เย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา คุณฝาละมีกับพิมมีธุระจะต้องไปทำที่ตึก cyberworld ที่อยู่ตรงข้ามโรบินสันรัชดา ก็เลยถือโอกาสนี้ไปเดินเล่นหาของกินที่ Esplanade และก็ถ่ายรูปมาฝากเพื่อน ๆ ด้วย ... ใครสนใจก็ตามพิมมาเลยจ้า

สำหรับร้านแรกที่พิมจะพาไปในวันนี้ก็คือ ร้าน CoCoICHI BanYa  ค่ะ ^__^

"CoCoICHI BanYa"..... เป็นร้านขายข้าวแกงกะหรี่บนห้าง Esplanade ค่ะ .... พิมเองเคยกินข้าวแกงกะหรี่ที่ร้านนี้มาประมาณ 2 ครั้งล่ะ  ครั้งแรก (เกือบปีแล้ว) คุณสามีไปทำธุระที่ตึก cyberworld   (ตึกนี้อยู่ตรงข้ามโรบินสัน รัชดา ซึ่งใกล้ ๆ กับ Esplanade)   แล้วขากลับเค้าก็ซื้อกลับมาฝากพิม  แต่.... สงสัยเพราะความอร่อยหรือไม่ก็ความหิวของคุณสามีสุดที่รัก  ข้าวแกงกะหรี่ตอนมาถึงมือพิม มันเหลือแค่ครึ่งกล่องเองค่ะ  T__T   (จริง ๆ แค่ 1/3 ซะด้วยง่ะ) ....   แถมมาแบบเย็นจืดชืดอีกต่างหาก  (ก็คุณสามีเค้าซื้อตอนประมาณหัวค่ำ  แล้วทำงานเสร็จ ค่อยหอบหิ้วกลับมาให้พิมกินตอนตี 4 อ่ะ >_<")  พิมก็เลยไม่ค่อยรู้สึกว่ามันอร่อยเท่าไหร่   แต่คุณสามีก็ย้ำว่าจริง ๆ มันอร่อยเลยนะ พิมก็คิดว่า อืมๆ สักวันต้องหาโอกาสไปกินให้ได้ล่ะ   ...... จนกระทั่งอีกครั้งหรือสองครั้งนี่แหละค่ะ  พิมไป cyberworld อีก  แล้วพอเสร็จธุระ (ตอนราว 3 ทุ่มกว่า) ก็หิวมากกกกกก  ก็เลยชวนคุณสามีกับเพื่อน ๆ เค้า  ว่าให้ไปกินข้าวแกงกะหรี่ที่ร้านนี้กันดีกว่า  แต่ปรากฎว่า ...... ไปทีไร (3 ทุ่มก่าๆ) ปิดแล้วทุกทีเลยค่ะ >_<"  ก็เลยอดกินไปตามระเบียบอ่ะ

จนมาคราวนี้ ... คุณสามีกับคุณเพื่อนเค้ามีธุระต้องไปทำที่ตึก cyberworld อีก และเผอิญว่าไปช่วงหัวค่ำ   คุณสามีก็เลยชวนพิมว่าไปร้าน cocoichi กันม่ะ ไปกินแกงกะหรี่กันก่อน (หลังจากพลาดมาหลายรอบ)  พอดีพิมกำลังอยากกินอยู่ (แม้จะปวดฟันมาก) ก็เลยตอบตกลงไปค่ะ ^___^

...................

และแล้ว ..... ด้วยความรวดเร็ว  เวลาประมาณ 2 ทุ่ม 45 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พิมกับคุณสามีและก็เพื่อนคุณสามีก็ไปถึงที่หน้าร้าน CoCo กันล่ะค่ะ

ก่อนเข้าร้านไปหาที่นั่งในร้าน  พิมก็ขอยืนดูรายการอาหารที่หน้าร้าน CoCo .....ก่อนนะคะ  แบบว่าที่ร้านนี้เนี่ย ตรงบริเวณหน้าร้านเค้าจะมีเมนูวางเอาไว้บนแสตนด์ค่ะ ให้เราได้ดูว่าเค้ามีรายการอาหารอะไร ราคาเท่าไหร่ หน้าตาแบบไหน ยังไงบ้าง  และข้าง ๆ ที่ตั้งวางเมนู  ก็จะมีตู้โชว์อาหารตัวอย่างของเค้าด้วยนะคะ  แบบในภาพเลย .... น่ากินเน๊าะ ^^

และแล้วเมื่อจ้องดูหน้าตาอาหารตัวอย่างจนเป็นที่พอใจ (อิอิ)  พิมกับคุณแฟนและเพื่อนเค้าก็ขอเข้าไปหาที่นั่งในร้านกันล่ะค่ะ แบบว่าหิวมากเลย  (ก็ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ 10 โมงนี่นา) ...... ซึ่งโต๊ะที่พิมได้ไปนั่งเนี่ย ทำเลสำหรับการถ่ายภาพไม่ค่อยดีเลยค่ะ >_<"  แบบว่าอยู่ข้างในสุดเลย  แต่ก็เป็นโต๊ะที่ดูส่วนตัวมากที่สุดเลยค่ะ

เมื่อได้โต๊ะนั่งแล้ว น้องพนักงานเค้าก็เอาเมนูมาให้เราเลือกดูว่าเราจะสั่งอาหารอะไรเค้าบ้าง

สำหรับหน้าแรกของเมนู ... เป็นหน้าที่จะให้เราเลือกปริมาณของแกงกะหรี่+ซอสต่าง ๆ เลือกปริมาณข้าว (เพิ่ม-ลด)   และก็เลือกระดับของความเผ็ดได้อ่ะค่ะ ..... ซึ่งสำหรับปริมาณซอสกับตัวแกงกะหรี่เนี่ย  หากเราลดปริมาณลงจากปริมาณปกติ  ข้าวจานนั้นก็จะได้ลดราคาไปด้วยอ่ะค่ะ  แต่ถ้าเราเพิ่มปริมาณ   ก็ต้องเพิ่มกะตังค์ด้วยนะคะ ^^ .... ส่วนระดับความเผ็ดเนี่ยก็มีให้เราเลือด 5 ระดับค่ะ  ระดับปกติคือระดับ 3  เผ็ดสุดคือ 5  และสำหรับคนที่ไม่ชอบเผ็ดก็ระดับ 0 ค่ะ ... ระดับความเผ็ดนี่ เพิ่ม-ลด เค้าไม่คิดตังค์จ้า

หน้าต่อมา ..... ก็จะแสดงรายการอาหารแนะนำค่ะ  รวมไปมีรายการท๊อปปิ้งให้เราเลือกได้มากมาย  ไม่ว่าจะเป็นไข่เค็ม ไก่ทอด   ชาบูเนื้อวัว  หมูชุบเกล็ดขนมปังทอด  แฮมเบอร์เกอร์   เห็ดรวม ทูน่า เบคอนผัดผักโขมหรืออื่นๆ ... ^^

ส่วนหน้านี้ .... (จริง ๆ คือหน้า 3-4) ก็จะมีชนิดของแกงกะหรี่หลากหลายให้เราได้เลือกค่ะ  เช่น แกงกะหรี่มะเขือม่วง  แกงกะหรี่ผักโขม แกงกะหรี่เบคอนผัดผักโขม  แกงกะหรี่ไก่ทอด  (อันนี้เป็นรายการอาหารแนะนำด้วย)  แกงกะหรี่ไส้กรอก   แกงกะหรี่เนื้อชาบู  แกงกะหรี่แฮมเบอร์เกอร์ และอีก ฯลฯ .....   ขอบอกว่าตอนแรกพิมมึนมาก แบบว่าแกงกะหรี่หลากหลายหน้าจริง ... แล้วเราจะสั่งอะไรดีเนี่ย   คิดนานมากๆ ...  น้องพนักงานเค้าก็แบบว่ายืนยิ้มหวานให้  แต่พิมรู้สึกกดดันค่ะ แบบว่ารู้สึกเหมือนน้องเค้าจะคิดในใจประมาณว่าเมื่อไหร่คุณพี่ลูกค้าจะสั่งสักทีน๊าาาา ... อะไรทำนองนี้ล่ะค่ะ ^^"

ต่อมาหน้าที่ 5 กับ 6 ก็จะเป็นหน้าเหมือนหน้าพิเศษอะไรทำนองนั้นค่ะ  จะมีแต่เฉพาะแกงกะหรี่แบบข้าวห่อไข่หลากหลายหน้าให้เราเลือกโดยเฉพาะ แล้วก็สำหรับคนที่ไม่ชอบแกงกะหรี่ อาจจะสั่งอาหารอย่างอื่นก็ได้ตามในเมนูหน้า 6 เลยอ่ะค่ะ  ... อ้อ ๆ แล้วที่ร้านนี้ถึงจะเป็นร้านขายข้าวแกงกะหรี่ แต่ก็มีพวกสลัดต่าง ๆ ให้เราได้เลือกสั่งด้วยนะคะ ^^

ส่วนหน้าสุดท้ายก็จะเป็นหน้าของรายการเครื่องดื่ม  ซึ่งก็จะมีทั้งน้ำเปล่า ชาเขียวร้อนเย็น  น้ำอัดลม รวมไปถึงพวกเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และก็จบด้วยของหวานค่ะ

และหลังจากพิมกับคุณสามีและเพื่อน ๆ ดูรายการอาหารกันไปจนครบ 6 หน้าแล้ว .....  พวกเราทั้งหมดก็สั่งอาหารกันไปตามนี้เลยค่ะ

พิม .... แกงกะหรี่ไก่ทอดผักรวม  (ความเผ็ดระดับ 4)  + น้ำเปล่า
คุณสามี .... สปาเกตตี้ไวท์ซอสซีฟู๊ด + สลัดไก่ทอดน้ำข้น + ชาเขียวเย็น
คิวคิว .... แกงกะหรี่ข้าวห่อไข่ + สลัดไก่ทอดน้ำใส + น้ำเปล่า
ปลา .... แกงกะหรี่เนื้อชาบู + น้ำเปล่า

หลังจากนั้นก็นั่งรอค่า ......... ^^ .... ระหว่างนั่งรอก็ขอถ่ายรูปบรรยากาศในร้านมาฝากเพื่อน ๆ ซะหน่อยค่ะ  แต่พอดีว่าพิมนั่งอยู่ในมุมที่คิดว่าอับสุดแหละ  แบบว่าเป็นโต๊ะในสุด  ก็เลยถ่ายบรรยากาศในร้านมาได้แค่มุมนี้มุมเดียวอ่ะค่ะ  แต่โดยรวมก็ถือว่าบรรยากาศดีเลย โล่ง โปร่ง สบาย ดูสะอาดตา  และก็น่านั่งชิว ๆ มากเลยค่ะ

ระหว่างรอ เพื่อนเราสองคนก็แบบว่าทำหน้าประมาณนี้ค่ะ   ...... ในใจคงแอบคิดประมาณว่า  "หิววววววว แล้ว เมื่อไหร่อาหารจะมาสักทีน้อ" ......... (แซวเล่นเน้อปลา อิอิ)

และแล้ว ....... เมื่อเรานั่งรอไปได้ไม่ถึง 5 นาที (เหมือนจะนาน) น้ำก็มาเสริฟก่อนเป็นอันดับแรกเลยค่ะ

หลังจากนั้น ...ติดๆ กัน ......  สปาเกตตี้ไวท์ซอสซีฟู๊ดของคุณสามีก็มาเสริฟพร้อมกับซอสทาบาสโก้และก็พาเมซานชีส .......ค่ะ

สำหรับจานนี้พิมว่าตัวไวท์ซอสมันใสไปสักหน่อย  อีกทั้งให้ความรู้สึก ...น๊มมมมนมมมม..... มากเลย  อีกทั้งตัวซอสไม่ค่อยร้อน  พอโรยพาเมซาสชีสลงไป  มันก็จะไม่ค่อยหนึบ ๆ อ่ะค่ะ

จานต่อมาก็เป็นสลัดไก่ทอดน้ำใสของเพื่อนคุณแฟนค่ะ ... จานนี้พิมไม่ได้ชิมนะ  เลยบอกรสชาติไม่ได้  แต่ดูจากผักแล้วท่าทางจะสดดี  น้ำสลัดก็คงจะออกเปรี้ยว ๆ กินแล้วคงชุ่มชื้นหัวใจดีค่ะ ^^

ส่วนจานต่อมาที่น้องพนักงานเค้าเอามาเสริฟก็คือ  แกงกะหรี่เนื้อชาบูของสาวปลา แฟนเพื่อนคุณฝาละมีพิมค่ะ ..... จานนี้สาวปลาบอกว่าอร่อย และเนื้อนุ่มดีค่ะ ^^   (มาคราวหน้า พิมจะลองอันนี้แหละ)

ส่วนจานนี้  แกงกะหรี่ข้าวห่อไข่ของคิวคิว เพื่อนคุณฝาละมีค่ะ   ....... สำหรับจานนี้ ขอบอกว่าตอนพนักงานเค้ายกมาเสริฟ ... พิมก็แอบคิดในใจว่า โอ้ววววว ... ทำไมมันน่ากินงี้เนี่ย หน้าตาเหมือนแกงกะหรี่ที่เราเห็นในรายการ Maki Restaurant เลยยยยยยยยย แถมพอคิวคิวได้กิน ก็ยังบอกว่าอร่อยมาก  แบบว่าโอเคเลยค่ะ   ตัวข้าวที่อยู่ในไข่เค้าผัดกับผงกะหรี่มาแล้ว  แล้วก็มาราดด้วยแกงกะหรี่รสชาติเข้มข้นอีกที ... แบบว่ามันเข้มข้นไปด้วยรสชาติของเครื่องแกงกะหรี่เอามาก ๆ .....ใครที่ชอบกลิ่นเครื่องแกงกะหรี่ น่าจะชอบจานนี้นะคะ ......   แถมจานนี้พิมยังได้ชิมอีกด้วย  ก็ขอบอกว่ารสชาติอร่อยเลย  ไข่ก็นุ่มมาก สมเป็นแกงกะหรี่ญี่ปุ่นจริง ๆ ค่ะ

และแล้วเมื่อเวลาผ่านไป (พูดเหมือนนานอีกแล้ว) ..... ข้าวแกงกะหรี่ไก่ทอดผักรวมที่พิมสั่งไป ก็มาเสริฟล่ะค่ะ

... สำหรับข้าวแกงกะหรี่ของพิมจานนี้ เป็นข้าวแกงกะหรี่ที่พิเศษกว่าจานอื่นบนโต๊ะพิมอยู่หน่อยนึงค่ะ  เพราะว่าเป็นแกงกะหรี่ที่มีความเผ็ดระดับ 4  (ระดับปกติ = 3) .... ตอนแรกที่สั่งไปเนี่ย พิมบอกน้องเค้าว่าเอาแบบเผ็ดสุดเลย  น้องเค้าก็อาจจะกลัวพิมกินไม่ได้  (เผ็ดสุดคือระดับ 5) ก็เลยอธิบายให้พิมฟังว่ามันมีเผ็ด 5 ระดับอย่างนี้ๆๆๆ นะคะ   พร้อมกับเปิดเมนูให้พิมดูคำอธิบาย  พิมก็ลองๆ อ่านคำอธิบายถึงความเผ็ดแต่ละระดับในเมนูดูค่ะ   ซึ่งสำหรับความเผ็ดในระดับ 5  เนี่ย เค้าอธิบายไว้ประมาณว่ามันเป็นความเผ็ดระดับสุด ๆ แหละ  เหมาะสำหรับคนชอบท้าทายกับความเผ็ดค่ะ  ... พิมก็เลยถามน้องพนักงานกลับไปว่า เผ็ดสุดๆ  เนี่ยมันประมาณไหน  น้องเค้าก็ยิ้ม ๆ ค่ะ ประมาณว่าอธิบายให้พิมฟังไม่ได้  แต่พิมก็พอเข้าใจล่ะ ว่ามันอธิบายให้ออกมาเป็นคำพูดหรือตัวอักษรเนี่ยยาก

.... สรุปพิมก็เลยสั่งเผ็ดระดับ 4 ไป  เพราะกลัวว่าระดับ 5 มันจะเผ็ดมากจนกินไม่ได้จริง ๆ อ่า  (คือแอบนึกไปถึงรายการแข่งขันรายการนึงของญี่ปุ่น  ที่เค้ามาแข่งกินเผ็ดกันอ่ะค่ะ  แบบว่าระดับความเผ็ด 5 ที่ผู้แข่งขันเค้ากินในตอนนั้น ก็ทำให้น้ำหูน้ำตาไหลกันแล้ว พิมเลยคิดว่าระดับ 5 มันน่าจะเผ็ดมากๆๆๆ จริง ๆ อ่ะ)

แต่ปรากฎว่าพอจานนี้มาเสริฟแล้ว  และพิมได้กินแล้ว ก็คิดว่าไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่ค่ะ  (แต่เผ็ดกว่าแกงกะหรี่ร้านทั่ว ๆ ไปอ่ะนะคะ)   คิดว่าถ้าเป็นระดับ 5 ก็ยังรับไหว .... ก็โอเคค่ะในเรื่องของความเผ็ด  และรสชาติของตัวน้ำแกงกะหรี่  อร่อยเข้มข้นแบบญี่ปุ่นมากๆ ค่ะ.....   แต่ขอติหน่อยว่าผักกับแกงกะหรี่มันไม่ค่อยเข้ากันเลย  เข้าใจว่าเค้าต้มผักเอาไว้ แล้วพอมีลูกค้าสั่ง ก็หยิบผักใส่จาน แล้วราดน้ำแกงกะหรี่ ... ประมาณนี้  เพราะงั้นแครอทมันก็เลยเป็นแครอทแบบก้อนต้มจุ่มซอสแกง  มันฝรั่งก็เลยเป็นแบบมันฝรั่งต้มจุ่มซอสแกง  หน่อไม้ฝรั่งก็เหมือนกันค่ะ   แม้กระทั่งหอมใหญ่ก็ยังไม่เข้ากับแกงเลย ... แบบว่ารสมันไม่ค่อยไปในทางเดียวกันเอามาก ..... จานนี้พิมค่อนข้างผิดหวัง   ก็เลยกินไม่หมด  ที่เหลือยกให้คุณสามีกินต่อไปอ่ะค่ะ  (และก็กินไม่หมดอ่ะ)

ส่วนจานสุดท้ายที่เค้ามาเสริฟก็คือ สลัดไก่ทอดแบบน้ำข้น  (ก็ไม่ข้นมาก) ของคุณฝาละมีพิม  .... ...... ขอบอกว่าจานนี้อร่อยมากค่ะ ไก่ทอดมาได้กรอบแต่กรอบไม่มาก เนื้อไก่ก็นุ่มกำลังดี  ผักก็สดดี  ตัวน้ำสลัดออกเปรี้ยว ๆ หน่อย สรุปว่าอร่อยสำหรับพิมเลยค่ะ

และนี่ก็คือภาพอาหารรวม ๆ ที่พวกเราสั่งมากินกันทั้งหมด  ..... ไม่เยอะค่ะ แค่คนละ 1 จาน (รวมเป็น 4)  บวกกับสลัดอีก 2 จานเท่านั้นอ่ะ ^^

ระหว่างที่กินกันอยู่  .... ก็แอบถ่ายรูปนอกร้านมาซะหน่อย  (ติดเพื่อนคุณแฟนมาด้วย หุหุ)

และแล้วเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ..... กองทัพที่ต้องเดินด้วยท้อง ก็จัดการกับอาหารทั้งหมดจนเรียบ...แบบในภาพนี้เลยค่ะ ^^

จากนั้นเมื่อทุกคนอิ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ก็เรียกน้องพนักงานเค้ามาคิดกะตังค์ค่ะ  (เพราะจะต้องรีบไปทำงานกันต่อล่ะ) .... สรุปรวมค่าเสียหายทั้งหมด  1,056  บาทค่ะ   ... >_<"  แอบแพง แต่ถ้าเทียบปริมาณ + รสชาติ + สถานที่แล้ว  (ซึ่งคิดว่าค่าเช่าคงแพงเอาการ) .... ก็โอเค ^^

ยังไงถ้าใครสนใจอยากกินแกงกะหรี่แบบญี่ปุ่นจริง ๆ ... ลองไปดูที่ร้านนี้นะคะ  ไม่ผิดหวังค่ะ

อ้อๆ ... ลืมไป ๆ  เกือบลืมพระเอกของงาน ... งานนี้พิมต้องขอบคุณคุณฝาละมีนะคะที่พาไปเลี้ยง ^^ ... ขอบคุณมากจ้า  วันไหนพิมทำงานได้เดือนละแสนห้า พิมจะพาคุณฝาละมีไปเลี้ยงตอบแทนบ้างนะคะ (อิอิ)