กระทู้: อารมณ์ดี หัวเราะบ่อยๆ ทำให้สุขภาพดีขึ้น

ถ้าใครได้หัวเราะอย่างต่อเนื่อง 5 นาทียิ่งได้ผลดีทั้งสุขภาพกายและจิตใจ และนั่นคือเวลาที่แชมป์โลกได้ทำสถิติหัวเราะเอาไว้ได้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลความรู้จากพญอัมพรเบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวง สาธารณสุข ที่ได้ให้เกร็ดความรู้ในเรื่องของการยิ้มและการสร้าง เสียงหัวเราะไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า "จากผลการศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าการหัวเราะขำ ขันจากความรู้สึกในใจลึๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกาย หลั่งฮอร์โมนที่มีประโยชน์ ทั้งยังช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอด เลือดหัวใจ ลดระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ปวยโคเบาหวาน และ ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล ได้อีกด้วย แถมยังทำให้นอนหลับสบาย และนอนได้เต็มอิ่ม เพราะ การหัวเราะทำให้กล้ามเนื้อร่างกายทำงานเต็มที่เพียงหัวเราะอย่าง ต่อเนื่อง 15 - 20 นาที่ ก็เทียบได้กับการออกกำลังกายหัวใจได้ ประมาณ 3-5 นาที่แล้ว" สำหรับประโยชน์ของการหัวเราะที่ได้รับการยืนยันข้อมูล จากนายแพทย์วิลเลียม ฟราย คณะแพทย์ แพทยศาสตร์์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ที่เปิดเผยว่า การที่คนเราเปล่งเสียง หัวเราะออกมานั้น ช่างช่วยสร้างสรรค์ให้โลกสุดใส อีกทั้งยังมี ประโยชน์โดยตรงต่อสุขภาพมากมายจนหลายคนคาดไม่ถึงเลยที่ เดียว โดยข้อมูลได้ถูกเผยแพร่ไว้ดังนี้
.คารหัวเราะช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้น โดยกำจัดเมือกเสมหะ ออกจากปอด ช่วยให้ปอดขยายตัวได้ดีและยังรับออกซิเจน เข้าสุปอดมากขึ้น
ㆍการหัวเราะช่วยลดความดันเลือด โดยทำให้ระดับepine-phrie ลดลง ช่วยให้การไหลเวียนของออกซิเจน และโภชนาการต่างๆ เข้าไปบำรุงเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของร่างกายได้รวดเร็ว
.คารหัวเราะช่วยต่อต้านการติดเชื้อ โดยลดระดับของคอร์ติซอล เพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวซึ่งเสริมภูมิคุ้มกันและช่วยป้องกัน การเป็นหวัดคัดจมูกหรือไข้หวัดใหญ
.คารหัวเราะช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางสมอง โดยช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความว่องไว และความทรงจำ
ㆍการหัวเราะช่วยลดความรู้สึกเจ็บปวด โดยเพิ่มระดับเอ็นโดรฟิน สารเคมีที่ผลิตจากสมองเพื่อทำให้อาการปวดหายไปสำหรับผู้เชี่ยวชาญอีกท่านหนึ่งอย่างครวัลลภปิยะมโนธรรมที่ปรึกษาโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์
โครงการบริการวิชาแก่ชุมชน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เป็นคนหนึ่งที่มีการศึกษาวิจัยเรื่องหัวเราะมาหลาย สิบปี อธิบายว่า ความจริงมีศาสตร์หัวเราะมาตั้งนานแล้วที่ประเทศ อินเดีย แต่ประเทศเรายังเกิดขึ้นได้ยาก เพราะคนส่วน ใหญ่มองว่าการหัวเราะเป็นเรื่องติงต๊องไป ประเทศไทย มีการศึกษามาได้ระยะหนึ่ง แต่เป็นการทำอย่างไม่ต่อเนื่อง
การหัวเราะ คือ การออกกำลังภายใน ส่วนใหญ่คนเราจะคุ้นเคย การออกกำลังกายภายนอก ให้กับกล้ามเนื้อ แต่การหัวเราะคือ การออกกำลังกายข้างใน ที่เข้าถึงขบวนการ เส้นประสาท และขบวนการคลื่นไฟฟ้า