วันนี้พิมจะมาชวนทุกคนทำเครื่องดื่มเย็น ๆ กันสักอย่างนึงนะคะ เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่นอกจากจะทำง่ายและมีส่วนผสมไม่เยอะแล้ว ขอบอกว่ารสชาติอร่อยไม้แพ้เครื่องดื่มอย่างอื่นเลย ซึ่งก็คือ "น้ำกระชาย" นั่นเองค่ะ ^_^
พูดถึง "กระชาย" พิมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็น่าจะรู้จักกระชายกันอยู่แล้วเน๊าะคะ เพราะในอาหารไทยเราหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนมจีนน้ำยา แกงขี้เหล็ก แกงป่า ผัดเผ็ด ผัดพริก ล้วนมีกระชายเป็นส่วนประกอบสำคัญเกือบทุกเมนูเลยค่ะ
โดยทั่วไปแล้วกระชายจะมีอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน ก็คือกระชายดำ กระชายแดง และกระชายเหลืองนะคะ แต่ว่าที่เราเห็นกันในตลาด ที่เราเอามาทำกับข้าวกินก็จะเป็นกระชายเหลือง (หรือบางคนก็เรียกกระชายขาว) ล้วน ๆ เลยค่ะ
จะว่าไป "กระชาย" เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์มากอยู่นะคะ กระชายมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นเลือดลม สร้างความกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกาย ถ้าใครมีอาการจุกเสียด ท้องอืด ปวดท้อง การกินน้ำกระชายก็ช่วยได้ดีเลยค่ะ และจากผลการทดลองในแลปของมหาวิทยาลัยมหิดลเมื่อปีที่แล้ว ก็พบว่าสารบางอย่างที่มีอยู่ในกระชาย มีฤทธิ์ยับยั้ง SARS-CoV-2 อีกด้วยนะคะ (https://mahidol.ac.th/th/2020/tcels-covid-19) และด้วยความที่กระชายมีคุณสรรพคุณดี ๆ เยอะมาก อีกทั้งมีสรรพคุณหลายอย่างที่คล้ายกับโสม ในวงการแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีนถึงยกย่องกระชายว่าเป็น "โสมไทย" เลยค่ะ
เพราะงั้นในเมื่อกระชายมีข้อดีล้านแปดขนาดนี้ วันนี้เรามาทำน้ำกระชายกินกันดีกว่านะคะ ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "สูตรที่ 1" ใส ๆ เปรี้ยวนำ หวานน้อยมาก ::
กระชาย 200 กรัม
น้ำเปล่าต้มสุก 2000 มิลลิลิตร
น้ำมะนาว 100 มิลลิลิตร
น้ำผึ้ง 100 มิลลิลิตร
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "สูตรที่ 2" เข้มข้น เปรี้ยวหวานกลมกล่อม ::
กระชาย 500 กรัม
น้ำเปล่าต้มสุก 1500 มิลลิลิตร
น้ำมะนาว 110 มิลลิลิตร
น้ำผึ้ง 140 มิลลิลิตร
** ทั้งสองสูตร มีวิธีการทำเหมือนกัน ต่างกันที่อัตราส่วนผสม / ในภาพด้านล่าง เป็นของสูตรที่ 1
:: วิธีทำ ::
อันดับแรก เรามาดูที่กระชายกันก่อนนะคะ ... กระชายที่พิมเอามาใช้ทำน้ำกระชายในวันนี้เป็นส่วนรากของกระชายเหลือง หรือบางคนก็เรียกว่ากระชายขาว เป็นกระชายชนิดเดียวกับที่เราเอามาใช้ทำกับข้าว และมีขายทั่วไปตามตลาดสดเลยค่ะ
รากกระชายมี 2 ส่วนประกอบกัน ส่วนแรกที่กลม ๆ แข็ง ๆ เราเรียกว่า "เหง้ากระชาย" และอีกส่วนที่ยาว ๆ เราเรียกว่า "นมกระชาย" นะคะ ปกติแล้วเวลาที่เราเอากระชายมาใส่ในเมนูโน่นนี่ ส่วนใหญ่เราจะใช้แต่นมกระชาย ส่วนเหง้ากระชายก็เอาไปปลูกต่อหรือใส่เฉพาะในบางเมนู เช่น น้ำยาเท่านั้นค่ะ
เมื่อได้กระชายมาแล้ว สิ่งแรกที่เราต้องทำคือล้างดินล้างโคลนจากรากกระชายออกให้หมด แล้วพักให้แห้งนะคะ จากนั้นก็นำมาตัดแยกส่วน-เหง้า-กับ-นมกระชาย-ออกจากกัน เพราะเราจะใช้แต่นมกระชายค่ะ เมื่อได้นมกระชายมาแล้ว ก็ให้เอามีดเล็ก ๆ ขูดผิวกระชายบางส่วนทิ้งไปเพื่อลดความฝาดนะคะ แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องความฝาด จะไม่ขูดก็ได้ เสร็จแล้วก็เอากระชายไปล้างน้ำเปล่าสัก 3-4 น้ำ พอสะอาดดีก็เทใส่กระชอนพักให้สะเด็ดน้ำค่ะ
** น้ำหนักกระชายตามที่พิมบอกไว้ เป็นน้ำหนักเฉพาะนมกระชายนะคะ
เมื่อกระชายสะเด็ดน้ำดีแล้ว ก็เอากระชายมาหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ แบบในภาพด้านล้างนี้ค่ะ
จากนั้นหยิบโถปั่นน้ำผลไม้ออกมา ใส่กระชายที่หั่นแล้วลงไป ตามด้วยน้ำเปล่านะคะ ถ้าเป็นสูตรแรกให้ใส่น้ำเปล่าสัก 400 - 500 มิล แต่ถ้าเป็นสูตรสองให้ใส่น้ำเปล่าไปสักครึ่งนึงของสูตรหรือประมาณ 750 มิล คือกะว่าใส่น้ำแค่พอปั่นได้ อย่าใส่มากเกิน เพราะถ้าใส่น้ำมากเกินจะปั่นลำบาก เนื่องจากสัดส่วนของน้ำกับกระชายมันไม่พอดีกันค่ะ ... แล้วก็นำไปปั่นให้ละเอียดนะคะ
ปั่นเสร็จก็เอาไปกรองด้วยผ้าขาวบางพับทบ 2 ชั้น หรือถ้าใครไม่มีผ้าขาวบาง อาจจะใช้เป็นกระชอนตาถี่ ๆ ก็ได้ค่ะ
แล้วเราก็จะได้น้ำกระชายออกมาหน้าตาแบบนี้ ... ถึงตรงนี้ก็เติมน้ำเปล่าที่เหลือลงไป คนให้เข้ากัน แล้วตั้งทิ้งไว้สัก 5 นาที พอให้ตกตะกอนนะคะ
** ถ้าใครไม่ซีเรีียสเรื่องตะกอน (ลดความฝาด) ก็ข้ามไปขั้นตอนถัดไปได้เลย
** กากกระชายที่เหลือ เราเอาไปทำขนมจีนน้ำยา หรือใส่ในแกงขี้เหล็กได้ค่ะ
พอครบเวลาก็เทเฉพาะน้ำกระชายใส่หม้ออีกใบนึง ส่วนตะกอนขาว ๆ ที่อยู่ก้นชาม เราไม่เอานะคะ แล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวกับน้ำผึ้ง ชิมให้ได้ความเปรี้ยวหวานตามที่ชอบได้เลยค่ะ ซึ่งถ้าเป็นสูตรแรกน้ำกระชายจะออกใส ๆ หน่อย และมีรสเปรี้ยวนำ หวานน้อยนะคะ (หรือเรียกได้ว่าไม่หวาน 555) ส่วนสูตรสอง อันนี้จะเป็นแบบเข้มข้น รสเปรี้่ยวหวานกลมกล่อมค่ะ ... ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ ทำตามสูตรที่พิมให้ไว้ แล้วรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ อยากได้เปรี้ยวหวานมากหรือน้อยกว่านี้ ก็ปรับรสเพิ่มได้ตามที่ชอบเลยนะคะ
เสร็จแล้วก็เทใส่ขวดที่เตรียมไว้ (ขวดแก้วหรือขวดพลาสติคก็ได้) ..... ก่อนจะปิดฝาให้เรียบร้อย แล้วเอาไปแช่เย็นไว้จนถึงเวลาเสิร์ฟค่ะ
ตามสูตรที่พิมได้ให้ไว้ หากเทใส่ขวด 250 ml. ถ้าเป็นสูตรแรกจะได้ประมาณ 10 ขวด แต่ถ้าเป็นสูตรสองจะได้ประมาณ 6-7 ขวดนะคะ ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ คนไหนต้องการทำน้ำกระชายให้ได้จำนวนขวดมาก/น้อยกว่านี้ ก็สามารถปรับเพิ่มลดสูตรได้ตามที่ต้องการเลยค่ะ
น้ำกระชายทั้งสองสูตรนี้ ถ้าเราทำกินเองก็ไม่ควรเก็บไว้เกิน 1 สัปดาห์นะคะ เพราะยิ่งเก็บนาน ความซ่าและความหอมของกระชายก็ยิ่งลดลง ทำให้ความอร่อยของน้ำกระชายลดลงไปด้วยค่ะ ^_^
ยังไงก็ไปลองทำกันดูน๊า ติดขัดตรงไหนก็มาถามกันได้ แล้วเจอกับพิมใหม่ในเมนูถัดไป ส่วนวันนี้ขอตัวไปจิบน้ำกระชายเย็น ๆ ก่อนนะคะ ^_^