วันนี้พิมจะชวนทุกคนมาทำ #กระทงทอง กันค่ะ แต่ว่ากระทงทองของพิมในวันนี้จะมีความพิเศษกว่าปกตินิ๊ดดนึง ตรงที่พิมจะทำไส้กระทงทอง 3 แบบ และแต่ละแบบแม้จะใช้ #ไส้กรอกชีส เหมือนกัน แต่ก็จะมีรสชาติที่ต่างกันไปค่ะ
ไส้ #ลาบไส้กรอกชีส ... จะออกรสเผ็ดเปรี้ยว จัดจ้าน หอมกลิ่นข้าวคั่ว และพริกป่นนะคะ เหมาะกับคนที่ชอบทานของว่างแบบรสจัด ๆ ค่ะ ไส้ #สลัดไส้กรอก ... รสชาติก็จะออกแนวหวานมันตามรสของน้ำสลัด เหมาะกับคนที่ชอบทานสลัดหรือไม่ทานเผ็ดนะคะ ส่วนไส้ #ไข่คนไส้กรอกชีส .. อันนี้เหมาะกับคนที่ชอบทานอาหารรสแบบฝรั่งๆ และเหมาะกับเด็ก ๆ ด้วยค่ะ
:: ส่วนผสม “กระทงทอง” ::
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 70 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 70 กรัม
- ไข่แดงของไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำปูนใส 85 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า 75 มิลลิลิตร
- น้ำมันสำหรับทอด 1 ลิตร
** สูตรนี้ได้กระทงทองประมาณ 55-60 ชิ้น
:: ส่วนผสมไส้ “ลาบไส้กรอกชีส” ::
- ไส้กรอกไก่ เฟรนช์กาลิคบัตเตอร์ชีส
- พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวคั่ว 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 + ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- หอมแดง หั่นสี่เหลี่ยมเต๋าเล็ก 1/4 ถ้วย
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบสะระแหน่ ¼ ถ้วย
** สูตรนี้ได้ประมาณ 20 กระทง
:: ส่วนผสมไส้ “สลัดไส้กรอกชีส” ::
- ไส้กรอกไก่ เฟรนช์กาลิคบัตเตอร์ชีส
- ผักสลัดสามสี รวมกัน 1 ถ้วย (แครอท เม็ดถั่วลันเตา ข้าวโพด - ทุกอย่างต้มสุก)
- หอมแขก หั่นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก 1/2 ถ้วย
- มายองเนส 1/4 ถ้วย
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/8 ช้อนชา
- น้ำมะนาว ตามชอบ
** สูตรนี้ได้ประมาณ 20 กระทง
:: ส่วนผสมไส้ “ไข่คนไส้กรอกชีส” ::
- ไส้กรอกไก่ เฟรนช์กาลิคบัตเตอร์ชีส
- ไข่ไก่เบทาโกร เคจฟรี 2 ฟอง
- นม 1 ช้อนชา
- เกลือ 1/8 ช้อนชา
- เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสมะเขือเทศ ตามชอบ
** สูตรนี้ได้ประมาณ 15 กระทง
:: วิธีทำ ::
อันดันแรกเราจะมาทำตัวกระทงทองกันก่อนนะคะ ให้เราหยิบชามใบโต ๆ มาใบนึง ใส่แป้งอเนกประสงค์ แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย เกลือป่น และไข่แดงลงไป แล้วคนด้วยตะกร้อมือให้ไข่แดงกระจายตัวรวมไปกับแป้งค่ะ
จากนั้นก็ค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำปูนใสที่ผสมกับน้ำเปล่าลงไป แล้วก็คนให้เข้ากัน จนส่วนผสมไม่มีเม็ดแป้งหลงเหลืออยู่ ก็เป็นอันว่าใช้ได้นะคะ
เทน้ำมันใส่ลงในหม้อใบเล็ก ให้น้ำมันมีความสูงสักประมาณ 2 นิ้วจากก้นหม้อ แล้วก็เอาหม้อตั้งเตา ใช้ไฟกลาง ๆ พอน้ำมันเริ่มร้อน ก็ใส่พิมพ์กระทงทองลงไปแช่ในหม้อน้ำมันสักครู่ค่ะ
** พิมพ์กระทงทอง ทำจากทองเหลือง หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ทำขนมไทย ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ มีทั้งแบบ 1 ดอก 2 ดอก และ 4 ดอกในก้านเดียว สำหรับผู้ที่เริ่มทำ แนะนำให้เลือกแบบ 1 ดอกก่อน (ราคาประมาณ 60-80 บาท) เพราะว่าใช้งานง่ายที่สุดนะคะ
พอพิมพ์ร้อนดีแล้ว ก็ให้ยกพิมพ์ (เทน้ำมันที่อยู่ในพิมพ์ออกให้หมด) มาจุ่มลงในชามแป้ง โดยจุ่มให้แป้งพอดีที่ขอบพิมพ์ด้านบน จุ่มให้แป้งสัมผัสเฉพาะด้านนอกพิมพ์ อย่าให้แป้งเข้ามาด้านในพิมพ์ (ตามภาพด้านล่าง) แล้วก็ยกทั้งพิมพ์ลงไปจุ่มในหม้อน้ำมันโดยใช้ไฟกลาง ๆ ค่ะ
พอแป้งของเราเริ่มสุก เซ็ตตัวเป็นรูปกระทง และมีสีเหลืองนิด ๆ ก็ให้เราส่ายพิมพ์ไปมาในน้ำมัน ตัวกระทงก็จะหลุดออกจากพิมพ์นะคะ แล้วเราก็ทอดกระทงต่ออีกนิดจนกระทงมีสีเหลืองทองทั่วทั้งชิ้น ก็ค่อยหยิบออกมาวางคว่ำบนตะแกรง พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ
** ถ้าจุ่มพิมพ์ลงในแป้ง แล้วแป้งจะไม่ค่อยเกาะพิมพ์ อาจจะเป็นเพราะพิมพ์ยังร้อนไม่พอ หรือมีน้ำมันเกาะที่ก้นพิมพ์มากเกินไป วิธีแก้ไขคือ แช่พิมพ์ในน้ำมันร้อน ๆ ต่ออีกนิด หรือถ้าเป็นเพราะสาเหตุที่สอง หลังจากยกพิมพ์ออกจากหม้อน้ำมัน ก่อนจุ่มพิมพ์ลงในชามแป้ง ให้แตะด้านล่างของพิมพ์บนทิชชู่สัก 5 วินาที เพื่อซับน้ำมันออกบ้างนะคะ
แล้วเราก็จะได้ “กระทงทอง” ออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้ พักกระทงทองให้เย็นสนิทสักครู่ แล้วค่อยเก็บใส่กล่องที่มีฝาปิด (กล่องสูญญากาศ) จนกว่าจะถึงเวลาใช้งานค่ะ
** ถ้าต้องใช้กระทงทองเยอะ ๆ เราสามารถทำเฉพาะตัวกระทงทองไว้ก่อนได้ประมาณ 3-5 วันนะคะ
ต่อมาเราจะมาทำไส้กระทงทองกันค่ะ วันนี้พิมเอามาฝาก 3 แบบ ก็คือ ไส้ที่เป็นลาบไส้กรอกชีส สลัดไส้กรอกชีส และก็ไข่คนไส้กรอกชีสนะคะ
แต่ก่อนที่เราจะไปทำไส้แต่ละแบบ ส่วนผสมที่เราจะขาดไม่ได้ในทุก ๆ ไส้ ก็คือ ไส้กรอกชีสค่ะ วันนี้พิมเลือกใช้เป็นไส้กรอกไก่ เฟรนช์กาลิคบัตเตอร์ชีส ของเบทาโกรนะคะ ซึ่งไส้กรอกตัวนี้เป็นไส้กรอกรมควันที่นอกจากจะเนื้อแน่นเว่อร์ หอม และหนังกรอบมากแล้ว ก็ยังมีกลิ่นหอมของกระเทียมแบบเบา ๆ และมีเชดด้าชีสสอดไส้อยู่ตรงกลางอีกด้วยค่ะ เอาไปเวฟทานเล่น ๆ ก็อร่อยมาก เอามาทำเป็นไส้กระทงทองก็ยิ่งอร่อยนะคะ ^_^
วิธีเตรียมไส้กรอก ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากค่ะ หลังจากเราฉีกซองไส้กรอกเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เราเอาไส้กรอกไปลวกในน้ำร้อนประมาณสัก 30 วินาที พอหนังไส้กรอกตึง ๆ ก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ แล้วหั่นไว้เป็นชิ้นพอคำ เสร็จแล้วก็พักไว้ก่อนค่ะ
** ใน 1 กระทง เราจะใส่ไส้กรอกที่หั่นแล้วประมาณ 3 ชิ้น เพื่อน ๆ อยากจะทำกี่กระทง ก็คำนวณไปตามสัดส่วนนะคะ ส่วนพิมทำครบทั้งหมด 60 กระทง ก็จะใช้ไส้กรอกประมาณ 2 แพ็คค่ะ
** ด้วยความที่ในไส้กรอกมีชีสเยอะมาก เพราะฉะนั้นหลังจากไส้กรอกสะเด็ดน้ำแล้ว ให้พักไว้สัก 2 นาทีก่อนหั่น เพื่อให้ชีสในไส้กรอกเซตตัวนิดนึงนะคะ
ต่อมาเราจะมาทำส่วนประกอบอื่นๆ ของไส้แต่ละอย่างกันให้ครบค่ะ
สลัดไส้กรอกชีส .. ให้เราหยิบชามใบโตมาใบนึง ใส่ผักสามสีลงไป ตามด้วยหอมแขก น้ำมะนาว เกลือ พริกไทย น้ำสลัด คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน พอได้รสที่ชอบแล้ว ก็เอาไปแช่ตู้เย็นรอไว้ก่อนนะคะ
ไข่คนไส้กรอกชีส .. เราจะมาทำตัวไข่คนกันค่ะ ให้เราหยิบชามมาใบนึง ตอกไข่ไก่เบทาโกร เคจฟรีลงไป 2 ฟอง ตามด้วยนมสด และเกลือป่น ตีด้วยส้อมให้เข้ากัน แล้วพักไว้ก่อนนะคะ
หันไปตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟกลาง ๆ ใส่เนยลงไป พอเนยละลายก็ใส่ไข่ที่เราตีไว้ลงไปค่ะ จากนั้นใช้พาย จะเป็นพายไม้ พายยาง หรือพายซิลิโคนก็ได้ คนไข่วนไปเรื่อย ๆ พอไข่สุก ก็ปิดไฟเตา เทไข่ใส่ชามพักไว้นะคะ
ลาบไส้กรอกชีส ... ให้เราหยิบชามมาใบนึง ใส่น้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว หอมแดง พริกป่น ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอยลงไป คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ก็จะได้ออกมาเป็นซอสทำสำหรับทำลาบไส้กรอกชีสค่ะ
ถึงตรงนี้ก็คือ เราเตรียมเครื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะคะ ^_^
ถึงเวลาทาน ก็ให้เราหยิบไส้กรอกชีสไส้ลงไปในกระทงทองที่เราทำไว้ กระทงละประมาณ 3 ชิ้นค่ะ
จากนั้นก็ตัก #ซอสลาบ ราดลงไปบนไส้กรอก แล้วแต่งหน้าด้วยสะระแหน่เพื่อให้มีกลิ่นหอมและสวยงามนะคะ ส่วน #หน้าไข่คน เราก็ตักไข่คนที่ทำไว้ใส่ลงไปในกระทงไส้กรอก แต่งหน้าด้วยซอสมะเขือเทศ แล้วโรยต้นหอมซอยนิดหน่อย เพื่อให้มีกลิ่นหอมเพิ่มขึ้นค่ะ ส่วน #สลัดไส้กรอก เราก็ตักสลัดที่เราทำไว้ ใส่ลงไปในกระทงปริมาณตามชอบ .... เท่านี้เราก็จะได้ “กระทงทองสามสหายไส้กรอกชีส” พร้อมทานแล้วนะคะ
แน่นอน .. นอกจากความอร่อยแล้ว เมนูนี้ก็จะให้ความสนุกในการทานด้วยค่ะ เพราะไส้แต่ละอย่างก็จะมีรสที่ต่างกันไป อย่างลาบไส้กรอกชีสก็จะออกรสเผ็ดเปรี้ยว จัดจ้าน หอมกลิ่นข้าวคั่ว และพริกป่นนะคะ เหมาะกับคนที่ชอบทานของว่างแบบรสจัด ๆ ค่ะ ส่วนสลัดไส้กรอก รสชาติก็จะออกแนวหวานมันตามรสของน้ำสลัด เหมาะกับคนที่ชอบทานพวกสลัดผัก ทานแล้วรู้สึกดีต่อสุขภาพนะคะ ส่วนไข่คนไส้กรอกชีส อันนี้เหมาะกับคนที่ชอบทานอาหารรสแบบฝรั่งๆ ทั้งเหมาะกับเด็ก ๆ และคนที่ไม่ทานเผ็ดอีกด้วยค่ะ
ยังไงลองไปทำกันดูน๊า จะทำกินตอนบ่าย ๆ เป็นของว่างแก้ง่วง จะทำกินตอนวันหยุดสุดสัปดาห์เป็นของว่างสำหรับทุกคนในครอบครัว หรือจะทำเลี้ยงในปาร์ตี้ ก็เหมาะไปทั้งหมดเลยค่ะ ^_^