หลายปีก่อนหน้าที่พิมจะไปอยู่สุราษฎร์ เพื่อน ๆ เชื่อไหมค่ะว่าพิมไม่เคยคิดเลยว่ามะละกอห่ามๆ จะเอามาทำอาหารคาวอะไรได้อร่อยเท่ากับเอามาแกงส้ม แต่ความคิดพิมก็เปลี่ยนไปเมื่อเจอกับเจ้าแกงชนิดนี้ค่ะ
........ แกงที่พิมว่านี่ก็คือ "แกงคั่วกะทิกุ้งกับมะละกอ" ค่ะ
ก็เมื่อสักเกือบ 4 ปีที่แล้ว ช่วงแรก ๆ ที่พิมย้ายไปอยู่สุราษฎร์ พิมไม่สะดวกเรื่องสถานที่ทำอาหารเลยค่ะ จะกินอะไรทีก็จะต้องไปซื้อเค้าตลอดไม่ว่าจะมื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็น ซึ่งด้วยความที่พิมจะต้องพึ่งฝีมือการทำอาหารของคนอื่นตลอด ดังนั้นแล้วพิมก็เลยจะต้องหาร้านที่ขายอาหารที่ดูดี ๆ (หมายถึงสะอาด น่ากิน) และรสชาติถูกปากพิมอ่ะค่ะ ซึ่งแรกๆ ก็มีอยู่แค่ร้านอาหารตามสั่งร้านนึงกะร้านข้าวแกงอีกร้านนึงเท่านั้น
จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีโอกาสไปเดินตลาดบ้านส้องตอนเย็น พิมก็ไปเจอกับร้านขายกับข้าวใส่ถุงร้านนึงค่ะ (อย่าถามนะคะ ว่าชื่อร้านอะไร ซื้อเค้าเป็นปีแต่ไม่เคยถามชื่อร้านหรือชื่อคนขายเค้าสักทีค่ะ) ..... ซึ่งร้านขายกับข้าวถุงร้านนี้เนี่ย เค้ามักจะออกมาตั้งขายตอนประมาณ 4 โมงเย็นค่ะ แต่ขอบอกว่าลูกค้าของร้านนี้เค้าไมได้มากันตอน 4 โมงเย็นนะคะ แต่บางคนมารอกันตั้งแต่ 3 โมงเย็นเลยอ่ะค่ะ นัยว่ามาก่อน ถ้าแม่ค้าขายแกงเอาแกงมาตั้งก่อนก็จะได้ซื้อก่อน ทำนองนั้นอ่ะค่ะ
แล้วแต่ละคนที่มาซื้อเนี่ยก็ไม่ใช่ซื้อกันแค่คนละถุงนะคะ บางคนซื้อทุกอย่างที่เค้าขาย (ประมาณ 7-8 อย่าง) เลยก็มีค่ะ แถมบางคนซื้ออย่างละสองถุงอีกต่างหาก ทั้งที่ร้านนี้ขายราคาสูงกว่าร้านอื่นนะคะ (สมัยนั้นร้านอื่นขายถุงละ 25 ร้านนี้ขายถุงละ 30-35) เหตุผลเดียวก็คือ ร้านนี้เค้าทำกับข้าวได้อร่อยมากค่ะ แกงไหนที่ควรจะมีรสชาติ รสสัมผัสยังไง เค้าก็ทำอย่างที่ควรเป็นค่ะ แล้วเค้าทำแบบไม่หวงเครื่องเลย แถมยังเข้มข้นสมเป็นอาหารใต้อีกต่างหาก ก็เลยทำให้เค้าขายดีมากๆ เลยน่ะค่ะ
แล้วอาหารหนึ่งในหลาย ๆ อย่างของเค้าที่พิมติดใจ ก็คือ แกงคั่วกะทิกุ้งกับมะละกอแบบในภาพนี่แหละค่ะ .... แบบว่าเค้าทำได้อร่อยมาก มากจนถ้าวันไหนเค้าแกง พิมจะต้องซื้อกับมาทุกครั้ง เรียกว่าอยู่ที่สุราษฎร์แม้จะไม่ได้ทำกับข้าวเอง แต่ก็มีอาหารใต้ที่อร่อยถูกปากกินอยู่ทุกมื้อเลยอ่ะค่ะ
จนกระทั่งพิมย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพฯ ก็ไม่มีโอกาสได้กินกับข้าวร้านนั้นอีกเลยค่ะ แต่ด้วยความที่พิมกินจนจำรสชาติ จำความรู้สึกได้ล่ะว่า เอ่อ.อ.อ แกงนี้จะต้องมีรสอย่างนี้ มีความข้นระดับนี้ มะละกอต้องสุกอย่างนี้นะ ถึงจะอร่อย ........ พิมก็เลยลองหัดทำเองล่ะค่ะ และหลังจากทำอยู่ประมาณ 2-3 ครั้ง ก็พบว่า เอ่อ....เราก็ทำแกงนี้ได้รสชาติดี (ถูกปาก) เราเหมือนกันนะเนี่ย แล้วหลังจากนั้นพิมก็ทำกินมาเรื่อยเลยค่ะ
แล้ววันนี้ในโอกาสที่ทำกินอีกครั้ง พิมก็เลยขอเก็บภาพวิธีการทำกับเก็บสูตรมาฝากเพื่อน ๆ กันนะคะ เผื่อว่าใครอยากจะลองทำแกงแบบนี้กินอ่ะค่ะ ^__^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- มะละกอห่ามแต่ไม่สุก สับหยาบ ๆ 1 3/4 ถ้วย
- กุ้งสด 150 กรัม
- พริกแกงกะทิใต้ 1.5 ชต.
- กะทิสด 300 กรัม ........... (ประมาณ 1 1/3 ถ้วย)
- ใบมะกรูด 4-5 ใบ
- เกลือป่น 1/2 ชช.
- น้ำตาล 1/4 ชช.
- น้ำปลาประมาณ 1/2 - 1 ชต.
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเราก็ต้องมาจัดการกับมะละกอกันก่อนนะคะ..... สำหรับมะละกอที่พิมเลือกใช้ในวันนี้จะเป็นมะละกอที่ห่ามหน่อยค่ะ เปลือกยังเขียวอยู่ แต่เนื้อด้านในจะเป็นสีอมส้ม ๆ หน่อยแล้วอ่ะค่ะ ซึ่งมะละกอที่มีความแก่ประมาณนี้ เวลาเราเอามาทำกับข้าวไม่ว่าจะแกง หรือต้ม หรือผัด หรือดอง จะอร่อยกำลังดีเลยค่ะ
ก็ให้เราเอามะละกอไปล้างน้ำทั้งลูกก่อนเลยค่ะ ล้างเสร็จ เช็ดด้วยผ้าให้แห้ง หั่นออกมาสักส่วนนึง ปอกเปลือกออก (เฉพาะส่วนที่จะใช้ ส่วนที่เหลือเก็บไว้ทำอย่างอื่น) แล้วสับหยาบ ๆ แบบในภาพอ่ะค่ะ ........ สับเสร็จก็พักเอาไว้ก่อน
ต่อมาก็มาจัดการกับกุ้งกันต่อนะคะ ...สำหรับกุ้งเนี่ย พิมก็เลือกใช้กุ้งขาวที่หาซื้อได้ตามตลาดแหละค่ะ ก็พอได้กุ้งมาแล้วก็ล้างน้ำ แกะเปลือกแล้วห่าหลังไว้นะคะ (อันหลังนี่เพื่อความสวยงาม)
ส่วนใบมะกรูด ก็ล้างน้ำให้สะอาด แล้วเด็ด+ฉีกเอาไว้เป็นชิ้นเล็ก ๆ นะคะ
เมื่อเตรียมกุ้ง เตรียมมะละกอ และเครื่องอย่างอื่นไว้เรียบร้อยแล้วก็มาลงมือทำกันเลยค่ะ เริ่มต้นด้วยเทกะทิสัก 1/3 ถ้วยลงในหม้อที่เราจะใช้แกงนะคะ แล้วก็เอาหม้อตั้งบนเตาไฟ ใช้ไฟกลาง ๆ ค่ะ พอกะทิเดือดสักแป๊บ ไม่ต้องรอให้แตกมัน ก็ใส่พริกแกงลงไปผัดให้หอมค่ะ (ระหว่างผัด ถ้าแห้งไป เติมกะทิได้นะคะ)
พอพริกแกงหอมดีก็ใส่กะทิที่เหลือลงไป
ทิ้งระยะเวลาให้กะทิเดือดสักแป๊บ ก็ใส่มะละกอที่เราสับไว้ลงไปค่ะ ตามด้วยน้ำปลา เกลือ และก็น้ำตาลนิดหน่อย (เกลือในภาพเป็นเกลือไอโอดีน ปริมาณก็เลยจะดู้น้อยๆ ค่ะ) ......... คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบออกเค็มเผ็ดนำ หวานแทบไม่มี (อย่าเพิ่งให้หวาน เพราะเดี๋ยวเราจะได้ความหวานจากกุ้งและมะละกออีกหน่อย)
พอชิมเสร็จ รอให้เดือด ก็ใส่กุ้งลงไปค่ะ
จากนั้นก็รอให้กุ้งสุกค่ะ
พอกุ้งสุกดี ก็ใส่ใบมะกรูดลงไป (ร้านที่พิมซื้อกินตอนแรกเค้าไม่ใส่นะคะ แต่พิมว่าถ้าใส่ จะหอมกว่า / อาจจะเป็นความชอบส่วนตัวด้วยล่ะค่ะ)
คนให้เข้ากัน ปิดฝาสักแป๊บ ก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ .........
แล้วเราก็จะได้แกงคั่วกะทิกุ้งกับมะละกอออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ ขอบอกว่าถูกปากพิมกะคุณสามีมากเลยจ้า ^^
ด้วยความหวานของมะละกอและเนื้อกุ้งที่สดมากๆ ทำให้พอไปเจอกับรสของน้ำแกงที่เผ็ดหน่อย ๆ เค็มนิด ๆ มันก็เลยกลมกล่อมมากเลยค่ะ ... ชนิดกินแล้วไม่อยากเลิก เหลือน้ำแกง ก็ยังอยากจะเอาไปคลุกกับขนมจีนกินเลยค่ะ (เข้าขั้นงกนะเนี่ย ฮ่ะๆ)
ก็ถ้าเพื่อน ๆ สนใจ ลองเอาไปทำดูกันนะคะ ทำไม่ยากเลยอ่ะ แถมออกมาหน้าตาสีสันน่ากินด้วยค่ะ
อ้อๆ หากเพื่อนๆ ไม่กินกุ้ง ไม่มีกุ้ง จะใช้เนื้อไก่หรือหมูแทนก็ได้นะคะ แต่ถ้าถามพิมว่าแกงชนิดนี้แกงกับเนื้อสัตว์อะไรอร่อยที่สุด ก็ต้องขอตอบว่ากุ้งล่ะค่ะ เพราะเนื้อกุ้งมันหวานเข้ากับมะละกอเป็นอย่างดีเลยจ้า ........ ยังไงก็ลองไปทำกันดูนะคะ
และนี่ก็เป็นภาพมื้ออาหารที่ทำแกงคั่วกะทิกุ้งกับมะละกอกินจ้า ^^