สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ... ช่วงนี้เป็นช่วงที่พิมต้องออกไปทำงานนอกบ้านอยู่บ่อยครั้ง ก็เลยมีโอกาสได้ไปไปลองทานอาหารนอกบ้านหลาย ๆ ร้านอยู่ค่ะ ซึ่งก็มีบางร้านที่ถูกใจ บางร้านที่ไม่ถูกใจ ก็ว่ากันไปเน๊าะคะ
มาวันนี้พิมก็อยากจะขอแนะนำร้านนึงที่พิมได้ไปทานมาแล้วรู้สึกว่าถูกใจ ทั้งในเรื่องของรสชาติอาหาร เครื่องดื่ม และบรรยากาศ นั่นก็คือร้านกาแฟที่ชื่อว่า Coffee World ซึ่งสาขาที่พิมได้ไปทานมาในรีวิวนี้ก็จะเป็นสาขาข้าวสารมิวเซียมนะคะ ^__^
สำหรับ Coffee World สาขานี้เนี่ยก็จะตั้งอยู่ในซอยระหว่างที่เชื่อมระหว่างถนนข้าวสารกับถนนรามบุตรี โดยถ้าหากเพื่อนๆ มาทางถนนรามบุตรีเนี่ย ก็ให้มองหาป้าย MOLLY 31st PUB นะคะ เมื่อเจอปุ๊บ เพื่อน ๆ ก็จะเห็นซอยเล็ก ๆ ด้านข้างมอลลี่ผับ (ตามลูกศรสีแดง) เพื่อนๆ ก็เดินเข้าไปในซอยนั้นได้เลยค่ะ ซึ่งในซอยนั้นก็จะเป็นที่ตั้งของ Khaosan Garden Museum
และที่อยู่ติดๆ กับ Khaosan Garden Museum ก็จะเป็นร้าน Coffee World ที่พิมจะพาเพื่อน ๆ ไปชิมกันในวันนี้ล่ะค่ะ
แต่ถ้าหากเพื่อนๆ มาทางถนนตะนาว แล้วเลี้ยวเข้ามาถนนข้าวสาร ก็ให้เพื่อน ๆ มองหาร้าน Khaosan Tattoo ตามในภาพด้านล่างนะคะ (อยู่ทางฝั่งขวามือ) ซึ่งด้านในร้านจะมีลักษณะเหมือนซอยเล็ก ๆ (ตามลูกศรสีแดง) ก็ให้เพื่อน ๆ เดินเข้าไปในซอยนั้นเลยค่ะ
ซึ่งพอเดินเข้ามาในซอยนิดนึง ก็จะเจอกับ Khaosan Garden Museum อยู่ด้านหน้า ..... ให้เพื่อน ๆ เลี้ยวขวาตรงมุมตึก (ลูกศรสีแดง) แล้วเลี้ยวซ้ายอีกประมาณ 3-4 ก้าว
เพื่อน ๆ ก็จะเจอกับร้าน Coffee World สาขาข้าวสารมิวเซียม ตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่าอย่างในภาพด้างล่างเลยอ่ะค่ะ ^_^
ร้าน Coffee World สาขาข้าวสารมิวเซียมเนี่ย เป็นร้านที่มีรูปแบบการตกแต่งในสไตล์วินเทจ เพื่อให้เข้ากับตัวอาคารของข้าวสารการ์เด้นท์มิวเซียม และในขณะเดียวกันก็เป็นร้าน Coffee World สาขาแรกในเมืองไทยที่ตั้งเป็นแบบ Stand Alone (คือไม่ได้อยู่ในอาคารใด ตึกใด) เพราะนั้นแล้วร้าน Coffee World สาขานี้ จึงมีที่นั่งทั้งด้านนอกและด้านในร้าน เรียกว่าหากเพื่อน ๆ ต้องการนั่งจิบกาแฟ และทานอาหารอร่อยๆ ท่ามกลางอากาศเย็นๆ ก็เชิญในร้าน แต่ถ้าต้องการจิบกาแฟท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นก็เชิญเลือกที่นั่งบริเวณรอบๆ ร้าน ........ ส่วนพิมชอบอากาศเย็น ๆ แอร์ฉ่ำๆ เพราะงั้นขอเป็นในร้านดีกว่าค่ะ ^_^
เมื่อเข้ามาภายในร้าน ....... พิมก็พบว่า นอกจากกาแฟที่พิมตั้งใจจะมาชิมแล้ว ที่นี่ก็ยังมีอาหาร มีขนมอื่นๆ นอกเหนือจากกาแฟอีกมากมาย ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถจะดูรายละเอียดได้ตามป้ายที่วางตั้งอยู่หน้าเคาเตอร์ หรือสอบถามที่พนักงานได้เลยค่ะ
แต่ถ้าหากดูๆ แล้ว ยังนึกไม่ออกว่าจะทานอะไรดี เพื่อนๆ ก็มาสามารถกลับมานั่งดูเมนูที่โต๊ะได้นะคะ ว่าที่นี่เค้ามีเครื่องดื่มอะไรบ้าง มีอาหาร มีขนมอะไรบ้าง แต่ละรายการเป็นยังไง หน้าตาแบบไหน แล้วค่อยตัดสินใจเลือกสั่งอีกทีก็ได้ค่ะ ^_^
ในส่วนของอาหาร ถ้าเพื่อนๆ มาที่นี่ในช่วงตอนเช้าสักประมาณ 6 โมงครึ่งจนถึงเที่ยง ที่นี้เค้าจะมีเซทอาหารเช้าซึ่งประกอบซึ่งประกอบไปด้วย แฮม ไส้กรอก ไข่ดาว ขนมปัง แยม กาแฟ และน้ำส้มคั้น .. จำหน่ายด้วยนะคะ ราคาก็ตามในภาพเลยค่ะ
แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ มาในเวลาอื่น แม้จะไม่มีเซทอาหารเช้าบริการ แต่ก็จะมีเมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจอยู่อีกมากมายค่ะ เช่น Cold Sanwiches อย่างในภาพด้านล่างนี้
หรือจะเป็น Ham cheese waffle , Tuna wrap หรือขนมเค้กต่าง ๆ อีกหลากหลายชนิดค่ะ
ด้วยความที่พิมกับคุณสามีไปถึงที่นี่ตอน 11 โมงนิด ๆ บวกกับยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่ออกจากบ้านมาเมื่อตอนเช้า >_< มื้อนี้ก็เลยแอบขอจัดเต็มนิดนึงอ่ะค่ะ
..... อย่างแรกที่พิมกับคุณสามีสั่งมาลองลิ้มชิมรสก็คือ Ham & Cheese Waffle ที่เสริฟมพร้อมกับมันฝรั่งทอด และมะเขือเทศสดค่ะ ...... วอฟเฟิลของที่นี่เค้าจะทำกันแบบสดใหม่ คือ ตีแป้งกันใหม่ ๆ ทุกเช้า เพราะงั้นวอฟเฟิลของที่นี่จึงทั้งนุ่มทั้งหอม เมื่อมาเจอกับชีสและแฮมที่ไม่เค็มมากเกินไป รวมถึงผักกาดแก้วที่สดกรอบ ก็เลยทำให้ Ham & Cheese Waffle ถูกใจคุณสามีพิมมากเลยค่ะ ^_^
ทานวอฟเฟิลอร่อยๆ กันไปแล้ว ขอต่อด้วยกาแฟร้อนเป็นลำดับที่ 2 ค่ะ ..... สำหรับกาแฟถ้วยนี้มีชื่อเรียกว่า Caramel Macchiato เป็นกาแฟที่มีฟองครีมนุ่มเนียนละเอียด หอมคาราเมล หวานพอประมาณ ซึ่งเมื่อไปตัดกับรสขมนิด ๆ ของกาแฟแล้ว ...... ทุกอย่างมันลงตัวมากๆ จนอยากสั่งแก้วที่ 2 เลยอ่ะค่ะ
จบกาแฟร้อนไปแก้วแรกแล้ว ....... Tuna Wrap ที่พิมและคุณสามีอยากทานก็ถูกนำมาเสริฟต่อค่ะ
ตอนแรกที่เห็นทุกอย่างรวมตัวกันอยู่ในจานก็ไม่ได้คิดอะไรนะคะ ก็แค่ว่าน่ากินดี + แลดูสุขภาพเน๊าะ เพราะเป็นปลา ...... แต่พอได้ทานไปคำนึง สองคำ อยากจะสั่งต่อเลยค่ะ เพราะว่าแต่ละคำที่ทานเข้าไป มีทูน่าเต็มๆ คำ บวกกับแป้งที่ใช้ห่อนั้นมีความเหนียวนิดๆ ผักสีเขียวที่อยู่ด้านในก็สดกรอบ มะเขือเทศก็ช่วยเพิ่มรสเปรี้ยวที่เข้ากับรสโดยรวม .... ทำให้ทานแล้วฟินมากกก จนอยากสั่งอีกจริง ๆ ค่ะ ...... แต่เอาจริงก็ไม่ได้สั่งต่อนะ เพราะกะว่าจะเก็บท้องไปลองชิมเมนูอื่น ๆ >_<
ระหว่างที่นั่งคิดว่าจะทานอาหารหนักอะไรกันต่อดีน๊า "กรีนที ลาเต้ แฟรปเป้" ที่รอคิวอยู่ก็ถูกนำมาเสริฟต่อค่ะ ..... ส่วนตัวพิมเป็นคนที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องชาเขียวสักเท่าไหร่ แต่คุณสามีพิมซึ่งชอบชาเขียวมากพอประมาณ เค้าบอกว่าชาเขียวแก้วนี้เนี่ยอร่อยค่ะ คือ กลิ่นรสของชาเขียวไม่แรงเกิน รสออกนุ่ม ๆ กลิ่นออกนุ่ม ๆ ไม่หวานมาก ที่สำคัญวิปปิ้งครีมที่อยู่ด้านบน อร่อยมากกก.ก.ก.ก.ก. ค่ะ ใครที่ชอบทานวิปปิ้งครีมแนะนำเลยว่าต้องมาลองวิปปิ้งครีมของที่นี่และมาลองเมนูนี้นะคะ ^_^
จบจากชาเขียว ..... ก็มาต่อกันที่เซตอาหารเช้าของที่นี่กันสักหน่อยค่ะ (เซตอาหารเช้าแต่กินตอนเกือบจะเที่ยง ก็ยังโอเคนะคะ ^^") ....... อย่างที่พิมบอกไว้ตอนต้นว่าเซตอาหารเช้าของที่นี่เค้าจะมีบริการในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงครึ่ง ถึงเที่ยง ซึ่งในเซตก็จะประกอบไปด้วยขนมปังปิ้ง 2 แผ่นใหญ่ ไข่ดาว 2 ฟอง ไส้กรอก 3 ชิ้น แฮม (จำไม่ได้ว่ากี่ชิ้น - -") ผักสลัดนิดหน่อย กาแฟร้อน 1 แก้ว และก็น้ำส้มคั้น (มีเนื้อส้ม) อีก 1 แก้วค่ะ ........ ซึ่งเซตนี้เนี่ยพิมยกให้คุณสามีจัดการทั้งเซตเลยพราะว่าเป็นสไตล์อาหารเช้าที่เค้าชอบอ่ะค่ะ
ส่วนพิมขอเป็นสตรอเบอรี่วาฟเฟิล กับสตรอเบอรี่สมูทตี้ดีกว่า ..... เพราะทั้งอร่อย และได้รสได้เนื้อสตรอเบอรี่เต็มๆ ทั้งสองอย่าง อีกทั้งไม่หนักท้องจนเกินไปด้วยค่ะ ^_^
จบจากเมนูทั้งหมดด้านบน พิมก็ขอปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มอีกสัก 2 แก้วนะคะ ก็คือ Iced Butterscotch Latte ...... เมนูนี้ พิมรู้สึกฟินกับคาราเมลด้านบนมากๆ ค่ะ อร่อยและหอมจริง ๆ อ่ะ
และอีกแก้ว ซึ่งเป็นแก้วสุดท้ายของวันนี้ ก็คือ Mocha Chip Frappe ค่ะ
ซึ่งเมนูนี้ก็อร่อยอีกแหละ ทั้งความหอมของกาแฟ ทั้งรสชาติที่ไม่หวานเกิน ทั้งช๊อคโกแลตชิพที่โรยอยู่ด้านบน .... ถูกใจพิมมากค่ะ
ยังไงหากเพื่อน ๆ สนใจอยากจะตามรอยพิม หรืออยากจะไปลองชิมดูว่าอร่อยจริงไหม ก็แวะไปได้เลยนะคะตามแผนที่ด้านบนนะคะ ซึ่งที่นี่เนี่ยเค้าเปิดให้บริการทุกวัน ไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้าไปจนถึงตี 1 เลยอ่ะค่ะ ....... หากเพื่อน ๆ อยากไปทานแบบชิลด์ ๆ คนไม่เยอะมาก แนะนำช่วงเช้าไปจนถึงเที่ยง ๆ หรือบ่าย แต่ถ้าช่วงเย็นไปจนถึงดึกคนจะเยอะอ่ะค่ะ เพราะ zone นั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวพอดี ยังไงไปลองดูกันได้นะคะ
อ้อๆ นิดนึงเกือบลืมค่ะ ...... ที่ร้านนี้เค้ามี Free wifi ด้วย ซึ่งรหัสผ่านเพื่อนๆ สามารถสอบถามได้ที่พนักงานที่ร้าน หรือดูที่วงกลมสีน้ำเงินๆ ที่อยู่บนป้ายที่ตั้งบนโต๊ะแต่ละโต๊ะได้เลยอ่ะค่ะ
แล้วพบเจอกันใหม่ในรีวิวถัดไปนะคะ สวัสดีค่ะ ^_^
----------------------- เพิ่มเติม ค่ะ ---------------------------
ช่วงนี้ก็ใกล้วันวาเลนไทน์เข้ามาทุุกทีแล้วนะคะ วันก่อน (4 กุมภา 57) พิมไปที่เดอะมอลล์บางกะปิ แวะไปร้าน coffee world เพื่อจะซื้อชาเขียว ก็เจอกับเมนูที่ทางร้านเค้าจัดทำขึ้นเป็นเมนูพิเศษสำหรับต้อนรับวันแห่งความรักที่กำลังใกล้จะมาถึงนี้ นั่นก็คือเซตเมนู "Berry Delicious" ค่ะ ซึ่งในเมนูนี้ก็จะประกอบไปด้วย "เบอรี่ เลิฟลี่ วาฟเฟิล" .. วาฟเฟิลเนื้อแน่น นุ่ม หอม (ทานแล้วไม่ฝืดคอนะคะ) เสริฟพร้อมกับไอศครีมสตรอเบอรี่ ซอสสตรอเบอรี่ สตรอเบอรี่สด และวิปปิ้งครีมสูตรเฉพาะของทางร้าน ^_^ คู่กับ "สตรอเบอรี่ โยเกิร์ต สมูทตี้" ที่มีเนื้อสตรอเบอรี่เยอะมาก ......... พิมทานแล้ว อร่อยทั้งคู่ค่ะ
หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจก็ลองไปชิมกันได้นะคะ ... รับรองจะติดใจ ^_^