header



http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-00.JPG

ถ้าถามว่าขนมไทยอะไรบ้างที่เป็นขนมที่พิมชอบมากๆ  หนึ่งในนั้นก็คงจะมีชื่อของขนมตาลอยู่ด้วยแน่นอนค่ะ ... เหตุผลเหรอค่ะ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า เพราะมันอร่อย  แถมยังทั้งหอม ทั้งหวาน นุ่มนวล ... อีกด้วยค่ะ

จริงๆ แล้ว ... จะว่าไป ....พิมไม่ได้กิน และไม่ได้ทำขนมตาลมานานมากแล้วค่ะ น่าจะประมาณปีนึงเห็นจะได้  ... เหตุผลเพราะว่าระยะหลังๆ อยู่ดีๆ  พิมก็เกิดอาการแพ้ลูกตาลซะงั้นค่ะ  ไม่ใช่ว่าแพ้แบบที่กินขนมตาลไม่ได้นะคะ   แต่แพ้เนื้อตาลตอนที่ยังไม่สุก .... ตอนที่กำลัง "ยีลูกตาล" อยู่อ่ะค่ะ

............................................

เมื่อพูดถึง "ยีลูกตาล" หลายคนอาจจะงงๆ ว่าพิมหมายถึงอะไร ... คืองี้อ่ะค่ะ ปกติพิมเนี่ยชอบกินขนมตาลมาก แต่ใช่ว่าขนมตาลทุกเจ้าที่เค้าขาย พิมจะกินได้นะคะ  .... พิมก็เลือกกินอยู่ค่ะ ต้องเป็นขนมตาลที่นุ่ม หอม เนื้อฟู ไม่กระด้าง และก็ไม่แข็ง ..... ซึ่งคุณสมบัติของขนมตาลเหล่านี้เนี่ย  ค่อนข้างหายากในขนมตาลที่ขายกันทั่วๆ ไปในสมัยนี้ค่ะ  ดังนั้นแล้วพิมก็เลยเลือกที่จะทำขนมตาลกินเอง ดีกว่าไปซื้อเค้าให้เสียอารมณ์  (ไม่ได้หมายความว่าตัวพิมเองเก่งกล้าอะไรมากมาย  แต่คิดว่าทำเอง ก็น่าจะถูกใจตัวเองมากกว่า)

แล้วพอคิดจะทำขนมตาลกินเอง  ก็ต้องไม่ลืม "เนื้อลูกตาล" ใช่ไหมค่ะ ... ทีนี้เนี่ย  เนื้อลูกตาลที่เค้าขายกันทั่วไป ก็จะมีทั้งแบบถุง (ซึ่งเป็นเนื้อตาลผสมเนื้อมะละกอบด/ข้อมูลปี 2552) ที่หาซื้อได้ตามตลาดสด ถุงละ 20-30 ก็ว่ากันไป  และแบบตาลแท้ที่ใส่ขวดตามห้างอ่ะค่ะ

ทีนี้พิมหาซื้อแบบตาลแท้ใส่ขวดไม่ได้  (ส่วนแบบถุงล่ะก็ บายๆ ค่ะ ไม่สนจ้า) ...  ก็เลยซื้อตาลสุกแบบทั้งลูกมายีเอาเนื้อตาลเองอ่ะค่ะ  ซึ่งวิธีการแบบนี้เรียกว่า "ยีลูกตาล" .... ซึ่งหลังจากยีเสร็จ + เกรอะเสร็จ  เราก็จะได้เนื้อตาลแท้ๆ  แบบที่เค้าใส่ขวดขายตามห้างเลยอ่ะค่ะ   (เดี๋ยวดูภาพกันอีกทีด้านล่างนะคะ)

.........................................................

แต่อย่างที่บอกค่ะ ... มาระยะหลังๆ ช่วงปีนึงที่ผ่านมา  พิมแพ้เนื้อตาลดิบเอามากๆ  ขณะยีเนี่ย.....บางทีอาการแพ้จะทำให้แขนพิมทั้งสองข้างแดงแล้วก็มีแต่เม็ดผื่นค่ะ  ซึ่งพิมก็กินยาทายาไปตามระเบียบ แต่มันไม่หาย  หลังๆ ก็เลยไม่ค่อยซื้อตาลทั้งลูกมายีเอาล่ะค่ะ  และก็พาลไม่ทำ ไม่กินมันเอาซะเลย

แต่ว่าพักนี้อาการอยากกินมันมีมากขึ้นทุกวันๆ ค่ะ ...........  ไปเจอเจ้านึงอร่อยมาก ขาย 6 ชิ้น 30 ที่ตลาดไกลบ้านหน่อย (นั่งรถไปกลับ 50 บาท)  .....   แต่ว่าซื้อมาครั้งละ 2 กล่องมันก็ไม่พอกิน  ครั้นจะซื้อ 3 กล่องรึก็ปาเข้าไปเหยียบร้อยบาทแหละ ไม่ไหวล่ะค่ะ  ..... เพราะงั้นพอวันก่อนไปเจอลูกตาลสุกที่ตลาดบางกะปิตอนเช้ามึดกะแม่  (ไปเป็นเพื่อนแม่ซื้อปลาช่อนนา)  ก็เลยอดที่จะซื้อมาไม่ได้ซะ 4 ลูก ^___^

ซึ่งตอนซื้อเนี่ย ... แอบคิดในใจว่าจะให้น้องสะใภ้ช่วยยีให้ซะหน่อย  แต่ปรากฎว่าเค้าดันแพ้เหมือนกันค่ะ  พิมก็เลยต้องลงมือเอง  แต่...ปรากฎว่าอยู่ดีๆ มันก้ไม่แพ้ซะล่ะค่ะ  ก็สบายพิมล่ะ  ยีอย่างสบายใจเลย ... ใช้เวลายีอยู่ ชม. กว่าๆ  และใช้เวลาเกรอะอีก 1 คืน .... พอเช้ามา  (เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว)  พิมก็ได้เนื้อลูกตาลที่พร้อมจะไว้ทำขนมตาลแล้วตั้ง 2 ถุงใหญ่ๆ แน่ะค่ะ   (คิดว่าน่าจะใช้ทำขนมตาลได้ไม่ต่ำกว่า 300 ชิ้นแน่ๆ)

แล้ววันนี้ ... พิมก็ได้ฤกษ์ที่จะทำขนมตาลกิน และทำมาฝากเพื่อนๆ ครัวบ้านพิมด้วยค่ะ ... ก่อนอืนก็มาดูหน้าตากันก่อนเลยนะคะว่าขนมตาลบ้านพิมเนี่ย หน้าตาดีไหม  (พิมว่าดีนะ .. ดีกว่าคนทำซะอีก ฮ่ะๆ)

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-07.JPG
http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-12.JPG
http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-06.JPG

ดูหน้าตาไปแล้ว .. ก็มาดูส่วนผสมอื่นๆ และก็วิธีทำกันนะคะ

:: ส่วนผสมและวัตถุดิบ ::

1. เนื้อลูกตาล  1/4 ถ. + 3 ชต.
2. แป้งข้าวเจ้าเก่า 1 1/4 ถ.
3. น้ำตาลทราย 1/2 ถ. +  1/3 ถ.
4. หัวกะทิคั้นข้นๆ  1 ถ. + 1/8 ถ. ........... (วันนี้พิมขอใช้กะทิถุงแทนนะคะ ยี่ห้อนี้ ใช้ได้ดีคล้ายกะทิสดเลยค่ะ)
5. ผงฟู 1 1/2 ชช.

6. มะพร้าวทึนทึกขูด 1/2 ถ้วย
7. เกลือป่นหยิบมือ

ป.ล. 3 อย่างหลัง ไม่มีในภาพนะคะ

ป.ล. สูตรนี้จากเจ๊หลีฯ Bloggang นะคะ

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-02.JPG

:: เตรียมวัตถุดิบ และลงมือทำ ::

ก่อนอื่นเลย ... พิมอยากแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักกับลูกตาลก่อนค่ะ ว่าหน้าตาเป็นยังไง (เผื่อยังมีบางคนไม่เคยเห็นนะคะ)

นี่ค่ะ ... ลูกตาลที่เราจะนำเอามายีเพื่อเอาเนื้อตาล มาทำขนมตาล ... หน้าตาแบบในภาพด้านล่างนี่เลยนะคะ  ซึ่งเมื่อก่อนพิมเคยซื้อเป็นลูกๆ ค่ะ แต่เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็ขายเป็นกิโล  ลูกตาลสุกนี่เค้าก็เลยขายเป็นกิโลเหมือนกัน  ราคากิโลละ 7 บาท  รวม 4 ลูกนี่พิมจำไม่ได้แล้วว่ากี่โล  แต่คิดเป็นเงินประมาณ 60 กว่าบาทอ่ะค่ะ

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-30.JPG

ตอนแรกพิมจะถ่ายรูปตอนที่ยีเนื้อตาลมาให้เพื่อนๆ ได้ดูแล้ว  แต่ปรากฎว่าตอนที่ยีเนี่ยมันเกือบเที่ยงคืนค่ะ  แสงสว่างไม่เอื้ออำนวยพอจะให้ถ่ายรูปแล้วออกมาดูได้  พิมก็เลยขอไม่ถ่ายตรงนี้มาล่ะกันนะคะ แต่ขอกระโดดมาที่ผลลัพธ์เลยล่ะกันค่ะว่า ... ยีเสร็จแล้ว กรอง-เกรอะเสร็จแล้ว  เราจะได้เนื้อตาลออกมาแบบในภาพนี่เลยนะคะ

ซึ่งเนื้อตาลอย่างในภาพเนี่ย  สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้ประมาณ 1 เดือนเลยค่ะ

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-04.JPG

เมื่อรู้จักลูกตาลกันไปแล้ว ... ต่อมาก็มาลงมือทำขนมตาลกันเลยล่ะกันนะคะ ^^ (แบบว่าอยากนำเสนอเต็มทีล่ะ)

อันดับแรกเลย... เราจะทำละลายน้ำตาลให้เข้ากับหัวกะทิก่อนนะคะ ด้วยการผสมหัวกะทิกับน้ำตาลทรายลงในหม้อสักใบ  ..... แล้วก็เอาไปตั้งไฟกลางๆ

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-13.jpg

ใช้ทัพพีคนๆ น้ำตาลในหม้อ ... จนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด (ไม่ต้องรอให้กะทิเดือด)  ก็ยกลง

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-14.JPG

แล้วเอามาหล่อน้ำเย็นไว้..แบบในภาพนี่ ... เพื่อให้เย็นไวๆ   (หรือว่าใครมีเวลาเยอะ จะตั้งทิ้งไว้เฉยๆ ไม่หล่อน้ำเย็นแบบพิมก็ได้ค่ะ)

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-15.JPG

พอน้ำกะทิด้านบนเย็น ........ ก็ค่อยเทแป้งข้าวเจ้า กับ เนื้อตาล ... ใส่ลงในกาละมังสักใบ

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-17.jpg
http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-18.jpg

แล้วทำการนวดเนื้อตาลกับแป้ง .... ด้วยปลายนิ้วของเรา ... ให้พอเข้ากัน  ....... (ซึ่งจะออกมาเป็นเม็ดเล็กๆ แบบในภาพค่ะ)

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-19.jpg

เติมน้ำกะทิที่เย็นแล้วใส่ลงไปสักกระบวยเล็กๆ  กะว่าพอทำให้ส่วนผสมรวมตัวกันเป็นก้อนได้ .... แล้วก็จัดการนวดๆๆๆๆ ให้ส่วนผสมในกาละมังรวมตัวกันค่ะ

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-20.jpg

ก็จะได้ออกมาเป็นแบบนี้ ...... (ถ้าใครไม่สามารถผสมให้เป็นก้อนแบบนี้ได้ เนื่องจากส่วนผสมมันแห้งไป ก็สามารถเติมน้ำกะทิเพิ่มได้นะคะ แต่อย่าเติมมากไป  ไม่งั้นจะเละแฉะ และทำให้นวดยากค่ะ)

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-21.JPG

ซึ่งพอได้ส่วนผสมเป็นก้อนแบบด้านบนแล้ว ก็ให้ทำการนวดส่วนผสมต่อไปอีกประมาณ 30 นาทีค่ะ ..... (ระหว่างนี้ ถ้าแห้ง นวดยาก นวดแล้วแตก เติมน้ำกะทิเพิ่มได้ทีละ 1/2 ชต. นะคะ แต่อย่าเติมมากไป จะแฉะ)

และหลังจากนวดไป 30 นาที ก็จะได้ส่วนผสมออกมาหน้าตาแบบนี้ค่ะ .... ดูเนียนนุ่มกว่าก่อนนวดมากๆ ^__^

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-22.JPG

จากนั้นก็ค่อยๆ เทน้ำกะทิที่เหลือใส่ลงไปในกาละมังส่วนผสมค่ะ  .... แล้วก็ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี   ..... (ย้ำว่า !! ค่อยๆ  เทกะทิใส่ลงไปทีละน้อย แล้วก็ค่อยๆ ใช้มือเราละลายแป้งให้เข้ากับกะทินะคะ  แล้วก็ค่อยเติมกะทิเพิ่มลงไป ..... อย่าเทกะทิลงไปพรวดเดียวทั้งหมด เพราะจะทำให้ละลายส่วนผสมยากค่ะ)

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-23.jpg

นี่ค่ะ ......เสร็จแล้วออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-24.JPG

จากนั้นก็ทำการคลุมด้วยฟิล์มใส หรือผ้าขาวบาง   (เพื่อกันสิ่งสกปรก ฝุ่นผง ลอยลงไป) ...... และตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องที่ร้อน ๆ หน่อยประมาณ 6 ชม. (เรียกว่า  "หมัก) ....เพือให้ส่วนผสมขึ้นฟูค่ะ   ... (สมัยก่อน เค้าเรียกว่า "ขึ้น" เฉยๆ)

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-03.JPG

ผ่านไป 6 ชม. ก็จะได้ส่วนผสมออกมาหน้าตาคล้ายๆ แบบนี้นะคะ  ... ซึ่งจริงๆ ควรจะมีฟองปุดๆ อยู่ที่ผิวหน้าด้วย  แต่วันนี้ไม่มีแห๊ะ >_<"  ... แต่ก็ใช้ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-25.JPG

และเมื่อหมักส่วนผสมอได้ที่แล้ว  ต่อมาเราก็จะมาเริ่มทำการนึ่งขนมตาลกันล่ะนะคะ  (ใกล้จะได้กินแหละนะ) .... ด้วยการตั้งซึ้งบนเตาไฟค่ะ  โดยใส่น้ำที่ก้นซึ้งประมาณ 3/4  และใช้ไฟแรง + นึ่งถ้วยให้ร้อนก่อนหยอดส่วนผสม (ใช้เวลานึ่งถ้วยสัก 5-10 นาที)

ซึ่งระหว่างรอให้ถ้วยร้อน  ก็ให้เราใส่ผงฟูตามสูตรด้านบนลงไปในส่วนผสมขนมค่ะ  คนเบาๆ ด้วยช้อนหรือส้อมให้เข้ากันดี .... แล้วก็ตักใส่ถ้วยที่มีปากแหลม  (เพื่อให้หยอดใส่ถ้วยขนมได้ง่าย)

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-26.JPG

พอถ้วยร้อนดี ... ก็ทำการหยอดส่วนผสมขนมใส่ลงไปค่ะ  กะให้พอดีกับปากถ้วย

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-27.JPG

ใช้เวลานึ่งประมาณ 15 นาที .... แล้วขนมก็จะสุกออกมาหน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-28.JPG

สุดท้าย ... ท้ายสุด ก็อย่าลืมโรยหน้าด้วยมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ที่เคล้ากับเกลือเล็กน้อย พอให้เค็มปะแหล่มๆ นะคะ ... (ขาดมะพร้าวไป ความอร่อยลดลงครึ่งนึงเลยเอ๊าาาา)

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-29.JPG

ออกมาก็หน้าตาอย่างนี้เลยค่า ^^

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-09.JPG

ตอนแรก ... ด้วยเหตุที่ร้างลาการทำขนมชนิดนี้มานาน  พอเห็นขนมหน้าแตกน้อย  ก็อดใจเสียไม่ได้ค่ะ กลัวว่าข้างในจะด้าน แฉะเละ ด้าน หรือว่าไม่ฟู ... แต่ปรากฎว่าพอได้ลองชิม ... มันกลับฟูนุ่ม และก็หอมมากๆ  สมเป็นขนมตาลในฝันที่รอคอยเลยค่ะ  ^___^  (แอบเว่อร์เล็กน้อย)

และพิมทำตามสัดส่วนด้านบน ก็ได้ขนมมาทั้งหมด 17 ถ้วยนะคะ ..... กินเองไปซะ 5 คุณแฟนกินซะ 3  ให้ป้าข้างบ้านซะ 4  และก็เก็บไว้ให้แม่กะน้องอีก 5 ชิ้นค่ะ  ... ซึ่งป้าข้างบ้านเนี่ย เค้าก็ชอบขนมตาลมากเหมือนพิม  พอได้ชิมขนมตาลที่พิมเอาไปให้  ก็ถามพิมทันทีเลยว่า ทำวันไหนอีก ทำเผื่อป้าด้วยนะ เอาสูตรนี้เลย อร่อยมาก ๆ .... แหมมมม คนทำ ยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง 3 อันต่อกันเลยค่ะ ^___^

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-07.JPG

.... ใครสนใจก็ลองเอาสูตรนี้ไปทำดูกันนะคะ รับรองไม่มีผิดหวังค่า

http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-10.JPG
http://pim.in.th/images/all-thai-dessert/kanom-tan/kanom-tan-06.JPG



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก