วันนี้พิมขอเปลี่ยนบรรยากาศมื้อค่ำจากการทานข้าวฝีมือตัวเอง  เป็นการไปทานอาหารนอกบ้านบ้างดีกว่าเน๊าะคะ  เพื่อหาสิ่งใหม่ๆ อาหารใหม่ๆ ให้กับชีวิต   ที่ห้องอาหาร The Square โรงแรม Novotel Ploenchit  ค่ะ ^_^

วิธีการเดินทางมายังโรงแรมโนโวเทล เพลินจิต จะว่าไปก็มาได้หลายทางนะคะ  ไม่ว่าจะแท๊กซี่ รถประจำทาง หรืออื่นๆ    แต่ทางที่พิมคิดว่าสะดวกที่สุดก็คือ นั่งรถไฟฟ้า BTS  แล้วมาลงที่สถานีเพลินจิตอ่ะค่ะ   เพราะว่าตัวสถานีเนี่ยตั้งอยู่หน้าโรงแรมเป๊ะๆ เลย  แต่ส่วนตัวพิม วันนั้นมีธุระที่แถวแยกอโศก มีธุระที่ตึกมหาทุน  และก็มีธุระที่ CTW ด้วย ก็เลยใช้วิธีขับรถไปเองแทนเน๊าะคะ  เพราะสะดวกกว่าอ่ะค่ะ 

สำหรับคนที่เอารถไปเองเนี่ย ก็ให้ขับรถเข้าไปในซอยร่วมฤดี (ซอยข้างๆ โรงแรมนี่แหละค่ะ)  ขับไปนิ๊ดดดดนึง แล้วก็เลี้ยวขวา ไปจอดรถที่ชั้นบนๆ ของโรงแรมซึ่งเป็นส่วนจอดรถ   แล้วก็ค่อยลงลิฟท์มายัง Lobby ที่อยู่ชั้น 1  นะคะ  จากนั้นเดินเข้าไปด้านใน ก็จะเจอลิฟท์อยู่ทางด้านซ้ายมือ  แล้วก็ค่อยกดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นของห้องอาหาร The Square  อ่ะค่ะ ^_^

ช่วงนี้พิมไปเนี่ย ก็คือช่วงปลายเดือนมิถุนาที่ผ่านมานะคะ  ทางห้องอาหารได้จัดอาหารในธีมของ PRAWN MANIA  อาหารหลักๆ ก็จะเน้นเป็นกุ้งตัวใหญ่อ่ะค่ะ (เดี๋ยวดูในภาพล่างๆ นะคะ) 

แต่มาในเดือนนี้ กรกฎาคม 2558  จะเป็นธีม  Shellfish Harvest  สัตว์ทะเลตระกูลเปลือกแข็งทั้งหลาย หลักๆ  ก็จะเป็นหอย แต่ก็ยังมีกุ้งและอื่นๆ ด้วย  ซึ่งจะน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน เดี๋ยวตามพิมไปดูกันค่ะ  ^_^

ห้องอาหาร The Sqare  มื้อเย็น เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่มนะคะ  แต่สำหรับเพื่อนๆ  คนไหนที่อยากจะมาถ่ายภาพอาหารสวย ๆ เหมือนพิมแนะนำว่าให้ไปถึงก่อน 6 โมงเย็นสักเล็กน้อยค่ะ   จะได้มีโอกาสได้ถ่ายรูปอาหารตามซุ้มต่าง ๆ เน๊าะคะ  เพราะขนาดพิมไปถึงตอนยังไม่ 6 โมง เผลอแป๊บเดียว ห้องอาหารก็คนเยอะแบบนี้แล้วอ่ะค่ะ 

วันนี้ (วันที่พิมไป)  พิมไปกับคุณสามี 2 คนค่ะ  อยากจะถ่ายรูปอาหารสวย ๆ เอากลับมาฝากเพื่อน ๆ  ก็เลยขอพนักงานเค้าเอาโต๊ะที่มีแสงสว่างเยอะๆ หน่อยเน๊าะคะ ^_^ 

ซึ่งค่าอาหารของที่นี่ + ชากาแฟแบบดื่มตามใจชอบ ก็จะอยู่ที่คนละ  960++ ไม่รวมน้ำค่ะ   แต่ถ้าหากต้องการน้ำอัดลม น้ำเปล่าเพิ่มแบบไม่อั้น ก็บวกไปอีก 100 บาทต่อคนนะคะ  

แต่ถ้าต้องการทั้งน้ำเปล่า เบียร์ และไวน์ดี ๆ ไม่อั้น  ก็บวกเพิ่มไปอีก 500 บาทต่อคนอ่ะค่ะ   (บวกจากค่าอาหาร 960++)   ซึ่งเพื่อนๆ คนไหน อยากตามรอยพิมไปก็แจ้งพนักงานเค้าได้ตั้งแต่ตอนนั่งโต๊ะเลยนะคะว่าต้องการแบบไหน     ส่วนพิมขอเป็นแค่อาหาร กับน้ำเปล่า + smoothie (จ่ายเพิ่ม)   ผลไม้สักแก้ว ดีกว่าค่ะ ^_^ 

เมื่อหาที่นั่งได้แล้ว เลือกได้แล้วว่าเราจะรับน้ำแบบไหน ก็ถึงเวลาไปเดินชมไลน์อาหาร และตักอาหารล่ะค่า  ^_^  ขอบอกว่าตอนนั้นพิมอยู่ในสภาวะกำลังหิวมากๆ  (อยากจะให้ ก ไก่สักร้อยตัว)   เพราะเมื่อตอนกลางวันค่อนข้างรีบ >_<"  มีหลายๆ  อย่างด่วนถึงด่วนที่สุด  ก็เลยไม่ได้ทานอาหารกลางวันค่ะ  พอนึกได้ว่าเราจะต้องทานอาหารนะ  เนื่องจากท้องมันเริ่มหวิว ๆ แล้ว ก็ปาเข้าไปเกือ บ5  โมงเย็นล่ะค่ะ เลยคิดว่างั้นทนรออีกสักหน่อยดีกว่า   เพราะไหน ๆ ตอน 6 โมงเราก็จะต้องมาทานมื้อเย็นที่นี่อยู่แล้ว  ถ้าขืนทานอาหารหนักๆ เพียงแค่ชั่วโมงเดียวก่อนจะมา  แล้วจะเอาท้องที่ไหนมาใส่อาหารที่นี่อ่ะเน๊าะคะ ^_^

พูดถึงไลน์อาหารของที่นี่เนี่ย  พิมก็ขอแบ่งให้เข้าใจง่ายๆ ตามประสาพิมเน๊าะคะว่าเค้ามีอยู่ 5  โซนด้วยกัน  

 โซนแรกก็คือ ส่วนของสลัด และ Cold Cut  ค่ะ  

ก็จะมีทั้งสลัดแบบให้เรา mix  เอง และก็สลัดแบบปรุงมาเสร็จเรียบร้อยแล้วพร้อมตักทานได้เลยอย่างในภาพด้านบนนะคะ 

ซึ่งน้ำสลัดของที่นี่ที่เค้าเตรียมไว้ให้เรา mix เอง ก็มีถึง 6 ชนิดด้วยกันค่ะ  แล้วผักสลัดต่างๆ   ก็สดใช้ได้เลยนะคะ  พิมไปลองพลิกคว่ำพลิกหงายผักหลายๆ ใบ  (ผักที่พิมหยิบมาใส่จานตัวเองน๊า มิใช่ผักในจานที่เค้ามีไว้ให้ลูกค้าตักอ่ะ) ก็ดูเค้าล้างสะอาดดี ผักไม่ช้ำเลยค่ะ   ส่วนผักสุก เค้าก็ทำมาสุกกำลังดี  สีกำลังสวยนะคะ  ^_^

ต่อมาก็จะเป็นในส่วนของอาหารทานเล่นที่อยู่บนเคาเตอร์น้ำแข็ง  ก็จะมีทั้งกุ้งต้ม  หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ และก็หอยนางรมสด ๆ ตัวใหญ่ ๆ อ่ะค่ะ 

 พิมเองได้ลองทานกุ้งไปสองสามตัว ขอบอกว่าชอบนะคะ  เนื้อกุ้งเค้าสดหวาน แล้วก็ต้มได้กำลังดี เนื้อกุ้งไม่แข็งเลยค่ะ 

ส่วนหอยนางรม อันนี้ขอบอกเลยค่ะว่า หยิบไม่ทัน !!!  ได้แต่ถ่ายรูปไว้ แล้วเดินไปถ่ายรูปตรงอื่นต่อ พอกลับมาก็หายไปหมดแล้วค่ะ T___T   แต่ไม่เป็นไร เพราะโดยปกติพิมก็ไม่ทานหอยนางรมอยู่แล้ว  แต่แค่คิดว่าจะหยิบไปให้คุณสามีเท่านั้นอ่ะค่า  เพราะหอยตัวใหญ่มากและสดมาก เลยคิดว่าคุณสามีน่าจะชอบเน๊าะคะ  ^_^

ส่วนอันนี้ก็จะเป็นหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ที่ตัวใหญ่มาก หอยอวบอ้วนมากค่ะ  พิมได้กินไป  4-5 ตัว คู่กับน้ำจิ้มทะเลที่ทางโรงแรมเตรียมไว้  เนื้อหอยหวาน ๆ หนึบ ๆ  หอมๆ  มาเจอกับน้ำจิ้มเปรี้ยวเผ็ด แซ่บบบบบมากค่ะ  

ต่อมาอีกฝั่งนึงของอาหารที่เสริฟอยู่บนเคาเตอร์น้ำแข็ง ก็จะเป็นบรรดาอาหารญี่ปุ่นทั้งหลาย และอาหารทานเล่นเบา ๆ ในสไตล์ไทยๆ นะคะ  

ไม่ว่าจะเป็นปูอัด แซลมอนซาซิมิ

 ซูชิ มากิสารพัดชนิด  ทั้งหน้าไข่หวาน ปูอัด ไข่กุ้ง  งา และก็สาหร่าย

แล้วก็ยังมีอาหารทานเล่นในสไตล์ไทย ๆ เช่น ปลาทอดกับยำมะม่วง  หมูมะนาว  ข้าวตังหน้าถั่ว  พล่ากุ้ง และก็ยำหมูย่างด้วยอ่ะค่ะ  

โซนต่อมาก็จะเป็นในส่วนของพาสต้ากับซุปนะคะ    ในส่วนของพาสต้าก็จะมีเส้นให้เราเลือก 3 แบบคือ  Pasta, Spaghetti, Fettuccine  และในส่วนของซอสก็จะมีให้เราเลือก 4 แบบ คือ Tomato, Cabonara, Bolognese และ Garlic oil + Chilli ค่ะ 

และในส่วนของซุป ทางพนักงานของห้องอาหารบอกพิมว่าซุปจะมีสลับ ๆ กันไป แต่ละวันจะไม่เหมือนกัน  อย่างวันนี้ก็จะเป็นซุปหอยลาย กับซุปแตงกวายัดไส้นะคะ (อาจจะประมาณว่าแต่ละวันมีซุปข้นอย่าง ซุปใสอย่าง อะไรงี้อ่ะค่ะ)  ^_^

แล้วตรงมุมนี้ก็ยังมีขนมปังให้เราเลือกทานด้วยนะคะ  โดยขนมปังจะมาเป็นชิ้นใหญ่เลย หากเราต้องการทานมากน้อยแค่ไหน ก็หั่นเอาตามที่ต้องการที่เขียงด้านล่างเลยอ่ะค่ะ    (จริง ๆ พาสต้า พิมก็น่าจะเอาไปรวมอยู่ในอาหารจานหลักเน๊าะ ^^)

 จากโซนออเดิร์ฟ  อาหารทานเล่น อาหารรองท้องสารพัด  ก็มาถึงโซนอาหารจานหลักแล้วนะคะ 

ซึ่งที่นี่เค้าก็ค่อนข้างจะมีอาหารจานหลักที่หลากหลายอ่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นไก่อบ  (เนื้อนุ่มมากกกก)  

ปลากะพงนึ่งซีอิ๊วและเห็ดหอม (ปลาตัวใหญ่มาก   ความยาวน่าจะสัก 3 คืบใหญ่ๆ ได้ค่ะ) 

หมูย่าง หั่นมาเป็นชิ้น ๆ พร้อมเสริฟเลย  อันนี้ทางห้องอาหารเค้านำมาวางหลังจากที่ปลากะพงจานข้างบนหมดไปนะคะ  เป็นหมูอบที่เนื้อนุ่มมาก  หอมมาก กินคู่กับซอสพริกไทยดำที่อยู่แถว ๆ ไก่อบ  หรือน้ำจิ้มแจ่วตรงเคาเตอร์น้ำแข็งก็เข้ากันมากค่ะ  ^_^ แต่น่าเสียดายที่หนังหมูแข็งและเหนียวไปหน่อย ไม่งั้นจะทานได้ทั้งชิ้นเลยอ่ะค่ะ 

 

ต่อมาก็เป็นอาหารอินเดียนะคะ  เนื่องจากเจ้าของโรงแรมเค้าเป็นคนอินเดียค่ะ  ทุกห้องอาหาร the square  ก็เลยจะมีอาหารอินเดียอยู่ในไลน์อาหารด้วยตลอด  ซึ่งอาหารอินเดียของที่นี่อร่อยไม่แพ้ที่อื่นเลยนะคะ หอมเครื่องเทศแบบที่ไม่ฉุนมาก  รสก็ไม่แรงเกิน เนื้อไก่ก็นุ่ม   ทานคู่กับนานที่ย่างกันใหม่ๆ ตรงเตาด้านหลังเคาเตอร์  ยิ่งอร่อยอ่ะค่ะ  (แต่ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ  ที่อยู่ถัดไป ก็อร่อยไม่แพ้กันนะคะ ^^)

ในไลน์เดียวกัน ถัดจากอาหารอินเดีย ก็จะเป็นอาหารฝรั่งที่รสหนัก ๆ หน่อยนะคะ  อย่างมะเขือม่วงอบชีส  มันฝรั่งทอด  ปลาทอดราสซอสขาว  หอยแมลงภู่อบ และผัดบร๊อคโคลี่

แล้วก็มีหอยเชลล์ผัดฉ่าด้วยนะคะ  อันนี้ค่อนข้างรสจัดนิดนึงงตามสไตล์ไทยๆ  เครื่องเทศอย่างกระชาย พริกไทยอ่อน พริกที่โขลกนี่ทางโรงแรมจัดมาเต็มมากค่ะ   ใครได้ทานต้องร้องซี๊ดดดกันทุกคน แต่ก็บอกว่าอร่อยนะคะ ^_^    และด้วยความเผ็ดของหอยเชลล์ผัดฉ่า  ถาดอาหารถัดไปก็เลยเป็นผัดวุ้นเส้นกับปูอัด   ซึ่งตอนแรกเห็นหน้าจืด ๆ แบบนี้ พิมก็แอบคิดว่าจะอร่อยไหมน๊าาา  ที่ไหนได้ ........ ปรากฎว่าอร่อยและขายดีมาก  คนที่ไปทานอาหารแวะเวียนมาตักกันบ่อยมาก   เชฟต้องเอามาเติมตลอดเลยอ่ะค่ะ ^_^ 

 ถัดจากอาหารหนักๆ ก็จะมาเป็นโซนย่าง-อบล่ะนะคะ  ซึ่งโซนนี้เนี่ยก็จะมีกุ้ง และหอยหลากหลายชนิดให้เพื่อน ๆ ได้ทานกัน

 มีทั้งแบบสั่งย่างใหม่ ๆ  ที่ให้เราเอาบัตรที่วางอยู่บนโต๊ะเราไปยื่นให้เชฟที่อยู่หน้าเตา บอกว่าต้องการอะไรจำนวนเท่าไหร่  แล้วเดี๋ยวพอเชฟทำเสร็จ ก็จะมีพนักงานเอามาเสริฟให้เราที่โต๊ะอ่ะค่ะ  

แต่สำหรับคนที่ไม่อยากรอ  แบบว่าฉันอยากกินแหละ  เชฟก็มีที่ย่างไว้รอแล้วเหมือนกันอ่ะค่ะ  เพื่อนๆ ก็สามารถหยิบจากตรงนี้ใส่จานกลับไปนั่งทานที่โต๊ะได้เลยนะคะ เพียงแต่อาจจะไม่ร้อนเหมือนที่ย่างใหม่ๆ อ่ะค่า

 และที่ใกล้ๆ กันก็จะมีโซนพิซซ่าด้วยนะคะ   เค้าก็จะอบกันสดใหม่เลย  วันนึงพิมไม่แน่ใจว่าจะมีกี่หน้าที่ทำออกมาเสริฟ  แต่ว่าเค้าจะมีวางไว้ทีละ 2 หน้า ๆ ละ 1 ถาดอ่ะค่ะ  ซึ่งพิมได้ลองกินดูแล้ว (หยิบจากจานคุณสามีมากิน)  แป้งบางกรอบ อร่อยดีค่ะ  

 และในโซนสุดท้าย โซนโปรดของหลาย ๆ คนโดยเฉพาะพิม  ^_______^  นั่นก็คือโซนของหวานค่าาา ซึ่งที่นี่เค้าก็จะมีทั้งเบเกอรี่และก็ขนมไทย  แม้จะไม่หลากหลายมาก แต่เค้าก็คัดมาทุกอย่างแล้วนะคะ  ไม่ว่าจะเป็นคาราเมลคัสตาร์ด  ชีสเค้กมะม่วง

 

เครมบูเล่  พานาคอตต้า  สตรอเบอรี่เยลลี่  เค้กแครอท เมเปิ้ลบัตเตอร์เค้ก และก็อื่นๆ อ่ะค่ะ ^_^

ส่วนขนมไทยก็จะมีทองหยิบ ทองหยอด ขนมชั้น  ข้าวเหนียวมูนหน้ากุ้ง มีลอดช่องน้ำกะทิ มีข้าวเหนียวดำเปียกข้าวโพด และก็มีผลไม้สด ๆ ตามฤดูกาลด้วยนะคะ  แต่ทั้งอาหารและขนม ก็จะมีปรับเปลี่ยนไปในแต่ละวัน เพื่อไม่ให้ซ้ำกัน เนื่องจากที่นี่มีลูกค้าประจำเยอะอ่ะค่ะ ^_^

และหลังจากที่เดินดูไลน์อาหารจนครบเรียบร้อย ก็ถึงเวลาตักมาทานล่ะค่า ^_^   ซึ่งพิมก็ทานไปไม่ค่อยเยอะสักเท่าไหร่   >_<  แค่ 6 จานกับขนมอีก 2 ถ้วย ตามในภาพด้านล่างนี่เองอ่ะค่ะ ^_^  

สรุป ........ ห้องอาหารนี้โอเคเลยค่ะ   ทั้งในเรื่องของความสะอาด ความสดของวัตถุดิบ รสชาติของอาหาร การจัดวาง กิริยามารยาทของพนักงาน  บรรยากาศภายในห้องอาหาร  สำหรับพิมถือว่าผ่านสบายๆ นะคะ  สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากลองไปชิม (จริง ๆ ต้องเรียกว่าไปกินมากกว่าเน๊าะ)  ในธีม  Shefflifh Harvest  ก็ไปได้ทุกวันจันทร์ - พฤหัส ตลอดเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2558 นี้เลยอ่ะค่ะ   โดยห้องอาหาร The Square จะเริ่มเปิดให้บริการตอน 6 โมงเย็น และปิดตอน 4 ทุ่มอ่ะค่า   ซึ่งพิมขอแนะนำว่าใครที่สนใจจะไป ให้โทรไปจองก่อนเป็นดีที่สุด ที่  02 305 6000  ต่อ 1632  พนักงานเค้าจะได้เตรียมโต๊ะไว้ให้เราเลยนะคะ   

ที่สำคัญมากๆ อีกอย่างนึง ก็คือ ตอนนี้ทางห้องอาหารเค้าก็จัดโปรโมชั่น  มา 2 จ่าย 1 ร่วมกับบัตรเครดิตหลายที่ไม่ว่าจะเป็น  Citibank, SCB, KBank, Krungsri, Central Card  และ Aeon  โดยเพื่อนๆ คนไหนที่ใช้บัตร 6 ใบตามที่พิมบอกด้านบนเนี่ย  สำหรับ 2 ท่านก็จะจ่ายค่าอาหาร + ชากาแฟไม่อั้น เพียง  1,233 บาท เท่านั้นเองค่ะ (รวม ++ แล้วนะคะ)  แต่หากต้องการเพิ่มเติมอย่างอื่น ก็ตามรายละเอียดด้านบนที่พิมบอกไว้เลยอ่ะค่ะ 

แล้วพบเจอกับพิมอีกในรีวิวพาไปกินอาหารอร่อยนอกบ้านในครั้งถัดไป ......... สวัสดีนะคะ  ^_^

บุฟเฟต์โรงแรม   บุฟเฟ่ต์นานาชาติ  โนโวเทล กรุงเทพ