header



 ถ้าถามพิมว่าจังหวัดไหนในเมืองไทยที่มีของกินอร่อย ๆ เยอะ  หนึ่งในนั้น ... พิมว่าต้องมีชลบุรีอยู่อย่างแน่นอนอ่ะค่ะ ^_^

ชลบุรี เป็นจังหวัดไม่ใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกนะคะ ... เดิมชลบุรีเนี่ย เป็นจังหวัดที่พิมมองข้ามตลอดเลยอ่ะค่ะ  >_<   คือพิมไปชลบุรีบ่อยนะคะ   ปีนึก็หลายครั้ง  ไปทำงานบ้าง ไปทำธุระบ้าง ไปสอนทำอาหารบ้าง ไปสอนหนังสือบ้าง  (พิมเคยไปสอนหนังสือวิชาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อยู่ชลบุรี 2 ปีเลยน๊า) .....   แต่ถ้าจะไปเที่ยว  พิมไม่เคยคิดถึงชลบุรีสักนิดเลยอ่ะค่ะ  

จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป  จากงานที่ทำ จากคนที่รู้จัก ทำให้พิมมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ชลบุรีมากขึ้น  แต่ก็ไปแบบไม่รู้อะไร ไม่คิดอะไรนะคะ  คือใครเขียนโปรแกรมเที่ยวมาให้ยังไง  พิมก็ไปตามนั้น ไม่เคยคิดหาข้อมูลเพิ่มเติมสักครั้งเลยอ่ะค่ะ 

จนกระทั่งวันดีคืนดี  พิมได้มีโอกาสไปงานอาหารถิ่นที่บางแสนเมื่อปลายมิถุนายนที่ผ่านมา   (บางแสน อยู่ชลบุรีเน๊าะ ^^)  และได้ไปรู้จักกับ #ปลาคก  หนึ่งในอาหารถื่นที่น่าสนใจมากกกกกกของจังหวัดชลบุรี  ก็เลยทำให้พิมไปหาข้อมูลเกี่ยวกับชลบุรีเพิ่ม   จนทำให้พิมรู้ว่า ชลบุรีนอกจากจะมีอาหารถิ่นอร่อย ๆ แล้ว มีร้านกาแฟน่ารัก ๆ แล้ว ก็ยังมีสถานที่เที่ยวน่าสนใจอีกมากเลยอ่ะค่ะ  ไม่ว่าจะในบางแสน  หรือพัทยา   แถมจากผลสำรวจของ Traveloka    ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลสุดฮิตสุดฮอตสำหรับหน้าร้อนปี 2017   อันดับหนึ่งนี่คือ   พัทยา เลยนะคะ    ดังนั้นแล้วถ้าหากใครเล็งที่จะมาชลบุรี บางแสน หรือพัทยา เอาไว้เป็นจุดหมายหลักสำหรับหน้าร้อนนี้ เพื่อความสะดวกสบายและไม่ต้องวุ่นวายมา walk in หาที่พัก  ก็สามารถเข้าไปจองที่พักกับ Traveloka ได้เลยอ่ะค่ะ เพราะนอกจากจะมีแอปฯ ที่ใช้งานง่ายมาก ๆ  ก็ยังมีโปรโมชั่นส่วนลด มาให้ใช้กันได้เรื่อยๆ อีกด้วยนะคะ    ......   ส่วนชลบุรีจะน่าสนใจขนาดไหน  มีอะไรฮิป ๆ ฮอต ๆ  บ้าง พิมว่า .. เก็บกระเป๋าตามพิมมาเลยดีกว่าค่า  ^_^ 

unnamed

ทริปนี้ของพิมเริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานะคะ   พิมแพลนเอาไว้ว่าทริปนี้พิมกับคุณสามี จะไปเที่ยวชลบุรีกันสัก 2 วัน 1 คืนอ่ะค่ะ   โดยหลัก ๆ แล้วก็กะว่าจะไปหาของอร่อย โดยเฉพาะพวกอาหารพื้นบ้าน ขนมพื้นบ้านทาน  (ไม่เน้นอาหารทั่วไป  เพราะว่าหาทานที่ไหนก็ได้)    และก็จะไปเดินช๊อปปิ้งอาหารทะเล จำพวกปลา หมึกสด ๆ กุ้งสด ๆ กลับมาทำอาหารกินที่บ้านนะคะ  ^_^

chonburi2559 1 020

chonburi2559 1 001

 เพราะงั้นจุดหมายแรกของพิมในวันนี้  ก็คือตลาดวัดกลาง  ที่อยู่ในเขตอำเภอเมืองชลบุรี หรือที่บางคนเรียกว่า ตลาดผ้าอ่ะค่ะ   ^^

map chonburi 01

chonburi2559 1 002

ที่ตลาดแห่งนี้เนี่ย จะเป็นตลาดเช้านะคะ   (แปลว่าเริ่มขายกันตั้งแต่ฟ้ายังมึด)  .....  ซึ่งนอกจากจะมีพวกปลาทะเลสด ๆ กุ้งหมึกปูสด ๆ  ผักผลไม้สดๆ   แล้ว 

chonburi2559 1 003

chonburi2559 1 005

chonburi2559 1 006

chonburi2559 1 008

chonburi2559 1 009

 ที่นี่ก็ยังมีขนมไทยอร่อย ๆ มากมายหลายอย่างเลยอ่ะค่ะ ......  ไม่ว่าจะเป็นข้าวต้มมัด  ขนมกล้วย ขนมฟักทอง ขนมใส่ไส้  และขนมตาลเจ้าที่อยู่ในซอยตรงข้ามประตูทางเข้าวัดกำแพงนะคะ 

chonburi2559 1 011

chonburi2559 1 012

chonburi2559 1 013

แต่ที่อร่อยสุด ๆ ขนาดพิมต้องตามมาซื้อและตามมาชิม ก็คือ ข้าวเกรียบอ่อนใบเตย (รสชาติคล้ายกันกับข้าวเกรียบอ่อนของเมืองระยอง แต่หน้าตามีความต่างกัน)   และก็ขนมก้นถั่วอ่ะค่ะ     ซึ่งสองอย่างนี้เนี่ย  ขอบอกว่าอร่อยสุดๆ  เลยค่า

chonburi2559 1 014

chonburi2559 1 015

chonburi2559 1 016

ขนมก้นถั่ว ฟังชื่อหลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคือขนมอะไร และหน้าตาเป็นยังไงเน๊าะคะ ^_^  ..... ขนมก้นถั่วเนี่ยเป็นขนมไทยโบราณ และเป็นขนมพื้นบ้านของเมืองชลบุรีที่มีอายุมานานกว่าร้อยปีแล้วค่ะ  ขนมชนิดนี้เนี่ยจะมีเนื้อขนมที่นุ่มมากกกกก  คล้ายๆ  กับหน้าขนมถ้วยนะคะนะคะ  แต่ว่าจะเป็นรูปเป็นทรงกว่า   ส่วนรสชาติก็จะออกแนวหวาน มัน หอม เข้มข้นไปด้วยกะทิ  กินแล้วอร่อยสุดๆ ไปเลยค่ะ   และด้วยความที่ขนมชนิดนี้เนี่ยเค้าใช้ถั่วทองที่คั่วจนหอมรองไว้ที่ก้นถ้วย  (ก่อนจะหยอดแป้งตามลงไป และเอาไปนึ่งจนสุก)   ......  ก็เลยกลายเป็นที่มาของชื่อ #ขนมก้นถั่ว  นะคะ   

chonburi2559 1 017

ในชีวิตพิม จะว่าไปแล้วเคยกินขนมก้นถั่วมานับครั้งไม่ถ้วน  แต่ยังไม่เคยเจออร่อยถูกใจจริง ๆ เหมือนเจ้าที่ซื้อกินในวันนี้เลยเลยอ่ะค่ะ  ....... ขนมก้นถั่วหลายๆ เจ้า ถึงจะบอกว่าขนมชนิดนี้ต้องนุ่ม แต่เอาจริงบางเจ้าทำออกมาแข็งกระด้างมากก็มีนะคะ     แต่ขนมก้นถั่วของเจ้านี้ แป้งนุ่มสุดๆ  จนแทบจะละลายในปาก  คือกินเข้าไปไม่มีคำว่าจะติดคอเลยอ่ะค่ะ     แถมยังหอมหวานมัน รสชาติเข้มข้นสุด ๆ  เพราะนั้นใครผ่านไปผ่านมาแถวตลาดนี้ช่วงเช้า ๆ อยาลืมแวะมาลองขนมก้นถั่วที่นี่นะคะ  (แต่มีคนบอกว่าอีกหลาย ๆ ที่ในเมืองชล ก็มีขนมก้นถั่วอร่อย ไว้พิมจะทยอยตามไปชิมเรื่อย ๆ จ้า) 

chonburi2559 1 020

chonburi2559 1 021

และนอกจากขนมก้นถั่ว อีกขนมที่อร่อยไม่แพ้กันเลยก็คือ ขนมข้าวเกรียบอ่อนอ่ะค่ะ 

ข้าวเกรียบอ่อน เป็นอีกหนึ่งขนมที่ในแถบจังหวัดชลบุรี ระยอง ตราด ทำกินกันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วนะคะ  ข้าวเกรียบอ่อนจะมีความคล้ายกับข้าวเกรียมปากหม้อทั้งในเรื่องของส่วนผสมและวิธีทำ   แต่จะแตกต่างกันตรงไส้อ่ะค่ะ   โ... ไส้ของขนมข้าวเกรียบอ่อน  จะมีส่วนผสมหลักเป็นมะพร้าวขูดฝอยคลุกเคล้ากับน้ำตาลทราย  แต่ว่าบางเจ้าก็จะใส่ข้าวโพดฝาน หรือไม่ก็ถั่วทองนึ่งสุก หรืองาดำงาขาวคั่วลงไปผสมด้วยนะคะ   ส่วนรสชาติของข้าวเกรียบอ่อนก็จะนุ่มแป้ง  หวานมัน และเค็มตามนิดๆ   ... อร่อยเป็นเอกลักษณ์ดีอ่ะค่ะ  ยังไงถ้าเพื่อนๆ  ผ่านมาทางนี้ก็ลองมาซื้อไปทานดูนะคะ รับรองไม่ผิดหวังจ้า 

chonburi2559 1 018

chonburi2559 1 019

จากตลาดวัดกลาง จุดหมายถัดไปของพิมก็คือร้านลิ้มย่งเฮง ร้านอาหารอร่อยประจำจังหวัดชลบุรี ที่ๆ พิมจะไปกินมื้อเช้าในวันนี้นะคะ  ^_^ 

map chonburi 02

ร้านลิ้มย่งเฮง ..  เป็นร้านอาหารที่อยู่คู่เมืองชลบุรีมาประมาณร้อยกว่าปีแล้วอ่ะค่ะ  เรียกว่าถ้าถามคนเมืองชลว่าร้านอาหารไหนอยู่มานาน พิมว่าหนึ่งในนั้นต้องมี "ร้านข้าวเป็ดท่าเกวียน ลิ้มย่งเฮง" อยู่อย่างแน่นอนนะคะ

ร้านลิ้มย่งเฮง มีชื่อเสียงในเรื่องของฝีมือการทำเป็ดพะโล้ ที่นอกจากจะทำออกมาได้รสดี ไม่มีกลิ่นสาปแล้ว ความเหนียวหนับของเนื้อเป็ดก็ยังออกมากำลังดี  ไม่เปื่อยไปและไม่เหนียวไปด้วยอ่ะค่ะ  และนอกจากเป็ดพะโล้แล้ว ที่เด็ดไม่แพ้กันและหาทานยากมาก ก็คือ ปลาคกฉ่าย และต้มจืดเต้าหู้โบราณนะคะ 

chonburi2559 1 022

chonburi2559 1 023

“ปลาคก” หรือ “ปลาคกฉ่าย”  เป็นชื่อเรียกอาหารชนิดนึงของคนจีนแต้จิ๋ว ที่แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า  “ปลาตะเพียนทะเลต้มเค็มกับผักกาดดอง” นะคะ   ... ปลาคกจะมีสูตรในการทำหลายแบบมาก ขึ้นกับว่าสูตรนั้นมาจากพื้นที่ไหนและบ้านไหน   แต่ถ้าเป็นปลาคกของร้านนี้ สูตรดั้งเดิมจะมาจากเมืองซัวเถา ประเทศจีนอ่ะค่ะ      ซึ่งในช่วงแรก ๆ  ตอนที่อยู่ประเทศจีนก็จะทำกินกันเองแค่ในครอบครัวนะคะ     แต่พอย้ายมาอยู่เมืองไทยสมัยเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว  และได้เปิดร้านขายข้าวหน้าเป็ด   ก็เลยมีการทำปลาคกฉ่ายมาขายเพิ่มด้วยอ่ะค่ะ  แต่ว่าจะประยุกต์ใช้ปลาตะเพียนทะเล ซึ่งหาได้มากในสมัยนั้นมาแทนหมูสามชั้น (เมื่อก่อนโน้น ตอนอยู่จีน จะใช้สามชั้น)  จนกลายมาเป็นปลาคกฉ่าย .. อาหารถิ่นของเมืองชลบุรีในวันนี้อ่ะค่ะ  ^_^

chonburi2559 1 097

ปลาคกฉ่าย เป็นอาหารที่กินอร่อยได้กับทั้งข้าวสวยและข้าวต้มร้อน ๆ  นะคะ   ที่สำคัญสามารถกินได้ทั้งตัวตั้งแต่หัวยันหางเลย เพราะว่าทั้งเนื้อและก้างของเค้าจะเปื่อยนุ่มมากอ่ะค่ะ   ปลาคกฉ่ายเนี่ยจะมีรสเค็มนำ แต่ไม่มากนะคะ หอมเครื่อง  แล้วก็จะมีรสเผ็ดหวานนิดๆ ตาม  (ไม่หวานเหมือนปลาต้มเค็ม)  ทานคู่กับผักกาดดองที่ต้มในน้ำพะโล้ถึง 2 วัน  อร่อยเลยอ่ะค่ะ  

ในส่วนของวิะีทำปลาคกเนี่ย  เค้าก็จะเริ่มจากการนำสับปะรดกับมะละกอดิบมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ  แล้วเรียงลงไปที่ก้นกาละมังที่่เราจะใช้ต้มปลานะคะ  จากนั้นก็วางปลาตะเพียนทะเลลงไป (ไม่ต้องตัดหัวหางหรือขอดเกล็ดเลย)  ตามด้วยน้ำต้มเป็ดพะโล้ที่ทางร้านต้มเองใหม่ๆ ทุกวัน  และโรยหน้าด้วยพริกแห้ง กับกระเทียม  เพื่อเพิ่มความหอมกับความเผ็ด   แล้วก็ต้มทิ้งไว้ประมาณ 3 วัน ๆ ละ ประมาณ 15 ชั่วโมง  ด้วยไฟอ่อนจนกระทั่งก้างปลาเปื่อยนุ่มก็ใช้ได้อ่ะค่ะ   และออกมาเป็นปลาคกอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ 

ปัจจุบันปลาตะเพียนทะเล เป็นอีกหนึ่งปลาที่หาได้ยากมากกกในแถบจังหวัดชลบุรีนะคะ   หายากขนาดที่ว่าถ้าคิดอยากจะซื้อแล้วเดินไปที่ตลาด เราจะไม่มีวันได้พบปลานี้ที่ตลาดแน่นอนอ่ะค่ะ   เพราะงั้นที่ร้านลิ้มย่งเฮงเค้าก็เลยต้องใช้วิธีสั่งให้เอเจ้นต์กว้านซื้อมาให้  จากทางมหาชัยบ้าง จันทบุรีบ้าง ตราดบ้าง เพชรบุรีบ้าง ได้ครั้งนึงทีละ 10-50 โล เท่านี้เองนะคะ   ซึ่งร้านก็จะเอามาทำเป็นปลาคกฉ่ายสต๊อกเก็บเอาไว้ และทยอยเอาออกมาขายเป็นวัน ๆ ไปค่ะ 

chonburi2559 1 027

นอกจากเมนูเป็ดพะโล้ และปลาคกฉ่ายแล้ว  ที่ร้านลิ้มย่งเฮง ก็ยังมีเมนูอร่อยอีกมากมายนะคะ ไม่ว่าจะเป็นแกงจืดเต้าหู้โบราณ หมูหวาน  ปลาผัดขิง หมูหวาน ปลาอินทรีทอดราดน้ำปลา  ไข่ยัดไส้  และอื่นๆ  อีกมากมาย เพราะงั้นแล้วถ้าเพื่อน ๆ มาเที่ยวชลบุรี แล้วไม่รู้ว่ามื้อเช้าจะทานอะไรดี  พิมก็แนะนำที่นี่เลยค่ะ  ^^ และที่สำคัญต้องมีเมนูปลาคกฉ่าย แกงจืดเต้าหู้ และหมูหวานด้วยนะคะ รับรองอร่อยครบสูตรเลยค่า 

chonburi2559 1 024

chonburi2559 1 026

 จากร้านลิ้มย่งเฮง หลังจากอิ่มหนำสำราญพุงกันดีแล้ว ก็ได้เวลาที่พิมจะไปเที่ยวที่อื่นต่อแล้วอ่ะค่ะ   ซึ่งจุดหมายถัดไปของพิมก็จะอยู่ที่ตลาดเก่าร้อยปีและตลาดสะพานปลาอ่างศิลานะคะ  ^_^ 

map chonburi 03 

อ่างศิลา... ในอดีตที่พิมรู้จักตั้งแต่ตอนสมัยพิมยังเด็กๆ   จะมีชื่อเสียงในเรื่องของการเป็นแหล่งทำครกหินนะคะ    ซึ่งในสมัยนั้นเนี่ยถ้าใครขับรถผ่านอ่างศิลา ก็จะเห็นครกหินตั้งขายเรียงรายกันเต็มถนนสองข้างทางเลยอ่ะค่ะ  แต่ด้วยความที่ในระยะหลัง มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวอ่างศิลา เป็นจำนวนมาก   ก็เลยทำให้พ่อค้าแม่ค้านำข้าวของมาวางขายในบริเวณอ่างศิลาหลากหลายขึ้น  และหนึ่งในนั้นคืออาหารทะเลสด ๆ ที่พ่อค้าแม่ค้ามาตั้งขายกันอยู่แถวบริเวณสะพานปลานะคะ 

โดยตลาดสะพานปลาอ่างศิลาแห่งนี้เนี่ย จะเปิดขายกันทุกวันเลยอ่ะค่ะ   ถ้าเป็นวันธรรมดาก็จะเปิดขายกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึงประมาณ 6 โมงเย็นนะคะ  แต่ถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุด ก็จะเปิดขายกันตั้งแต่ตี 5 กว่า ๆ ไปจนถึงเกือบ ๆ ทุ่มนึงเลยอ่ะค่ะ 

chonburi2559 1 028

โดยของที่พ่อค้าแม่ค้านำมาวางขายกันที่นี้ ก็จะเป็นพวกอาหารทะเลสด ๆ อย่าง หมึก กุ้ง หอย ปู ปลา ซะเป็นส่วนใหญ่นะคะ  สนนราคาก็ค่อนข้างจะถูกกว่าที่พิมซื้อที่กรุงเทพฯ กิโลละหลายสิบบาท   แต่ว่าจะมีให้เลือกซื้อเยอะกว่ามากๆ อ่ะค่ะ ^_^

chonburi2559 1 029

chonburi2559 1 031 

chonburi2559 1 034 

chonburi2559 1 030

chonburi2559 1 052

และนอกจากอาหารทะเลสด ๆ แล้ว ที่นี้เค้าก็ยังมีอาหารทะเลแปรรูป อย่างพวกปลาเค็ม กุ้งแห้ง หมึกเค็ม  ปลาหวาน  หอยดอง ปูเค็ม ปูจืด   ขายอีกด้วยนะคะ  แถมไม่ได้ขายกันแค่ร้านเดียวสองร้าน  แต่มีขายอย่างละหลายสิบร้านเลยอ่ะค่ะ   เรียกว่าถ้าเป็นคนชอบทำอาหาร ชอบกินอาหารพวกนี้แล้ว  อาจจะช๊อปเพลินจนหมดตังในกระเป๋าแบบไม่รู้ตัวก็ได้นะคะ ^_^   

ตลาดแห่งนี้ไม่มี ATM น๊าาา  ... ATM ที่อยู่ใกล้สุดจะอยู่ตรงแถวศาลเจ้านาจา ซึ่งจะห่างจากตลาดนี้ไปประมาณ 1 กิโลกว่าๆ  อ่ะค่ะ 

chonburi2559 1 039

chonburi2559 1 038

chonburi2559 1 042

ซึ่งเคล็ดลับของการซื้ออาหารทะเลสด ๆ และอาหารทะเลแปรรูปของที่นี่ (รวมถึงที่อื่นๆ)  เผื่อป้องกันความผิดหวังที่อาจจะเกิดขึ้น  พิมแนะนำว่าให้ซื้อของที่เราสามารถหยิบจับมาดูได้ด้วยมือของเราเองนะคะ  อย่าเลือกซื้อของที่อยู่ในถุงหรืออยู่ในแพคเกจแบบที่เราไม่สามารถมองเห็นข้างในได้อ่ะค่ะ  (เช่นถูกห่อกระดาษจนปิดมิด)    เพราะถ้าเราไม่เห็นของข้างใน เราจะบอกไม่ได้ว่ามันดีจริงไหม    โดยเฉพาะพวกปลาเค็มทั้งหลายนี่สำคัญมาก ๆ เลยนะคะ    

และสำหรับพวกปลาทะเลสด ๆ หมึกกุ้งสด ๆ  พิมแนะนำว่าให้เลือกซื้อจากร้านที่เราสามารถหยิบของใส่ถุงเป็นตัว ๆ ได้เองอ่ะค่ะ  หรือไม่ก็เลือกซื้อจากกระบะที่เราสามารถเห็นได้ด้วยตาอย่างชัดเจนเวลาแม่ค้าจะหยิบใส่ถุงให้นะคะ  จะดีที่สุดเลยอ่ะค่ะ  ^_^ 

chonburi2559 1 041

chonburi2559 1 043

chonburi2559 1 048

chonburi2559 1 047

chonburi2559 1 035

chonburi2559 1 037

chonburi2559 1 045

จากสะพานปลาอ่างศิลา  จุดหมายถัดไปของพิมก็คือ ศาลเจ้าแม่หินเขา พิพิธภัณฑ์ตึกแดง และตลาดเก่าร้อยปีอ่างศิลานะคะ  ซึ่งสถานที่ 3 แห่งนี้ อยู่ในระยะที่สามารถเดินจากสะพานปลาได้ โดยไม่ต้องต่อรถอะไรเลยอ่ะค่ะ  ^_^

04

ศาลเจ้าแม่หินเขา เป็นศาลที่ตั้งอยู่ริมทะเลในบริเวณพื้นที่ของพระตำหนักมหาราชนะคะ    ซึ่งจากจุดที่ตั้งนี่เอง ทำให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่อยากมากราบไหว้สักการะเจ้าแม่หินเขา สามารถเดินเลียบชายฝั่งทะเลตามทางเดินจากสะพานปลาอ่างศิลามายังศาลเจ้าแม่หินเขาได้ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 นาทีอ่ะค่ะ 

ศาลเจ้าแม่หินเขาเป็นศาลเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 นะคะ เดิมทีศาลแห่งนี้เป็นศาลเล็ก ๆ ตั้งอยู่บริเวณหินขนาดใหญ่ ชาวบ้านในละแวกนั้นก็เลยเรียกศาลแห่งนี้ว่า “ศาลเจ้าแม่หินเขา” อ่ะค่ะ

chonburi2559 1 053

 chonburi2559 1 054

ศาลเจ้าแม่หินเขา  ถูกสร้างขึ้นด้วยเหตุผลอะไร ไม่มีหลักฐานปรากฎแน่ชัดนะคะ  แต่จากคำบอกเล่าต่อ ๆ กันมาเนี่ย  มีการสันนิษฐานว่า เจ้าแม่หินเข้าน่าจะเป็นดวงวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พระปิยมเหสีในรัชกาลที่ 5 อ่ะค่ะ  ซึ่งท่านทรงสิ้นพระชนม์ด้วยอุบัติเหตุเรือพระประเทียมล่ม ในระหว่างการตามเสด็จฯ รัชการที่ 5 แปรพระราชฐานไปประทับยังพระราชวังบางประอินนะคะ    ชาวบ้านก็เลยเชื่อกันว่าด้วยเหตุที่ท่านต้องสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุทางเรือ  เมื่อท่านกลายเป็นดวงวิญญาณไปแล้ว ก็จะทรงมีพระเมตตา แผ่บารมีให้ชาวเรือทั้งหลาย แคล้วคลาดจากอุบัติภัยทางน้ำไปด้วย ก็เลยกลายเป็นที่มาของศาลเจ้าแม่หินเขาแห่งนี้อ่ะค่ะ 

chonburi2559 1 056

chonburi2559 1 057

chonburi2559 1 058

จากศาลเจ้าแม่หินเขา เดินมาอีกนิ๊ดดดดดดนึง ก็จะเจอกับ “พระตำหนักมหาราช” และ “พระตำหนักราชินี”  ซึ่งเคยถูกใช้เป็นสถานพักฟื้นตากอากาศสำหรับผู้ป่วยแห่งแรกของประเทศไทยนะคะ ^_^   โดยพระตำหนักทั้งสองหลังเนี่ย ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5   แต่ว่าก็ไม่ได้มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการนะคะ  ชาวบ้านแถวบ้านก็เลยเรียกว่าตึกขาวกับตึกแดงมาตลอด (ตามสีอาคารพระตำหนัก)    จนวันเวลาผ่านไป พระตำหนักทั้งสองแห่งก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา  พอมาถึงสมัยของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ  พระองค์ท่านก็เลยให้มีการบูรณะพระตำหนักทั้งสองแห่งขึ้นมาใหม่   และหลังจากบูรณะเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้มีการตั้งชื่อตำหนัก 2 แห่งว่า  พระตำหนักมหาราช และพระตำหนักราชินี  แต่ชาวบ้านแถว  ๆ นั้น ด้วยความที่อาจจะไม่ชินกับชื่อใหม่  ก็เลยคงยังเรียกว่าตึกขาวและตึกแดงมาตลอดจนถึงปัจจุบันนี้อ่ะค่ะ 

chonburi2559 1 059

chonburi2559 1 060

 

144

chonburi2559 1 062

ตึกขาวและตึกแดง ในปัจจุบันถูกนำมาจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชนะคะ   ซึ่งเปิดให้เข้าชมทุกวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย  โดยในวันธรรมดาจะเปิดตั้งแต่ 8.30 ไปจนถึง 16.30 นะคะ ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ทั้งหลาย ก็จะเปิดตั้งแต่ 09.30 ไปจนถึง 16.30  น. อ่ะค่ะ  หากเพื่อน ๆ คนไหนไปแล้ว ประตูปิด !!  แต่อยากเข้าไปชมด้านใน  ก็ให้ไปติดต่อได้ที่สำนักงานเทศบาลตำบลอ่างศิลาได้เลยจ้า

chonburi2559 1 063

chonburi2559 1 064

จากตึกแดง ตึกขาว เดินเลยมาอีกนิดนึง  ก็จะเป็นตลาดเก่าอ่างศิลาที่มีอายุกว่า 140 ปีนะคะ  

chonburi2559 1 065

ตลาดแห่งนี้เนี่ย ..... จะว่าไปก็ไม่เชิงจะเรียกได้ว่าเป็นตลาดนะคะ   คือเค้าจะเป็นชุมชนที่ชื่อว่าชุมชนอ่างศิลาอ่ะค่ะ  แล้วด้วยความที่แถวนี้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเยอะ  ชาวบ้านในชุมชนเค้าก็เลยเปิดหน้าบ้านเป็นร้านขายของนะคะ  จากหนึ่งร้านเป็นสองร้าน จากสองร้านเป็นสี่ร้าน จากสี่ร้านกลายเป็นสิบร้านยี่สิบร้านสามสิบร้าน จนกลายเป็นตลาดไปเลยอ่ะค่ะ   ซึ่งในสมัยก่อนเนี่ยก็จะมีร้านเยอะมากกกก  เอาแค่ร้านขายอาหารทะเลแห้งๆ  ก็มีนับเป็นสิบร้านแล้วนะคะ    แต่ว่าในปัจจุบันด้วยความที่ตลาดสไตล์นี้ในชลบุรีมีเยอะมาก  (พิมคิดเอาเอง)  บวกกับเศรษฐกิจที่ค่อนข้างจะซบเซา  ก็เลยทำให้คนมาเที่ยวตลาดแห่งนี้น้อยไปนิ๊ดดดดนึงอ่ะค่ะ   >_<  

chonburi2559 2 100

ตลาดแห่งนี้เนี่ย จะว่าไปเป็นตลาดที่มีของอะไรดี ๆ โดยเฉพาะของกินน่าสนใจเยอะแยะเลยนะคะ  ไม่ว่าจะเป็นหอยจ๊อ (ปู) แฮกึ๋น (กุ้ง) ของร้านเศรษฐีเรือทอง  ที่เป็นหอยจ๊อลูกโต ปูเยอะ แต่ราคาแค่ลูกละ 12 บาทเท่านั้นเองอ่ะค่ะ  ^_^

chonburi2559 1 066

chonburi2559 1 067

chonburi2559 2 099

chonburi2559 1 069

แล้วก็ยังมีห่อหมกปลาสาก (ถ้าบ้านเราก็เรียกปลาน้ำดอกไม้) ของร้านแม่เนือง และร้านแม่เย็นใจนะคะ   ที่สนนราคาขายแค่ห่อละ 10 บาทเท่านั้น แต่เนื้อปลานี่เน้น ๆ เลยอ่ะค่ะ ^_^  

ห่อหมกของทางชลบุรี รสชาติเครื่องแกงจะไม่เข้มข้นเท่าที่บ้านพิมทำ  แต่ว่ารสชาตินี่ก็กลมกล่อมเลย แม้จะติดหวานนิดนึงนะคะ 

chonburi2559 1 072

chonburi2559 1 073

นอกนั้นก็จะมีข้าวเหนียวอุบ .. ขนมที่เกิดมาพิมก็เพิ่งได้ยินชื่อ >_<   แต่แม่ค้าบอกว่าเป็นขนมที่อยู่คู่เมืองชลบุรีมานานนับหลายสิบปีแล้วอ่ะค่ะ  รสชาติและหน้าตารวมไปถึงวิธีทำ คล้ายๆ  กับข้าวเหนียวปิ้งไส้มาก  แต่จะแตกต่างกันตรงที่ข้าวเหนียวปิ้งต้องห่อใบตอง    แต่ข้าวเหนียวอุบนี่ไม่ต้องห่ออะไรเลย  แค่หุ้มกล้วยด้วยข้าวเหนียวมูน ปั้นให้เป็นก้อนสี่เหลี่ยม ๆ แล้วเอาไปจี่บนกระทะจนเหลืองทั้งสองด้าน ก็จะได้ข้าวเหนียวอุบมาทานแล้วนะคะ  ซึ่งเท่าที่พิมซื้อมาลองชิม 4 ชิ้น  อร่อย และรสชาติดี คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปชิ้นละ 5 บาทมากๆ เลยค่ะ    ^_^

chonburi2559 1 075

chonburi2559 1 076

ส่วนอีกร้านนึงในตลาดเก่าอ่างศิลาที่พิมว่าน่าสนใจมาก ก็คือ ร้านขายขนมไทย ที่ชื่อว่า "ร้านขนมคุณยาย" นะคะ   ซึ่งที่ร้านนี้เนี่ยจะมีขนมไทยสมัยเก่าขายอยู่หลายอย่างเลยอ่ะค่ะ  เช่น ถั่วกวน  ทองม้วน ข้าวตู  ขนมผิง  และถั่วตัดอ่ะค่ะ   แต่มีขนมอยู่ชนิดนึงที่พิมว่าอร่อยสุดๆ และอยากชวนเพื่อน ๆ ให้ได้ไปลิ้มลองกัน ก็คือขนมรังไร  ที่ตัวขนมทำจากแป้งข้าวเจ้ากวนกับกะทิ  เอามาใส่พิมพ์กดให้เป็นเส้นยาว แล้วกินคู่กับหัวกะทิ มะพร้าวทึนทึกขูด และงาขาวนะคะ .... รสชาตินี่อร่อย หอม หวาน มัน และนุ่มนวลสุดๆ  ไปเลยค่ะ  ถ้าเพื่อน ๆ ผ่านไปแถวนี้ ยังไงต้องไปลองให้ได้นะคะ อร่อยจริง ๆ ค่า (ห่อละ 20 บาท) 

บริเวณใกล้ ๆ ร้านนี้ ช่วงบ่ายแก่ ๆ ประมาณสัก 3-4 โมงเย็น จะมีชาวบ้านมาย่างปลาสีเสียด (ย่างเตาถ่าน)  และแกะหอยแมลงภูแบบสด ๆ ขาย (โลละ 150)  ถ้าเพื่อนๆ สนใจลองแวะดูนะคะ 

chonburi2559 1 077

chonburi2559 1 078

chonburi2559 1 079

จากร้านขนมคุณยาย เดินไปอีกประมาณ 100 เมตร ก็จะเจอเข้ากับสามแยกถนนใหญ่นะคะ   ตรงสามแยกนี้ให้เราเลี้ยวขวา  แล้วเดินต่ออีกสักประมาณ  50 เมตร  ก็จะเจอกับแหล่งขายครกหินอ่างศิลาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยอ่ะค่ะ  

chonburi2559 2 098

แต่คำว่าครกหินอ่างศิลา  ไม่ได้หมายความว่าครกทั้งหมดที่ขายอยู่ที่นี่จะเป็นครกหิน ที่ทำจากหินอ่างศิลานะคะ   ..... ในสมัยก่อนตอนที่อ่างศิลายังมีหินอยู่เยอะๆ  อาจจะใช่  แต่ในปัจจุบันที่อ่างศิลาเต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง  และหินอ่างศิลาถูกระเบิดเอามาใช้เกือบหมดแล้ว  ครกหินที่มีขายอยู่ที่นี่จึงเป็นครกหินที่ #ทำในพื้นที่อ่างศิลา  แต่ไม่ใช่ที่ #ทำจากหินอ่างศิลา ทั้งหมดอ่ะค่ะ

ทีนี้เพื่อนๆ หลายคนก็อาจจะสงสัยว่า แล้วหินที่เอามาทำครกหินเนี่ย  มันมาจากไหนนะคะ   ...  หลัก ๆ ก็จะมาจากหินแกรนิตภายในประเทศเรานี่แหละ  เช่นที่ตาก เพชรบูรณ์  และเลยอ่ะค่ะ   แต่ว่าบางส่วนก็จะมาจากต่างประเทศ เช่น  อินเดีย อิตาลี แอฟริกา  นะคะ  ซึ่งราคาครกหินที่ขายกันที่อ่างศิลา (และที่อื่น)  นอกจากจะขึ้นกับขนาด ขึ้นกับรูปร่าง และลวดลายแล้ว  ก็ยังขึ้นกับที่มาของหินที่เอามาใช้ทำครกใบนั้นๆ  อีกด้วยอ่ะค่ะ  

อย่างถ้าเป็นครกที่ทำจากหินจังหวัดเพชรบูรณ์ ราคาก็จะถูกหน่อย เพราะว่าหินจากจังหวัดนี้เป็นหินแกรนิตที่อ่อน ทำให้สกัดเป็นครกง่าย ค่าแรงก็เลยถูก  แต่ในขณะเดียวกันใช้ ๆ ไป ก็จะสึกง่ายกว่าครกจากหินอย่างอื่นนะคะ ^^"   แต่ถ้าเป็นครกที่ใช้หินจากแอฟริกา อันนี้จะราคาแพงขึ้นมาอีกหน่อย  เพราะหินจากที่นี่เป็นหินแกร่ง+แข็ง และสกัดยาก ทำให้ค่าแรงค่อนข้างสูง    แต่ในขณะเดียวกันเวลาใช้ก็จะสึกกร่อนยาก และใช้ได้นานอ่ะค่ะ      

207 

chonburi2559 1 099

ส่วนถ้าเป็นครกหินอ่างศิลาแท้ ๆ ที่มีสีหินขาวอมชมพู แถมยังมีประกายเพชรวิบวับอยู่ในหิน   อันนี้จะยิ่งราคาสูงกว่าครกอื่น ๆ นะคะ   เพราะนอกจากจะเป็นหินที่หาได้ยากในปัจจุบันแล้ว      หินอ่างศิลาก็ยังเป็นหินแกรนิตที่แกร่งและมีเนื้อหินที่เนื้อละเอียดมาก    ทำให้เวลาเอาไปใช้ตำอะไร ส่วนผสมจะละเอียดง่ายกว่าตำด้วยครกหินทั่ว ๆ ไปอ่ะค่ะ   ซึ่งสนนราคาครกหินอ่างศิลาใบเล็ก ๆ  อย่างในมือพิม ราคาเริ่มต้นก็เกือบ ๆ ใบละ 1 พันบาทนะคะ   แต่ก็ใช้กันไปยันลูกยันหลานเลยจ้า ^^ 

chonburi2559 1 103

chonburi2559 1 101

chonburi2559 1 102

จากอ่างศิลา เหลือบดูนาฬิกาก็ปาเข้าไปบ่าย 4 โมงเย็นกว่าๆ แล้วนะคะ  พิมมีแผนว่าจะกลับเข้าไปกินข้าวแถว  ๆ ตลาดเก่าหน้าเก๋ง  แต่ด้วยความที่ยังไม่ถึงเวลากิน  พิมก็เลยชวนคุณสามีให้ไปเช็คอินที่โรงแรมก่อนอ่ะค่ะ   ซึ่งโรงแรมที่พิมเลือกพักในคืนนี้ก็คือ MT Park  Resident ที่อยู่ในเขตตัวเมืองชลบุรีนะคะ 

map chonburi 04

จริง ๆ โรงแรมในตัวเมืองชลบุรี ก็มีอยู่หลากหลายโรงแรมนะคะ  แต่ว่าโรงแรมที่อยู่ใกล้กับสถานที่ ๆ พิมอยากจะไป และตรงตามความต้องการของพิมมีแค่ MT Park Resident  เพียงโรงแรมเดียวอ่ะค่ะ ซึ่งตอนแรกพิมก็แอบหวั่นๆ  ใจนะคะ  ว่าจะเป็นที่พักที่ดีหรือไม่  แต่ปรากฎว่าพอได้เข้าไปพักจริง ๆ ดีงามเกินราคาเลยอ่ะค่ะ    ทั้งห้องที่มีขนาดกว้าง เตียงนอนที่มีขนาดใหญ่  น้ำฝักบัวก็แรง  แอร์ก็เย็นไว  แถมยังมีโซฟา มีโต๊ะให้นั่งทานข้าวให้อีกด้วย  ในราคาคืนละไม่ถึง 1000 บาท พิมว่าคุ้มค่ามากๆ เลยนะคะ 

chonburi2559 1 080

chonburi2559 1 081

chonburi2559 1 082

chonburi2559 1 083

และหลังจากที่เอาข้าวของขึ้นไปเก็บ พร้อมทั้งนอนกลิ้งพักสายตาอยู่แป๊บนึง ประมาณ 5 โมงครึ่งกว่าๆ   ก็ได้เวลาออกไปหาข้าวเย็นทานล่ะค่ะ ซึ่งจุดหมายปลายทางในวันนี้ ก็คือร้านเจ๊กตง ที่อยู่ในตลาดเก่าหน้าเก๋งนะคะ  ^^

chonburi2559 1 084

ตลาดเก่าหน้าเก๋ง เป็นเวิ้งเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านซ้ายมือของถนนวชิรปราการก่อนจะถึงธนาคารกสิกรไทยสาขาวชิรปราการอ่ะค่ะ  ตลาดแห่งนี้เนี่ยจะเป็นศูนย์รวมอาหารอร่อย ๆ ที่อยู่คู่เมืองชลบุรีมากว่า 100 ปีแล้วนะคะ  ภายในตลาดก็จะมีร้านขายอาหารทั้งที่เป็นรถเข็นและเป็นห้องแถวรวมกันประมาณ 6-7 ร้านอ่ะค่ะ  (น่าเสียดายมาก วันที่พิมไป มีเปิดแค่ 3 ร้าน)  โดยเวลาที่เปิดขาย บางเจ้าก็จะเปิดตอนเช้าแล้วขายถึงบ่ายๆ  แต่ส่วนใหญ่จะเปิดขายตั้งแต่ประมาณ 4 โมงเย็น แล้วไปปิดเอาตอนประมาณ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืนนะคะ  

โดยร้านที่เด็ดสุด ๆ ชนิดที่ถ้าใครมาเที่ยวแถวนี้แล้ว ควรจะต้องแวะมากินให้ได้ ก็คือ ร้านข้าวต้มเป็ดและข้าวต้มทะเลที่ชื่อว่า  "ร้านเจ็กตง หน้าเก๋ง (เจ้าเก่า)" อ่ะค่ะ   ซึ่งที่ร้านนี้เนี่ยนอกจากของทะเลจะสดสุด ๆ  และปรุงรสมาแบบถึงเครื่องแล้ว  ราคาก็ยังถูกแสนถูกอีกด้วยนะคะ  ชามนึงแค่ 40-50 บาทเท่านั้นเองอ่ะค่ะ 

chonburi2559 1 085

033

chonburi2559 1 087

chonburi2559 1 086

chonburi2559 1 088

โดยเมนูเด็ดของที่นี่เนี่ย หลัก ๆ ก็จะเป็นข้าวแห้งเป็ด และข้าวต้มทะเลนะคะ

chonburi2559 1 089

โดยข้าวแห้งเป็ด จะเป็นข้าวสวยที่ราดด้วยเนื้อเป็ดพะโล้สับกับเลือดเป็ดพะโล้นะคะ   แล้วก็จะมีการโรยกระเทียมเจียวกับขึ้นฉ่ายนิดหน่อย  เวลาทานก็จะทานคู่กับซีฟู้ดรสเปรี้ยวเผ็ดอ่ะค่ะ  ....  รสชาติโดยรวมก็เหมือนกินข้าวหน้าเป็ด  แต่เป็นข้าวหน้าเป็ดที่เนื้อเป็ดมีความนุ่มหนึบ และความมีคามหอมอร่อยเป็นพิเศษ กว่าข้าวหน้าเป็ดธรรมดาทั่วไปหลายเท่าเลยนะคะ   เรียกได้ถ้ามาที่ร้านนี้ สั่งเมนูนี้มากิน แล้วจะไม่ผิดหวังเลยอ่ะค่ะ   

chonburi2559 1 090

ส่วนชามถัดมา  ก็คือ  ข้าวต้มปลากับไข่ปลา (อินทรี) นะคะ  ... ชามนี้เป็นข้าวต้มแบบธรรมดาทั่วไป แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่เนื้อปลากับไข่ปลาสดและหวานมาก ตัวข้าวก็ต้มมาได้สุกกำลังดี  ไม่แข็งไปไม่บานไป  น้ำซุปก็หอมกลิ่นสมุนไพร  กินรวม ๆ กันแล้ว อร่อยเพลินจนกินหมดชามไม่รู้ตัวเลยอ่ะค่ะ 

chonburi2559 1 092

ส่วนชามนี้เป็นก๋วยจั๊บหมึกและหอยเชลล์นะคะ .... ความแตกต่างของชามนี้กับข้าวต้มด้านบน ก็คือชามบนเป็นข้าว ชามนี้เป็นเส้นก็เท่านั้นเองอ่ะค่ะ  แต่ความอร่อยนี่เหมือน ๆ กันเลยนะคะ ^^

chonburi2559 1 093

ส่วนจานสุดท้ายที่พิมสั่งมาลองชิม  เป็นลวกจิ้มรวมมิตรอ่ะค่ะ   ในจานก็จะมีไข่ปลาอินทรี เนื้อปลาอินทรี หมึก หอยเชลล์  และโรยหน้ามาด้วยหมึกแห้ง กระเทียมเจียว ขึ้นฉ่ายนะคะ  ... หน้าตาแลดูธรรมดามากๆ  แต่พอทานกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวที่ทางร้านเตรียมไว้ให้  รสชาตินี่แจ่มจรัสสุดๆ ไปเลยอ่ะค่ะ  ถ้าเพื่อน ๆ ไปร้านนี้ อย่าลืมสั่งมาลองดูนะคะ ^_^   

chonburi2559 1 091

และหลังจากที่ทานกันจนอิ่มอืดแล้ว ก็ได้เวลาจ่ายค่าอาหารกันล่ะค่ะ ..... เบ็ดเสร็จมื้อนี้ พิมก็จ่ายค่าเสียดายทั้งข้าวทั้งน้ำไปประมาณ 220 บาทนะคะ  ซึ่งเมื่อเทียบกับรสชาติ เทียบกับคุณภาพอาหาร เรียกได้ว่ามื้อนี้คุ้มเกินคุ้มเลยอ่ะค่ะ   ^^ 

chonburi2559 1 094

จากตลาดเก่าหน้าเก๋ง  ตอนแรกพิมกะว่าจะไปนั่งชิลด์ ๆ ดูพระอาทิตย์ตกที่ริมทะเลกับคุณสามีสักหน่อยนะคะ    แต่หลังจากกินเสร็จ เหลือบตามองดูนาฬิกาที่มือถือก็ปาเข้าไปเกือบ ๆ จะทุ่มนึงแล้วอ่ะค่ะ  (กินนานจริง -*-)   แบบว่าไปทะเลตอนนี้ก็คงจะไม่เห็นอะไรนอกจากความมึด  >_< แถมพรุ่งนี้พิมแพลนจะตื่นตั้งแต่ตี  4 ตี 5 เพื่อจะไปดูเค้าเผาข้าวหลามกันแถวบางแสนนะคะ (ห่างจากที่พักเกือบครึ่งชั่วโมง)    ....... จากเหตุผลข้างต้น  สรุปแล้วพิมก็เลยเปลี่ยนแผนจากไปทะเล เป็นกลับโรงแรมเพื่อไปอาบน้ำอาบท่าและพักผ่อนแทนอ่ะค่ะ ^_^

011

ส่วนว่าพรุ่งนี้พิมจะไปเที่ยวไหนบ้าง จะไปกินอะไรที่ไหนบ้าง ยังไงคอยติดตามกันอีกทีนะคะ  รับรองจัดแน่นจัดเต็มเหมือนอย่างทุกทริปแน่นอนค่ะ ...... ส่วนตอนนี้พิมขอตัวไปอาบน้ำนอนก่อน  ราตรีสวัสด่ิ์นะคะ ^_^ 

chonburi2559 1 098

 



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก