ใครอยากกินแกงส้มผักรวมบ้างค๊า.า.า...า.า. ยกมือขึ้นเลยจ้า เอ๊าา !! ใครยกมือไว เรามีแถมปลาช่อนแดดเดียวทอด ไว้ให้กินแอ้มกับแกงส้มด้วยน๊า ^__^
...... ถ้าถามพิมว่าอาหารอะไรที่แม่พิมกับน้องพิมเค้าชอบเหมือน ๆ กัน หนึ่งในนั้นก็คงจะต้องยกให้ "แกงส้ม" เค้าล่ะค่ะ
สำหรับแม่พิมเนี่ย เวลาเค้าเบื่ออาหาร ไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี เค้าก็จะนึกถึงแกงส้มก่อนเป็นอย่างแรกเลยค่ะ เพราะว่าแม่พิมน่ะชอบกินแกงส้มมาก โดยเฉพาะแกงส้มผักบุ้งไทย กินแอ้มกับปลาสลิดหรือปลาช่อนเค็มตัวเล็ก ๆ ทอด .... ถือได้ว่าเป็นกับข้าวชามโปรดของแม่พิมเลยค่ะ ส่วนน้องชายคนเล็กของพิมน่ะ ก็เหมือนๆ ว่าจะติดนิสัยความชอบบางอย่างจากแม่มา เพราะงั้นเวลาเค้าเบื่ออาหาร ไม่รู้จะกินอะไรดี เค้าก็นึกถึงแกงส้มเป็นอย่างแรก ๆ เหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะแกงส้มผักบุ้งกับไข่เจียว อันนี้เนี่ยเป็นชามโปรดของเค้าเลยค่ะ หากทำเมื่อไหร่นะ น้องชายพิมจะกินข้าวทีนึงเป็นกาละมังเลยค่า ^^
เมื่อพูดถึงแกงส้มเนี่ย ... จะว่าไป ถือเป็นอีกอาหารอย่างนึงที่พิมคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ๆ เลยนะคะ (ส่วนใหญ่ก็จะคุ้นเคยพวกแกง พวกอะไรที่ไทยๆ นี่แหละค่ะ) เพราะสมัยก่อน ..... อย่างที่พิมเคยบอกเคยเล่าให้ฟัง .... ตอนเด็ก ๆ บ้านพิมอยู่ติดคลองแสนแสบค่ะ แล้วคลองในสมัยก่อนนั้นเนี่ย (สมัยพิมยังเด็กเล็กๆ อ่ะ) น้ำใสในระดับนึงเลยค่ะ ยิ่งช่วงไหนหน้าฝน ฝนตกหนัก น้ำก็จะยิ่งใสมากขึ้น แล้วปลาก็จะเยอะค่ะ ทั้งปลาดุก ปลาหมอ ปลานิล ปลาสลิด ปลาช่อน ปลาตะเพียน ปลาสังฆวาส รวมไปถึงปลาเล็กปลาน้อยต่าง ๆ
แล้วช่วงนั้นน่ะ ... ที่บ้านพิมจะมีอุปกรณ์หาปลาเยอะมาก หลากหลายชนิดค่ะ .... ก็คนริมคลองสมัยก่อนเน๊าะค่ะ นอกจากทำไร่ทำนาแล้วก็หาปลาเป็นงานอดิเรกหลักอ่ะ ... เพราะงั้นที่บ้านพิมเลยมีทั้งเบ็ดตกปลา เบ็ดทงปลา มีทั้งยอ ทั้งแห ทั้งตาข่าย ทั้งลอบ ทั้งไซ ... แม่พิมซึ่งปลูกผักบุ้งผักกระเฉดขายอยู่ตอนนั้น ช่วงเช้าก่อนจะออกไปจัดการงานนางานไร่ ก็เลยมักจะหอบหิ้วเอาอุปกรณ์หาปลาทั้งหลายติดไม้ติดมือไปด้วย พอช่วงว่างจากเก็บผักกระเฉดเก็บผักบุ้ง แม่ก็จะวางข่ายริมคลองบ้าง วางลอบ ทงเบ็ดทิ้งไว้บ้าง หรือไม่ก็หากเด็ดร่มล่มดี ก็จะไปนั่งตกปลาอยู่ใต้ต้นทองหลางต้นใหญ่บ้าง .... ซึ่งพอตกเย็นกลับมา นอกจากแม่จะได้ผักบุ้งผักกระเฉดกลับมาแล้ว แม่ก็ยังจะมีปลาโน่นปลานี่ติดไม้ติดมือกลับมาบ้านด้วยเสมอ ๆ อ่ะค่ะ
แล้วหนึ่งในเมนูในสมัยนั้นที่แม่พิม ยายพิมมักจะทำให้กินบ่อย ๆ ก็หนีไม่พ้น แกงส้มปลาช่อน-ปลาหมอ ใส่ผักบุ้งผักกระเฉดล่ะค่ะ เรียกว่ากินกันหน้าเป็นผักบุ้ง ตัวเป็นปลาเลยอ่ะ ฮ่ะๆ
มาวันนี้ ..... ในโอกาสที่ทำแกงส้มกินในวันธรรมดา (ปกติทำแต่วันเสาร์อาทิตย์ค่ะ เพราะถ้าทำวันธรรมดา พิมกินคนเดียว คุณสามีพิมเค้าไม่กินแกงส้มภาคกลางอ่ะ) .... ก็เลยขอแว๊บเอาสูตรกับวิธีทำมาฝากเพื่อน ๆ ในครัวบ้านพิมซะหน่อยค่ะ เผื่อใครทำไม่เป็นแล้วอยากเอาไปเป็นแนวทางเน๊าะค่ะ ^^
ก่อนอื่นตามธรรมเนียม .. ก็มาดูหน้าตากันก่อนเลยจ้า นี่ค่ะ "แกงส้มผักรวมมิตร ใส่กุ้งสด" ... ฝีมือพิม หน้าตาเป็นงี้เลยน๊า พอใช้ได้ม่ะค่ะ ^^
ดูหน้าตาไปแล้ว ก็มาดูวิธีทำกันเลยดีกว่า ... แต่ก่อนจะไปลงมือทำแกงส้ม ก็มาตำพริกแกงกันไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
:: ส่วนผสมสำหรับตำพริกแกงส้ม (สูตรของที่บ้านพิม) ::
- หอมแดง 8 หัว
- กระชาย 8 ราก
- พริกแห้งเม็ดใหญ่ป่นหยาบ 3 ชต.
- พริกขี้หนูแห้งป่นหยาบ 1 1/2 ชต.
- กะปิ 1 1/4 ชต.
ป.ล. สำหรับส่วนผสมที่ใช้ตำพริกแกงส้มของแต่ละบ้านเนี่ย พิมเชื่อว่า "ส่วนใหญ่...จะไม่เหมือนกัน" นะคะ ... บางบ้านก็อาจจะใส่กระเทียมด้วย บางบ้านอาจจะใส่ขา ใส่ตะไคร้ บางบ้านอาจจะใส่ผิวมะกรูดด้วย และบางบ้านอาจจะหนักกะปิ บางบ้านอาจจะไม่ใส่กระชายเหมือนบ้านพิม ...... ก็แล้วแต่สูตรของแต่ละบ้านนะคะ ไม่มีอันไหนถูก ไม่มีอันไหนผิด ... ค่ะ
ก่อนจะลงมือตำพริกแกงก็มาดูส่วนผสมพริกแกงแต่ละอย่างก่อนนะคะ ..... อย่างแรกคือ หอมแดง ... พิมเลือกใช้หอมแดงของไทยเรานี่แหละค่ะ หัวขนาดประมาณปลายนิ้วหัวแม่มือ/ปลายนิ้วชี้ ประมาณ 8 หัวค่ะ (ถ้าหัวเล็กหน่อยก็สัก 10 หัว) ปอกเปลือก ล้างน้ำ แล้วก็หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้นะคะ
กระชาย .... พิมเลือกใช้กระชายบ้านที่ปลูกเองค่ะ เพราะว่าเค้าจะหอมกว่ากระชายที่ซื้อตามตลาด เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการเร่งให้โต ... ก็เอากระชายมาล้างน้ำให้สะอาด (เอาแต่รากนะคะ หัวไม่เอา) ขูดผิวออกบ้าง แล้วก็หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พักไว้ก่อนค่ะ
ต่อมาก็เป็นพริกแห้งนะคะ .... ใครที่ไม่ค่อยชอบเผ็ด ก็ให้ใช้แต่พริกแห้งเม็ดใหญ่อย่างเดียวก็พอค่ะ (แต่เพิ่มปริมาณเป็นสัก 4 1/2 ชต.) แต่ใครที่ชอบให้แกงส้มเผ็ดหน่อย ๆ อย่างพิม ก็ใส่พริกขี้หนูแห้งผสมไปด้วยนะคะ .. ซึ่งสำหรับพริกทั้งสองอย่างเนี่ย ไม่ต้องคั่วก่อนนะคะ แค่เอาไปตากแดดจัด ๆ ให้กรอบนิดนึง แล้วเอามาโขลกหยาบๆ แบบในภาพไว้ก็ใช้ได้แล้วค่ะ
ป.ล. สมัยโบราณเค้าจะใช้พริกแห้งเม็ดใหญ่หั่นเป็นชิ้นขนาดกว้างประมาณ 1.5 ซม. เอาไปแช่น้ำเปล่าให้นิ่ม พอนิ่มดีก็เอามาโขลกรวมกับเครื่องแกงอย่างอื่น ซึ่งตอนโขลกก็จะใส่เกลือไปนิดหน่อยเพื่อให้กระเด็นน้อยลง ... ซึ่งถ้าใครไม่มีพริกป่นอยู่ จะใช้วิธีแบบสมัยโบราณนี่ก็ได้นะคะ ส่วนพิมขอใช้วิธีลัดเอาล่ะกันจ้า แบบว่าขี้เกียจอ่ะ >_<'
ป.ล. สำหรับพริกแห้งเม็ดใหญ่ ให้เลือกที่เม็ดสีออกส้ม ๆ หน่อยนะคะ เป็นสีส้มแดงก็ได้ แกงส้มของเราจะได้ออกมาเป็นสีส้ม สมชื่ออ่ะค่ะ
------------------------
ส่วนกะปิ ก็เลือกกะปิดี ๆ นะคะ ใครที่ชอบกลิ่นกะปิมากน้อย อาจจะเพิ่มกะปิมากกว่าในสูตรสักหน่อยก็ได้ค่ะ
จากนั้นเมื่อเราเตรียมเครื่องแกงครบแล้ว ก็มาลงมือตำกันได้เลยค่ะ
...... เริ่มต้นด้วยการโขลกหอมกับกระชายให้ละเอียด (จะเอาไปปั่นก็ได้น๊า หรือบดด้วยเครื่องบดก็ได้อ่ะค่ะ) ซึ่งพอละเอียดประมาณนึง ก็ใส่พริกป่นที่เราเตรียมไว้ลงไป ตามด้วยกะปิ แล้วก็โขลกให้เข้ากันแบบในภาพด้านล่าง ..... เราก็จะได้น้ำพริกแกงส้มมาแล้วนะคะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุงสำหรับทำแกงส้ม ::
- น้ำพริกแกงส้ม 4 ชต.
- เนื้อปลา 100 กรัม
- น้ำซุป 4 1/2 ถ้วย
- มะขามเปียกชนิดไม่มีเม็ด 50 กรัม ...... (คั้นเอาน้ำมะขาม 1/2 ถ้วย)
- น้ำตาลปี๊บ 2 - 3 ชต.
- เกลือป่น 2 ชต.
- น้ำปลา 2 - 3 ชต.
- มะนาวน้ำดีๆ 1 ลูก
- ผักต่างๆ ตามชอบ
- กุ้งสดแกะเปลือกแล้ว ปริมาณตามชอบ (พิมใส่ไปประมาณ 15 ตัว / ไม่มีรูปนะคะ)
ป.ล. ปริมาณน้ำปลา + น้ำตาล + เกลือป่น + น้ำมะนาว ที่ใช้ ......... ขึ้นกับรสชาติมะขามเปียกด้วยนะคะ
:: วิธีทำ ::
เมื่อเตรียมเครื่องต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการลงมือทำ ลงมือปรุงนะคะ
เริ่มต้นเลย ..... หากเรายังไม่ได้ต้มปลา ก็ให้เราเอาปลาไปต้มไว้ก่อนเลยนะคะ วิธีต้มปลาของพิมก็คือ ใส่น้ำลงไปในหม้อ นำหม้อไปตั้งไฟ จนน้ำเดือดก็ใส่ปลาลงไป ใส่เกลือตามไปหยิบมือนึง รอจนน้ำเดือดอีกครั้งและปลาสุกดี ก็ตักขึ้นพักไว้ให้เย็นค่ะ
อ้อๆ ... สำหรับปลาเนี่ย ปกติพิมใช้ปลาช่อน ปลานิลนะคะ แต่เพื่อนๆ จะใช้ปลาอย่างอื่นที่มีในท้องถิ่นแทนก็ได้ (ที่คิดว่ามันน่าจะแทนกันได้อ่ะนะคะ) แล้วก็จะต้มแบบต้มทั้งตัวทั้งหัว แล้วค่อยมาแกะแก้งออกทีหลัง หรือต้มแบบแล่เอาเฉพาะแต่เนื้อมาต้มอย่างพิมนี่ก็ได้ค่ะ
จากนั้นเมื่อต้มปลาเสร็จแล้ว หากเป็นการต้มแบบทั้งหัวทั้งตัว ก็แกะเอาแต่เนื้อออกมาให้เรียบร้อยนะคะ (ก้างไม่เอาจ้า ทิ้งไปเลย) แต่ถ้าเป็นการต้มแต่เนื้อปลาก็ไม่ต้องทำอะไร
และเมื่อได้เนื้อปลาต้มมาแล้ว ก็เอาเนื้อปลาใส่ในครกนะคะ โขลกด้วยสากให้แหลก พอแหลกดีก็ใส่พริกแกงส้มตามลงไป โขลกอีกครั้งให้เข้ากันดีเป็นเนื้อเดียวกันอ่ะค่ะ .... (และก็พักเอาไว้ก่อน)
ป.ล. จะใช้เนื้อกุ้งแทนเนื้อปลาก็ได้ ตามชอบเลย
ต่อมาก็หันมาแช่มะขามเปียกด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เพื่อทำน้ำมะขามเปียกกันนะคะ ..... สำหรับมะขามเปียกเนี่ย โดยปรกติจะมีรสเปรี้ยวนำมาก ๆ แต่ปัจจุบันบางทีซื้อมาก็เจอแบบรสเปรี้ยวอมหวานซะมากกว่า ยังไงก็ลองเลือก ๆ ดูนะคะ
ป.ล. มะขามเปียกตอนนี้แพงมากเลยจ้า แถวบ้านพิมโลละ 100 อ่ะ ยังไงถ้าใครคั้นน้ำมะขามเปียกแล้วเหลือ ก็อย่าลืมเอาที่เหลือ + พร้อมเนื้อที่เหลือๆ ติดก้าน ผสมดินสอพองสักหน่อย ขมิ้นสักนิด คนด้วยปลายนิ้วให้เข้ากันดี แล้วเอาไปขัดตามข้อศอก หัวเข่า ซอกแขนขา ตาตุ่มดูนะคะ. ... รับรองผิวจะนุ่มเนียน ขาวนวลขึ้นจนรู้สึกได้เลยค่ะ ^^
ส่วนผักที่พิมใช้ในวันนี้ ก็เป็นผักที่หาได้จากก้นตู้เย็นอ่ะค่ะ ไม่ได้ไปซื้อมาใหม่เลย ...... ก็มีกวางตุ้งดอก กระเจี๊ยบเขียว ถั่วพู ที่เหลือจากจิ้มน้ำพริกกะปิกุ้งสดวันก่อน มีถั่วฝักยาว แครอทที่เหลือจากน้องสาวเอามาตำส้ม และก็มีผักกาดขาวที่เหลือจากพิมแกงจืดเมื่ออาทิตย์ก่อนอ่ะค่ะ (รวมมิตรผักเหลือเลยนะเนี่ย) ... ก็เอาผักทั้งหมดล้างให้สะอาด และใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำนะคะ
สำหรับผักกาดขาว พิมใช้ประมาณ 4 กาบ ... ก็เอามาผ่าครึ่งตามยาว แล้วปั่นเป็นชิ้นย่อมๆ ค่ะ
แครอท ... ก็ปอกเปลือกสักหน่อย แล้วใช้ที่ขูดเส้นมะละกอ ขูดให้เป็นร่องโดยรอบ ก่อนจะหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ให้ดูเหมือนดอกไม้แบบในภาพอ่ะค่ะ (ใส่เพื่อความสวยงามนะอันนี้)
ถั่วพู .... ก็ตัดหัวตัดท้ายทิ้งนะคะ แล้วหั่นเป็นชิ้นย่อม ๆ ขนาดยาวสัก 1.5 ซม.อ่ะค่ะ
ถั่วฝักยาว .... ก็ตัดหัวตัดท้ายทิ้งเหมือนถั่วพูนะคะ แล้วหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ ยาวสักท่อนละ 1 นิ้วก็พอค่ะ
กวางตุ้งดอก ... ก็ตัดโคนแข็ง ๆ ที่แก่ ๆ ทิ้งไปนะคะ แล้วก็หั่นเป็นท่อนสั้น ยาวท่อนละสัก 1 นิ้วค่ะ
ส่วนกระเจี๊ยบ ... ก็ตัดโคนแข็ง ๆ ทิ้งไปเหมือนกัน แล้วก็หั่นเป็นท่อนสั้น สักท่อนละ 1.5 ซม. นะคะ
สุดท้ายเมื่อหั่นผักเสร็จทุกอย่าง ก็เอามาใส่รวมกันไว้ในกาละมังแบบนี้ค่ะ
ป.ล. ถ้ามีผักบางอย่างที่เนื้อแข็งกว่าเพื่อน เช่น ดอกกะหล่ำ บร๊อคโคลี่ มะละกอ มะรุม ให้แยกไว้ต่างหากนะคะ เพราะเราจะต้องเอาลงไปลวกหรือต้มให้สุกก่อน ถึงค่อยใส่ผักที่สุกง่ายอย่างที่พิมใช้ลงไปอ่ะค่ะ
จากนั้นก็มาเริ่มลงมือปรุงแกงส้มกันเลยค่ะ .... เริ่มต้นการด้วยใส่น้ำซุปลงในหม้อที่เราจะใช้แกง
รอให้น้ำซุปเดือดสักหน่อย
ก็ตักน้ำซุปสัก 2 - 3 ทัพพีใส่ลงในถ้วยพริกแกง (ที่เราโขลกรวมกับเนื้อปลาเอาไว้แล้ว) และก็เอาทัพพียี ๆ ให้พริกแกงแตกตัวออกจากกัน ไม่เกาะกันเป็นก้อนอ่ะนะคะ ... แล้วจึงค่อยเทส่วนผสมพริกแกงกับเนื้อปลาโขลก ใส่ลงไปในหม้อน้ำซุป ค่ะ
ต่อมาก็ทำการปรุงรสแกงส้มด้วยน้ำตาล (จะใช้น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลทรายได้ค่ะ ตามสะดวก) เกลือป่น น้ำปลาดี ๆ และก็น้ำมะขามเปียก .... คนให้เข้ากัน แล้วชิมให้ได้สี่รสะแบบเข้มข้นหน่อย (แต่ว่าไม่ต้องถึงกับเข้มข้นสุดๆ) เพราะว่าเดี๋ยวพอใส่ผักไป มันจะจืดลงอีกนิดอ่ะค่ะ (เปรี้ยวนำ เผ็ดตามชอบ เค็มกับหวาน มีพอให้กลมกล่อม)
แล้วเราก็จะได้น้ำแกงส้มออกมาประมาณนี้ค่ะ
รอให้น้ำแกงส้มเดือดดีก็ใส่ผักที่เราเตรียมไว้ทั้งหมดลงไป ... ใช้ทัพพีกดๆ หน่อยให้ผักจมน้ำ
ป.ล. ถ้าเป็นผักที่สุกยากอย่าง ดอกกะหล่ำ แครอท บร๊อคโคลี่ พวกนี้ ให้เราเอาไปต้มในน้ำเปล่า (แล้วเอาน้ำเปล่านั่นมาเป็นส่วนนึงของน้ำซุป เพราะมีความหวานจากผักที่เราเอาไปต้ม) หรือต้มในน้ำแกงส้มที่ยังไม่ได้ปรุงรส (แค่ละลายพริกแกงกับปลาลงไป) ให้สุกก่อน ถึงจะค่อยมาใส่พร้อมกับผักพวกนี้อีกทีนะคะ
ตามด้วยกุ้งสดที่แกะเปลือกแล้ว ... ปริมาณตามชอบ
และก็บีบมะนาวตามลงไปสัก 1 ลูก เพื่อชูรสเปรี้ยวให้เด่นชัดยิ่งขึ้น
จากนั้นก็ปล่อยให้เดือดอีกสักครั้งนึง ก่อนจะปิดไฟเตา .... ก็เป็นอันว่าเราทำแกงส้มผักรวมกุ้งสดเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
และเมื่อถึงเวลาจะทาน ... ก็ตักใส่ชามแบบนี้นะคะ หรือถ้าใครชอบแบบราดหน้าไปเลย ก็ได้เช่นกันค่ะ ^^
แกงส้มแบบใส่ผักหลากหลายอย่างนี้เนี่ย .... พิมว่าสมัยนี้ถ้าไม่ทำกินเองตามบ้าน ก็จะหากินยากค่ะ เพราะไปไหนมาไหนส่วนใหญ่จะเจอแต่แกงส้มมะละกอกับกุ้งสดทั้งนั้น
ยังไงถ้าเพื่อนๆ ชอบ ลองทำทานกันดูนะคะ .... ซึ่งหากใครไม่ชอบผักอย่างที่พิมบอกมา ก็เปลี่ยนเป็นผักที่ตัวเองชอบก็ได้ค่ะ เช่นผักบุ้ง ผักปลัง กะหล่ำ ผักกาดเขียว ดอกแค ชะอมชุบไข่ทอด ผักกระเฉด มะรุม บอน คูน หรือผักอื่น ๆ น่ะค่ะ
ก็... สนับสนุนให้ลองทำกันดูค่ะ แกงส้มร้อน ๆ กินกับไข่เจียวหรือปลาสลิด ปลาช่อนแดดเดียวทอดเนี่ย ... อร่อยสุดยอดมากๆ เลยนะคะ ^^" ........ แล้วเจอกันอีกทีเมนูหน้าจ้า
หมายเหตุนิดนึง ...... สำหรับเคล็ดลับในการแกงส้มของพิม ก็คือ
- หากตำพริกแกงเอง ให้เลือกพริกแห้งเม็ดใหญ่ที่ีสีออกแดงส้ม เวลาทำน้ำแกงออกมาแล้ว สีของน้ำแกงจะได้เป็นสีส้ม สมชื่อ "แกงส้ม" อ่ะค่ะ
- สำหรับการปรุงรสเปรี้ยว พิมจะใช้น้ำมะขามเปียกเป็นหลัก และก็ใช้มะดัน หรือ น้ำมะนาว ในการชูรสเปรี้ยวให้เด่นชัด และมีความหอมยิ่งขึ้น
- ผักที่สุกยาก เช่น ดอกกะหล่ำ มะละกอ มะรุม พิมจะเอาไปต้มให้สุกในน้ำเปล่าหรือน้ำซุปก่อน แล้วนำเอาน้ำซุปอันนั้นมาทำนำแกงส้มอีกที
- หากจะใส่กุ้งเป็นตัวๆ พิมจะใส่ทีหลังตอนใกล้จะตักขึ้นมากิน โดยรอให้น้ำแกงเดือด แล้วใส่กุ้งลงไป พอน้ำแกงเดือดอีกทีนับ 1- 10 ใสใจ ก็ดับไฟแล้วตักแกงพร้อมกุ้งใส่ชามได้เลย เพื่อให้เนื้อกุ้งไม่สุกมากจนแข็งอ่ะค่ะ
- สำหรับการปรุงรสเค็ม พิมจะใช้ทั้งเกลือและน้ำปลา เพราะโดยความรู้สึกส่วนตัวนะคะ น้ำปลาเนี่ยนอกจากจะทำให้เค็มแล้วยังทำให้หอม ส่วนเกลือนอกจากเค็มแล้ว ยังทำให้รสกล่อมกล่อมขึ้นอ่ะค่ะ
- รสชาติที่พิมคิดว่าใช่สำหรับแกงส้มของพิมก็คือ เปรี้ยวนำ แต่ไม่ใช่เปรี้ยวโด่เด่ เผ็ดตามชอบ เค็มกับหวาน มีพอให้กลมกล่อม ....... ซึ่งพิมก็พยายามที่จะปรุงให้ได้รสแบบนี้ทุกครั้งอ่ะค่ะ