หลายคนคงจะเคยเข้าไปทานเสต๊กในร้าน sizzlers กันมาหลายครั้งแล้วและก็คงจะคิดกันว่าการกินเสต๊กในร้าน sizzlers นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่เชื่อไหมค่ะว่ายังมีคนๆ นึงที่กินอาหารนอกบ้านบ่อยๆ แต่ยังไม่เคยเข้าไปกิน sizzlers เลย นั่นก็คือคุณสามีพิมเองค่ะ
... มาวันนี้พิมก็เลยจะขอพาคุณสามีและเพื่อน ๆ ทุกคนในครัวบ้านพิมไปกินเสต๊ก & สลัดที่ Sizzlers สาขาเดอะมอลล์บางกะปิกันนะคะ ...... ใครสนใจอยากจะกินด้วยกัน ก็ตามพิมมาเลยค่าาาา ^^
ป.ล. สามีพิมเค้าอยากกินเสต๊กที่ sizzlers มานานแล้วค่ะ เหตุที่อยากกินเพราะว่าไม่เคยเข้าไปกินมาก่อน เลยอยากจะรู้ว่ารสชาติจะเป็นยังไง แต่ผ่านซิสเลอร์สาขาเดอะมอลล์บางกะปิทีไร (ส่วนใหญ่ผ่านช่วงเย็น) ก็จะเจอแต่คนรอคิวแน่นทุกที เลยไม่มีโอกาสเข้าไปกินซะที ... จนกระทั่งถึงวันนี้อ่ะค่ะ
สำหรับคนที่ไม่เคยไปกินที่ซิสเลอร์เนี่ย อยากบอกว่าเวลาเราเดินไปถึงที่หน้าร้านซิสเลอร์จะมีพนักงานต้อนรับคอยถามเรานะคะ ว่ากี่ที่นั่ง ... สำหรับพิม..วันนี้ไปกะคุณสามี 2 คน ก็ 2 ที่นั่งค่ะ (พนักงานเค้าจะเลือกที่นั่งให้เรา แต่เราก็สามารถเลือกที่นั่งอื่นได้ตามใจชอบ) .... และพอเลือกที่นั่ง + นั่งเก้าอี้แล้ว พนักงานเค้าก็จะเอาเมนูมาให้พิมทันทีเลยค่ะ (ครั้งนี้พิมไม่ได้ถ่ายรูปเมนูของซิสเลอร์มาให้ดู เพราะว่าเกรงใจสายตาพนักงานเค้าอ่ะค่ะ) .... ซึ่งพิมก็สั่งเสต๊กไปคนละจานกับคุณสามีอ่ะนะคะ ^^
และหลังจากสั่งเสต๊กไปแค่ไม่ถึงนาที น้องพนักงานเสริฟเค้าก็เอาเครื่องดื่มกับขนมปังปิ้งกรอบ ๆ หน้าชีสหรือเนยก็ไม่แน่ใจ ...... มาเสริฟค่ะ แบบว่ามาไวมาก ๆ อ่ะ
จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาหรรษาของพิมล่ะค่ะ คือช่วงเวลากินสลัดอ่ะ ...... คือคนที่มาทานอาหารที่ร้านซิสเลอร์เนี่ย หากสั่งอาหารจานหลักของที่นี่ทุกจาน ไม่ว่าจะที่ราคาเท่าไร ทุกคนสามารถตักซุป+สลัด+พาสต้าจากซุ้มสลัดมาทานได้อย่างไม่จำกัดเลยอ่ะค่ะ (จริง ๆ ก็คือทางซิสเลอร์เค้าก็คิดราคารวมไปแล้วแหละ)
ซึ่งหลังจากพิมไปเดินเวียนวน ๆ อยู่ที่ซุ้มสลัดสักพัก ...... อย่างแรกที่พิมตักมาก็คือ ซุปครีมเห็ดค่ะ (ตักที่คุ้นเคยเอาไว้ก่อน) ...... ก็รสชาติดีนะคะ ไม่เค็มไม่มันไม่ข้นไม่ใสเกินไป ไม่เลี่ยน แต่ตินิดนึงตรงว่ากลิ่นของน้ำที่ใช้ (ไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำประปาหรือเปล่า) ค่อนข้างแรงอ่ะค่ะ
อย่างที่สองที่ตักมา ก็คือ พาสต้ากับทูน่าซอส (เค้ามีซอสเดียวค่ะ) อันนี้พิมไม่ได้กินเอง (ตักมาให้คุณสามี) แต่สัมผัสได้ทางสายตา+คุณสามีบอก...ว่าเส้นพาสต้าค่อนข้างแข็ง เลยไม่ค่อยเข้ากับซอส แต่ส่วนตัวซอสรสชาติใช้ได้ออกเค็ม ๆ มัน ๆ ค่ะ
จากซุปกับพาสต้า ต่อมาก็เป็นสลัดค่ะ ... สำหรับสลัดของที่นี่เป็นอะไรที่พิมชอบมากๆ เลยค่ะ ไปทีไรกินไม่ต่ำกว่า 4 จาน ^^" (แต่เสต๊กไม่กินนะคะ เพราะไม่ชอบเสต๊กของที่นี่ค่ะ) ....... สำหรับสลัดจานแรกของพิมก็หน้าตาแบบนี้นะคะ เน้นผักสดจำพวกผักสลัดใบเขียวใบแดงซะเป็นส่วนใหญ่ ราดด้วยน้ำสลัดนิดหน่อย และตบท้ายด้วย Bacon Bit กับ Gruton ..... ขอบอกว่าอร่อยมากๆ ค่ะ ^^
ดังนั้นเมื่อสลัดของที่นี่ถูกปากพิมมาก ๆ ก็เลยต้องมีจานที่ 2 ซะหน่อยค่ะ .. สำหรับสลัดจานที่ 2 ของพิม ก็จะเป็นสลัดรวมมิตร 4 อย่างในจานเดียวกัน (ขออภัยจะชื่อสลัดแต่ละอย่างไม่ได้เลยค่ะ >_<") ...... ซึ่งก็อร่อยไม่แพ้จานแรกเลย โดยเฉพาะสลัดฟักทองย่างกับพริกหวานย่างนี่อร่อยเทพมาก ๆ เลยค่ะ (แต่คนอื่นอาจจะไม่ชอบก็ได้นะคะ ^^")
และระหว่างที่พิมกินสลัดจานที่สองอยู่ เสต๊กที่พิมกับคุณสามีสั่งไปก็มาเสริฟล่ะค่ะ (ใช้เวลาน่าจะสัก 20 กว่านาทีอ่ะ) ......... สำหรับจานนี้ "พอร์คชอบ" เป็นเสต๊กของคุณสามีพิมนะคะ
ส่วนจานนี้ "ไก่ย่างสไปซี่และเสต๊กหมูพริกไทยดำ" ...... ของพิมค่ะ
สำหรับเสต๊กของที่นี่เนี่ย ..... พิมแอบบงง ๆ นิดหน่อย คือเค้าเสริฟเสต๊กมาในสภาพที่เย็นแล้วอ่ะค่ะ ไม่มีความร้อนเลยแม้แต่น้อยทั้งจานของพิมและจานของคุณสามี ก็เลยแอบคิดว่าเค้าทำเสร็จนานแล้วแต่ไม่มีพนักงานหยิบมาเสริฟ หรือว่าเพราะอะไรยังไง พอถาม..พนักงานเค้าก็ว่าเพิ่งเสร็จ ก็เอามาเสริฟทันทีเลย พิมก็เลยแอบงงค่ะ ...... แต่พิมก็ไม่ได้ให้เค้าเอากลับไปอุ่นให้อ่ะนะคะ เพราะว่าเสต๊กที่เค้าเอามาเสริฟเนี่ย เค้าก็ย่างมาจนทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ และพอร์คชอปของคุณสามีสุกแข็งแห้งมากๆ แล้วอ่ะค่ะ แถมบางส่วนก็เกรียม ถ้าให้ไปย่างให้ร้อนอีกรอบมีหวังได้เนื้อสเต๊กแข็งแห้งกว่าเดิมกลับมาแน่เลยค่ะ อีกทั้งพิมก็ไม่ได้ตั้งใจมากินเสตีกที่นี่อยู่แล้ว (อยากกินแต่สลัด) เพราะงั้นไม่ต้องไปอุ่นแล้ว เอาอย่างนี้ก็ได้อ่ะ
ว่าแล้ว ...... ก็ขอลองชิมเสต๊กเค้าซะหน่อยค่ะ ว่าเป็นยังไง .... ก็ปรากฎว่า อืม..ม.ม.ม.ม เสต๊กหน้าปากซอยบ้านพิม รสชาติถูกปากพิมมากกว่าค่ะ (อร่อยหรือไม่อร่อย พิมไม่ตัดสินนะคะ ขึ้นกับความชอบของแต่ละคน) .... เพราะเสต๊กของที่นี่เค้าค่อนข้างจืด แบบว่าเนื้อสัตว์มันจืดอยู่แล้ว เนื่องจากไม่ใช่เนื้อพิเศษอะไร แถมน่าจะเป็นเนื้อแช่แข็ง แล้วดูเหมือนว่าแทบจะไม่มีการปรุงรสอะไรเพิ่มมาก มันก็เลยจืดแบบว่าจืดอ่ะค่ะ ... สำหรับเสต๊กหมูพริกไทยดำ อันนี้โอเคนะคะ เนื้อหมูจืดไม่เป็นไร เพราะซอสมีรสชาติอยู่ แต่ว่าไก่ย่างสไปซี่อ่ะค่ะ .... มันจืดมาก ไม่สมกับคำว่าสไปซี่เลย (ซึ่งพิมก็ไม่ได้ว่าจะต้องเผ็ดเป็นไกย่างพริกไทยดำของไทยเรา) ...... ก็เลยแอบผิดหวังอยู่พอประมาณ แต่ก็กินค่ะ
แล้วระหว่างกินเสต๊ก พิมก็ไปตัก Minestrone Soup มาถ้วยนึงค่ะ ... แอบโรยด้วยเมล็ดทานตะวันมาช้อนนึง คิดว่ามันน่าจะพอเข้ากันได้ แต่ขอบอกว่ามันไม่เข้ากันเลยค่ะ ฮ่ะๆ
นั่งกินเสต๊กไป กินมิเนสโตรเน่ซุปไป .... ก็มองดูบรรยากาศในร้านไปพลาง ๆ ด้วยค่ะ ซึ่งน้องพนักงานเสริฟเค้าค่อนข้างเดินกันว่องไว+ขวั่กไขว่มากเลย แบบว่าโต๊ะไหนเป็นน้ำรีฟิล แค่น้ำพร่องไปครึ่งแก้ว น้องเค้าก็เดินอย่างรวดเร็วไปเติมให้แล้วค่ะ แถมเรียกถามอะไรก็เดินมาอย่างรวดเร็วและยิ้มแย้ม .... บรรยากาศในร้านก็เลยดูโอเคค่ะ ^^
แล้วพอกินเสต๊กชิ้นแรกหมด (จริง ๆ ไม่หมด คุณสามีช่วยกินไปกว่าครึ่ง) พิมก็รู้สึกว่ายังไม่อิ่มท้องเลยค่ะ (จริง ๆ ยังติดใจสลัดต่างหากล่ะ) ... สำหรับสลัดจานที่ 3 ที่พิมตักมาเนี่ยก็เป็น สลัดฟักทองกับพริกหวานย่าง + ซีซ่าร์สลัด +สลัดปูอัดค่ะ แถมมด้วย Rainbow Tomato อีก 3-4 ลูก ... ขอบอกว่าอร่อยทุกอย่างค่ะ ^^
และหลังจากกินสลัดจานที่ 3 หมดไปก็แอบเริ่มเลี่ยนนิดนึงล่ะ เลยขอตัดเลี่ยนด้วยซุปไก่ต้มยำซะหน่อย .. แบบว่ารสชาติเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดตัดเลี่ยนมากอ่ะค่ะ
จากนั้นเมื่อหมดชุดอาหารคาว ก็ขอตบท้ายด้วยขนมหวานหน่อยล่ะค่ะ ... ซึ่งสำหรับขนมหวานของที่นี่เนี่ย ก่อนจะมาวันนี้พิมได้อ่าน comment ของเพื่อน ๆ หลายคนเค้าว่ามูสของที่นี่อร่อยมากขั้นเทพ พิมก็เลยหยิบมาซะ 4 ถ้วย กะว่าเป็นของพิม 2 ของคุณสามี 1 แต่ปรากฎว่ามันคงจะไม่ใช่มูสที่พิมชอบอ่ะค่ะ เนื่องจากมันเนื้อแน่นเกินไป อีกทั้งรสชาติมันค่อนข้างหนัก (เข้ม) พิมก็เลยกล้ำกลืนฝืนใจตัวเองกินไปได้แค่รวม ๆ แล้วถ้วยนึงเท่านั้นอ่ะค่ะ >_<" เสียดายที่เหลือก็เสียดาย แต่ก็ไม่สามารถแล้วค่ะ
แล้วหลังจากที่พิมกับคุณสามีกินอิ่มกันเป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาจ่ายเงินแล้วล่ะค่ะ ... ซึ่งวิธีการจ่ายเงินของที่นี่จะแปลกไปกว่าที่อื่นนิดหน่อย คือเราจะบอกพนักงานเสริฟก่อนค่ะว่าเราจะเช็คบิล แล้วสักแป๊บน้องพนักงานเสริฟเค้าก็จะเอาใบรายการมาให้เรา (ประมาณว่าเป็นใบแจ้งหนี้) จากนั้นก็ให้เราถือใบนี้ไปที่เคาเตอร์จ่ายเงินตรงประตูทางออกเพื่อจ่ายเงินอีกทีน่ะค่ะ ซึ่งแอบสลับซับซ้อนยุ่งยากนิดนึง แต่พิมว่าก็ปลอดภัยและสบายดีค่ะ ..... ซึ่งค่าเสียหายของพิมกับคุณสามีมื้อนี้ก็อยู่ที่ 808 บาทนะคะ แอบแพงอ่ะ >_<" (ถ้าเสต๊กอร่อย จะไม่รู้สึกว่าแพง)
หลังจากจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลากลับบ้านกันแล้วล่ะค่ะ
แต่ก่อนกลับ...เนื่องจากว่าที่ชั้นล่างของเดอะมอลล์เค้ามีงานอะไรเกาหลี ๆ อยู่ คุณสามีก็เลยขอไปถ่ายรูปกับต้นซากุระที่เค้าเอามาประดับในงานสักหน่อยค่ะ ........ ว่าแล้วพิมก็ขอลาไปกับรูปคุณสามีภาพนี้เลยนะคะ แล้วเจอกันใหม่กับรีวิวหน้าจ้า (รับรองเด็ด) อิอิ