อ ๆ กับข้าวฝีมือตัวเอง (จริง ๆ อยากไปลองของใหม่ -*-) ก็เลยฉุดกระชากลากถูคุณแฟนสุดที่รัก ให้ช่วยไปกินหมูกระทะที่ร้านนี้เป็นเพื่อนหน่อย ... ก็ต้องอ้อนวอน ร้องขอกันอยู่เป็นนานสองนานค่ะ กว่าคุณแฟนตัวดีจะยอมตกลงใจไป .. คือถึงคุณแฟนจะเป็นคนชอบกินขนาดไหน แต่ถ้าอยู่ในสภาวะไม่อยากไป เค้าก็ไม่อยากไปอ่ะค่ะ - -" ... แต่นั่นแหละค่ะ ผลจากการฉุดดึงอยู่เป็นนานสองนาน ในที่สุดเค้าก็ยอมไป ... ก็เลยเป็นที่มาของรีวิว "ร้านกุ้งย่าง เฉินหลง" ในวันนี้แหละค่ะ
ร้านกุ้งย่าง เนื้อวัว ซีฟู๊ด บุฟเฟท์ "เฉินหลง" ตั้งอยู่บนถนนสุขาภิบาล 1 ค่ะ พิมไม่ทันได้ดูว่าซอยที่เท่าไหร่ แต่จะอยู่ใกล้ ๆ กับกรมที่ดินเขตบางกะปิค่ะ คือถ้านั่งรถหรือขับรถมาจากทางบางกะปิ จะอยู่เลยไฟแดงตรงกรมที่ดิน มาประมาณ 1/2 ป้ายรถเมล์ค่ะ หรือถ้ามาจากทางสุขาฯ 2 พอขับรถเลียบบึงพังพวยมาจนถึงไฟแดงกรมที่ดิน ก็ให้เลี้ยวขวามาประมาณ 1/2 ป้ายรถเมล์เช่นกันค่ะ หรือถ้าหากมาจากทาง กม. 8 / สันติอโศก หรือลัดเข้าซอยลาดพร้าว 101 ออกมาทางปากซอยโพธิ์แก้ว ก็ให้ขับรถตรงมาทางบางกะปิ ร้านนี้จะอยู่เลยทางเข้าหน้า ม.ศรีนคร ประมาณ 1 ป้ายรถเมล์ (ซึ่งจะเป็นป้ายที่อยู่ใกล้ ๆ กับบึงพังพวยค่ะ)
วันนี้พิมกับคุณสามี อยากประหยัดค่ารถ (แต่มาเปลืองค่ากินแทน) ก็เลยนั่งรถเมล์สาย 73 ก. จากป้ายรถเมล์แถวบ้าน มาลงที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามกันร้าน แล้วก็เดินข้ามสะพานลอยมาที่ร้าน ... บรรยากาศของร้าน จากบนสะพานลอยที่อยู่หน้าร้าน ก็เป็นแบบนี้เลยค่ะ (ดูโอ่โถ่งกว้างขวางดีใช่ไหมค่ะ)
เนื่องจากวันนี้พิมนั่งรถเมล์กันมา ก็เลยไม่ต้องไปลำบากหาที่จอดรถค่ะ (ที่จอดรถยนต์อยู่ด้านหลัง ส่วนมอไซด์จอดด้านหน้า อย่างที่เห็นก็ได้ค่ะ) .. พอมาถึงร้าน พิมกับคุณแฟนก็เลยตรงดิ่งไปหาโต๊ะนั่งกันทันทีเลยค่ะ ... ซึ่งช่วงระหว่างพิมกับคุณแฟน กำลังเถียงกันว่าเราจะไปนั่งตรงไหนดี น้องพนักงานในร้านเค้าก็รีบมาแนะนำที่นั่ง และพาไปนั่งเป็นอย่างดีเลยค่ะ (สรุปคือ เลือกนั่งโต๊ะในร่ม แถวที่ 2 จากริมค่ะ)
พอไปนั่งปุ๊บ น้องพนักงานผู้ชายเค้าก็มารับออเดอร์น้ำ (การพูดจา มารยาทดีมากค่ะ) แล้วก็มีพี่ผู้หญิงคนนึง มาถามว่าจะรับเฉพาะเตาปกติ หรือรับเตาถ่านมีตะแกรงปิ้งด้วย (ประมาณนี้แหละค่ะ) ซึ่งถ้ารับเตาถ่านแบบมีตะแกรงปิ้ง จะต้องเสียค่าบริการเพิ่มขึ้นอีกเตาละ 59 บาท .. ในขณะที่พิมคิด ๆ อยู่ว่าจะเอาหรือไม่เอาดี (แอบงก - -") คุณแฟนพิมก็จัดการสั่งไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ว่า ... เอามาเลย - -"
ระหว่างที่้รอเตาทั้ง 2 เตา และน้ำดื่ม ... พิมก็ถือโอกาสนี้ ถ่ายรูปบรรยากาศในร้านมาให้ดูด้วยค่ะ (วันนี้ร้านค่อนข้างครึกครื้นค่ะ อาจจเพราะเป็นวันเข้าพรรษา คนเยอะดี แต่ไม่ได้เยอะมากขนาดเต็มทุกโต๊ะ หรือจนพนักงานเค้าบริการไม่ทันนะคะ)
หลังจากนั้นไม่นาน ... แป๊บเดียวจริง ๆ ค่ะ น้องเค้าก็เอาเตาพร้อมถ่านแดง ๆ มาวางให้เราที่โต๊ะ (ไวมากๆ) ทั้งเตา+กระทะปกติ และเตาแบบมีตะแกรงปิ้งย่างที่เราสั่งเพิ่มไป ซึ่งเตาแบบปกตินั้น กระทะที่มีมาให้ด้วย เป็นกระทะทองเหลืองสำหรับปิ้งหมูกระทะแบบทั่วไปตามในภาพนี่เลยค่ะ
ป.ล. ตอนแรกกระทะย่างทองเหลืองเนี่ย มาแบบสะอาดเอี่ยมอ่องเลยนะคะ แต่พอวางมันหมูลงไป อาจจะเพราะถ่านมันแรงขึ้นมาตามช่องหรือยังไงไม่ทราบ น้ำมันหมูที่ละลาย มันก็กลายเป็นคราบดำ ๆ บนกระทะแบบนี้เลยค่ะ แล้วคราบน้ำมันดำ ๆ บางส่วนที่ยังเป็นน้ำมันอยู่ และไม่ได้แห้งติดกระทะแบบนี้ มันก็ไหลลงไปลอยอยู่ร่องน้ำซุปในขอบด้านข้างกระทะ กลายเป็นมีคราบดำ ๆ ลอยหน้าในน้ำซุปเยอะมาก ถามน้องพนักงานเค้า เค้าก็ว่าไม่ได้เป็นปัญหาอะไร แต่พิมกับคุณแฟนซึ่งปกติชอบกินน้ำซุปมาก ก็ไม่กล้ากินค่ะ (นี่คือสิ่งที่อยากให้ทางร้านปรับปรุงเป็นอย่างแรก)
ส่วนเตาพร้อมตะแกรงปิ้งย่างที่สั่งเพิ่มไป 59 บาท หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ ... ถ่านที่ใช้ ลักษณะเหมือนถ่านที่ใช้ในไดโดมอน มีการเผาไหม้ช้า เป็นถ่านประเภทให้ไฟร้อนเรื่อย ๆ แต่ร้อนนานน่ะค่ะ ... ซึ่งเตาถ่านแบบนี้ ตอนแรกคิดว่าไม่สั่งดีกว่า เพราะไม่อยากเปลืองเงิน แต่มาทีหลัง คิดว่าที่สั่งไปน่ะดีแล้วค่ะ เพราะอาหารสดหลายอย่างที่ทางร้านจัดไว้ให้ ใช้เตาถ่านแบบนี้ในการย่าง จะดีกว่าใช้กระทะทองเหลืองแบบนั้นย่าง เยอะเลยค่ะ
และหลังจากเตามาไม่นาน ... น้ำก็ตามมาค่ะ ..... ตัวพิมเองสั่งน้ำเปล่า ส่วนคุณแฟนสั่งน้ำเป๊ปซี่ ... พร้อมน้ำแข็ง 1 ถัง ซึ่งราคาของพวกนี้ เท่าที่มองไปโดยรอบ พิมไม่เห็นมีราคาติดเอาไว้นะคะ ซึ่งหากอยากทราบ จะต้องถามพนักงานเอาเอง แต่พิมไม่ได้ถามในตอนแรก ไปถามเอาตอนที่เค้าคิดเงินแล้ว ก็มีราคาเป็นแบบนี้ค่ะ .... น้ำเปล่าขวดแก้ว ขวดละ 25- / น้ำแข็งกระป๋องเล็ก กระป๋องละ 25- / เป๊ปซี่ขวดลิตร ขวดละ 55 หรือ 59 บาทเนี่ยแหละค่ะ... โดยรวมพิมว่าราคาน้ำดื่มค่อนข้างสูงกว่าที่อื่นทุกอย่าง แต่คุณแฟนบอกว่า อย่าคิดมาก เดี๋ยวจะปวดท้อง - -" ก็ถัวกันไปกับราคาบุฟเฟท์ล่ะกัน เนื่องจากที่พูดแบบนี้ เพราะว่าบุฟเฟท์เค้าราคาหัวละ 108 บาท แต่ว่าของที่ใช้ค่อนข้างจะสดและดีค่ะ (แต่ส่วนตัวพิม อยากให้เค้าคิดเป็นหัวละ 119- แล้วราคาน้ำเหมือนที่อื่นมากกว่า)
พอน้ำมา เตามา .. ทุกอย่างพร้อม พิมก็เริ่มลุยล่ะค่ะ ... โดยการมุงตรงไปที่ไลน์ของสดก่อนเลย ซึ่งไลน์ของสดของร้านเฉินหลงร้านนี้ เป็นแถวยาว ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางเลยค่ะ ของทุกอย่างนอกจากจะดูสดดี ค่อนข้างมีคุณภาพในราคาเท่านี้แล้ว ยังมีการจัดใส่ภาชนะที่ดูแล้วสะอาด มีที่คีบ ที่หยิบจับทุกอย่างทุกช่อง .... ดูแล้วทำให้น่ากินขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
ของสดที่อยู่ในไลน์ ก็จะเป็นพวกเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ปลาหมึก กุ้ง หอย ลูกชิ้นต่าง ๆ ไส้กรอก ตับ ตีนไก่ บาร์บีคิว ปูอัด หมูยอ ... ฯลฯ พวกนี้แหละค่ะ บางอย่างก็เป็นเนื้อสัตว์สด ๆ ที่ไม่ได้ผ่านการปรุงแต่งรสด้วยการหมักอะไรเลย แต่บางอย่าง เช่นเนื้อหมู ก็มีการหมักหลายอย่าง ทั้งแบบที่หมักไวน์ หมักพริกไทยดำ หมักแบบอื่น ๆ ค่ะ ... ซึ่งของที่อยู่ในไลน์ของสดพวกนี้ พิมโอเคเลยค่ะ ทั้งสีสัน กลิ่น และรสชาติ ซึ่งบางอย่างก็จะหมักแบบหวานนำ บางอย่างก็เค็มนำ ตามรสมือของคนหมัก/ตามสูตรของทางร้านเค้าอ่ะนะคะ โดยรวมถือเป็นร้านที่หากนับเฉพาะไลน์ของสด พิมพอใจมากสุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เคยได้กินหมูกระทะมานับยี่สิบร้านเลยค่ะ
ในไลน์ของสด ... นอกจากพวกเนื้อสัตว์ที่ผ่านการหั่น ผ่านการหมัก วางอยู่ในถาดแสตนเลสแล้ว ก็ยังมีอาหารทะเล จำพวกหอยหลากหลายชนิด และ กุ้ง ปู ที่วางอยู่บนน้ำแข็งอีกด้วยค่ะ
อย่างกุ้งเนี่ย ... โดยปกติ เห็นว่ามีกุ้งแม่น้ำเป็น ๆ ด้วย (ใส่อยู่ในบ่อ กลางไลน์ของสดนั่นแหละค่ะ) แต่วันที่พิมไปเป็นวันเข้าพรรษา ทางร้านก็เลยของดกุ้งเป็น ๆ วันนึง กลายมาเป็นกุ้งบนน้ำแข็งแบบนี้แทน ซึ่งกุ้งเนี่ย .. ทางร้านก็มี 2 แบบค่ะ ตามในภาพเลยค่ะ ... ซึ่งในภาพอาจจะดูเหมือนตัวเล็ก แต่ในความเป็นจริง ตัวไม่เล็ก ไม่ใหญ่ กำลังพอดีค่ะ
ส่วนหอย ... ทางร้านก็มีให้เลือกหลายชนิดค่ะ ไม่ว่าจะหอยแครง หอยแมลงภู่ และก็หอยตลับ (หอยนางรมก็มีค่ะ แต่เป็นแบบแกะใส่จานไว้แล้ว) ... ซึ่งขนาดของหอยทั้ง 3 ชนิดนี้ ไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่เล็กมาก เป็นขนาดประมาณเดียวกันกับที่ลวกขาย ย่างขายตามตลาดนัดทั่วไปเลยค่ะ (แต่หอยแมลงภู่ ค่อนข้างเล็กไปหน่อยนะคะ-ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ)
แล้วข้าง ๆ น้องหอย น้องกุ้ง ... ทางร้านก็จะมีหม้อน้ำเดือดตั้งเอาไว้ให้ค่ะ .... สำหรับคนที่ไม่อยากเอาหอยเอากุ้งพวกนี้ไปย่าง ก็จะใช้วิธีการเอาลงไปลวกในหม้อนี้ก็ได้ และหม้อนี่ก็ยังเอาไว้สำหรับน๊อคกุ้งเป็น ๆ ก่อนที่จะเอาไปย่างบนเตาที่โต๊ะเราเองด้วยค่ะ
ป.ล. วิธีน๊อคกุ้งเป็น ๆ ที่ทางร้านบอกไว้ก็คือ ให้เอากุ้งเป็นไปแช่น้ำแข็งแป๊บนึง แล้วเอาลงไปลวกในหม้อน้ำเดือดนี่อีกแป๊บ ก่อนจะนำไปย่างอ่ะค่ะ
ป.ล. จริง ๆ มีปูด้วยค่ะ ตัวขนาดกว้างประมาณ 3 นิ้ว (มองไม่ชัดว่าปูอะไร) แต่ว่าตอนพิมไปตักของสด 2-3 รอบนี่ ยังไม่เห็นปู แต่ตอนพิมจะกลับ (กินอิ่มแล้ว) น้องปูก็มาค่ะ -*- เลยไม่มีโอกาสได้กิน ไว้คราวหน้าๆ
ส่วนตัวพิม ...ไม่ค่อยชอบแบบลวกค่ะ หม้อนี้พิมเลยขอผ่าน .... เพราะทั้งปู หอย กุ้ง พิมจะชอบแบบย่างมากกว่า รู้สึกว่ามันหอมดี
จากไลน์ของสด ... เราก็ย้ายมาดูมุมผักสดกันบ้างค่ะ
มุมผักสดของทางร้าน จะอยู่ติด ๆ กับไลน์ของสดเลยค่ะ ... ซึ่งผักสดของทางร้านนี่จะว่าไปมีมากมายเชียว ไม่ว่าจะผักบุ้ง กวางตุ้ง กะหล่ำ เห็ดหูหนู ข้าวโพดอ่อน ตำลึง แครอท วุ้นเส้น ผักกาดหอม โหระพา ยอดฟักแม้ว เห็ดฟาง แล้วก็วุ้นเส้นค่ะ นับแล้วเกือบ 15 อย่าง (จริง ๆ ยังมีเห็ดหอม และเห็ดหูหนูขาวด้วย แต่ไปอยู่ในไลน์ของสดที่เป็นเนื้อสัตว์ค่ะ) ... แล้วผักแต่ละอย่าง ก็ถูกหั่น/เด็ดเป็นชิ้นพอคำ และเหมือนจะล้างไว้อย่างสะอาดแล้ว เพราะลองไปหยิบมาดูมาทานหลายชนิด ก็มองไม่เห็นมีเศษผง เศษดินติดมานะคะ ส่วนที่เน่าเสีย อย่างใบเหลือง ใบเน่า ก็ไม่มีเหมือนกัน ... ส่วนตัว... พิมถือว่าใช้ได้เลยค่ะ
ถัดจากมุมผักสด ... ใกล้ ๆ กันก็จะเป็นมุมของน้ำจิ้ม ซึ่งน้ำจิ้มที่ร้านนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ ก็คือ น้ำจิ้มสุกี้ น้ำจิ้มเกาหลี และน้ำจิ้มทะเล แล้วก็จะมีพริก-กระเทียม ซีอิ๊วขาว เครื่องปรุงรสต่างๆ ไว้ให้เติมด้วยค่ะ
อย่างน้ำจิ้มสุกี้นี่ ... จะออกรสเปรี้ยวนำ หวานตาม
น้ำจิ้มเกาหลี ... จะออกรสหวานนำ เปรี้ยวตาม (สังเกตุว่าที่แตกต่างจากถ้วยบน คือ มีผักชี)
น้ำจิ้มทะเล ... จะมีรสชาติเปรี้ยวนำ หวานตาม ไม่เผ็ดเท่าไหร่ รสจะออกนุ่ม ๆ ไม่จัดจ้านร้อนแรง เหมือนน้ำจิ้มทะเลทั่วไป
ถัดจากมุมของน้ำจิ้ม ... ใกล้ ๆ กัน ก็จะมีมุมของถ้วยโถโอชาม ที่ไว้ให้เราหยิบมาใส่ของทานนั่นแหละค่ะ
ที่มุมนี้ ... ทางร้านเค้าจะจัดวางจานชาม ช้อน กระจาดใส่ผัก ไว้อย่างเป็นระเบียบมากๆ แล้วจานแต่ละใบ ถ้วยแต่ละใบ ช้อนแต่ละคัน เท่าที่พิมได้ลองหยิบมาดู ไม่มีคราบมันหรือคราบสกปรกติดมาเลยค่ะ แถมยังมีหม้อน้ำเดือด ไว้ให้เราลวกช้อนส้อม ก่อนที่จะใช้อีกด้วยค่ะ ... แล้วที่สำคัญ สำหรับคนขี้เกียจเดินมาตักอาหารหลายรอบ (เพราะว่าแต่ละรอบ ตักได้แค่ 2 จาน เนื่องจากมีแค่ 2 มือ) ทางร้านเค้ามีถาดแสตนเลสไว้บริการด้วยค่ะ แต่ละถาด ก็ใส่จานได้ประมาณ 4 ใบเลย ^^