header



http://www.pim.in.th/images/others_img/fish2.JPG

พิมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะทราบดีว่า "ปลา" เป็นเนื้อสัตว์ที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเรามากที่สุด  บางคนบอกว่ายิ่งกินปลาเยอะ สมองจะยิ่งดี ... แต่เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่า ไอ้ที่ว่าให้กินเยอะเนี่ย มันจะต้องกินขนาดไหน .. วันนี้พิมมีคำตอบมาฝากกันค่ะ

"เนื้อปลา" เป็นเนื้อสัตว์ที่ดีต่อสุขภาพของคนเราจริง ๆ ค่ะ เพราะว่าเนื้อปลานั้นมีไขมันน้อยเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ชนิดอื่น แถมยังมีแร่ธาตุสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย แล้วก็ยังย่อยง่ายอีกด้วยนะคะ ... จึงทำให้ปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่เหมาะกับผู้ป่วย เหมาะกับผู้สูงอาุยุ และเหมาะกับคนทุกวัย ทุกเพศเลยค่ะ

ในเมื่อเนื้อปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่ดีต่อสุขภาพของเรามากมายขนาดนี้แล้ว จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่า แล้วกินเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอหรือดีต่อสุขภาพของเราจริง ๆ

ในหนังสือเล่มนึงที่เกี่ยวกับโภชนาการ..ที่พิมได้เคยอ่าน    เค้าบอกเอาไว้ว่า  ในอาหาร 3 มื้อของคนเราแต่ละวัน ควรจะมีหนึ่งมื้อที่มีอาหารที่ทำจากปลาเป็นหลักค่ะ  จะเป็นทอด นึ่ง ต้ม ตุ๋น ย่าง ผัด ... อะไรก็ได้ ...... ขอให้เป็นปลา  (แต่ว่าเป็นนึ่ง ต้ม จะดีกว่าอย่างอื่นนะคะ) ... และก็ควรจะกินแบบสับเปลี่ยนหมุนเวียนชนิดปลาไปเรื่อย ไม่กินซ้ำชนิดกันบ่อ ๆ  เช่น วันนี้กินปลาช่อน พรุ่งนี้กินแซลมอน มะรืนเป็นปลาทู  อีกวันเป็นปลานิลเผา อีกวันเป็นปลาหมอย่าง  ... ทำนองนี้ ...... ซึ่งแค่เพียงเท่าที่ก็จะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเราแล้วค่ะ

 

ส่วนปลาที่เค้าว่าดี มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากกว่าชนิดอื่นๆ  ก็คือ ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล และก็ปลาทูน่าค่ะ  (ทูน่าสดนะคะ ไม่ใช่แบบกระป๋อง)  เพราะปลาจำพวกนี้เป็นปลาที่มีโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกายในปริมาณที่สูง  อีกทั้งมีสารโอเมก้า-3  ที่ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคหัวใจ และช่วยทำให้ร่างกามีความต้านทานโรคสูงอีกด้วยค่ะ

แต่.... แหมมม เพื่อนๆ อาจจะย้อนพิมว่ามีแต่ปลาทะเล ปลาต่างชาติทั้งนั้น  ปลาไทยๆ แบบปลาน้ำจืดของเรา หรือว่าปลาทะเลที่หาง่าย ๆ แต่ประโยชน์สูงๆ ไม่มีบ้างเหรอ   มันก็มีอยู่ค่ะ เช่น ปลาช่อน ปลาทู  แต่คุณค่าทางอาหารก็จะด้อยกว่าปลาที่พิมบอกไว้ด้านบนหน่อยนึงค่ะ    .. แต่จริง ๆ แล้วปลาอะไร ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้นอ่ะค่ะ

ที่สำคัญในเรื่องของการกินปลา ควรระวังปลาที่มีไขมันสูงเป็นพิเศษนะคะ  อย่างปลาดาบกับปลาฉลาม  เพราะปลาพวกนี้จะสามารถสะสมสารพิษที่อยู่ในน้ำเข้าไปในร่างกายได้มากกว่าปลาที่มีไขมันต่ำ .... โดยสำนักงานมาตรฐานหรือ FSA ได้เคยออกมาเตือนค่ะว่า ไม่แนะนำให้คนที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี หญิงมีครรค์และที่อยากจะมีครรภ์ รวมไปถึงผู้สูงอายุ บริโภคปลาชนิดนี้น่ะค่ะ ... ยังไงหากจะกินปลา 2 ชนิดนี้ ก็กินในปริมาณน้อยหน่อยนะคะ เอาแต่พออร่อย เพราะกินเยอะไป ไอ้ที่ว่าจะดี จะกลายเป็นไม่ดีไปซะนะค่ะ

:: เมนูปลาๆ ::

ปลาช่อนผัดคึ่นฉ่าย

ต้มส้มปลาตะเพียน

ปลาโอย่างซีอิ๊ว

ฉู่ฉี่ปลาทู (นมสด)

ปลากะพงทรงเครื่อง นึ่งมะนาว

ทอดมันปลาสลาด



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก