วันนี้พิมขอเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวตลาดผักผลไม้ที่ อ.ท่ายาง ไปขุดหาหอยตลับ กินแกงส้มรสเด็ดเป็นมื้อเช้า กินส้มตำสารพัดตำเป็นมื้อบ่าย และก็ทอดกล้วยแขกขายที่เพชรบุรีนะคะ
..... แต่ก่อนจะออกเดินทางกัน พิมก็อยากจะขอพูดถึงเหตุผลที่ต้องไปทริปนี้กันแบบสั้น ๆ สักหน่อยนคะ (แน่ใจนะยัยพิม ว่าสั้น ๆ ง่ะ >_<")
ก็เมื่อสัก 4-5 ปีก่อนค่ะ สมัยแม่พิมเค้าเริ่มไปเช่าแผงขายของในตลาดนัดตอนเช้าที่ตลาดในซอยลาดพร้าว 87 แม่พิมก็ได้รู้จักกับป้าและลุงคู่นึง ซึ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้าขายของที่ตลาดนั่นมาก่อนอ่ะค่ะ ลุงกับป้าเค้าเป็นคน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ทุกอาทิตย์เค้าจะไปกลับกรุงเทพฯ-เพชรฯ อาทิตย์ละ 2 ครั้งเพื่อไปเอาของทะเลสด ๆ อย่าง หมึก กุ้งปลา หอย รวมไปถึงขนมหวาน น้ำตาลโตนด และผักผลไม้อื่น ๆ ของเมืองเพชรมาขายที่กรุงเทพฯ อ่ะค่ะ ..... ด้วยความที่แผงขายอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน อีกทั้งป้าเค้า ลุงเค้า และลูกเค้า (พิมเรียก น้าพราว) ก็เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์มี มนุษยสัมพันธ์ดี ก็เลยทำให้ที่บ้านพิมทั้งบ้าน กับบ้านเค้าทั้งบ้านสนิทกันในเวลาไม่นานอ่ะค่ะ
แต่ว่าเมื่อสัก 2 ปีที่ผ่านมา ลุงเค้ามีปัญหาเรื่องกระดูกหัวเข่า ทำให้ไม่สามารถเดินเหิรและขับรถได้เหมือนเดิม ป้าเค้าก็เลยจำเป็นจะต้องเลิกไป ๆ มา ๆ ระหว่างกรุงเทพฯ กับเพชรบุรี และย้ายกลับไปทำทอดมันขาย กล้วยแขกขายที่หน้าบ้าน รวมไปถึงออกเรือหาปลาเล็ก ๆ น้อย ๆ หาหมึกหากุ้งแทนอ่ะค่ะ
ซึ่งจะว่าไปตั้งแต่ป้าเพชรเค้ายายกลับไปอยู่บ้านที่เพชรบุรีแล้ว พิมกับที่บ้านก็ได้แวะเวียนไปเยี่ยมป้าเค้าถึงที่บ้านแค่ครั้งเดียวเองค่ะ เหตุผลก็คือไม่สะดวกน่ะค่ะ
จวบจนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ... อยู่ดี ๆ แม่พิมเค้านึกยังไงก็ไม่รู้ค่ะ บอกพิมว่าให้โทรศัพท์ไปหาป้าเพชรหน่อยสิ แม่คิดถึงอยากคุยกับแกอ่ะ พิมก็เลยต่อโทรศัพท์ให้แม่ค่ะ .... และหลังจากคุยกันไปได้สักพัก ก็ไม่รู้อีท่าไหน ยังไง แม่พิมก็บอกว่าพรุ่งนี้ไปบ้านป้าเค้ากันซะงั้นค่ะ ....... และนี่ก็เลยเป็นที่ไปที่มาของทริปเพชรบุรีในคราวนี้ล่ะค่า
..................
....... พิมเริ่มต้นการเดินทางด้วยการตื่นตั้งแต่ตอนตี 4 ของเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมทำอาหาร 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็นไว้ให้คุณสามีก่อนจะไปเพชรบุรีค่ะ หลังจากนั้นก็อาบน้ำอาบท่า แต่งตัว เตรียมข้าวของ และมานั่งรอแม่รอน้องอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะออกเดินทางจากบ้านพร้อมกับแม่ น้องชาย 2 และน้องสะใภ้ 1 ด้วยรถส่วนตัวตอนประมาณตี 5 ครึ่ง ท่ามกลางฝนโปรยปรายเล็กน้อยค่ะ
ป.ล. .... อยากจะบอกนิดนึงค่ะว่า เช้าวันที่ไปเนี่ย อากาศเย็นมากเลยค่ะ วัดอุณหภูมิได้ประมาณ 18-19 องศา C เอง แต่ด้วยความประมาทของพิม ในขณะที่ทุกคนเค้าหยิบเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอติดมือกันมาด้วย แต่พิมอ่ะแอบห่วงว่าเรื่องดำอย่างเดียว (ฮ่ะ ๆ) ไม่ได้ห่วงเรื่องความหนาวสักนิด เลยเตรียมไปแค่หมวกกับแว่นตาเท่านั้น เสื้อกันหนาวกับผ้าพันคอรึ ไม่ได้หยิบไปสักชิ้นเลยค่ะ ฮ่ะๆ (คือ จริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าอากาศมันจะเย็น และลมหนาวมันจะแรงขนาดที่ทำให้มือสั่นได้อ่ะค่ะ)
ตอนแรกพิมและที่บ้านตั้งใจกันไว้ว่าคงจะถึงเพชรบุรีก่อน 8 โมงเช้า (คือที่เคยไป มันจะใช้เวลาประมาณนั้นล่ะค่ะ) แต่ด้วยความที่ฝนตกตลอดทาง อีกทั้งตอนผ่านพระราม 9 ไปจนถึงทางขึ้นทางด่วนพระราม 9 ช่วงก่อน 6 โมงเช้าสัก 10 นาที รถก็แอบติดเล็กน้อย >_<" ... เลยทำให้พิมมาถึงเพชรุบรีเอาตอน 8 โมงกว่าๆ ค่ะ
พอมาถึงเขตจังหวัดเพชรบุรี น้องชายคนเล็กของพิม (แต่ตัวไม่เล็ก) ก็ขอให้พี่ชายของเค้า (ก็น้องชายคนโตของพิมล่ะ=คนขับ) ช่วยแวะปั๊มหน่อย เพราะอยากเข้าห้องน้ำ ..... ระหว่างรอน้องเข้าห้องน้ำ พิมก็มองไปเรื่อยเปื่อยรอบปั๊มล่ะค่ะ ก็เจอกับต้นเหลืองปรีดียาธรต้นนี้ที่กำลังออกดอกสะพรั่ง แถมดอกก็ดกเป็นกลุ่มก้อนใหญ่มาก เลยอดถ่ายรูปมาฝากเพื่อน ๆ ไม่ได้ค่ะ
หลังจากน้องชายคนเล็กพิมเข้าห้องน้ำเรียบร้อย พวกเราก็ออกเดินทางเพื่อไปบ้านป้าเพชรกันต่อล่ะค่ะ แต่ว่าระหว่างทาง ก่อนจะถึงบ้านป้าเพชรสักเกือบ 20 โล ....พวกเราก็แอบขอแวะที่ตลาดท่ายาง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ตลาดหนองบ้วยสักหน่อยค่ะ ^^
(ภาพล่างนี่เป็นแปลงเกษตรของชาวบ้านที่อยู่ติดกับพื้นที่ตลาด)
เมื่อมาถึงตลาดหนองบ้วยแล้ว .... พิมก็อยากจะขอพูดถึงที่มาที่ไปของตลาดหนองบ้วยนี่สักหน่อยอ่ะค่ะ เผื่อว่าเพื่อน ๆ จะแอบงงกันนะคะ
ตลาดกลางเกษตรท่ายาง หรือตลาดหนองบ้วย เป็นตลาดศูนย์รวมการซื้อขายผลผลิตทางการเกษตรทั้งพืชผักและผลไม้ จากแหล่งผลิตของเกษตรกรและชาวบ้านในแถบนั้นเองอ่ะค่ะ (จริง ๆ ทางตลาดเค้าโปรโมทว่าเป็นสูนย์รวมผลิตผลการเกษตรของเกษตรกรทั้งประเทศ แต่พิมเห็นส่วนใหญ่ก็มีแค่เกษตรกรของเพชรบุรีเองและจังหวัดใกล้เคียงเท่านั้นเองแหละค่ะ) ......... ซึ่งผลผลิตที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายเนี่ย เกือบจะ 100% ค่อนข้างสดและใหม่มาก เพราะว่าเค้าจะเก็บกันตอนเช้าเย็น เอามาขายตอนเช้ามึด หรือไม่ก็เก็บตอนเช้ามึดแล้วเอามาขายตอนสาย ๆ วันนั้นเลยอ่ะค่ะ แถมนอกจากจะสด มีคุณภาพดีแล้ว ก็ยังมีราคาไม่แพง (เมื่อเทียบกับกรุงเทพฯ) และทั้งพ่อค้าแม่ค้าเค้าไม่มีการขายแบบหมกเม็ดเหมือนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดอื่นอีกหลาย ๆ ตลาดด้วยอ่ะค่ะ
เพราะงั้นเวลาครอบครัวพิมมาที่เพชรบุรีทีไร ก็เลยต้องแวะตลาดนี้ทุกทีเลยค่ะ ^^
ในตลาดแห่งนี้ก็มีพ่อค้าแม่ค้าเอาผักผลไม้มาขายมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นฟักทอง บวบ มะระจีน มะระไทย โหระพา แมงลัก กะเพรา ถั่วพู ถั่วฝักยาว มะนาว ฟักทอง มะเขือยาว พริกสารพัดชนิด ผักบุ้งจีน ข้าวโพดอ่อน ข้าวโพดหวาน กล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วยน้ำว้า กล้วยหักมุก ถั่วแระ กะหล่ำ ผักกาดขาว มะรุม ตำลึง กระเจี๊ยบขาว กระเจี๊ยบแดง แตงไทย ผักกาดขาว องุ่น มะม่วงสารพัดชนิดทั้งดิบสุก ชมพู่เพชร ชมพู่ทับทิมจัน ขนุน ใบตอง ละมุดธรรมชาติ และอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างที่เห็นในภาพเลยค่ะ (จริง ๆ ต้องบอกว่าที่เห็นในภาพเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นเองค่ะ)
พิมกับที่บ้านใช้เวลาเดินเล่น ดูของ ซื้อของกันในตลาดแห่งนี้ประมาณ ชม. กว่าๆ ก้ได้เวลาเดินทางไปบ้านป้าเพชรกันต่อแล้วอ่ะค่ะ
ซึ่งระยะทางจากตลาดหนองบ้วยไปบ้านป้าเพชรนี่ก็ประมาณ 20 กิโลค่ะ น้องชายพิมก็ขับรถแบบเอื่อยเฉื่อย ชมวิวข้างทางไปเรื่อย ๆ
สัก 20 นาทีผ่านไป ..... พวกเราก็ถึงบ้านป้าเพชรกันแล้วล่ะค่ะ ^^ (ขอบอกว่าตอนถึงบ้านป้าเค้านี่ พิมดีใจมากๆ เลยอ่า ไม่ได้เจอป้าเค้านานมากๆ คิดถึงค่ะ)
ตอนที่ไปถึงบ้านป้าเพชรเนี่ย เจอแต่หลาน ๆ ป้าเค้าค่ะ ซึ่งหลาน ๆ ก็บอกว่าป้าเพชรไปตลาด (ก็ตลาดที่เราเพิ่งแวะตะกี้แหละค่ะ) ยังไม่กลับมา ให้รอแป๊บนึง ... พิมก็เลยอาศัยช่วงเวลาระหว่างรอเดินเล่นรอบบ้านป้า ดูอะไรไปพลาง ๆ ล่ะค่ะ
แต่จะว่าไป .. จริง ๆ ทิวทัศน์รอบบ้านป้าเพชรก็ไม่มีอะไรมากค่ะ เพราะว่าบ้านป้าเค้าก็มีแค่ตัวบ้านเฉย ๆ กับต้นไม้อีกเล็กน้อย แต่หนึ่งในต้นไม้ของป้าเค้าก็มีต้นนึงที่พิมเตะตามาก ก็คือ ต้นสาเกอ่ะค่ะ แบบว่า ... ต้นไม่ใหญ่เท่าไหร่ (เล็กกว่าต้นที่บ้านสวนพิมที่จันฯ ประมาณสัก 4 เท่า) แต่ว่าให้ลูกดกมากก.ก.ก.ก.ก. (มากกว่าต้นที่บ้านพิมเป็นสิบเท่าเลยค่ะ >_<" แถมลูกสวย เรียวงาม อวบอ้วนทั้งนั้น น่าอิจฉาจริง ๆ ค่ะ นี่ถ้าเจ้าต้นนี้อยู่ที่บ้านพิม สงสัยได้ทำแกงบวดสาเก สาเกเชื่อมจนหมดต้นแน่ ๆ เลยค่ะ
แล้วแถว ๆ ต้นสาเก ก็มีเล้าเป็ด 2 ตัวด้วยนะคะ ..... จริง ๆ จะพูดว่าเล้าเป็ดก็คงไม่ถนัดปาก เพราะเดิมมันเป็นบ่อน้ำ (ก่อด้วยอ่างซีเมนต์) แต่ว่าหลัง ๆ บ่อไม่ได้ใช้ ป้าเค้าก็เลยสูบน้ำออก แล้วเอาเป็ด 2 ตัวลงไปปล่อยไว้แทนอ่ะค่ะ (ซึ่งป้าเค้ามาบอกทีหลังว่า ได้กินไข่เป็ดวันละฟองทุกวันเลย)
และหลังจากเดินดูรอบบ้านอยู่ไม่นาน ป้ากับลุงก็กลับมาถึงบ้านค่ะ (ส่วนน้าพราวไปทำธุระ อีกเดี๋ยวมา) ... พอป้ามาถึงบ้าน ยังไม่ทันให้พิมได้กล่าวคำสวัสดี ยังไม่ทันได้ทักทายคุยกัน ป้าก็รีบเดินจ้ำอ้าว ๆ ไปหลังบ้าน แล้วก็ลงมือทำปลาใบปอที่ซื้อมา เพื่อให้น้าพราวทำกับเราให้เรากินกันอ่ะค่ะ (ป้าเค้ามาบอกทีหลังว่า กลัวพวกเราหิว เพราะเดินทางกันมาไกล)
ระหว่างทำปลาใบปอที่สดมากๆ ป้าก็แอบมีบ่น ๆ ให้ฟังนิดนึงค่ะว่า ช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาลมทะลแรงมาก เรือประมงลำเล็กออกหาปลาไม่ได้เลย (ออกได้แต่ลำใหญ่บางลำ) เพราะงั้นปลา ของทะเลที่มีขายอยู่ในตลาดก็เลยราคาแพงขึ้นเกือบเท่าตัว อย่างปลาใบปอที่เห็นในภาพด้านล่างนี่ ปกติโลละ 50-60 แต่มาช่วงนี้โลละ 100 บาทเลยอ่ะค่ะ .... พิมก็ อืมๆๆ เข้าใจล่ะค่ะ ของมันหายากเน๊าะ ก็เลยราคาแพงขึ้นเป็นธรรมดาน่ะค่ะ
และหลังจากปลาทำปลาเสร็จ ป้าก็ส่งปลาที่ทำเสร็จแล้วต่อให้น้าพราวที่เพิ่งกลับมาถึงบ้านพอดีเอาไปทำกับข้าวค่ะ แล้วป้าก็ชวนพิม แม่และน้องๆ ไปนั่งคุยทักทายถามไถ่ถึงสารทุกข์สุขดิบในช่วงที่ไม่เจอกันอยู่ที่ม้านั่งใกล้ ๆ กันนั่นแหละค่ะ แล้วสักแป๊บ ไม่ถึง 15 นาที ..... น้าพราวก็เดินมาบอกว่า ทำแกงส้มเสร็จอย่างนึงแล้วนะ (แกงส้มปลาใบปอกับหัวไชเท้า) กำลังจะทำอีกอย่าง ให้เตรียมตัวกินข้าวได้เลย (น้าพราวกับป้าเค้าเคยเปิดร้านเป็นร้านอาหารมาก่อนค่ะ เพราะงั้นเรื่องความรวดเร็วในการทำและความอร่อย ต้องยกนิ้วให้เลยอ่ะ สุดยอดมากๆ ค่ะ)
แล้วหลังจากบอกเราเสร็จ น้าพราวก็เดินไปทำกับข้าวอีกอย่างต่อค่ะ คุณน้องชายพิมเค้าก็ไม่รู้อะไรยังไง ... เดินตามน้าพราวไป พอพิมหันไปอีกที เค้าก็กลายไปเป็นลูกมือคอยผัด ๆ ให้น้าพราวแล้วอ่ะค่ะ ^^"
และแล้วกับข้าวมื้อเช้าของเราในวันนี้ ที่บ้านป้าเพชร @ เพชรบุรี ..... ท่ามกลางอากาศเย็นมาก ลมแรงมาก ก็คือ "แกงส้มปลาใบปอกับหัวไชเท้า" และก็ "ผัดถั่วลันเตากับหมูสามชั้นหั่นบางๆ" ค่ะ
ซึ่งพิมต้องขอย้ำอีกทีค่ะว่าทั้งผัดถั่วลันเตา .... ที่เห็นหน้าตาธรรมดาแบบนี้
กับแกงส้มใบปอกับหัวไชเท้า (รุ่นไม่โขลกปลาต้มใส่ในน้ำแกง) ........ อร่อยมากถึงมากที่สุดเลยค่ะ แกงส้มนี่แบบว่าได้รสแกงส้มเป๊ะ ๆ เปรี้ยวนำ เผ็ด เค็มตาม ไม่หวาน หัวไชเท้าก็สุกกำลังพอดี เนื้อปลาซึ่งสดใหม่ก็หวานนุ่มมากๆ ..... ส่วนผัดถั่วลันเตาก็หวานกรอบสมกับเป็นถั่วลันเตาที่เพิ่งเก็บมาใหม่ ๆ รสชาติก็กลมกล่อม เค็มนิด ๆ หอมหมูสามชั้น ...... อร่อยจริง ๆ ค่ะ
ว่าแล้วน้องชายพิมก็ขอเปิดหม้อข้าวเป็นคนแรกเลยค่ะ ^__^
ตามมาด้วยของพิม
ด้วยความที่โต๊ะกินข้าวเล็ก แต่ต้องนั่งกินกันหลายคน พิมก็เลยขอตักกับแบบราดไปบนข้าวเลย เน้นถั่วลันเตา หัวไชเท้ากับเนื้อปลาค่ะ หมูไม่เน้น ^^ ... แล้วก็ออกไปนั่งกินกับป้าเพชร ที่กำลังเตรียมทอดกล้วยแขกขายที่หน้าบ้านอ่ะค่ะ
ว่าแล้ว ... ตอนนี้ก็ขอจบไว้ตรงนี้ก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวพิมจะมาทยอยต่อตอนที่ 2 (ทอดกล้วยแขกขาย) กับตอนที่ 3 (กินส้มตำเมืองเพชร และพาไปหอยตลับ) อีกทีจ้า