วันนี้พิมอยากจะมาชวนเพื่อนๆ คุยถึงเรื่องน้ำมันมะพร้าวอ่ะค่ะ
เนื่องจากเมื่อสัก 2 อาทิตย์ก่อนทางบริษัทเทพผดุงพรมะพร้าว ซึ่งเป็นเจ้าของสินค้าแบรนด์ชาวเกาะ ได้ส่งน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% ตราชาวเกาะ ขนาด 200 มล. กับ 400 มล. มาให้พิมได้ลองใช้ พิมก็เลยนึกอยากคุยเรื่องน้ำมันมะพร้าวกับเพื่อนๆ อ่ะค่ะ
พูดถึงน้ำมันมะพร้าวแล้วเนี่ย สมัยตอนพิมยังเป็นเด็กๆ ที่บ้านพิมจะปลูกต้นมะพร้าวไว้เยอะค่ะ นับๆ ดูจากความทรงจำก็น่าจะมีเกิน 20 ต้น เวลาจะทำกับข้าวทำขนมอะไรที่ต้องใช้มะพร้าว แม่หรือไม่ก็ยายก็จะเดินไปสอยมะพร้าวเอาจากที่ต้นสูงๆ ค่ะ แต่มีบางช่วงเหมือนกันที่มะพร้าวแก่มากจนกินไม่ทัน ยายก็จะเอามะพร้าวมาคั้นเป็นน้ำกะทิ แล้วเอาไปเคี่ยวให้เป็นน้ำมันมะพร้าวเพื่อนำมาไว้ใช้ทำอาหารทำขนม รวมไปถึงนำมาหมักผมทาผิวด้วยอ่ะค่ะ ซึ่งน้ำมันมะพร้าวแบบนี้เป็นการสกัดด้วยความร้อน ทำให้คุณค่าทางสารอาหารหรือคุณประโยชน์อันดีของน้ำมันมะพร้าวหายไปเยอะ แต่ในสมัยนั้นเมื่อสัก 20 กว่าปีมาแล้ว เราก็ไม่รู้อ่ะนะคะ เพราะเราไม่มีวิธีการสกัดแบบอื่นมาเปรียบเทียบ เมื่อเห็นว่าวิธีนี้ได้ผลดีอยู่ประมาณนึงแล้ว ก็ใช้วิธีนี้กันต่อ ๆ มา
จนกระทั่งพิมโตเป็นผู้ใหญ่ ก็พบว่าการสกัดน้ำมันมะพร้าว นอกจากใช้วิธีเคี่ยวแล้วเนี่ย ก็ยังมีการสกัดที่เรียกว่าสกัดเย็นอีกด้วย ซึ่งกรรมวิธีนี้เนี่ยนะคะเป็นการสกัดน้ำมันโดยไม่ผ่านความร้อน ทำให้สามารถคงคุณค่าของน้ำมันมะพร้าวไว้ได้อย่างเต็มที่เลยอ่ะค่ะ
น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% ที่ได้จากการสกัดเย็น จะประกอบไปด้วยกรดไขมันอิ่มตัวหลายชนิดซึ่งดีต่อร่างกายเรา และด้วยความที่น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์เป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวมากที่สุดในโลก ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงว่าเมื่อทานเข้าไปแล้วจะเกิดอนุมูลอิสระที่สร้างความเสื่อมให้กับร่างกายของเรา และนอกจากจะไม่สร้างผลร้ายกับร่างกายเราแล้ว กรดเหล่านี้เนี่ยจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ทำให้ไขมันจากน้ำมันมะพร้าวไม่สะสมอยู่ในร่างกายเราเหมือนน้ำมันชนิดอื่นๆ น่ะค่ะ
แล้วด้วยความที่คุณสมบัติของน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์จะทนต่อความร้อนได้มาก เมื่อเราเอาไปทำอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูง เช่นการทอด หรือแม้กระทั่งการผัด-แกงโดยทั่วๆ ไป ก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องของการกลายเป็นไขมันทรานส์ ทำให้ไม่เกิดสารก่อมะเร็ง อีกทั้งยังลดการอักเสบของหลอดเลือดอันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดหลอดเลือดอุดตัน และโรคหัวใจ แล้วที่สำคัญไม่เหม็นหืนง่ายเมื่อเทียบกับน้ำมันที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวทั่วไปอีกด้วยค่ะ
ปกติแล้วในชีวิตประจำวันของพิม พิมก็มักจะเอาน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% เนี่ยมาหมักผมและทาผิวค่ะ
วิธีการหมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ของพิมก็คือ พิมจะใช้น้ำมันมะพร้าวชโลมบนผมที่แห้งๆ นะคะ โดยเน้นในส่วนของปลายผม หมักไว้สักประมาณ 30 นาที - 1 ชม. ล้างด้วยน้ำเปล่า สระด้วยแชมพู 2 ครั้ง ตบท้ายด้วยครีมนวดเป็นอันเรียบร้อยค่ะ
ส่วนทาผิว พิมก็ใช้น้ำมันมะพร้าวผสมกับโลชั่นในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 หรือถ้าช่วงไหนอากาศเย็นมากๆ หรือต้องไปที่หนาวๆ พิมก็จะใช้แทนโลชั่นเลยค่ะ ช่วยแก้ปัญหาผิวแห้งแตกระแหงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดี แถมถ้าเอาไปนวดที่เล็บก็ยังช่วยบำรุงเล็บให้แข็งแรงขึ้นอีกด้วยนะคะ
แล้วในบางครั้งเวลาที่พิมไปออกงานข้างนอก พิมต้องแต่งหน้า พอกลับถึงบ้านพิมก็จะใช้น้ำมันมะพร้าวนี่แหละค่ะ ช่วยล้างเครื่องสำอางค์ออกจากใบหน้า วิธีใช้ก็คือหยดน้ำมันมะพร้าว 2-3 หยดลงบนแผ่นสำลี แล้วค่อยๆ เช็ดคราบเครื่องสำอางค์ออก พอเช็ดหมดทั่วหน้าไปรอบนึงแล้ว ก็ให้เช็ดอีกรอบ แล้วทิ้งไว้ 10 นาทีก่อนจะล้างหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าสะอาดและเนียนนุ่มมากๆ เรียกว่าคุณประโยชน์หลากหลายเลยค่ะ
นอกจากในเรื่องของการบำรุงผิวบำรุงผมแล้ว พิมก็ยังเคยเอาน้ำมันมะพร้าวมาทำขนมและอาหารอีกด้วยนะคะ เช่น บ้าบิ่น ชิฟฟ่อนมะพร้าวอ่อน คัพเค้กมะพร้าว หรือแม้กระทั่งผัดผัก ก็เข้ากันได้ดีเลยค่ะ
นอกจากนี้พิมยังพอจะรู้มาว่า ถ้าเราใช้น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ อมกลั้วปากในลักษณะเดียวกับการใช้น้ำยาบ้วนปาก ก็จะช่วยขจัดเชื้อโรคในปากและลำคอ แล้วยังช่วยลดกลิ่นปาก ทำให้ลมหายใจสดชื่นด้วยอ่ะค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วเนี่ย ถ้าเราซื้อน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% มาแล้ว พิมแนะนำว่าให้เก็บไว้ในอุณหภูมิที่สูงกว่า 25 องศาเซลเซียสนะคะ เพราะไม่งั้นน้ำมันจะเป็นไขได้ แต่ถ้าเกิดเก็บไว้แล้วเป็นไข ก็ให้เอาขวดน้ำมันมะพร้าวใปแช่ในน้ำอุ่นสัก 3-5 นาที น้ำมันของเราก็จะกลับมาใสปิ๊งเหมือนเดิมแล้วค่ะ
ยังไงถ้าสนใจน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% ตราชาวเกาะ ก็สามารถหาซื้อได้ที่ www.lazada.co.th และตามร้านค้าชั้นนำทั่วไปนะคะ แล้วพบกับพิมกับผลิตภัณฑ์ดีๆ ได้ในครั้งถัดไปค่า ^_^