ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา แม่ค้าตลาดนัดแถวบ้านพิมที่ขายเมี่ยงปลาและเป็นเพื่อนกับน้องชายพิม เค้ามักจะเอาชุดเมี่ยงปลามาฝากน้องชายพิมอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 วัน  จนกลายเป็นที่มาของเมี่ยงปลาทับทิมพล่าในวันนี้แหละค่ะ

ที่ไปที่มาก็คือจะว่าไงดีนะ ....... คือก่อนหน้านี้พิมไม่ค่อยได้สนใจเมี่ยงปลาเผาแบบนี้เท่าไหร่เลยค่ะ  ทั้งที่รู้ว่ามันดีต่อสุขภาพนะ  คือให้ทำน่ะทำได้ แต่ไม่ชอบกินก็เลยไม่ค่อยชอบทำ >_<"   จนกระทั่งเพื่อนน้องชายคนที่พิมบอกด้านบนเค้าเอามาฝากน้องชายพิมอยู่บ่อยๆ อย่างน้อยก็อาทิตย์ละวันสองวันล่ะ  (วันศุกร์กับวันอาทิตย์) บางทีก็เป็นเมี่ยงปลาทับทิม บางทีก็เมี่ยงปลานิล บางทีก็เมี่ยงปลาดุกบ้าง  .... แต่น้องชายและคนอื่น ๆ ในบ้านพิมเค้าไม่ค่อยกิน  ผลบุญเอ๊ยยย....ย หน้าที่ความรับผิดชอบเมี่ยงปลาก็เลยมาตกอยู่ที่พิมกับคุณสามี

ซึ่งจะว่าไปแรกๆ ที่กินมันก็อร่อยดีนะคะ เพราะว่าน้องเค้าทำอร่อย  ทั้งย่างปลาสุกกำลังดี  ทั้งน้ำจิ้มที่มีให้เลือก 2 แบบและเป็นน้ำจิ้มที่รสชาติดี    แต่ว่าพอกินไปกินมากินบ่อยมากๆ  มันก็เริ่มเบื่อนิดนึง  อย่างว่าแหละค่ะ กินของซ้ำ ๆ กันบ่อยๆ ขนาดของที่ชอบมาก ๆ ก็ยังเบื่อ ...... แต่ด้วยความที่คิดว่ามันดีต่อสุขภาพนะก็เลยยังกินอยู่ (กินแทนข้าวเย็น)   จนกระทั่งไม่ไหวแหละ

ทีนี้พอเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวก็เลยอยากจะหาวิธีกินเมี่ยงปลาแบบอื่นดูบ้างค่ะ  ก็นึกได้ว่าเออ..เราเคยทำพล่าปลาทับทิมทอดกรอบนี่นา มันรสเข้มข้นดี ถ้าเอามากินกับขนมจีนและผักสดอย่างนี้มันก็น่าจะเข้ากัน  (แถมยังอยู่ในคำว่าดีต่อสุขภาพด้วย)  ก็เลยลองทำดูค่ะ  ปรากฎว่ามันเข้ากันได้มากจริง ๆ จนตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งเมนูที่พิมชอบมากๆ เลยค่ะ

เพราะงั้นวันนี้เมื่อได้ฤกษ์ทำอีกที ก็เลยขอเก็บภาพตอนทำมาฝากเพื่อนๆ ทุกคนกันค่ะ เผื่อว่าใครสนใจอยากเอาไปลองทำดูนะ  แต่ก่อนจะไปลงมือทำกันก็มาดูหน้าตาของพล่าปลาทับทิมทอดที่พิมทำซะก่อนนะคะ ... ประมาณนี้เลยจ้า

ดูหน้าตาไปแล้วก็มาดูส่วนผสมกับวิธีการทำกันต่อค่ะ

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- เนื้อปลาทับทิม 220 กรัม
- เกลือป่น (เกลือธรรมดา ไม่ใช่เกลือไอโอดีน) 1/2 ชช.
- น้ำมันพืชสำหรับทอดประมาณ 1 ถ้วย

- น้ำพริกเผา 3 ชต.
- พริกขี้หนูสวน 6 เม็ด
- พริกขี้หนูเม็ดใหญ่สีแดง 4 เม็ด
- น้ำมะนาว 3 ชต.
- น้ำปลา 2 ชต.
- น้ำตาลตโนด 1 + 1/2 ชต.

- ตะไคร้ 2 ต้นอวบๆ
- หอมแดง 3 หัว
- ใบมะกรูด 5 ใบ
- สะระแหน่ 3 กิ่ง
- ผักกาดขาว ผักกาดหอม โหระพา  .. หรือผักเคียงอื่น ๆ ตามชอบ

:: วิธีทำ ::

อันดับแรกมาดูที่ปลาทับทิมกันก่อนเลยค่ะ สำหรับปลาทับทิมเนี่ย พิมซื้อจากตลาดบางกะปิมาค่ะ เป็นปลากระชัง ตัวละ 1 กิโล 100 บาท  (ราคาปลาทับทิมช่วงนี้แอบแพง ไม่รู้ทำไม  บางช่วงก็แค่ 70 บาทเองค่ะ)   พอซื้อก็ให้พ่อค้าเค้าขอดเกล็ด ควักไส้ ตัดหัว และก็แล่เนื้อปลาเป็น 2 ชิ้นมาให้เลยค่ะ   ซึ่งเนื้อปลาแต่ละชิ้นหนักประมาณ 200 กรัมกว่าๆ  (แต่เราจะใช้แค่ชิ้นเดียว)   พอกลับมาถึงบ้านพิมก็เอามาทูเบา ๆ ด้วยเกลือ แล้วก็ล้างทำให้สะอาด พักใส่ตะกร้าโปร่งไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ

พอสะเด็ดน้ำดี ก็จัดการเอามาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมอย่างในภาพด้านล่างนะคะ

หั่นเสร็จก็เคล้าด้วยเกลือป่นประมาณ 1/2 ชช.   (ย้ำว่าเกลือป่นตามในสูตรที่พิมใช้เป็นเกลือทะเลธรรมดาที่เค้าขายซองละ 1-2 บาท นะคะ ไม่ใช่เกลือไอโอดีน)  .... เคล้าเสร็จก็พักไว้สักประมาณ 5 นาที

ระหว่างนั้นหันไปตั้งกระทะบนเตาไฟค่ะ  ใส่น้ำมันสำหรับทอดลงไป ปริมาณเยอะหน่อยนึงเพราะต้องการให้ท่วมชิ้นปลา  แล้วก็เปิดไฟเตาให้ไฟแรงกลางๆ ไม่ต้องแรงมาก   ... พอน้ำมันร้อนก็ใส่เนื้อปลาลงไปทอดค่ะ    แล้วรอจนสุกเหลืองดีทั้งสองข้าง  (หากน้ำมันไม่ท่วมชิ้นปลา ต้องมีการพลิกกลับรอบนึง)  ก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ

ป.ล. ตอนที่ชิ้นปลายังไม่เหลือง อย่าเอาตะหลิวไปคนบ่อย ๆ นะคะ เพราะอาจจะทำให้เนื้อปลาเละหรือดูไม่สวยงามได้

ทอดปลาเสร็จก็มาเตรียมเครื่องยำอื่น ๆ กันต่อค่ะ  ..... สำหรับหอมแดงเลือกหัวไม่ฝ่อ ไม่เน่า ไม่ขึ้นรา  เอามาปอกเปลือก  ตัดก้นที่เป็นส่วนแข็ง ๆ ทิ้งไป ล้างน้ำให้สะอาด  แล้วก็ซอยบาง ๆ ไว้ค่ะ

ใบมะกรูด ... เลือกใบที่ไม่แก่มาก ไม่เน่า ไม่เหลือง ล้างน้ำให้สะอาด ซับด้วยผ้าให้แห้ง  จับเรียงซ้อนกัน ม้วนให้แน่นอนย่างในภาพ แล้วซอยฝอย ๆ ไว้ค่ะ

พริกขี้หนู ... ด้วยความที่พิมมีแต่พริกขี้หนูสวนสีเขียว  พิมเลยใช้พริกขี้หนูแดงเม็ดใหญ่มาช่วยเพิ่มสีสันด้วย  หากใครอยากได้รสเผ็ดจัดกว่านี้ให้ใช้พริกขี้หนูสวนอย่างเดียวเลยก็ได้ค่ะ    ... ก็เอาพริกมาเด็ดขั้วทิ้ง ล้างน้ำ ซับด้วยผ้าให้แห้งหรือพักให้สะเด็ดน้ำ  แล้วก็หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้   หรือถ้าใครชอบเผ็ดจัดจะใช้วิธีโขลกให้แหลกเลยก็ได้ ไม่ผิดกติกาค่ะ

ส่วนมะนาวก็ผ่าเป็นซีก ๆ เตรียมไว้นะคะ

ตะไคร้ก็ลอกกาบที่แก่ และตัดโคนแข็ง ๆ ทิ้งไป ล้างให้สะอาด แล้วซอยบาง ๆ ไว้ค่ะ (ซอยเฉพาะส่วนสีขาว)

ป.ล. ถ้าชอบตะไคร้สีชมพู ให้เอาตะไคร้ที่ซอยไว้ไปแช่น้ำที่ผสมน้ำมะนาวสักแป๊บนะคะ  ^__^

เมื่อเตรียมเครื่องต่าง ๆ เสร็จ ก็มาผสมเครื่องพล่ากันค่ะ .. เริ่มต้นด้วยหากาละมังใบย่อม ๆ สักใบ ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำพริกเผาลงไป

คนให้เข้ากันจนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด  ก็แอบตักขึ้นมาชิมรสชาตินิดนึงว่าเป็นไปในแบบที่เราชอบไหม  ถ้ารู้สึกว่าขาดเปรี้ยวก็เติมน้ำมะนาว  ขาดเค็มก็เติมน้ำปลา  ขาดหวานก็เติมน้ำตาลปี๊บตามชอบนะคะ   แต่ถ้าขาดเผ็ดยังไม่ต้องเติมเพราะเดี๋ยวเราจะต้องใส่พริกขี้หนูสวนลงไปอีกค่ะ

พอชิมรสชาติได้ที่  ก็ใส่พริกที่เราหั่นไว้ลงไป ตามด้วยตะไคร้  หอมแดง แล้วก็คนให้เข้ากันค่ะ

พอเข้ากันดีก็ใส่เนื้อปลาทอดลงไปนะคะ

เคล้าเบาๆ 2-3 ทีให้เข้ากัน

สุดท้ายก็โรยด้วยใบมะกรูดซอย และใบสะระแหน่ที่เด็ดไว้เป็นใบ ๆ  (แต่ในภาพพิมไม่ได้โรยสะระแหน่นะคะ  เพราะคุณสามีไม่ชอบ เลยเอาไว้กินคนเดียวทีหลัง)

เคล้าเบา ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง ... แล้วเราก็จะได้พล่าปลาทับทิมทอดกรอบออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ

จากนั้นก็ตักใส่จาน เสริฟพร้อมผักสดเช่น ผักกาดหอม  ผักกาดขาว โหระพา สะระแหน่ ผักชีฝรั่ง และขนมจีนค่ะ

เวลาทานก็ให้เราเด็ดใบผักใหญ่อย่างผักกาดขาวหรือผักกาดหอมวางลงไป รองด้วยสะระแหน่ โหระพา หรือผักชีฝรั่งอีกชั้น  ตามด้วยขนมจีนนิดหน่อย และตักพล่าปลาวางด้านบน  .... แล้วก็กินเลยค่ะ ^__^

ซึ่งขอบอกว่าเมนูนี้เป็นอีกหนึ่งเมนูที่พิมชอบมากๆ  เนื่องจากรสชาติที่เข้มข้น  เผ็ดเปรี้ยวเค็มนิดๆ หวานหน่อยๆ กำลังพอดี  แล้วหอมผักสมุนไพรไม่ว่าจะตะไคร้ ใบมะกรูด สะระแหน่  แถมชิ้นปลาก็ยังกรอบอยู่   เคี้ยวเพลินมาก ๆ จนไม่อยากเลิกกินเลยค่ะ

หากเพื่อน ๆ สนใจก็ลองไปทำดูกันนะคะ   แม้ฟังชื่อดูรูปขั้นตอนการทำแล้วอาจจะรู้สึกว่าทำยากจัง    แต่จริง ๆ ไม่ได้ยากเลยค่ะ.........หากลงมือทำ

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่มีปลาทับทิม จะใช้เป็นปลานิล ปลาช่อน ปลากะพงพวกนี้ก็ได้นะคะ  หรืออาจจะใช้กุ้ง/หมึกแทนก็ได้เช่นกันค่ะ

ยังไงหากสนใจลองไปทำกันดูนะคะค่ะ ^__^  แล้วเจอกันใหม่เมนูถัดไปค่ะ