เมื่อ 19 มิถุนาที่ผ่านมา พิมได้รับเชิญไปร่วมเวิร์คช้อปทำเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่น "เตซาโตะ-ทำได้ อร่อยง่าย สไตล์แสงแดด" ที่ Cooking Studio ของ สนพ. แสงแดดอ่ะค่ะ
โดยเวิร์คช๊อปครั้งนี้เป็นการแนะนำหนังสือ "เดซาโตะ" ซึ่งเป็นตำราทำขนมสไตล์ญี่ปุ่นที่รวมสูตรเค้กญี่ปุ่นยอดฮิตในเมืองไทยทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสตอเบอรี่ช็อตเค้ก เครปเค้ก ชูครีม ชิบูย่าโทส มูสชาเขียว โมจิสตอเบอรี่ พาเฟ่มัจฉะ และอื่นๆ อีกมากมายถึง 20 สูตรด้วยกันค่ะ ^__^ โดยในแต่ละสูตรนั้นก็ได้ผู้เชี่ยวชาญขนมญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเชฟบิ๊ม-ปรางแก้ว บัณฑรรุ่งโรจน์ ดีกรีวิทยาลัยขนมจากจังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และเชฟเน็ต-ณวรา เปลี่ยนบุญเลิศ จากเลอกอร์ดองเบลอ-ลอนดอน ประเทศอังกฤษ มาเป็นผู้คิดค้นสูตร
แถมวันที่พิมไปเวิร์คช๊อป พิมได้เรียนรู้ทั้งวิธีการทำโรลผลไม้สด กับพุดดิ้งวนิลา อีกทั้งได้ชิมด้วย (ตรงนี้สำคัญ อิอิ) ซึ่งขอบอกว่าอร่อยมากกกกกทั้งสองขนมเลยค่ะ เพราะงั้นแล้วรับรองได้เลยค่ะว่าตำราทำขนมเล่มนี้ จะไม่ทำให้เพื่อน ๆ ผู้ที่สนใจและอยากหัดทำเค้กในสไตล์ญี่ปุ่นนั้นผิดหวังจ้า
ว่าแล้วก็ไปดูบรรยากาศภายในงานในวันนั้นกันเลยนะคะ ^__^
เริ่มต้นที่หน้างาน ... หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ระหว่างรอให้ถึงเวลา ก็มีมุมของว่างและเครื่องดื่มให้ทานไปพลาง ๆ ค่ะ
ใกล้ ๆ มีมุมแสดงหนังสือที่ทาง สนพ. แสงแดด จัดจำหน่ายอยู่ด้วย สนใจเล่มไหนก็หยิบมาดูกันได้เลย
พอถึงเวลา .... ก็มีการแนะนำสำนักพิมพ์ แนะนำหนังสือเดซาโตะ โดยคุณน่าน หงษ์วิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไปของ สนพ. แสงแดด
และแนะนำเชฟทั้งสองผู้ที่แต่งหนังสือเล่มนี้ ก็คือ เชฟบิ๊ม กับเชฟเนตค่ะ ^__^
บรรยากาศภายในห้องเรียน
อุปกรณ์ที่ทางแสงแดดจัดเตรียมไว้ให้แต่ละกลุ่ม
วัตถุดิบสำหรับเมนูแรก ^__^ "โรลผลไม้สด"
โดยในเมนูนี้เชฟบิ๊มจะเป็นคนสาธิตให้พวกเราได้ดูกันค่ะ
เริ่มต้นเชฟก็จะทำการตีวิปปิ้งครีมสำหรับปาดเป็นไส้โรลก่อนนะคะ
ตีเสร็จ (ใช้เวลาไม่นาน) ได้ออกมาเป็นแบบนี้ นำไปแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาไว้ค่ะ
จากนั้นเชฟก็มาทำการตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย น้ำมัน และน้ำ
โดยงานนี้ใช้ตะกร้อมือค่ะ
ตีจนเข้ากันดี ก็ใส่แป้งเค้กที่ร่อนไว้ลงไป ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันเบา ๆ อีกทีแล้วพักไว้แป๊บนึง
ระหว่างนั้นเชฟก็หันมาตีไข่ขาวกับน้ำตาลทรายค่ะ
ตีจนไข่ขาวตั้งยอดอ่อน และมีความมันวาว
ก็นำมาตะล่อมผสมรวมกับไข่แดงเมื่อสักครู่นี้
ได้ออกมาเป็นแบบนี้
ก็เทใส่ถาดอบที่รองด้วยกระดาษไข + ทาเนยขาว ........ ปาดหน้าให้เรียบ เอาเข้าอบไฟ 190 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 12 นาทีหรือจนกระทั่งเค้กสุกค่ะ
ระหว่างนั้นเชฟก็ให้แต่ละทีมลงมือทำในส่วนของตัวเอง ซึ่งหากทีมไหนทำแล้วติดขัดตรงไหน เชฟทั้งสองก็จะเข้าไปช่วยแนะนำให้ค่ะ
ส่วนทีมไหนที่ทำเสร็จก่อน เอาเค้กเข้าอบก่อน พอมีเวลาเหลือก็มายืนถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันค่ะ (ในภาพเนี่ยสมาชิกเวบครัวบ้านพิมทั้งสองเลยจ้า)
และเมื่อเค้กอบสุกแล้ว ก็ให้นำออกมาจากเตา คว่ำหน้าเค้กลงบนตะแกรง ลอกกระดาษไขออก (แต่ยังเอากระดาษไขคลุมเค้กไว้เหมือนเดิม) แล้วพักเค้กจนเย็นสนิท
ระหว่างรอเค้กเย็น ก็หันมาจัดการ (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้น) กับผลไม้ที่เราจะใช้สอดไส้ ซึ่งก็มีสตรอเบอรี่ กีวี กล้วยหอม และก็ส้มแมนดารินในน้ำเชื่อมค่ะ
พอเค้กเย็นได้ที่ ก็นำเค้กจากตะแกรงคว่ำลงบนกระดาษไข
ปาดด้วยวิปปิ้งครีมที่เราตีไว้เมื่อตอนแรก
วางผลไม้สดลงไปครึ่งแผ่น อีกครึ่งแผ่นที่เหลือปาดด้วยวิปปิ้งครีม
แล้วก็ทำการม้วน
ได้ออกมาเป็นแบบนี้ก็นำไปแช่ตู้เย็นจนเซ็ตตัว
พอเซ็ตตัวดี เชฟก็นำออกมาจากตู้เย็น
ตัดด้วยมีดคมเป็นชิ้นพองาม ^__^
แล้วก็แจกจ่ายให้ผู้ที่ไปเรียนได้ชิมกัน .... ซึ่งขอบอกว่าอร่อยมากเลยค่า กินแล้วก็แอบฟิน อยากได้อีกชิ้นนึง ^__^
และเมื่อเชฟบิ๊มสาธิตเสร็จ + พวกเราทุกคนได้ลองทำกันจนเสร็จเรียบร้อยแล้วในเมนู "โรลผลไม้สด" คราต่อไปก็ถึงคิวของเชฟเนตที่จะมาสาธิตวิธีทำ "พุดดิ้งวนิลา" ให้พวกเราดูเป็นอันดับต่อไปค่ะ
โดยก่อนลงมือสอนเชฟเนตบอกแบบยิ้มๆ ว่า เมนูนี้เป็นเมนูที่ง่ายมาก เรียกว่าคนละเรื่องกับเมนูเมื่อกี้เลย หลายคนอาจจะแอบงง ๆ ว่าเอ๊ะ ทำไมทำเสร็จไวจัง ซึ่งก็ไม่ต้องงงกันไป เพราะมันง่ายนั่นเองแหละค่ะ ^__^
สำหรับเมนูนี้ มีส่วนประกอบ 2 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนของคาราเมล กับส่วนของตัวพุดดิ้ง ซึ่งเนื่องจากการทำคาราเมลนั้นค่อนข้างอันตราย เชฟเนตจึงสอนแค่ในส่วนของการทำพุดดิ้ง ส่วนตัวแผ่นคาราเมลแม้เชฟจะไม่ได้สอน แต่ก็สาธิตให้พวกเราได้ดูกันอ่ะค่ะ
วิธีทำในเมนูนี้ก็ง่าย ๆ ค่ะ คือผสม นมสด วิปปิงครีม วนิลาลงในหม้อ ยกขึ้นตักไฟกลาง ระหว่างนั้นก็ตีไข่แดงกับน้ำตาลพอเข้ากัน พอนมอุ่นๆ ก็ดับไฟเตา ค่อย ๆ เทนม ใส่ลงในไข่แดงให้เป็นสายเล็กๆ พร้อมกับคนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน จนเข้ากันดี ก็กรองสักครั้งนึง
แล้วนำไปเทใส่ขวดหรือภาชนะที่จะใช้อบ (ซึ่งมีแผ่นคาราเมลวางอยู่ก้นขวด)
วางขวดในถาดอบที่มีน้ำร้อนสูงครึ่งนึงของขวด แล้วนำเข้าอบไฟ 180 องศาเซลเซียสเป็นเวลาประมาณ 2 นาที และ 150 องศา เป็นเวลาอีก 20 นาทีค่ะ
พอสุกดีก็นำพุดดิ้งออกจากเตาอบ ใส่น้ำแข็งลงในน้ำในถาดอบ เพื่อให้พุดดิ้งหายร้อนไวขึ้น พอพุดดิ้งเย็นสนิทก็นำเข้าแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาเป็นเวลาประมาณ 2 ชม. เพื่อให้เซตตัว ก่อนจะนำออกมาทานค่ะ ^__^
และเมื่อเชฟสาธิต 2 เมนูนี้จบแล้ว ก็เป็นอันว่าการมาเวิร์คช๊อปของเราใกล้จบแล้วเช่นกันค่ะ ซึ่งการมาเวิร์คช๊อปในวันนี้นอกจากจะได้ชิมขนมอร่อย ๆ ได้สูตรขนมอร่อยๆ กลับบ้านมาด้วยแล้ว ก็ยังได้เคล็ดลับเทคนิคอะไรต่างๆ มากมายที่บางทีเราไม่สามารถหาอ่านเอาได้จากในหนังสือตำราอาหารทั่วไป
ก่อนกลับก็ขอถ่ายรูปกับเชฟทั้งสองหน่อยค่ะ...... เชฟน่ารักและเป็นกันเองมากๆ ^__^
และก็ขอขอบคุณ สนพ. แสงแดด ขอบคุณคุณน่าน ขอบคุณเชฟบิ๊ม เชฟเนต ขอบคุณทีมงานแสงแดดทุกท่าน และขอบคุณคุณหนิงมากนะคะ ที่ให้โอกาสพิมได้ไปร่วมเวิร์คช๊อปดี ๆ เช่นนี้ ^__^ ค่ะ