header



โพนยางคำ1

ถ้าเอ่ยชื่อ "โคนขุน โพนยางคำ" ร้านเนื้อย่างชื่อดังที่ตั้งอยู่ปากซอยนวลจันทร์ 21 ... พิมเชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จัก เคยได้ยินชื่อ หรือไม่ก็ได้เคยไปกินกันมาบ้างแล้ว หรือบางคนอาจจะเคยหลายครั้งแล้วก็เป็นได้  ^_^   ... พิมก็เป็นอีกคนนึงเช่นกันค่ะ  ...   ครั้งแรกที่พิมเลือกไปกินเนื้อย่างที่ร้านนี้ ก็เพราะอยากลองเท่านั้นเลยค่ะ  เนื่องจากเห็นหลายรีวิวหลายกระแสบอกว่าเนื้อที่ร้านนี้อร่อยมาก อาหารอื่นๆ ก็ใช้ได้   ... พิมก็เลยตัดสินใจไปลองค่ะ  ซึ่งพอได้ลองแล้ว  ด้วยราคา  ด้วยคุณภาพ ด้วยรสชาติ และที่สำคัญใกล้บ้าน ก็เลยทำให้พิมกับคุณแฟน  กลายเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้ไปเลยค่ะ

Update :: พิมไปมาล่าสุดวันที่ 13 ก.พ. 2553  โพนยางคำสาขานี้ มีให้บริการแบบบุฟท์แล้วนะคะ หัวละ 199 บาท ไม่รวมน้ำ  (ไม่มีส่วนลดช่วง 11 โมง - บ่าย 3) ... ที่นั่งจะอยู่ใน zone บุฟเฟท์โดยเฉพาะเลย  สั่งอาหารได้ทุกประเภทเหมือนเดิม แต่ว่าเนื้อสัตว์ที่แพงๆ อย่างสันนอกสไลด์-หมัก จะไ่ม่รวมด้วย  อยากกินเพิ่มก็สั่งต่างหากได้ค่ะ

..................................................

รีวิวนี้  ทำไว้ตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2552  ซึ่งณ วันนี้ 4 ก.ค. 2554 ก็ผ่านมา 2 ปีแล้ว
เพราะงั้นหากร้านนี้จะเปลี่ยนแปลงไป (ไม่ว่าจะในทางดีขึ้นหรือแย่ลง) ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่ที่แน่ ๆ ขอย้ำไว้ก่อนเลยค่ะว่า  พนักงานเสริฟของที่ร้านนี้ไม่ค่อยใส่ใจลูกค้าเท่าไหร่นะคะ
ส่วนใหญ่เค้าจะเลี่ยงเราได้เท่าที่เค้าสามารถจะทำ  และก็มักจะมึนเฉยเวลาเราสั่งของอะไร น้อยคนนักที่จะกระตือรือล้น
เพราะงั้นหากใครจะไปกินร้านนี้ แล้วคาดหวังเรื่องการบริการว่าจะเหมือนร้านอาหารอื่น ....... พิมต้องขอบอกว่าอย่าหวังค่ะ

..................................................

ร้านเนื้อย่าง "โคขุน โพนยางคำ" สาขานวลจันทร์ 21  ตั้งอยู่ปากซอยนวลจันทร์ 21 เลยค่ะ  ถ้าขับรถมาจากทางบางกะปิ  พอถึงแยก ถ.เกษตรนวมินทร์-สุขาฯ 1  มันจะบังคับให้รถทุกคันต้องเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.เกษตร-นวมินทร์  เราก็เลี้ยวตามเค้าไปเลยค่ะ  จากนั้นก็กลับรถที่ u-turn แรก  พอกลับรถปุ๊บ ให้พยายามขับรถชิดซ้าย   แล้วเราก็เลี้ยวซ้ายแบบหักมุมเข้า ถ.นวลจันทร์ ซึ่งอยู่ก่อนถึงแยกนวลจันทร์-สุขา 1 นิดเดียวเองค่ะ  (มีป้ายบอก)    พอเลี้ยวเข้า ถ.นวลจันทร์แล้ว ก็ขับรถตรงเข้าไปเรื่อย ๆ ... ร้านจะตั้งอยู่ปากซอยนวลจันทร์ 21 เลยค่ะ ... แบบว่าเหมือนจะไปยาก แต่จริง ๆ หาง่ายมากนะคะ   ซึ่งถ้าจะมารถเมล์  ก็ขึ้นรถสาย 156 จาก ถ. สุขา 1 ก็มาถึงร้านนี้ได้เหมือนกัน

เมื่อมาถึงร้าน ... ก่อนอื่น ก็ดูบรรยากาศคร่าว ๆ ภายในร้านก่อนนะคะ จะประมาณนี้เลย

บริเวณร้าน

ตามในภาพด้านบน จะเป็นโซนกลางร้านค่ะ    พิมไม่ได้นั่งโซนนี้ เพราะว่าเมื่อวันที่ไป  ซึ่งก็คือเมื่อวาน  (เสาร์ 11 ก.ค. 52)  แดดร้อนและอากาศอบอ้าวมากๆ ถึงมากที่สุด   พิมกับคุณแฟนและเพื่อน ๆ พี่น้อง คนรู้จักของคุณแฟน ก็เลยเลือกเข้าไปนั่งด้านใน   เนื่องจากมีหลังคาที่สูง  และบรรยากาศค่อนข้างโปร่ง  สามารถรับลมได้มากกว่าโซนด้านกลางที่ขนาบข้างไปด้วยครัวของร้านทั้งสองด้านเลยน่ะค่ะ   ... (ภาพด้านล่าง คือโซนด้านใน)

inside zone

แต่ละโต๊ะของที่ร้านนี้ ... จะนั่งสูงสุดแบบไม่อึดอัดได้ประมาณ 6 คนค่ะ  (ข้าง 4 หัวท้าย 2)  แต่วันที่พิมกับเพื่อน ๆ แคชไป  เราไปกันทั้งหมด  10 คน   ซึ่งก็มีพิม-แคช-พี่อาท-พี่หมอ-พีท-อีกคนที่เป็นเพื่อนในกลุ่มพี่อาท-เอ๊ะ-เก้า-โม-และก็แฟนโม  ... เราก็เลยเป็นเป็นน้องพลับ ต้องขอ 2 (โต๊ะ) ค่ะ  ^^

เมื่อมาถึงร้าน เลือกโต๊ะได้แล้ว ได้นั่งแล้ว ....... ก่อนจะดูเมนูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง   เราก็สั่งน้ำดื่มกันก่อนเลยค่ะ...วันนี้มีทั้งคนอยากกินโค๊ก และคนอยากกินน้ำเปล่า  เราก็เลยสั่งมาทั้ง 2 อย่าง พร้อมน้ำแข็ง 1 กระป๋อง ^^

ice and coke

เมื่อน้ำแข็งมาถึง น้ำมาถึง  (ซึ่งเร็วมากๆ) ... น้องพนักงานหญิงคนนึง ก็รีบมาจัดการเทใส่แก้วให้เราเลยค่ะ  ตรงนี้้ประทับใจมาก  เพราะว่ามาถึงแบบอากาศร้อน ๆ คอแห้ง  ได้น้ำเย็น ๆ มาดื่มรวดเร็วทันใจแบบนี้  รู้สึกดีมากเลยค่ะ

ข้อควรระวัง ::  ไม่ควรวางแก้วน้ำใกล้เตา  เพราะนอกจากน้ำแข็งจะละลายไวแล้ว  โอกาสที่ขี้เถ้าจะปลิวมาเกาะแก้วน้ำ และลงไปในแก้วน้ำ ก็มีเยอะมากเลยค่ะ  อย่างคราวก่อนปลิวลงจนบนผิวหน้าของน้ำเป็นฝ้าสีขาวเต็มไปหมด  ต้องเททิ้งทั้งแก้วเลย -*-

glasseswater

เมื่อดื่มน้ำเย็นกันจนชื่่นใจแล้ว ... เราก็มาดูเมนูกันค่ะว่าร้านนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง  ...เมนูของร้านนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 หน้า   หน้าแรกจะบอกว่ามีเนื้อส่วนไหน  มีอาหารอะไรยังไงบ้าง  ส่วนหน้าหลังจะเป็นส่วนของเครื่องดื่ม ของหวาน  และรายละเอียดของเนื้อวัวโคขุนค่ะ

menu1menu2

ปกติอาหารหนัก ๆ ของที่ร้านนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ  (พิมแยกประเภทเอง -*-)  คือแบบเอามาทำให้สุกเองที่โต๊ะของเรา และแบบสั่งเค้าทำสุกมาเลย (พร้อมกิน)   ซึ่งแบบเอามาทำให้สุกเองที่โต๊ะเรา  ก็จะมีแบบย่าง กับแบบจิ้มจุ่ม

ซึ่งโดยปกติเวลาพิมไปกับคุณแฟนสองคน  หรือไปกับเพื่อนกลุ่มน้อย ๆ   มักจะไปกินอะไรแบบย่างๆ ซะมากกว่า  ไม่ก็สั่งอาหารเป็นจานๆ  กันมาเลย   จะไม่ค่อยจะได้สั่งแบบจิ้มจุ่มมากินกันหรอกค่ะ   แต่วันนี้หลายคนเพิ่งมาโพนยางคำเป็นครั้งแรก  เลยขอสั่งทั้ง 2 แบบ  ทั้งแบบจิ้มจุ่ม และก็แบบย่าง  มาให้ทุกคนได้ลองกัน  (ว่าจะชอบแบบไหน)  ... ซึ่งการบริการเรื่องของเตาของที่นี่ดีมากเลยค่ะ  ประมาณว่าสั่งแป๊บเดียวเอง   เตาก็มา กระทะก็มา หม้อก็มา ... เร็วเกินกว่าคำว่า "ทันใจ" อีกค่ะ

แบบย่าง ... เตาที่มา ก็จะเป็นเตาเล็ก ๆ แบบในภาพนี่แหละค่ะ  (มาพร้อมกับมาการีน/เนย 1 ถ้วยเล็ก ไว้ใช้ทากระทะ เพื่อไม่ให้เนื้อติดกระทะเวลาย่าง และมีกลิ่นหอมมากขึ้น) ....   หลายคนที่คิดว่า เตาจะใหญ่เหมือนเตาร้านหมูกระทะทั่วไป อันนี้ไม่ใช่เลยนะคะ ...  แล้วกระทะย่างของโพนยางคำ ก็จะเป็นแบบถาดเหล็กแบบนี้  ไม่ใช่กระทะมีรูๆ ... พิมมาครั้งแรกก็แอบแปลกใจเหมือนกันค่ะ  แต่หลังจากได้กิน ได้ย่างแล้ว ก็คิดว่า อือ .. แบบนี้น่ะเหมาะแล้วจริง ๆ ^^

ป.ล. ใครไม่ถนัดย่างเอง  โดยใช้เตาและกระทะแบบนี้  จะสั่งให้ทางร้านย่างมาให้เราแบบพร้อมกินเลยก็ได้ค่ะ  แต่ว่ามันไม่ค่อยได้อารมณ์เท่าไหร่น๊าาาา

ป.ล. หากย่าง ๆ ไปแล้ว ก้นกระทะมันไหม้ สามารถขอให้น้องพนักงานเค้าช่วยเปลี่ยนกระทะให้ได้ค่ะ  และหากรู้สึกว่าถ่านอ่อน  หากเอาอะไรเขี่ยถ่านแล้วก็ยังไม่แรงอีก  สามารถขอให้น้องพนักงานเค้ามาเปลี่ยนเตาให้ได้เช่นกันค่ะ  (ไม่เสียเงินเพิ่ม)

stove

ส่วนเตาพร้อมหม้อดินแบบนี้ ...คือ แบบจิ้มจุ่ม .. ตัวเตาจะมาพร้อมกับหม้อและน้ำซุป  ซึ่งก็ไม่เสียเงินเช่นกัน   แต่จะไปเสียเงินตรงค่าชุดผักสำหรับจิ้มจุ่ม   ซึ่งก็จะมีผักกาดขาว กะหล่ำ  ผักบุ้งจีน โหระพา  ไข่ 1 ฟอง และก็วุ้นเส้น  ราคาชุดละ 25 บาทค่ะ  (น้ำซุปอร่อย เปรี้ยว เผ็ด เค็ม กำลังดี กลิ่นสมุนไพรก็หอมมาก)

ป.ล. ผักล้างสะอาดดีค่ะ  แต่ผักบุ้งจีนไม่ไหว ใบเหลืองมาก ๆ แทบทุกใบ  บางใบก็ทั้งเหลืองทั้งช้ำเน่าเลย -*-

จิ้มจุ่มจิ้มจุ่ม2

เมื่อเราสั่งเตามาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ... ต่อมาเราก็มาสั่งเนื้อสัตว์ และอาหารอื่น ๆ กันค่ะ

อย่างแรกที่เราสั่งไป และขาดไม่ได้เลยก็คือ "ข้าวเหนียว" ..... หลายคนคงจะทายถูกแน่ ๆ ฮ่ะๆ  ข้าวเหนียวที่ร้านนี้มาเป็นแบบกระติ๋บค่ะ  กระติ๊บละ 10 บาท กินได้ 1 คนอิ่ม  แต่ถ้าเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบพิม (ฮ่ะๆ)  กินได้ 2 คนอิ่มเลยค่ะ  (อันนี้จริง ๆ นะ)

ข้าวเหนียว

เมื่อสั่งข้าวเหนียวแล้ว ทางร้านก็จะมีผักแกล้มมาให้ด้วย  จำพวกแตงกวา กะหล่ำ โหระพา ถั่วฝักยาว (จริง ๆ ร้านเค้าเอามาวางให้ตั้งแต่แรกแล้วค่ะ ^^")  ... ผักแกล้มนี่ ครั้งแรกไม่เสียกะตังค์  แต่ถ้าจะสั่งเพิ่ม ก็กระจาดละ 10 บาทค่ะ

ผักแกล้ม

จากนั้นเราก็สั่งเนื้อกันต่อ ..... เนื้อวัวของที่ร้านนี้มีหลากหลายประเภทมาก  ถ้าเอาเฉพาะจานใหญ่ ก็มีราคาตั้งแต่จานละเกือบ ๆ  100 บาท ไปจนถึงจานละ 200 บาท ค่ะ  (จานนึง กะเอาจากสายตา น่าจะขีดกว่าๆ - 2 ขีด)

เนื้อวัวชุดแรกที่เราสั่งมาก็คือ .... สันคอ กับ สะโพก  (เฉพาะสะโพก .. ตอนนี้โปรซื้อ 1 แถม 1)  ... สันคอของที่นี่อร่อยมากค่ะ  ^__^  เหมาะทั้งจิ้มจุ่ม และก็ย่าง  ส่วนสะโพกเอาไปจิ้มจุ่มจะอร่อยกว่า  ถ้าเอามาย่าง  หากย่างแล้วสุกมากไป จะแข็งไม่ค่อยอร่อยค่ะ

สะโพกสันคอ

แล้วก็ยังมีเนื้อหนอกหมักค่ะ ... เจ้าเนื้อจานนี้เนี่ย พิมมาที่นี่หลายครั้ง แต่ไม่เคยสั่งเลย  (จริง ๆ จะว่าไป ไม่เคยสั่งเนื้อประเภทหมักเลย)    จนมาวันนี้ น้องในกลุ่มคนนึงเค้าเคยมากินที่นี่แล้ว บอกว่าอันนี้อร่อย  ก็เลยสั่งกันมาลองกิน ... หน้าตาประมาณแบบนี้อ่ะค่ะ

ป.ล. เนื้อหนอกจานนี้ เป็นหนอกจานหลัง ๆ ที่เราสั่งมาค่ะ    แต่หลังจากสั่งจานนี้แล้ว  ตัวพิมก็ไม่ได้สั่งเนื้อหนอกหมักอีก  เพราะว่ายิ่งจานหลัง ๆ เท่าไหร่  ยิ่งมีไขมันเยอะเท่านั้น   จนแทบจะกลายเป็นก้อนไขมันไปแล้ว  เลยคิดว่าไม่เอาแล้วดีกว่าค่ะ   ซึ่งพอสอบถามน้องพนักงาน  เค้าก็น่ารักมาก  บอกเราว่า วัวแต่ละตัว มันมีไขมันตรงส่วนนี้ไม่เท่ากัน  บางจาน (อย่างจานแรกๆ) เนื้อหนอกก็อาจจะมีไขมันน้อย  แต่บางจาน (อย่างจานหลังๆ)  ไขมันก็อาจจะมีมากไปหน่อยน่ะค่ะ -*-

ป.ล.  แทบทุกจาน จะสั่งรอบละ 2 เสมอ และก็สั่งอย่างละหลายรอบค่ะ ^^"

เนื้อหนอก

พอได้เนื้อชุดแรกมา..เราก็เริ่มลงมือย่างกันค่ะ  เริ่มแรกก็เอาตะเกียบไปจิ้มเนยก่อนนะคะ  แล้วก็เอามาทา ๆ ให้ทั่วในกระทะแบบนี้   (ทาน้อยไป เนื้อจะติดกระทะ แต่ถ้าทามากไป จะเลี่ยนเนย)

เนื้อสะโพกย่าง

จากนั้นพอเนยและกระทะร้อนได้ที่ เราก็คีบเนื้อวางลงไปเลยค่ะ  (เวลาวาง เสียงจะดัง ฉี่.....ๆ.ๆ.ๆ..ๆ.ๆ)  ... ถ้าเป็นเนื้ออย่างหนอกหมัก หรือเนื้อที่มีมันหน่อย  พอเราคีบไปวางในกระทะแล้ว สักแป๊บค่อยพลิกด้านเนื้อก็ได้  เนื้อจะยังชุ่ม ๆ อยู่ ....  แต่ถ้าเป็นเนื้อสะโพก หรือเนื้อส่วนไม่ติดมัน  แถมยังสไลด์มาบาง ๆ  ให้คีบ ๆ แล้วใช้ตะเกียบกลับเนื้อไปมาคล้าย ๆ การผัด จะทำให้เนื้อมีความอร่อย และชุ่มน้ำกว่าการย่างเฉย ๆ อ่ะค่ะ

ภาพด้านล่างนี่เป็นเนื้อส่วนสะโพก กับส่วนสันคอค่ะ

ย่างเนื้อสะโพกเนื้อสะโพก

ส่วนภาพนี้ เป็นเนื้อหนอกหมัก  (จานแรก ๆ ที่ไม่ค่อยมีมัน อร่อยมากกกกกกกกกกก เลยค่ะ  แต่จานหลังที่มีมันเยอะ  กินแล้วเลี่ยนไปหน่อย ... อ้อ ๆ แต่ละจาน เค้าก็จะหั่นรูปร่างไม่เหมือนกันนะคะ สอบถามน้องพนักงาน เค้าบอกว่าแล้วแต่ใครเป็นคนหั่น)

เนื้อหนอกย่าง

พอย่างได้ที่แล้ว ก็คีบใส่จานตัวเอง ........ แบบนี้เลยค่ะ   แบบว่าเห็นภาพแล้ว ก็อยากกินอีก -*-

จานของพิม

มีเนื้อย่างแล้ว .. ก็ต้องไม่ลืมว่าเรามีหม้อจิ้มจุ่มด้วยค่ะ   ในหม้อเค้ามีน้ำซุปมาให้เราแล้ว  เป็นน้ำซุปสมุนไพร  ใส่เครื่องจำพวกข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด แล้วปรุงรสมาแบบต้มยำน้ำใส    เราก็เพียงแค่เติมผักกับเนื้อสัตว์ลงไปเท่านั้นเอง  .. แบบนี้เลยค่ะ

ป.ล. พิมใส่ผักที่ฉีกเป็นชิ้นพอคำลงไปก่อน  แล้วปิดฝา รอให้เดือดสักแป๊บ   กะว่าพอผักสุกนิ่มใช้ได้  ก็เปิดฝา  เอาไข่ที่ตอกใส่ถ้วยแล้วตีพอแตก โรย ๆ ลงไปในหม้อ  แล้วเอาเนื้อที่เราจะกินใส่ลงไปตามลงไป  ปิดฝาแป๊บนึง (นับ 1-5  ในใจ) ก็เปิดฝา แล้วก็กินได้เลยค่ะ  (เนื้อจะสุกกำลังดีเลย-สำหรับพิมนะ)

จิ้มจุ่ม 1

แล้วพอเวลาจะกิน   ก็เอาวุ้นเส้นใส่กระบวยรู ๆ แบบนี้  แล้วเอาลงไปลวกในหม้อแป๊บนึง  แล้วเอาขึ้นใส่ชาม  ตามด้วยตักเนื้อสัตว์นุ่ม ๆ  ผัก และน้ำซุปร้อนๆ ตามลงไป ...จากนั้นก็กิน .... อื้อฮืออออออออออ แบบว่า อร่อยเด็ดมากเลยค่ะ ^^

จิ้มจุ่ม2

แล้วระหว่างที่เรากำลังย่างเนื้อย่าง และจิ้มจุ่มกันอย่างเมามัน .... อาหารพร้อมกินอื่น ๆ ที่เราสั่ง ก็เริ่มทยอยมาค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นไส้หมูย่าง (อร่อยมากๆ ขอบอก)  , เสือร้องไห้ย่าง , ตับหวาน ,   คอหมูย่าง , ลาบคอหมู  ฯลฯ  ..... ^^ ล้วนแต่อร่อย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ  (จริง ๆ อยากสั่งเป็ดแดดเดียวทอด แต่ 2 ครั้งที่เคยสั่งมากิน ไม่ค่อยประทับใจค่ะ เพราะว่าเนื้อแห้งมากไป จนไม่รู้สึกว่าเป็นเนื้อเป็ด  คราวนี้ก็เลยไม่สั่งจะดีกว่า)

ป.ล. จริง ๆ สั่งนมย่างมาด้วยนะคะ ... แต่ไม่อยากเอ่ยถึงเลย  อยากให้เป็นมันกลายเป็นลมที่พัดผ่านไป แล้วไม่ต้องหวลกลับมา  แบบว่าไม่ต้องเก็บไว้เป็นความทรงจำอ่ะค่ะ T__T

รวมของย่างตับหวานตับหวานน้ำตกคอหมู

พอหมดจากเนื้อที่เราสั่งมาย่างชุดแรก ... ระหว่างกินอาหารอื่น ๆ และเม้าท์กันอย่างเมามันอยู่   พวกเราก็ระดมสั่งเนื้อชุดที่่ 2 - 3 - 4 - 5 - 6 มาต่อ   เพื่อมิให้เกิดอาการขาดช่วง ... ซึ่งชุดเนื้อที่เราสั่งต่อ ๆ มาก็มีหลายอย่างมากค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นเนื้อ G หมัก (รวมเนื้อหลายชนิด) , เนื้อ Rip Eye , สันกลางสไลด์ , เสือสไลด์ , น่องแก้ว , สันนอก , เบค่อน , สะโพก , สันสะโพก , เนื้อหมูหมัก  ฯลฯ  อย่างละ 2-3 จาน  (แต่อย่าถามพิมนะคะ ว่าจานไหนคืออะไร  จำไม่ได้เลยค่ะ -*-)

http://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/030.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/031.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/035.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/036.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/047.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/045.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/064.jpg

พอเนื้อชุด 2 - 3 และชุดหลังๆ  ที่พวกเราสั่งไปเริ่มทยอยมา   พวกเราก็ได้ฤกษ์ย่างกันต่อค่ะ  และระหว่างย่างไป กินไป  พวกเราก็เม้าท์เรื่องโน้นเรื่องนี้กันไป  บางเรื่องแอบตลกโปกฮาสุดฤทธิ์  บางเรื่องก็ล่อแหลมสุด ๆ (อิอิ) ....  เรียกว่าบรรยากาศการกิน เป็นไปอย่างสนุกสนานมาก .... จนเวลาผ่านไป 2 ชม. กว่า แบบที่เราไม่รู้ตัวเลยค่ะ

http://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/069.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/042.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/065.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/059.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/048.jpgimages/restaurant/pon-yang-kum/046.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/058.jpg

จวบจนได้เวลาประมาณเกือบบ่าย 3 โมง  หลังจากที่กินแบบกระหน่ำกันมากว่า 2 ชม. ^^" ... พวกเราก็เริ่มอิ่มกันแล้วค่ะ   หลายคนก็เลยเริ่มนั่งคุยกันอย่างเดียวแล้ว   ระหว่างนี้พิมก็เริ่มสอดส่ายสายตาหาขนมหวานมาปิดท้ายล่ะค่ะ  แบบว่าเป็นคนที่กินอาหารหลักแล้ว ต้องตบท้ายด้วยขนมหวานเสมอ ..... ซึ่งจริง ๆ ร้านนี้มีรายการขนมหวานอยู่ในเมนูด้วยนะคะ อย่างเต้าฮวยฟรุ๊ตสลัด เต้าหู้นมสด ไรงี้ค่ะ   พิมเองเคยสั่งมากินแล้ว  ก็อร่อยดี    แต่วันนี้ไม่มีอารมณ์อยากกินขนมแบบนั้นค่ะ  เนื่องจากพักนี้กินบ่อยมาก ....   พอดีพิมไปเห็นเมนูขนมเค้กติดอยู่ตามเสาในร้าน ... ดูจากรูปน่าสนใจดี  ก็เลยคิดว่าลองสั่งมากินดีกว่า

ตอนแรกก็ดูรูปเมนูอยู่นานค่ะ คิดว่าจะสั่งอะไรมากินดีหว่า    อย่างช๊อคเมนูแรก นี่ทำกินหลายครั้งแล้ว  เลยขอผ่าน    ส่วนคุ๊กกี้แอนด์ครีม พิมเฉย ๆ   หรือคอฟฟี่อัลมอนด์นี่   พอดีพิมไม่ค่อยชอบเค้กวนิลาค่ะ  ส่วนชีสเค้กด้านล่างทั้ง 2 อย่างนี่  กะว่าจะทำกินที่บ้านเร็ว ๆ นี้ ....  ก็เลยขอผ่านอีกค่ะ ... สรุปเลยลงตัวที่ "เค้กทูโทน"  เป็นอะไรที่น่าสนใจที่สุด

http://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/052.jpg

แล้วก็นี่ค่ะ ..... "ทูโทน" ที่พิมสั่งไป หน้าตาเป็นแบบนี้ ...  (สั่งแล้ว มาไวมาก ปานว่าตู้แช่ตั้งอยู่ข้าง ๆ โต๊ะเราเลย - -")

http://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/053.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/055.jpg

ในเรื่องของหน้าตา .. ถึงจะไม่เหมือนกับที่แปะภาพโฆษณาเอาไว้  (ในภาพช๊อคเป็นแบบขูด  แต่ที่สั่งมา จะได้ช๊อคแบบหั่นเป็นแท่งเล็ก ๆ แทน)  แต่ก็โอเค    ส่วนรสชาตินี่ .... ใช้ได้เลยค่ะ  ตัวเค้กนุ่มละมุนดี   พอกินคู่กับครีมผสมโอรีโอบดที่อยู่ด้านบน  และวิปปิ้งครีม แถมยังมีช๊อคโกแลตด้วย ... เข้ากันมากมายเลย ... สรุปว่าอร่อยค่ะ  ไม่หวานมาก กำลังพอดี ๆ    (แต่ถ้าเป็นช๊อคขูด น่าจะอร่อยกว่านี้เยอะ เพราะช๊อคแท่งแบบนี้ ค่อนข้างแข็งค่ะ  กินแล้วรู้สึกไม่เข้ากันดี)

http://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/056.jpg

จากนั้น ....... ก็ถึงเวลาเช็คบิลค่ะ   ตอนแรกพวกเราก็ทาย ๆ กันว่า วันนี้จะเท่าไหร่หว่า  แบบว่าที่พิมมาวันก่อนกับคุณแฟน และเอ๊ะ-เก้า  เฉลี่ยแล้วก็คนละราว ๆ  260 บาทค่ะ  แต่วันนี้กินกันกระจาย..ย..ย.ยย..ย  กว่าครั้งก่อนมาก  กินกันแบบไม่ยั้ง  แบบว่าสั่งได้เท่าไหร่สั่งเลย  ก็เลยประมาณกันว่าน่าจะสัก 4 พัน -*- ... ทำนองนี้แหละค่ะ

แต่ไม่น่าเชื่อ ... เพราะพอเช็คบิลออกมาแล้ว  แค่ 3,000 กว่าบาทเท่านั้นเองค่ะ   ซึ่งแม้จะราคาสูงเมื่อเทียบกับร้านอาหารทั่วไป   แต่สำหรับร้านนี้ และปริมาณการกินของพวกเราในวันนี้  ก็ถูกกว่าที่พวกเราคิดกันมากเลยค่ะ ....... นี่ค่ะ หน้าตาบิล และสิ่งที่พวกเราทั้ง 10 คน กินกันไปในวันนี้

http://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/057.jpg

ป.ล. พิมชอบวิธีการคิดบิลของทางร้านนี้มากเลยค่ะ  เค้าจะคิดยอดเฉพาะอาหารราคาปกติ แล้วหักส่วนลดก่อน  จากนั้นค่อยเอามารวมกับค่าเครื่องดื่ม (ซึ่งไม่มีส่วนลด) และค่าอาหารโปรโมชั่น  แล้วค่อยเป็นยอดรวมสุทธิน่ะค่ะ ... แบบว่าอ่านรวดเดียว แล้วเข้าใจได้เลย ไม่งงดี

ซึ่งงานนี้ นอกจากจะได้มากินกันแบบอิ่มหนำสำราญ ได้มาพบหน้าพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันแล้ว   พวกเราก็ต้องขอขอบคุณสปอนเซอร์ทั้ง 2 คนด้วยค่ะ ... คือ พี่หมอ กับพี่อาท  ที่ได้กรุณาเลี้ยงข้าวน้อง ๆ ตาดำบ้างไม่ดำบ้างในวันนี้ ^^

ก่อนจะจากกันไปในวันนี้ ... พิมก็ขอเก็บภาพรายละเอียดของเนื้อโคขุนส่วนต่าง ๆ มาฝากกันด้วยนะคะ

http://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/050.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/051.jpghttp://www.pimmyz.net/images/restaurant/pon-yang-kum/049.jpg

ยังไงแล้ว ... พบกันใหม่ในรีวิว "กินนอกบ้าน" ในคราวหน้านะคะ .. บ๊ายบายค่ะ ^___^



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก