หลายคนที่ไปเที่ยวเกาะสมุย น่าจะเคยไปร้านอาหารร้านนึงที่อยู่บนเกาะ ที่ชื่อว่าร้าน ลิงค์ คูซีน แอนด์ บาร์  (Link Cuisine and Bar) เน๊าะคะ 

ร้านนี้เนี่ย แต่เดิมเค้าเป็นร้านอาหารชื่อดังบนเกาะสมุยค่ะ  แล้วก็ด้วยความโด่งดัง และลูกค้าเยอะนี่แหละ เค้าก็เลยขยายมาเปิดสาขาในกรุงเทพฯ อยู่แถว ๆ สาธรนะคะ  (ในซอยเย็นอากาศ)   เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาพิมผ่านไปแถวนั้น ก็เลยได้มีโอกาสแวะเข้าไปชิมมาค่ะ  แต่ว่าบรรยากาศร้านจะเป็นยังไง มีอาหารอะไรน่าสนใจบ้าง  ตามพิมมาดูกันเลยดีกว่านะคะ 

ร้าน Link Cuisine and Bar สาขาสาทร  เป็นร้านอาหารแนวอิตาลี ที่บรรยากาศภายในร้านเป็นแบบสบายๆ  และโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่มากมายเลยค่ะ   ตอนที่พิมยืนอยู่หน้าร้านพิมเห็นแต่ตัวตึก ไม่ได้คิดอะไร  แต่พอเดินเข้ามาด้านในร้าน   เจอบรรยากาศแบบในภาพด้านล่างถึงกับฟินไปเลยนะคะ   

ส่วนเรื่องอาหาร จริง ๆ แล้วร้านนี้เค้าเป็นร้านอาหารแนวๆ  อิตาลีรสชาติดั้งเดิม แต่ว่าเค้าก็มีอาหารไทย อาหารเอเชีย  และก็อาหารนานาชาติแนวฟิวชั่นด้วย   เรียกว่ามาร้านนี้ใครอยากทานอาหารชาติไหน ได้ครบเลยอ่ะค่ะ

เริ่มกันที่เมนูซุปกันก่อน กับ #ซุปฟักทอง (295-) ที่โรยหน้ามาด้วยพิทาชิโอนะคะ   ...  ตัวซุปทำจากฟักทองของไทยเรานี่แหละ  เป็นฟักทองที่สีสวยและเนื้อมันมาก  พอเอามาทำซุปเลยยิ่งอร่อย  รสชาติมัน ๆ เค็มนิดๆ  หอมกลิ่นกะทิ  คนที่ชอบซุปข้นๆ  แนวไทยผสมอิตาลีน่าจะชอบกันทุกคนนะคะ 

ต่อมาจานที่สอง ก็คือ  Scallops (495-)... เป็นหอยเชลล์ตัวโตย่าง  แล้วก็เสิร์ฟมาพร้อมกับหน่อไม้ฝรั่ง มะม่วงน้ำดอกไม้สุก แรดิช  ถั่วพิทาชิโอบดหยาบ ๆ อ่ะค่ะ   รสชาติหอยเชลล์จะบางๆ  ไม่เข้มมาก แล้วก็มีความหวานตามธรรมชาติ   เวลาทานให้ทานพร้อม ๆ กับมะม่วง แรดิช แล้วก็หน่อไม้ฝรั่ง  ก็จะออกมาครบรสนะคะ 

จานต่อมา Tuna Tartare  (495-) ... เป็นยำปลาทูน่าดิบกับซอสเทริยากิ  งาขาว มะม่วงสุก และก็เม็ดทับทิม  ตกแต่งมาด้วยดอกกล้วยไม้ที่ปลูกแบบออร์แกนิคค่ะ   เวลาทานก็บีบมะนาวใส่ลงไปหน่อย   รสชาติจะออกเปรี้ยวหวาน ไม่มีกลิ่นคาวปลาเลย  กินแล้วรู้สึกสดชื่นเบา ๆ นะคะ 

ส่วนจานนี้ main course  เป็น  Rib Eye Steak  (795-) ค่ะ ... ตัวเนื้อ เป็นริบอายน้ำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย  เสิร์ฟมาพร้อมกับร๊อคเก็ตสลัด  เฟรนฟรายด์ และก็เกรวีซอสพริกไทยนะคะ    ตัวเนื้อย่างมาแบบสุกกำลังดี หอม นุ่ม ละมุนลิ้นมาก   ตัวเกรวี่ซอสปรุงมาแบบรสเบา ๆ สไตล์อิตาลี  ไม่เค็มหนักเหมือนแบบไทย ๆ   ส่วนสลัดก็จะออกรสเค็ม ๆ มันๆ  เปรี้ยวนิด ๆ  กินคู่กันแล้วลงตัวดี ไม่มากไม่น้อยเกินไปอ่ะค่ะ 

ต่อมาจานนี้  Truffle and Mushrooms Ravioli  (650-) ... เป็นราวิโอลีโฮมเมดที่สอดไส้ด้วยเห็ด มาสคาโปนชีส   ทรัฟเฟิล  แล้วก็ราดด้วยซอสครีมทรัฟเฟิลนะคะ   จานนี้ตัวแป้งเชฟเค้าลวกสุกมาแบบกำลังดี คือ ไม่นิ่มไป ไม่แข็งไป ส่วนรสชาติของซอสก็มาแบบเข้มข้นสไตล์อิตาลีเลยค่ะ คือ มีความหอมจากเห็ด ความข้นมันของครีม ความเค็มมันของรสชาติแบบลงตัว  ใครที่ชอบอาหารอย่างคาโบนาร่า หรือสปาเกตตี้ไวท์ซอสครีมซอสทั้งหลาย พิมว่าน่าจะชอบจานนี้มากๆ นะคะ  ^_^

ยังคงวนเวียนอยู่ที่เมนคอร์ส  จานนี้ Tuna Steak  (595-)ค่ะ ...  เป็นทูน่าเสต๊กที่ย่างมาแบบสุกนอกนุ่มใน  เสิร์ฟมาพร้อมกับผักย่าง  และก็มันบดที่มีเคเปอร์ด้วยนะคะ   (พืชผักผลไม้ของที่นี่ รวมทั้งดอกไม้ที่ใช้ประดับตกแต่งจาน เป็นออร์แกนิคทั้งหมด)   ใครที่อยากลองกินทูน่า แต่ไม่กล้ากินสดแบบที่เป็น Tuna Tartare  ลองดูจานนี้อ่ะค่ะ   เค้าย่างเนื้อทูน่าชิ้นโตมาแบบสุกกำลังพอดี แล้วค่อยมาหั่นให้เป็นชิ้นพอคำ ราดด้วยซอสเทริยากิ  กินคู่กับผักย่างที่มีรสหวานตามธรรมชาติ  และมันบดรสมัน ๆ เค็มนิด ๆ พิมว่าเข้ากันมากนะคะ 

เมนคอร์สจานสุดท้าย  ก็คือ Pork Belly  (495-)  นะคะ .... เป็นหมูสามชั้นหมักเครื่องเทศของฝรั่ง เฟสเนล กับแอ๊ปเปิ้ลซอส ที่ทำออกมาคล้ายหมูกรอบของไทยเรา  แต่มีกลิ่นของเครื่องเทศ และความกรุบกรอบมากกว่า  รองจานมาด้วยผัดคะน้าสไตล์ไทย ๆ ใส่เต้าเจี้ยว  ที่มีรสเค็มนำ เผ็ดตามนิด ๆ    แล้วทานคู่กับกะหล่ำดอง และซอสมัสตาร์ด .... เป็นจานที่เรียกได้ว่ามีหลายรสมาก แต่ว่าทุกรสพอกินรวมกันแล้ว ก็เข้ากันดีอ่ะค่ะ 

ส่วนขนมหวาน ... วันนี้พิมได้ลองชิมไป 2 เมนู ก็คือ Baileys Semifreddo  กับ  Tiramisu นะคะ 

ตัว Baileys Semifreddo  (295-)  เป็นขนมหวานสัญชาติอิตาเลียนแท้ๆ   ที่เวลากินจะให้อารมณ์ประมาณมูสแช่แข็งอ่ะค่ะ     ตัวขนมหลัก ๆ ก็จะทำมาจากเมอแรงค์ วิปปิ้งครีม  ไอริสวิสกี้   แล้วก็ราดมาด้วยคาราเมลซอส และคาราเมลนัท รสชาตินุ่ม ๆ  ใครที่ชอบขนมแนว ๆ ไอศกรีมเนื้อเบา ๆ พิมว่าเมนูนี้น่าจะถูกใจมากเลยนะคะ 

 ส่วนขนมอีกตัวก็คือ Tiramisu (295-) .... พิมกินทีรามิสุมาหลายที่  แต่ขอบอกว่าทีรามิสุของที่นี่มาแบบชิ้นใหญ่เว่อร์เวิงอลังการมากค่ะ  ใครที่ชอบกาแฟ หอมๆ   ใครที่ชอบขนมหวานที่รสนุ่ม ๆ ไม่หวานมาก   พิมแนะนำลองสั่งตัวนี้ดูนะคะ 

ปิดท้ายด้วย  Signature Cocktails 3 แบบ ของ Link Cuisine and Bar  กับ Green Link ,  White Link  และก็ Yellow Link ค่ะ  ซึ่งทั้งสามตัวนี้ พิมขอบอกเลยว่า ใครที่ชอบค๊อกเทลแบบหนักแอลกอฮอล์  แอลกอฮอล์เน้น ๆ   ต้องที่นี่เลยนะคะ   

ยังไงก็ลองแวะมาดูกันค่ะ  ไม่ว่าจะมาทานอาหาร มาแฮ้งเอ้าท์กับเพื่อนๆ  ก็ดีงามทั้งนั้นเลยนะคะ   ^_^   เพื่อนๆ  สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามรายละเอียดข้างล่างนี่  และขอบคุณทุกการติดตาม สวัสดีค่ะ ^_^

เวบไซต์ ::  Link Cuisine Bangkok

เพจ ::  Link Cuisine Bangkok

โทรศัพท์ :: 02-077-4804

อีเมล :: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.