สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้พิมจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวบ้านเมืองอาง ซึ่งเป็นสถานที่ปลูกผักอินทรีย์ของมูลนิธิโครงการหลวงกันบ้างนะคะ
บ้านเมืองอางเป็นหมู่บ้านของชาวเขาเผ่าปกากะญอ ที่อยู่ในตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทองจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ โดยตัวหมู่บ้านจะอยู่ประมาณ กม. ที่ 13 เลี้ยวขวา เข้าไปประมาณ 12 กิโลเมตรนะคะ
เดิมบ้านเมืองอาง ก็เป็นหมู่บ้านที่ปลูกผัก ปลูกข้าว เลี้ยงสัตว์แบบชาวเขาปกติทั่วไป แต่ว่ามูลนิธิโครงการหลวงที่อยู่ในเขตอินทนนท์ อยากจะช่วยพัฒนาชีวิตของชาวเขาในละแวกนี้ให้ดีขึ้น จึงมาแนะนำชาวบ้านที่นี่ให้ปลูกผักแบบปลอดสารแทนการปลูกผักแบบเดิมค่ะ ^_^
การเข้าไปยี่ยมชมการปลูกผักอินทรีย์ของบ้านเมืองอางเนี่ย จะว่าไปแล้วใครๆ ก็เข้าไปเยี่ยมชมได้นะคะ เพียงแต่ว่าก่อนเข้าไปจะต้องติดต่อที่โครงการหลวงก่อน เพราะโครงการหลวงจะเป็นหน่วยงานที่ดูแลบ้านเมืองอางอีกทีน่ะค่ะ และรถที่สามารถเข้าไปบ้านเมืองอางได้ ก็จะต้องเป็นรถมอเตอร์ไซด์ ไม่ก็กระบะ หรือโฟร์วิลเท่านั้น เพราะเส้นทางค่อนข้างแคบและทุรดันการนิดนึง เกินกว่ารถเก๋ง หรือรถตู้จะเข้าไปได้นะคะ
พูดถึงการปลูกผักอินทรีย์ของโครงการหลวงแล้ว ... พิมก็อยากจะเล่าให้ฟังนิดค่ะว่า โครงการหลวงเริ่มโครงการปลูกผักอินทรีย์มาตั้งแต่ปี 2545 นะคะ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโครงการที่เน้นการปลูกผักเมืองหนาว ให้เหมาะสมกับธรรมชาติและอากาศ โดยการปลูกผักทั้งหมดจะไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช่เมล็ดพืชที่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม ใช้ระบบการปลูกพืชแบบผสมผสาน การปลูกพืชหมุนเวียน และใช้ความได้เปรียบของพื้นที่สูงในการเพิ่มความทนทานต่อโรคและแมลงให้กับพืชที่ปลูกอีกด้วยอ่ะค่ะ
ซึ่งการปลูกผักอินทรีย์ของที่บ้านเมืองอาง ก็จะมีเจ้าหน้าที่จากโครงการหลวงเข้ามาวางแผนให้ตลอดทั้งปี ว่าเดือนนี้ๆ เกษตรกรครัวเรือนนี้จะปลูกผักอะไรนะคะ โดยใน 1 ปี เกษตรกร 1 ครัวเรือน (ทั้งหมดมี 121 ครัวเรือน) จะปลูกผักทั้งหมด 8 ชนิด (เดือนละ 1 ชนิด) หมุนเวียนกันไป โดยจะมีทั้งผักแบบปลูกในโรงเรือน เช่น กวางตุ้งฮ่องกง ผักสลัด และผักแบบปลูกนอกโรงเรือนได้ เช่น เบบี้แครอท ถั่วแขกด้วยอ่ะค่ะ
สำหรับการปลูกแบบโรงเรือน โรงเรือนของที่นี่แต่ละหลังจะมีพื้นที่ประมาณ 180 ตารางเมตรนะคะ โดยเกษตรกรครัวเรือนนึงจะปลูกกี่โรงเรือนก็ได้ ตามที่สะดวกอ่ะค่ะ และผลิตผลของผักโดยทั่วไปต่อ 1 โรงเรือน จะอยู่ที่ประมาณ 200 กิโลกรัมต่อการเก็บ 1 ครั้งนะคะ (1 ครั้ง คือ 1 รอบเดือน) โดยผักที่ทางโครงการหลวงแนะนำให้ชาวบ้านปลูก ก็จะเป็นผักอายุสั้น ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเพาะกล้า 7 วัน และระยะเวลาในการปลูกไม่เกิน 21 วัน ค่ะ ^_^
ในวันที่พิมเดินทางไปเนี่ย ทางโครงการหลวงก็ได้พาพิมและคณะไปชมโรงเรือนปลูกผักอินทรีย์ของเกษตรกรคนนึงนะคะ ซึ่งตอนที่พิมไป โรงเรือนของพี่เค้ากำลังปลูกผักเบบี้กวางตุ้งที่กำลังเก็บเกี่ยวได้อยู่พอดีเลยอ่ะค่ะ
พี่เค้าก็เล่าให้พิมและพวกเราฟังว่า ผักกวางตุ้งเนี่ยจะมีระยะเพาะกล้า คือนับตั้งแต่เพาะเม็ดลงกระบะจนเอาไปแยกปลูกได้ ที่ระยะเวลาประมาณ 7 วันนะคะ โดยเกษตรกรของที่นี่ก็จะมาช่วยกันเพาะกล้าโดยไม่เกี่ยงว่าเป็นของเค้าหรือของเราอ่ะค่ะ คือเค้าจะช่วยกันเพาะนับเป็นร้อย ๆ ถาดเลย แต่ว่าที่ถาดเพาะแต่ละถาดก็จะมีรหัสประจำตัวเกษตรเขียนติดเอาไว้ เพื่อกันสับสนนะคะ
และพอต้นกล้าเติบโตได้ที่ เกษตรกรผู้เป็นเจ้าของกระบะเพาะกล้านั้น ๆ ก็จะมาย้ายกล้าลงไปปลูกในแปลงในโรงเรือนของตัวเองอ่ะค่ะ
และในระหว่างปลูก ชาวบ้านก็จะใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ (ที่มีอยู่ไม่มาก แต่ระบบการจัดการดี) มารดน้ำต้นไม้โดยใช้ระบบสปริงเกอร์นะคะ และก็จะไม่ใช้สารเคมีใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการฉีดยาฆ่าแมลง หากจะใส่ปุ๋ย ก็จะเป็นปุ๋ยอินทรีที่ชาวบ้านหมักจากขี้วัวขี้ควายที่ชาวบ้านเลี้ยงกันเองตามธรรมชาติอ่ะค่ะ ........ และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 21 วัน เราก็จะได้ผักเบบี้กวางตุ้งออกมางามอย่างในภาพด้านล่างนี้เลยนะคะ
ซึ่งในขั้นตอนการตัดผักเนี่ย ก็เหมือนขั้นตอนการเพาะกล้าค่ะ หากโรงเรือนไหนถึงวันตัดผักได้ เกษตรกรคนอื่นๆ ก็จะมารวมตัวช่วยกันตัดผัก ล้างผักนะคะ ซึ่งในขั้นตอนการล้างเนี่ย เค้าก็จะล้างด้วยน้ำจากธรรมชาติที่กักเก็บเอาไว้ และล้างกันทุกซอทุกมุมของต้นผัก ก่อนจะนำไปส่งขายให้กับโครงการหลวง ก่อนที่โครงการหลวงจะไปจัดจำหน่ายต่ออ่ะค่ะ ^_^
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากไปชมการปลูกผักอินทรีย์แบบนี้ของชาวบ้านเมืองอางบ้าง หรืออยากทราบว่าเดือนไหนชาวบ้านปลูกผักอะไรบ้าง ก็สามารถติดต่อได้ที่โครงการหลวงเลยนะคะ เบอร์โทร 053-286777 และ 053-286778 ....... สวัสดีค่ะ ^_^