สมัยตอนพิมยังเด็ก ๆ หนึ่งในเมนูที่พิมจำรสชาติได้อย่างแม่นยำ เพราะแม่และยายทำให้กินบ่อยมากก.ก.ก.ก.ก..ก.ก.ก นั่นก็คือเมนู แกงจืดตำลึงอ่ะค่ะ
และในโอกาสที่วันนี้พิมไปเดินรดน้ำต้นไม้ในสวนแล้วพบว่ามีตำลึงงาม ๆ (เพราะได้ฝน) ขึ้นอยู่ในสวนเยอะแยะมาก แถมเลื้อยไปบนร้านองุ่น เลื้อยไปพันต้นชวนชม ต้นมะลิ ต้นเยียบีร่า ต้นกุหลาบของแม่บ้าง (แต่ละที่ไม่สมควรจะเลื้อยไปเล๊ยยยยยย) ...... ดังนั้นก่อนที่แม่จะกลับมาพบแล้วดึงทิ้ง พิมก็เลยต้องรีบจัดการเก็บมาทำกับข้าวกินซะก่อน ซึ่งเมนูแรกที่พิมมักจะนึกถึงเวลาพูดถึงตำลึง นั่นก็คือ แกงจืดตำลึง .... นั่นเองค่ะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- ตำลึงเด็ดแล้ว 80 กรัม
- หมูสับปรุงรสปั้นเป็นก้อนเล็ก 5 ก้อน หรือประมาณ 50 กรัม
- ลูกชิ้นปลารักบี้ 2 ลูก
- ลูกชิ้นปลากลมจิ๋ว 6 ลูก
- ตับหมูหั่นชิ้นพอคำ 7 ชิ้น
- น้ำซุปกระดูกหมู 4 ถ้วยตวง
- กระเทียมเจียว 1 ชต.
- พริกไทยป่น 1/2 ชช.
- เกลือป่น
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเลยเรามาดูที่ตำลึงกันก่อนนะคะ
ปกติตามตลาดทั่วไปเค้าจะมีขายแบบเป็นกำๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็กำละ 10 บาท แต่ในบางตลาดเค้าก็จะมีแบบตำลึงที่เด็ดเรียบร้อยแล้วขายด้วย ราคาก็ประมาณขีดละ 20 บาทหรือไงนี่แหละค่ะ แต่พิมไม่แนะนำให้เพื่อน ๆ ซื้อแบบเด็ดแล้วมานะคะ เพราะว่าเท่าที่เคยเห็นแม่ค้าเค้าจะเด็ดแบบไม่สนใจ ประมาณตรูไม่ได้กินเอง จะเด็ดยังไงก็ได้ เพราะฉะนั้นหนวดเหนิดเค้าก็ไม่เด็ดออก ใบแก่อ่อนเค้าก็เอาหมด ... ทำให้เวลาเราเอามาทำกับข้าวกินแล้วเนี่ย มันไม่เวิร์คซะเลยค่ะ ดังนั้นแล้วถ้าอยากทานเมนูที่มีผักตำลึงอยู่ด้วย ให้ซื้อแบบเป็นกำมาเด็ดเองดีกว่านะคะ
เริ่มแรกเลยก็เอาผักตำลึงที่เราซื้อมาหรือเก็บมา มาดึงเอาเศษผง หรือต้นไม้ใบหญ้าอื่น ๆ ที่ติดมาด้วยออกไปซะก่อนค่ะ
จากนั้นก็เอาไปล้างอย่างเบามือในน้ำสะอาด (อย่ารุนแรงนะคะ เดี๋ยวใบจะช้ำ เพราะมันช้ำง่ายมาก) พักให้สะเด็ดน้ำสักหน่อย
แล้วก็เอามาเด็ดไว้เป็นใบ ๆ ซึ่งวิธีการเด็ดตำลึงของพิมก็คือ เริ่มต้นที่ยอดตำลึงก่อน เด็ดหนวดที่อยู่ตรงข้อตำลึง 4-5 ข้อแรกออกให้หมด แล้วก็เด็ดยอดเป็นท่อนสั้นประมาณ 2 นิ้ว ส่วนใบก็เด็ดเฉพาะใบอ่อน ส่วนใบแก่ที่สีเขียวเข้มมากและเวลาเอามื้อไปบี้ ๆ จะรู้สึกหยาบ รวมไปถึงใบที่มีจุดประหลาด ๆ พิมไม่เอาค่ะ ... เด็ดเสร็จก็พักใส่กาละมังไว้ก่อน (ตำลึงที่เด็ดแล้ว พักให้สะเด็ดน้ำ ใส่ถุงมัดปาก ใส่ตู้เย็นไว้ใช้ได้ประมาณ 2-3 วัน)
จากนั้นหันมาตั้งหม้อใบย่อมๆ บนเตาไฟค่ะ ใส่น้ำซุปลงไป เปิดไฟกลาง รอจนน้ำซุปเดือดก็ใส่หมูบดที่ปรุงรสแล้วลงไป ..... พอหมูใกล้สุกก็ใส่ลูกชิ้นปลากับตับหมูลงไป แล้วพอตับหมูเปลี่ยนสีก็ตักตับหมูขึ้นใส่ถ้วยเก็บไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ตับหมูแข็งเกินไป
NOTE :: พิมไม่ได้แสดงวิธีปรุงรสหมูบดให้ดู เพราะว่าพิมทำไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ แต่คร่าว ๆ ก็คือ พิมจะใส่ซอสปรุงรสเห็ดหอม พริกไทยป่นที่โขลกใหม่ๆ ... แค่ 2 อย่างนี้เองค่ะ
และเนื่องจากน้ำซุปของพิมมีรสหวานจากกระดูกหมูอยู่แล้ว พิมจึงปรุงรสด้วยเกลือป่นแค่เพียงนิดหน่อย แต่หากเพื่อน ๆ ไม่มีน้ำซุปอย่างพิม ก็ใช้น้ำสะอาดแล้วเหยาะผงปรุงรสอย่างรสดี คนอร์ลงไปนิดหน่อยก็ได้ แต่อย่าให้มากเกินเดี๋ยวจะเค็มและกลิ่นแรงไปค่ะ (แนะนำว่าสำหรับอาหารประเภทน้ำใช้แบบก้อน กลมกล่อมกว่าแบบผง)
พอชิมรสได้ที่ รอให้น้ำเดือดจัดอีกที ก็ใส่ตำลึงที่เด็ดไว้ลงไป กดให้ตำลึงจมน้ำ ปิดฝา แล้วรอน้ำเดือดอีกทีก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
สุดท้ายก็โรยพริกไทยป่นกับใส่กระเทียมเจียวลงไป (แต่พิมไว้รอโรยรอใส่ตอนตักใส่ชามแทนค่ะ เพราะว่าจะสวยกว่า) แล้วเราก็จะได้แกงจืดตำลึงออกมาหน้าตาประมาณในภาพด้านล่างนี้นะคะ
ขอบอกว่า ... แกงจืดตำลึงแบบนี้เป็นหนึ่งในแกงจืดไม่กี่อย่างที่พิมชอบกินมากๆ เลยค่ะ
ยิ่งช่วงนี้ฝนตกบ่อย ๆ อากาศเริ่มเย็น ช่วงเช้า ๆ ได้ซซดน้ำซุปร้อน ๆ ที่มีกลิ่นตำลึง ซึ่งเป็นผักที่ขึ้นตามธรรมชาติในรั้วบ้านพิม ปราศจากปุ๋ย ปราศจากยา ..... มันยิ่งอร่อยมากขึ้นหลายเท่าอ่ะค่ะ
ยังไงเพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบกินตำลึงเหมือนพิม แล้วยังทำแกงจืดตำลึงไม่เป็น ก็ลองเอาวิธีทำแกงจืดตำลึงในแบบที่พิมทำนี่ไปลองทำดูนะคะ แบบว่าไม่ยากเลย
อ้อ ๆ แถมนิดนึงค่ะ หากเพื่อนๆ ไม่ชอบลูกชิ้นปลา จะเปลี่ยนเป็นกุ้ง เป็นหมึกแทนก็ได้นะคะ หรือถ้าไม่ชอบหมูสับจะเปลี่ยนเป็นหมูชิ้น หรือไก่สับแทนก็ได้ ... อร่อยเหมือนกัน ยังไงอย่าลืมลองทำดูกันนะคะ ^__^