พิมเชื่อว่าในช่วงปีที่ผ่านมาเนี่ย น่าจะมีเพื่อน ๆ หลายคนที่บอกกับตัวเองว่าฉันอยากลดน้ำหนักเท่านั้นเท่านี้กิโล แต่พอถึงสิ้นปีก็ยังลดไม่ได้ซะทีนะคะ
ที่พิมพูดอย่างนี้เนี่ย เพราะว่าพิมเองก็เคยเป็นแบบนั้นค่ะ พิมเป็นคนขี้เกียจออกกำลังกาย พิมเป็นคนจัดเต็มเรื่องอาหาร พิมเป็นคนที่ทำงานไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลา พิมเป็นคนที่ถ้าหิวตอนดึก ๆ ก็จะลุกไปทำอะไรกินทันที เพราะนั้นในช่วงปีผ่านมา พิมก็เลยยังไม่เคยลดน้ำหนักได้ซะทีนะคะ
จนเมื่อหลายเดือนก่อน พิมเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของพิมมันเริ่มประท้วงแล้วค่ะ เริ่มจากอาการผิวแห้ง หน้าหมอง รู้สึกไม่สดชื่น ตามด้วยอาการท้องอืด ท้องผูกอยู่บ่อย ๆ นะคะ พิมก็เลยลองสังเกตุดูว่ามันเป็นเพราะอะไร และหลังจากสังเกตุอยู่พักใหญ่ พิมก็พบว่า น่าจะเป็นเพราะพิมทานแต่อาหารประเภทเนื้อสัตว์ และคาร์โบไฮเดรตซะมาก ส่วนผักกับผลไม้ไม่ค่อยได้ทาน แถมออกกำลังกายก็แทบไม่ทำ ก็เลยน่าจะส่งผลทำให้ร่างกายประท้วงนี่แหละค่ะ เพราะนั้นพิมก็เลยคิดว่าอยากจะปรับเรื่องการทานอาหารของตัวเอง โดยทานผักผลไม้ให้มากขึ้น ทานเนื้อสัตว์+คาร์บให้น้อยลง และออกกำลังกาย เพื่อให้สภาพร่างกายกลับมาดีขึ้น (บ้าง) นะคะ
แต่ทีนี้เนี่ยเรื่องการออกกำลังกายไม่เป็นปัญหาอะไรสำหรับพิมค่ะ แต่ปัญหาคือเรื่องของการกิน ด้วยความที่พิมเป็นคนที่ไม่ค่อยถนัดทานผักผลไม้นะคะ เรียกได้ว่าเดือน ๆ นึง ทานผลไม้นับชิ้นได้หรือไม่ทานเลย ส่วนผักนี่มีบ้างในแกงส้ม แกงเลียง ผัดผัก น้ำพริก แต่พิมคิดว่ามันก็ยังไม่มากพออ่ะค่ะ พิมก็เลยลองศึกษาหาข้อมูลดูว่ามันมีวิธีใดบ้างที่จะทำให้พิมกินผักและผลไม้ในปริมาณเยอะได้แบบง่าย ๆ ไม่ต้องคิดมากนะคะ สรุปแล้วหลังจากเทสต์มาหลายวิธี ก็พบว่าการเอาผักและผลไม้มาทำเป็น Smoothie คือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพิมค่ะ และที่สำคัญพอทานผักผลไม้ได้เยอะมากขึ้น ทำให้อิ่มท้องนาน ทานเนื้อสัตว์กับคาร์โบได้น้อยลง ก็ส่งผลทำให้พิมน้ำหนักลดลงไปด้วยประมาณ 7 กิโลด้วยจ้า
เพราะงั้นวันนี้พิมก็เลยจะมาแชร์สูตรผักผลไม้ Smoothie ที่พิมทำกินนะคะ แต่ขอบอกก่อนว่าสูตรที่พิมทำเนี่ยเป็นสูตรไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่น้ำเชื่อม น้ำผึ้ง หรือ syrup ใด ๆ ทั้งสิ้น รสชาติของ Smoothie ก็จะเป็นรสชาติจากธรรมชาติล้วน ๆ แบบไม่มีอะไรปรุงแต่งเลยค่ะ สำหรับคนที่ไม่เคยทำทาน ในช่วงแรก ๆ ก็อาจจะรู้สึกกลืนลำบากหน่อย แต่ถ้าเพื่อน ๆ ลองทำแล้วรู้สึกว่ามันกินลำบากจัง ไม่มีกำลังใจจะกินแหละ อาจจะเติมเกลือไปนิด น้ำผึ้งไปหน่อย ก็ตามที่สะดวกเลยนะคะ
ถึงตรงนี้เพื่อนๆ หลายคนอาจจะอยากรู้แล้วว่า สูตรผักผลไม้ Smoothie ของพิมแต่ละสีแต่ละแก้วใส่อะไรลงไปบ้าง ..... ก็มาดูกันเลยค่าา Let's go.
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุงทั้งหมด ::
- (สีเขียว) วอเตอร์เครส / ผักคอส / กีวี่
- (สีแดง) มะเขือเทศ แอ๊ปเปิ้ล สตรอเบอรี่ พริกหวานสีแดง รสเบอรี่
- (สีเหลือง) กล้วยหอม พริกหวานสีเหลือง สับปะรด
- (สีส้ม) แครอท ส้ม
- (สีดำ) งาดำคั่วป่น
- (สีม่วง) บลูเบอรี่ กะหล่ำปลีม่วง
- นมถั่วเหลืองไม่มีน้ำตาล / โยเกิร์ตธรรมชาติ / น้ำต้มสุก
** สัดส่วนดูในสูตรด้านล่างอีกทีค่ะ
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกก่อนที่จะไปลงมือทำสมูทตี้กัน พิมขออธิบายเรื่องผักผลไม้ก่อนสักนิดว่าแต่ละสีที่พิมเลือกมาจะมีผักผลไม้อะไรบ้างนะคะ
#สีเขียว ... โดยทั่วไปที่พิมใช้ก็จะมีวอเตอร์เครส ผักคอส ปวยเล้ง โหระพา เซเลอรี่ อะโวคาโด กีวี (สด/แช่แข็ง) ค่ะ ซึ่งผักทุกชนิดพิมจะเอามาล้างให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำก่อน แล้วค่อยหั่น/เด็ดให้เป็นชิ้นเล็กนะคะ
#สีแดง ... ส่วนใหญ่พิมจะใช้เป็นมะเขือเทศราชินี สตรอเบอรี่ (สด/แช่แข็ง) พริกหวานสีแดง แอ๊ปเปิ้ลแดง บีทรูท และก็ราสเบอร์นี่ (สด/แช่แข็ง) ค่ะ
#สีส้ม ... มีอยู่ 4 อย่างที่พิมใช้บ่อย ๆ คือ แครอท ลูกพลับ (สด/แช่แข็ง) ส้ม (สด/แช่แข็ง) และก็มะละกอนะคะ
#สีเหลือง ... ผักผลไม้ในโทนสีนี้ก็จะมี กล้วยหอม พริกหวานสีเหลือง มีเลมอน สับปะรด ขิง และก็เกรปฟรุต (สด/แช่แข็ง) ค่ะ
#สีม่วง ... อันนี้มีให้หยิบมาใช้น้อยหน่อย คือ จะมีบลูเบอรี่ (สด/แช่แข็ง) กะหล่ำปลีม่วง พรุน และก็องุ่นจ้า
ส่วน #สีขาว ... ก็จะมี โยเกิร์ต เต้าหู้ นมถั่วเหลือง
และสีสุดท้าย #สีดำ ... ก็จะมีงาดำคั่วป่น กาแฟ และก็โกโก้นะคะ
จริง ๆ ผักผลไม้ในโทนสีต่าง ๆ มีเยอะกว่านี้ค่ะ แต่ว่าที่พิมเลือกมาใช้ประมาณนี้ คือ พิมพยายามเลือกที่ราคาไม่แพง และหาง่าย จะได้มีกำลังใจทำสมูทตี้ผักผลไม้กินทุกวันนะคะ ^_^
ส่วนอุปกรณ์ที่พิมใช้ในการปั่นผักผลไม้เพื่อทำสมูทตี้ เพื่อความสะดวกพิมเลือกใช้เป็น Hand Blender หรือที่ปั่นแบบมือถือค่ะ เพราะว่าแค่เราเอาผักผลไม้ใส่ลงในแก้ว แล้วก็หย่อนหัวเครื่องปั่นตามลงไป กดปุ่มให้เครื่องทำงาน เครื่องปั่นก็จะปั่น ๆ ของที่อยู่ในแก้ว ไม่กี่วินาทีเราก็จะได้สมูทตี้พร้อมทานแล้วนะคะ ที่สำคัญพอใช้เครื่องปั่นเสร็จ แค่จุ่มหัวปั่นลงไปในแก้วน้ำเปล่า แล้วกดปั่นสัก 5 วิ เศษผักผลไม้ คราบนมคราบโยเกิร์ตที่ติดอยู่กับหัวปั่นก็จะหลุดออกหมด เวลาจะล้างก็ล้างสบายเลย ไม่ต้องลำบากเอาฟองน้ำเข้าไปถู ๆ ในโถปั่นเหมือนเวลาเราใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ค่ะ
ส่วนวิธีทำสมูทตี้วิธีใส่ผักผลไม้ลงไปในโถปั่นก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก แค่เราหาแก้วทรงสูงมาใบนึง ใส่ของเหลวลงไป ปกติก็จะเป็นน้ำเปล่า/นมถั่วเหลือง/น้ำเลมอน ประมาณนี้นะคะ ตามด้วยผักผลไม้นิ่มๆ เช่น กล้วยหอม/ผักสลัด/ปวยเล้ง/วอเตอร์เครส/อะโวคาโด แล้วด้านบนสุดค่อยใส่ผักผลไม้เนื้อแข็ง เช่น แอ๊ปเปิ้ลหั่นชิ้น ลูกพลับ แครอท พริกหวาน ขิง หรือผลไม้แแช่แข็งลงไปค่ะ
จากนั้นก็หย่อนหัวปั่นของเครื่องปั่นมือถือลงไปในแก้วนะคะ (ตามภาพ) กดปุ่มปั่นที่ด้ามจับเพื่อให้เครื่องทำงาน ... จนได้ความละเอียดของสมูทตี้ตามต้องการก็ปิดเครื่องได้เลย แล้วเราก็จะได้สมูทตี้ผักผลไม้พร้อมกินล่ะค่ะ
ดูเรื่องผักผลไม้กับอุปกรณ์ไปแล้ว ต่อมาก็มาดูสูตรสมูทตี้แต่ละแก้วกันดีกว่านะคะ
เริ่มที่แก้วแรก #สมูทตี้สีเขียว ... เป็นสมูทตี้ที่มีรสหวาน กลิ่นหอมจากกล้วยหอม ตัดกับรสเปรี้ยวอ่อน ๆ ของกีวี และมีรสเผ็ดร้อนนิด ๆ จากขิงค่ะ สมูทตี้สูตรนี้มีส่วนผสมหลักเป็นผักใบเขียว (วันนี้พิมใช้เป็นวอเตอร์เครส) ซึ่งเป็นผักที่มีแคลเซียมสูงกว่านม ธาตุเหล็กสูงกว่าผักโขม และมีวิตามินซีสูงกว่าส้ม-ฝรั่งนะคะ และถ้ากินสมูทตี้สูตรนี้หมดแก้วจะได้วิตามินเอจากวอเตอร์เครสเท่ากับปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันเลยค่ะ แถมด้วยคุณสมบัติของวอเตอร์เครส แอ๊ปเปิ้ลแดง กีวี ขิง จะช่วยล้างพิษในร่างกายเรา ทำให้ลำไส้สะอาด ส่งผลให้ระบบการเผาผลาญอาหารของเราดีขึ้นอีกด้วยนะคะ
- วอเตอร์เครส เด็ดมาใช้เฉพาะส่วนยอด 40 กรัม (ปรับเป็นผักสีเขียวอย่างอื่นได้ตามที่ชอบ)
- กล้วยหอมสุก 1 ผล
- แอ๊ปเปิ้ลแดง หั่นเป็นชิ้นเล็กทั้งเปลือก 1/4 ผล
- กีวี แบบแช่แข็งหรือแบบสดก็ได้ 1/2 ผล
- ขิงอ่อน หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำต้มสุก 120 มิลลิลิตร
ต่อมาแก้วที่สอง #สมูทตี้สีแดง ... สมูทตี้สูตรนี้จะมีความข้นมากกว่าสมูทตี้สูตรแรก และ มีรสหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ จากสตรอเบอรี่และมะเขือเทศ บวกกับรสเผ็ดอ่อนๆ จากพริกหวานเล็กน้อยค่ะ ด้วยคุณสมบัติของมะเขือเทศ+สตรอเบอรี่+พริกหวานและกล้วยหอม สมูทตี้สูตรนี้เมื่อกินแล้วจะให้ความรู้สึกสดชื่น ฟื้นตัวจากอาการเหนื่อยล้านะคะ ที่สำคัญด้วยความที่ผักผลไม้ที่ใช้ทำสมูทตี้แก้วนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินซีค่อนข้างเยอะ เพราะงั้นแล้วก็จะช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณเรามีความเต่งตึง ชุ่มชื้น แถมยังหย่อนคล้อยช้าลงอีกด้วยค่ะ
- มะเขือเทศราชินี ผ่าครึ่ง 8 ผล
- สตรอเบอรี่ (แช่แข็งหรือสดก็ได้) 4 ผลใหญ่
- พริกหวานสีแดง หั่นชิ้นเล็ก 1/8 ผล
- กล้วยหอม หั่นแว่น 1 ผล
- น้ำต้มสุก 120 มิลลิลิตร
สมูทตี้แก้วที่สาม #สมูทตี้สีส้ม .... สมูทตี้สูตรนี้เนี่ยเป็นสูตรที่มีส่วนผสมหลักเป็นแครอทกับส้มนะคะ รสชาติก็จะออกแนวแครอท ๆ หน่อย เป็นรสใส ๆ และหวานน้อยมาก ใครที่ไม่ชอบรสชาติของแครอทดิบ อาจจะลดปริมาณแครอทดิบลง แล้วเพิ่มส้มแทน หรืออาจจะเติมน้ำผึ้งหรือว่าเกลือป่นไปสักนิดเพื่อช่วยปรับรสชาติก็ได้ค่ะ
สมูทตี้แก้วนี่เนี่ยจะช่วยในเรื่องของการเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย เพราะว่าตัวแครอทจะมีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และโพแทสเซียมสูง ซึ่งทั้งสามวิตามิน+แร่ธาตุนี้จะช่วยในเรื่องของการขับสารพิษออกจากร่างกาย และช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกายนะคะ
- แครอทหั่นชิ้นบางๆ 1/2 หัวขนาดกลาง
- สัมแกะเปลือก แคะเมล็ดออก 1 ผลใหญ่
- แอ๊ปเปิ้ลแดง หั่นเป็นชิ้นเล็ฏ 1/2 ผล
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำต้มสุก 100 มิลลิลิตร
สมูทตี้แก้วที่สี่ #สมูทตี้สีเหลือง ... เป็นสมูทตี้สูตรที่มีเส้นใยอาหารเยอะมาก ก็เลยเป็นสมูทตี้สูตรที่ช่วยปรับสภาพลำไส้ ทำให้ขับถ่ายง่ายขึ้น และลดอาการท้องผูกด้วยค่ะ (สูตรนี้พิมเห็นผลชัดเจนกับตัวเองเลย) แถมสมูทตี้สูตรนี้ด้วยความที่มีทั้งกล้วยหอมและพริกหวาน ซึ่งกล้วยหอมเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานที่ร่างกายสามารถดูดซึมเอาไปใช้ได้ทันทีนะคะ ส่วนพริกหวานสีเหลือง นอกจากจะมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ก็ยังมีฤทธิ์ช่วยในเรื่องการฟื้นฟูสภาพร่างกายจากอาการเหนื่อยล้า ทำให้สมูทตี้สูตรนี้ช่วยเรียกความสดชื่นจากการออกกำลังและจากสภาพอากาศที่ร้อน ๆ ได้ดีเลยค่ะ
- สับปะรด 100 กรัม (ประมาณ 10 ชิ้นที่เราหั่นทาน)
- กล้วยหอม 1 ลูก
- พริกหวานสีเหลืองหั่นชิ้นเล็ก 1/4 ลูก
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำต้มสุก 120 มิลลิลิตร
สมูทตี้แก้วที่ห้า #สมูทตี้สีชมพูอ่อน (หรือจะบอกว่าเป็นสีเทาก็ได้นะคะ ^_^) .. เป็นสมูทตี้สูตรบำรุงผิวสวย สมูทตี้สีนี้มีส่วนผสมหลักเป็นสตรอเบอรี่กับกล้วยหอม และมีมะเขือเทศแซมนิด ๆ ค่ะ ช่วยในเรื่องของการป้องกันผิวจากรังสี UV ในแสงแดดนะคะ แล้วในนมถั่วเหลือง ก็มีสารไอโซฟลาโวนที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กับฮอร์โมนเพศหญิง เมื่อทานเข้าไปแล้วก็จะช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวพรรณมีความเปล่งปลั่งมากขึ้น และเหี่ยวย่นช้าลงค่ะ เหมาะสำหรับผู้หญิงและผู้ชายทุกคนเลยนะคะ ^_^
- กล้วยหอม หั่นแว่น 1 ผล
- มะเขือเทศราชินี ผ่าครึ่ง 3 ผล
- สตรอเบอรี่แบบสดหรือแช่แข็ง 4 ผลใหญ่
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเต้าหู้/นมถั่วเหลือง ไม่ใส่น้ำตาล 120 มิลลิลิตร
สมูทตี้สูตรที่หก #สมูทตี้สีดำ ... สมูทตี้สูตรนี้จะได้ความหวานมาจากกล้วยหอม และได้ประโยชน์จากงาดำค่ะ ซึ่งงาดำจะมีสารเซซามิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่หาจากที่อื่นไม่ได้นอกจากในงาดำนะคะ สารตัวนี้เนี่ยจะช่วยซ๋อมแซมและบำรุงผิวของเรา ทำให้ผิวเรา ผมเราแข็งแรง ไม่แห้งง่ายค่ะ แถมงาดำยังมีธาตุเหล็กสูง จึงช่วยบำรุงเลือด กระตุ้นการทำงานของระบบเลือดในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกนะคะ ส่วนวอเตอร์เครส ด้วยความที่มีวิตามินเอเยอะ ก็จะช่วยบำรุงสายตาและบำรุงผิวพรรณเช่นกันค่ะ
- กล้วยหอม หั่นแว่น 1 ผล
- วอเตอร์เครส 10 กรัม
- งาดำคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ
- นมถั่วเหลือง แบบไม่ข้นมาก และไม่ใส่น้ำตาล 150 มิลลิลิตร
ส่วนสมูทตี้สูตรสุดท้ายที่พิมจะเอามาทำให้ดูในวันนี้ ก็คือ #สมูทตี้สีม่วง นะคะ ... สมูทตี้สูตรนี้เนี่ย เป็นสูตรที่มีส่วนผสมผลักเป็นผัก/ผลไม้สีม่วงค่ะ ปกติแล้วพิมจะใช้บลูเบอรี่นะคะ แต่ว่าวันนี้บลูเบอรี่หมด พิมเลยใช้กะหล่ำม่วงแทน ซึ่งตัวกะหล่ำม่วงเนี่ยจะมีสารตัวนึงที่เรียกว่า เอส-เมธิลเมไธโอนีล ช่วยในเรื่องการบรรเทาอาการแพ้ในกระเพาะอาหาร และช่วยทำให้เลือดหมุนเวียนไปหล่อเลี้ยงระบบย่อยอาหารได้ดีขึ้น นอกจากนั้นกะหล่ำม่วงก็ยังเป็นผักที่มีปริมาณน้ำเยอะ เพราะงั้นใครที่ชอบปาร์ตี้ตอนดึก แล้วเช้า ๆ ต้องไปเรียนไปทำงาน สมูทตี้สูตรนี้ จะช่วยแก้อาการแฮงค์ได้ดีประมาณนึงเลยค่ะ
- กะหล่ำปลีสีม่วงซอยละเอียด 1/2 ถ้วย
- สตรอเบอรี่ สดหรือแช่แข็ง 5 ผลใหญ่
- ราสเบอรี่ สดหรือแช่แข็ง 5 ผลใหญ่
- กล้วยหอม หั่นแว่น 1 ผล
- น้ำเปล่า 120 มิลลิลิตร
หลักการทำสมูทตี้สำหรับพิม .. จริง ๆ แล้วก็ไม่มีอะไรมากมาย (อาจจะต่างหรือไม่ต่างจากคนอื่น พิมก็ไม่แน่ใจ) แต่พิมว่าแค่เราเลือกผักผลไม้ที่เราชอบในปริมาณที่เหมาะสม เอามาปั่นรวมกัน มันก็โอเคแล้วนะคะ แล้วก็อาจจะเสริมรสด้วยโยเกิร์ตนิด น้ำมะนาวหน่อย น้ำเต้าหู้หน่อย เพื่อให้รสชาติมันนวลขึ้น นุ่มละมุนขึ้น ก็ดีงามแล้วค่ะ ที่สำคัญอย่าใส่ผักผลไม้หลายชนิดมากเกินไป เพราะรสชาติมันอาจจะตีกันได้นะคะ
นอกจากสูตรสมูทตี้ที่ลงตัวแล้ว วิธีที่จะทำให้สมูทตี้ของเราอร่อยมากยิ่งขึ้น ก็คือ การนำผักผลไม้ที่จะใช้ทำสมูทตี้ไปแช่ให้เย็นจัดซะก่อนเอามาปั่นค่ะ และอย่างที่บอก ถ้าใครปั่นแล้วรู้สึกว่ายังทานไม่ได้ มันลำบากใจนิด ๆ ก็อาจจะเติมเกลือป่น หรือน้ำผึ้งเพิ่มเติมได้ แต่อย่าให้เยอะเกิน ไม่งั้นเดี๋ยวจะไม่เป็นสมูทตี้เพื่อสุขภาพไปนะคะ หรือหากใครปั่นแล้วรู้สึกว่ามันข้นเกินไป ก็อาจจะเติมน้ำต้มสุก/น้ำเต้าหู้ เพิ่มได้เช่นกัน หรือถ้าสมมติว่าปั่นแล้วรู้สึกกลิ่นมะเขือเทศเยอะเกิน อยากจะเพิ่มผลไม้อย่างอื่นเช่นสตรอเบอรี่ เพื่อไปทับกลิ่นของมะเขือเทศ ก็ได้เช่นกันอ่ะค่ะ เรียกว่าเราสามารถปรับเปลี่ยนสูตรสมูทตี้ได้ตามความชอบ ไม่มีอะไรผิดอะไรถูกนะคะ
ส่วนเวลาในการดื่มสมูทตี้ก็ไม่มีอะไรตายตัวค่ะ เอาตามที่สะดวกเลย ยังไงก็ลองไปทำกันดูนะคะ แล้วพบกับพิมกับเมนูใหม่ ๆ ในครั้งถัดไป สวัสดีค่ะ ^_^
:: หมายเหตุ ::
- รสชาติของสมูทตี้แต่ละสูตรขึ้นกับผักผลไม้ที่เราใช้นะคะ ไม่จำเป็นว่าสูตรเดียวกัน รสชาติจะออกมาเหมือนกันเป๊ะ ๆ ขึ้นกับความสุกงอม พันธุ์ รวมไปถึงขนาดขนาดผลไม้ที่เราเลือกใช้ด้วยค่ะ #เรื่องรสชาติ สมมติว่าสูตรไหนใช้กล้วยหอมด้วย และเพื่อน ๆ ใช้กล้วยหอมสุกมาก สมูทตี้ของเราก็จะหวานมากไปด้วยนะคะ แต่ถ้าใช้กล้วยหอมห่าม ความหวานของสมูทตี้ก็จะน้อยนะคะ หรือสูตรไหนที่มีส้ม/สับปะรด ถ้าส้ม/สับปะรดเปรี้ยวมาก สมูทตี้ของเราก็จะมีรสเปรี้ยวมากตามไปด้วยค่ะ หรือในสมูทตี้สูตรที่มีขิง ถ้าเราอยากให้มีรสขิง มีกลิ่นขิงมากขึ้น ก็อาจจะใส่ขิงเพิ่มได้นะคะ หรือแม้กระทั่ง #เรื่องของสี สมมติว่าในสมูทตี้สีเขียวเราใช้วอเตอร์เครสทำให้มีสีเขียว แต่บางครั้งวอเตอร์เครสเราเป็นสีเขียวอ่อน เราก็จะได้น้ำปั่นที่มีสีเขียวอ่อน แต่ถ้าวอเตอร์เครสเรามีสีเขียวเข้ม (ขึ้นกับการปลูก) น้ำปั่นของเราก็จะมีสีเขียวเข้มมากขึ้นค่ะ
- ทุกคนไม่จำเป็นต้องใช้สมูทตี้สูตรพิมเป๊ะๆ สามารถปรับเพิ่มลดสัดส่วนแต่ละอย่าง หรือส่วนผสมได้ตามความพอใจ และรสชาติที่ชอบเลยนะคะ
- ส่วนเครื่องปั่นมือถือที่พิมใช้ก็คือตัวนี้ค่ะ Summer Magic Handy 3 in 1 อ่านรีวิวที่พิมเขียนกับเจ้าเครื่องปั่นตัวนี้เอาไว้ได้ >> ที่นี่ << และถ้าสนใจ ก็สามารถหาซื้อได้ที่ >> เวบ 2010 Megastore << นะคะ