พาเที่ยงานเกษตรแฟร์ 2554 ค่ะ ปีนี้ไปมาซะ 3 วัน ตั้งแต่วันศุกร์ (วันแรกที่เค้าจัดงาน) วันจันทร์ และไปอีกรอบก็วันศุกร์ก่อนวันจัดงานวันสุดท้ายอ่ะค่ะ เดินรวมแล้วประมาณ 15 ชม. หุหุ ขาลากเลยอ่ะ >_<"
สำหรับภาพงาเนกษตรแฟร์นี่พิมไม่บรรยายมากเน๊าะค่ะ แบบว่าพักนี้สมองไม่ค่อยแล่น ความเครียดและการงานรุมเร้า อารมณ์ไม่่ค่อยจะมีเลยค่ะ แห๊ะๆ เพราะงั้นขอบรรยายสั้น ๆ ล่ะกันน๊าะ ^^
ป.ล. วิธีการถ่ายภาพของพิมก็คือ เดินเข้าประตูงานไป ก็ถ่ายร้านด้านซ้ายที ถ่ายร้านด้านขวาที สลับ ๆ กันไปค่ะ เพราะงั้นบางทีอาจจะเห็นร้านขายของกินสลับกันร้านขายต้นไม้ดอกไม้ ปุ๋ย ก็อย่าแปลกใจไปนะคะ .... แบบว่าพิมถ่ายภาพมาตามของจริงที่เค้าจัดร้านเลยอ่ะค่ะ (แต่ถ้าอันไหนซ้ำกันเยอะๆ เช่น กล้วยไม้ มะนาว ร้านขายต้นไม้หายาก อันนี้พิมก็ถ่ายมาเป็นบางร้านนะคะ)
ป.ล. ภาพถ่ายทั้งหมด ถ่ายในวันแรกที่ไปค่ะ จะดูเหมือนว่าคนน้อย ๆ แต่วันหลังคนแน่นมาก แทบจะไหลเดินเลยอ่ะ >_<"
.......................................
วันแรกที่ไป พิมไปกะคุณสามีค่ะ ออกจากบ้านตอนสัก 11 โมงอ่ะ ขึ้นแท๊กซี่กันไป กะเอาไวอ่ะค่ะ
จากบ้านพิมไปงานเกษตรแฟร์ ก็ไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ ใช้เวลา (ถ้ารถไม่ติด) ราวๆ ครึ่ง ชม.
นั่งรถไป เม้าท์กะคุณสามีไป เผลอแป๊บเดียว ถึงงานเกษตรแฟร์แล้วค่ะ (เห็นรั้ว ม. เกษตรแล้วอ่ะ)
ลงรถแท๊กซี่หน้า ม.เกษตรที่หน้าประตูงามวงศ์วาน 1 ....... (ประตูต้นงานอ่ะค่ะ) แล้วก็เดินเข้าประตูไป
และแล้วเราก็เข้ามาในเขตงานเกษตรแฟร์แล้วค่ะ (ตรงคนเยอะ ๆ มุมขวางล่างอ่ะค่ะ เค้ากำลังมุงร้านสตอเบอรี่กันอยู่)
งานเกษตรแฟร์ปีนี้ ตามความเห็นส่วนตัวพิมนะ พิมว่าใหญ่กว่าทุกปีค่ะ มีคนมาออกร้านเยอะมาก โดยเฉพาะร้านขายต้นไม้ปีนี้มีเยอะกว่าปีก่อนมากเลยค่ะ ......... ที่จุดเริ่มต้นของงาน ก็เป็น Zone ต้นไม้นะคะ ซึ่งวันที่พิมไปเนี่ย อากาศดีมากเลยค่ะ ถึงจะเห็นว่ามีแดด แต่แดดไม่ค่อยร้อนเลยค่ะ อากาศออกจะอบอุ่น เดินสบายเลยอ่ะ (แถมคนก็ยังน้อย หุหุ)
ร้านแรกที่พิมเจอใน zone ต้นไม้ก็คือร้านขายมะม่วงพันธุ์ยู่เหวินอ่ะค่ะ เค้าว่าเป็นพันธุ์ที่มาจากไต้หวัน พิมก็ไม่รู้ว่าอร่อยไหม ไม่เคยชิม แต่สีคล้ายมะม่วงพันธุ์จักรพรรดิ์เลยค่ะ
ถัดมาก็เป็นร้านขายต้นไม้หลายๆ ชนิดรวมกันอ่ะนะคะ ไมว่าจะเป็นไม้ดอก ไม้ประสบ ไม้ผล รวมไปถึงไม้ยืนต้นทั้งหลายอ่ะ
ส่วนร้านถัดมา ... ร้านนี้ขายแต่มะนาวอย่างเดียวค่ะ
เค้าบอกว่าเป็นมะนาวแป้นพันธุ์ดกพิเศษ มีขายทั้งแบบต้นเล็กและก็ต้นใหญ่ สนนราคาไม่แพงเท่าไหร่ ต้นละ 500 เองค่ะ >_<"
ส่วนร้านนี้ ไม่ได้ขายมันสำปะหลังนะคะ อย่าเข้าใจผิดไป แต่เค้าขายปุ๋ยที่ไว้ใส่มันสำหลังหรือพืชหัว ๆ ทั้งหลายอ่ะค่ะ เค้าว่าใส่แล้วหัวมันจะใหญ่โตแบบนี้ นี่ถ้าเราเอามากิน ตัวเราจะโตมากกว่านี้ไหมเนี่ย อิอิ (แค่นี้ก็ยังโตไม่พอเหรอย่ะยัยพิม >_<")
ร้านถัดมาเป็นร้านขายต้นบัวมีหลากหลายสายพันธุ์เลยอ่ะ ทั้งแบบต้นละ 30 และก็แบบกระถางละ 100 120 ค่ะ
ถ้าใครชอบกินอิทผลัม Import ไม่อยากซื้อเค้าเพราะว่ามันแอบแพง แนะนำให้ซื้อต้นจากสวนนี้ไปปลูกนะคะ แต่นานหน่อยกว่าจะได้กิน ^^"
และถ้าใครชอบดอกไม้ต้นเล็ก ๆ ดอกน่ารัก ๆ แนะนำร้านนี้เลยค่ะ ขายไม่แพง แถมเห็นกันทุกปี
ร้านถัดไป ... ขายกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์มากค่ะ ทั้งดอกเล็กดอกใหญ่ สวย ๆ สีสด ๆ ทั้งนั้น พิมอยากได้ต้นสีชมพูบานเย็นนั่นมากๆ แต่คุณสามีไม่หิ้วให้ง่ะ >_<" อดซื้อไป (ไว้ไปซื้อร้านท้าย ๆ เน๊าะ)
ส่วนร้านนี้ขายไม้ประดับ และไม้กินแมลงแบบกระถางเล็ก ๆ ค่ะ แถมขายราคาถูกกว่าอีกหลายร้านด้วยอ่ะ ใครสนใจ ปีหน้าลองไปดูนะคะ (อิอิ)
ซึ่งไอ้เจ้าต้นไม้กินแมลงต้นที่เห็นด้านล่างนี่อ่ะ สมัยสักปี 39 ตอนช่วงพิมเรียน ปวส. ได้เงินค่าขนมไปกิน รร. วันละ 100 บาทอ่ะ พิมไปเห็นเจ้าต้นนี้ครั้งแรกที่งานสวนหลวง ร.9 ค่ะ เจ้าของเค้าว่าเพิ่ง import มาจากนิวซีแลนด์ (ช่วงนั้นพิมบ้าไม้กินแมลงค่ะ ชอบซื้อ แต่เลี้ยงไม่เป็น) พอเห็นแล้วก็ถูกใจพิมมาก ตัดสินใจถอยมาเลยค่ะ ต้นละ 450 บาทอ่ะ (ต้นเล็กกว่าในภาพอีก) ปรากฎว่าอยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ตาย เสียดายเงินมากๆ >_<"
ป.ล. เจ้าไม้กินแมลงต้นที่พิมบอกเนี่ย สมัยก่อนคนขายเรียกต้นวีนัส ปัจจุบันเรียกต้นกาบหอยแครง
ถัดจากร้านขายไม้กินแมลงก็เป็นร้านขายพวกเมล็ดพันธุ์ต่าง ๆ ล่ะค่ะ (ขอจบ Part 1 ไว้ตรงรูปนี้ล่ะนะคะ)
พูดถึงเมล็ดพันธุ์ ..... ปีก่อนพิมบ้าซื้อมาก ซื้อทั้งเมล็ดไม้ดอก เมล็ดผักสวนครัว ไม่ต่ำกว่า 30 ซอง ผ่านไปครึ่งปียังปลูกไม่หมด ต้องเอาไปแจกเพื่อนในเนตค่ะ ปีนี้เลยไม่ซื้อสักกะซองอ่ะ ใช้วิธีเก็บเมล็ดที่บ้านไปแลกเปลี่ยนกะคนอื่นเค้าแทน ฮี่ๆ
ว่าแล้วก็.....ขอจบ Part 1 ไว้ตรงนี้นะคะ ... เพื่อไม่ให้ยาวเกินไป แล้วเดี๋ยวไปต่อที่ Part 2 นะคะ