เรื่องของเรื่องคือเมื่อเช้าวานที่ตลาดนัดท้ายหมู่บ้านพิม มีเพื่อนในหมู่บ้านคนนึงเค้าเอาข้าวโพดที่เค้าปลูกเองมาขายค่ะ (ปลูกอยู่ที่บ้านต่างจังหวัด)
ด้วยความที่ข้าวโพดเค้าเด็ดมาใหม่ ๆ ทั้งสดและสวยมาก พิมก็เลยอดใจไม่ได้ ซื้อติดไม้ติดมือกลับมาบ้าน 15 ฝัก จำไม่ได้แล้วว่าน้ำหนักเท่าไหร่ แต่จ่ายไปไม่ถึงร้อยบาท #คือถูกมากกกนะคะ 😊
แล้วตอนแรกที่ซื้อมาพิมก็ยังนึกไม่ออกว่าจะเอามาทำอะไรดีค่ะ พอกลับมาถึงบ้าน พิมก็เลยจับแช่ตู้เย็นเอาไว้ก่อน แล้วช่วงกลางวันเมื่อวานคืออากาศร้อนอบอ้าวสุด ๆ พิมทำงานในครัวอยู่หน้าเตาเกือบ 5 ชม. พองานเสร็จนี่รู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยมาก ๆ นะคะ แล้วตอนที่มันเหนื่อย ๆ พิมก็นึกอยากกินน้ำอะไรที่หวาน ๆ เย็น ๆ สักหน่อยค่ะ #กินแล้วจะได้ช่วยฮีลลลใจ ❤️❤️ แต่พอเปิดตู้เย็น ก็ไม่เจอน้ำอะไรเลย #เจอแต่กับข้าวพร้อมกินแน่นตู้ไปหมด 😂 พิมก็เลยคิดว่างั้นเดี๋ยวตอนเย็น ๆ เอาข้าวโพดที่ซื้อไว้มาทำเป็นนมข้าวโพดแล้วแช่ตู้เย็นไว้ดีกว่า เวลาที่เหนื่อยมาได้กินน้ำข้าวโพดหวาน ๆ เย็น ๆ บอกเลย สดชื่นที่สุดค่ะ 😁😁
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- ข้าวโพดเหลืองฝาน 2500 กรัม (ประมาณ 12 - 13 ฝักอ้วนๆ)
- น้ำเปล่า (ส่วนที่ 1) 2500 กรัม
- น้ำเปล่า (ส่วนที่ 2) 4000 กรัม
- น้ำตาลทรายขาว 300 กรัม
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
*** ปริมาณน้ำตาล สามารถปรับเพิ่มลดได้ตามความหวานของข้าวโพด และความหวานที่ชอบ
:: วิธีทำ ::
เริ่มแรก ... เรามาเตรียมในส่วนของข้าวโพดกันก่อนค่ะ
สำหรับข้าวโพดที่พิมซื้อมา เป็นข้าวโพดพันธุ์ที่สีไม่เหลืองมากนัก เพราะงั้นแล้วเราต้องยอมรับก่อนเลยว่า นมข้าวโพดที่ได้สีก็จะออกเหลืองนวล ๆ ตามสีของข้าวโพด ไม่เป็นสีเหลืองเข้มนะคะ
เมื่อเราได้ข้าวโพดมาแล้ว ให้เราแกะเปลือกข้าวโพด ดึงพวกเส้นใยออกให้หมด แล้วเอาไปล้างให้สะอาดค่ะ จากนั้นก็หยิบข้าวโพดแต่ละฝักมาฝานเอาเฉพาะเม็ดข้าวโพด ... ก็จะได้ข้าวโพดแบบในกะละมังด้านล่างนะคะ ซึ่งข้าวโพดประมาณ 12 - 13 ฝัก ก็จะได้เม็ดข้าวโพดประมาณ 2500 - 2600 กรัม แต่ถ้าใครได้มากน้อยกว่านี้นิดหน่อย ก็ไม่เป็นไร ไม่ซีเรียสค่ะ 😊😊
จากนั้นหยิบหม้อใบโตหน่อยไปตั้งเตา เปิดไฟกลาง ใส่น้ำเปล่าส่วนที่ 1 ลงไป พอน้ำเดือดก็ใส่เม็ดข้าวโพดที่เราฝานไว้ลงไปนะคะ แล้วต้มประมาณ 10 นาที (นับจากน้ำเดือด) หรือจนเม็ดข้าวโพดสุกใส ก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
*** การต้มข้าวโพดให้สุกแล้วค่อยเอามาปั่น จะทำให้น้ำข้าวโพดไม่แยกชั้นเหมือนกับการปั่นแบบดิบ ๆ แล้วค่อยเอาไปตัมนะคะ
ด้วยความที่เราจะต้องเอาข้าวโพดกับน้ำไปปั่นให้ละเอียด เพื่อกรองเป็นนมข้าวโพด แต่ว่าข้าวโพดที่เพิ่งต้มสุกใหม่ๆ แบบนี้ มันร้อนมาก เกรงว่าถ้าเอาไปปั่นทั้งยัวร้อน ๆ แบบนี้ เครื่องปั่นของเราอาจจะพังได้นะคะ เพราะงั้นให้เราใส่น้ำเปล่าส่วนที่ 2 ลงไปในหม้อข้าวโพด คนให้เข้ากัน แล้วตั้งทิ้งไว้สักแป๊บ อาจจะ 10-15 นาที เพื่อให้ข้าวโพดของเราร้อนน้อยลงค่ะ 😊
จากนั้นก็ทยอยตักข้าวโพดพร้อมน้ำในหม้อไปปั่นรวมกันให้ละเอียดนะคะ สำหรับปริมาณที่นำไปปั่นในแต่ละครั้งก็ขึ้นอยู่กับความจุของโถปั่นที่แต่ละคนมีเลย เอาให้เหมาะสม ระวังอย่าใส่เยอะเกิน ไม่งั้นเดี๋ยวเวลาปั่น ส่วนผสมจะกระฉอกออกจากโถปั่นได้ค่ะ
พอปั่นเสร็จแล้ว เราก็นำมากรอง ... ในขั้นตอนการกรอง เราจะกรองทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกเราจะกรองด้วยกระชอนตาห่างก่อน เพื่อเอากากหยาบทิ้งไปนะคะ ส่วนครั้งที่ 2 ให้กรองด้วยกระชอนตาถี่หรือผ้าขาวบางก็ได้ เพื่อกรองเอากากละเอียด ถ้ากรองด้วยผ้าขาวบางก็จะได้นมข้าวโพดที่เนียนลื่นคอ ไม่มีกากค่ะ แต่ถ้ากรองด้วยกระชอนตาถี่แบบพิม ก็จะได้นมข้าวโพดที่มีกากละเอียดนิดนึง ซึ่งปกติพิมชอบ ก็เลยกรองแบบนี้ล่ะค่ะ
แล้วเราก็จะได้นมข้าวโพดพร้อมเอาไปต้มออกมาอย่างในภาพด้านล่างนะคะ 😄😄
ถึงตรงนี้ก็ยกหม้อนมข้าวโพดตั้งเตาแล้วต้มให้ร้อนค่ะ จะใช้ไฟแรงไฟอ่อนก็ตามที่สะดวกเลย แต่ถ้าใช้ไฟแรงต้องหมั่นคนเรื่อย ๆ ไม่งั้นอาจจะไหม้ก้นหม้อได้นะคะ
ต้มนมข้าวโพดให้ถึง/เกินอุณหภูมิ 90 องศา เพือทำลายเชื้อจุลินทรีย์ ถ้าใครมีเทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดอุณหภูมิน้ำ/น้ำมัน ก็เอามาใชัวัดได้เลย แต่ถ้าใครไม่มีก็ให้ต้มไปจนเดือด พอเดือดก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ 😊
พิกัดเทอร์โมมิเตอร์ >> https://shope.ee/1VSSrV0YHA
ถึงตรงนี้ก็ใส่น้ำตาลลงไปตามสูตร หรือถ้าใครชอบหวานมากน้อยกว่านี้ก็เพิ่ม/ลดน้ำตาลได้ตามที่ชอบนะคะ และก็อย่าลืมใส่เกลือด้วย เกลือจะช่วยดึงรสชาติทุกอย่างให้มันมารวมกัน ทำให้รสกลมกล่อม นัว นวลมากขึ้นค่ะ 😊😊
จากนั้นก็ตั้งหม้อนมข้าวโพดทิ้งไว้สักพัก เพื่อให้อุณหภูมิลดลง ก่อนที่เราจะเอาไปบรรจุใส่ขวดนะคะ
*** ใครไม่มีเทอร์โมมิเตอร์ ก็กะ ๆ เอาด้วยความรู้สึกน๊า
สำหรับขวดที่พิมจะใช้บรรจุนมข้าวโพดในวันนี้เนี่ย ก็มี 2 แบบด้วยกันค่ะ แบบแรกเรียกขวด PP ที่ย่อมาจาก Polypropylene ขวดแบบนี้จะเป็นขวดที่มีลักษณะขุ่น เนื้อพลาสติคเหนียว ยืดหยุ่น และทนความร้อนได้สูงสุดที่ 90-100 องศาเซลเซียส (บางตำราบอก 90 บางตำราบอก 100) ซึ่งถ้าบรรจุน้ำ/ของเหลวที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่านี้ ขวดอาจจะมีสภาพบิดเบี้ยวได้นะคะ 😊
ส่วนขวด PET มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Polyethylne Terephthalate ขวดแบบนี้จะมีลักษณะใส แข็ง ทนแรงกระแทกได้ดี ไม่แตกหักง่าย มีหลากหลายทรง และทนความร้อนได้น้อยกว่าขวด PP คือทนความร้อนสูงสุดที่ 67 องศาเซลเซียสเท่านั้น เพราะงั้นเครื่องดื่มที่บรรจุในขวดแบบนี้ ก็จะมีอายุสั้นกว่าแบบบรรจุในขวด PP เพราะต้องบรรจุที่อุณหภูมิต่ำกว่าค่ะ
สำหรับขวดทั้งสองแบบ เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายพวกบรรจุภัณฑ์ หรือตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ ร้านขายวัตถุดิบชาไข่มุกก็มี ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบเลย ทั่วไปก็ใบละ 2 - 3 บาทนะคะ 😊😊
พิกัดขวด PET แบบในภาพ >> https://shope.ee/A9kRBNqhTW
พิกัดขวด PP แบบในภาพ >> https://shope.ee/6AEIPz78j3
และเมื่อนมข้าวโพดของเรา ... อุณหภูมิลดลงจนถึงที่เราต้องการ ก็บรรจุใส่ขวดได้เลยค่ะ
ทั้งหมดตามสูตรนี้ ก็จะได้ประมาณ 25 ขวดขนาด 250 มิลลิลิตร (ml.) นะคะ
จากนั้นมาถึงขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอน ก็คือ การลดอุณหภูมิของนมข้าวโพดนะคะ คือ หลังจากที่เราบรรจุนมข้าวโพดใส่ลงในขวดแล้วเนี่ย ถ้าเราปล่อยให้นมข้าวโพดหายร้อนเองตามธรรมชาติ อาจจะทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ตรงบริเวณปากขวดเติบโตได้ เพราะงั้นเราจึงต้องทำการลดอุณหภูมินมข้าวโพด และนำไปแช่ตู้เย็นทันทีหลังบรรจุใส่ขวดแล้วค่ะ
วิธีลดอุณหภูมิก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย ให้เราเรียงขวดนมข้าวโพดใส่ในถาดหรือกะละมังก้นลึกอะไรก็ได้นะคะ จากนั้นใส่น้ำแข็งลงไป ตามด้วยน้ำเปล่าพอท่วม แล้วทิ้งไว้จนนมข้าวโพดหายร้อนค่ะ วิธีนี้จะเป็นวิธีลดอุณหภูมิแบบบ้าน ๆ แต่ก็ใช้ได้ดีเลยนะคะ 😊😊
ส่วนบ้านใครที่ไม่มีน้ำแข็ง ก็ให้เปิดน้ำก๊อกใส่ถาด/กะละมังนมข้าวโพดเลยค่ะ พอใส่แล้วทิ้งไว้สักพัก น้ำในกะละมังจะเริ่มร้อน ก็ให้เราเททิ้ง และเปิดน้ำใหม่ใส่ลงไป จนกว่านมข้าวโพดจะหายร้อน ก็เป็นอันใช้ได้นะคะ ... หยิบขวดขึ้นมา เช็ดด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง แล้วเอาไปแช่ตู้เย็นหรือแช่ในลังน้ำแข็งได้เลยค่ะ 😊😊
การพาสเจอไรซ์นมข้าวโพดแบบนี้ พิมจำมาจากที่ทางศูนย์ฝึกอาชีพ ม. เกษตร เค้าได้บอกไว้นะคะ ซึ่งเค้าบอกว่าถ้าเราทำตามนี้ นมข้าวโพดของเราจะอยู่ในตู้เย็นได้ยาว ๆ ประมาณ 30 วันเลยค่า แต่พิมยังไม่เคยลองนะ นานสุดที่พิมเคยเก็บก็ประมาณ 12-13 วัน เพราะกินหมดก่อนนั่นเองค่ะ 😁😁
ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองไปทำกันดู สูตรนี้อร่อย ทำง่าย ความหวานอะไรก็ปรับได้ตามชอบใจ อยากได้หวานมากน้อยก็ปรับเพิ่มลดน้ำตาลได้ อยากได้นมข้าวโพดข้นมากน้อย ก็ปรับเพิ่มลดปริมาณน้ำได้เช่นกันนะคะ ... ลองไปทำกันดู จะทำกินหรือทำขาย พิมว่าก็ดีทั้งนั้นเลยค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ในเมนูถัดไป สวัสดีค่า 😁