ร่วม Workshop กับ Merito กะทิออร์แกนิคแท้ 100%

รายละเอียด: หมวด: Event and Workshop; เผยแพร่เมื่อ: วันพุธ, 27 สิงหาคม 2557 23:04; เขียนโดย พิม @ ครัวบ้านพิม; ฮิต: 5938

วันนี้พิมจะมาชวนเพื่อนๆ ไปร่วม Workshop กับ Merito ซึ่งเป็นกะทิออร์แกนิค 100% ที่ร้านอาหารอโณทัย แถวๆ รพ. พระราม 9 กันค่า

แต่ก่อนจะไป workshop กัน พิมอยากจะเล่าให้ฟังนิดค่ะว่า ด้วยความเอ๋อของพิม พิมนึกว่าร้านอโณทัย (ซึ่งพี่บี๊ บ่งบ๊งบอกว่าเป็นร้านมังสวิรัตน์ที่มีชื่อเสียงมาก) อยู่ใน รพ.พระราม 9 พิมก็เลยเอารถไปจอดที่ รพ.พระราม 9 ค่ะ ถ้าจำไม่ผิดจะจอดที่ชั้น 3 แล้วก็เดินเข้ามาถามเจ้าหน้าที่ใน รพ. ว่า เอ่อ.อ.อ ร้านอโณทัย อยู่ชั้นไหนคะ ปรากฎว่าถาม 5 คน ทุกคนต่างบอกว่าใน รพ. นี่ ไม่มีร้านอโณทัยนะคะ ... เอาแล้วไงล่ะ ตกลงนี่เรามาผิดที่รึเปล่านะ จะหาเบอร์คนที่พิมติดต่อด้วยก็จำไม่ได้ว่าเมมไว้ชื่ออะไร (แบบว่ามีเยอะมาก >_<) สรุปก็เดินถามไปเรื่อย ๆ จนออกไปถึงถนนหน้า รพ. ก็มีคนนึงบอกว่าอยู่นี่ไง แล้วก็ชี้มือไปข้างหน้าที่เป็นตึกแถว พิมก็สอดส่ายสายตามองตาม แต่เอ๊ะ...ไม่เห็นจะมีห้องแถวไหนเป็นร้านอาหารสักร้านเลยอ่า

สรุปคือจริง ๆ แล้ว ร้านอโณทัยไม่ได้อยู่ใน รพ. พระราม 9 ค่ะ - -" และก็ไม่ได้อยู่ที่ตึกแถวหน้า รพ. แบบยืนมองจาก รพ. จะเห็นเลย แต่ว่าจะอยู่ในตึกแถวด้านหลังของตึกแถวด้านหน้า รพ. อีกที ....... งงไหมคะ ไม่งงเน๊อะ ฮ่ะๆ ....... ก็สุดท้ายหากันจนเจอ Happy Ending ค่ะ

ด้วยความที่พิมเสียเวลาในการหาร้านประมาณสัก 20 นาทีได้ - -" พิมก็เลยค่อนข้างจะไปสายกว่าคนอื่นค่ะ พอไปถึงก็เจอเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่อยู่ในแวดวงบล๊อคเกอร์อาหาร (ชิม + ทำ) นั่งอยู่ก่อนแล้ว

แต่ว่าแม้พิมจะไปสายกว่าที่คิดไว้ แต่งานก็ยังไม่ได้เริ่มค่ะ เพราะสมาชิกยังมาไม่ครบ ^__^ ระหว่างนี้พิมก็เลยการทานสโคนสุดอร่อยที่มีส่วนผสมของ merito กะทิออร์แกนิค 100% คู่กับแยมกระเจี๊ยบ พร้อมจิบน้ำกุหลาบ & น้ำดอกอัญชันแบบไม่ใส่น้ำตาลไปพลาง ๆ ซึ่งหอมชื่นใจมากๆ เลยค่ะ (อยากจะขอกลับบ้าน ฮ่าๆ)

แล้วระหว่างทานสโคน ก็เม้าท์กับพี่บี๊-บ่งบ๊ง พี่โอ-เนินน้ำ พี่แหม่ม-Siriporn Mam และคุณสามีพิม ไปด้วยค่า ^_^ (เม้าท์กันสารพัดเรื่องมาก แต่ส่วนใหญ่ไม่พ้นเรื่องของกิน - -")

ถึงเวลาเริ่มงาน คุณโอ๋ สิรินทร์ .. ก็มาพูดอธิบายถึงที่มาที่ไปของเวิร์คช๊อปนี้แบบคร่าวๆ

และก็ได้เชิญคุณแซม คุณพีรโชติ จรัญวงศ์ ซึ่งเป็นเจ้าของกะทิ merito และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทุกอย่างที่เป็นแบรนด์ merito และเป็นนายกสมาคมการค้าเกษรอินทรีย์ไทย มาเปิดงานและให้ความรู้เรื่องของออร์แกนิคด้วยภาษาง่าย ๆ และมุขขำๆ สอดแทรกเล็กๆ น้อยๆ ตลอดเวลา ทำให้เราทุกคนที่ไปร่วมงาน workshop ครั้งนี้ ได้รับทั้งความรู้ และก็รอยยิ้มกันทุกคนเลยอ่ะค่ะ

จากนั้นก็ถึงเวลาของเชฟเอ ที่เป็นทั้งเชฟประจำร้านอโณทัยและเจ้าของร้านอโณทัย ... มาพูดถึงกะทิ merito และสาธิตเมนุง่าย ๆ ที่ใช้กะทิ merito ล่ะค่ะ

และเมนูแรกที่เชฟเอนำเสนอ นั่นก็คือ "สลัดกระเจี๊ยบเขียว" ซึ่งมีส่วนผสมเป็นผักสมุนไพรต่างๆ เยอะแยะมากมายถึง 7 ชนิด ..... ตอนแรกเห็นปริมาณผักแล้วแอบตกใจค่ะ แต่ด้วยฝีมือเชฟเอ ซึ่งจบจาก le cordon bleu ประเทศฝรั่งเศส และเป็นเชฟมากว่า 20 ปี (ถ้าพิมจำตัวเลขไม่ผิดน๊าาา) พิมเชื่อว่าอร่อยแน่นอน ...... ปรากฎว่าพอเชฟเอทำเสร็จแล้วเอามาให้ทุกคนได้ชิม (ทานคู่กับข้าวตังทอด) อร่อยมากจริงๆ ค่ะ ทั้งกระเจี๊ยบ เขียว กระเทียมสับ ขิงอ่อน พริกสารพัดพริก หอมแดง และน้ำสลัดสไตล์เชฟเอที่ใส่กะทิออร์แกนิค merito ใส่ซีอิ๊วขาวแทนน้ำปลา และใส่พริกเผาสูตรเฉพาะของทางร้านที่เชฟเอทำขึ้นมาเอง แล้วยิ่งได้ทานคู่กับข้าวตัง มันเข้ากันสุดๆ เลยค่ะ

คือจะว่าไงล่ะ ดูจากส่วนผสมเหมือนจะเป็นสลัดรสจัดจ้าน เพราะใส่พริกเยอะ ทั้งพริกขี้หนู พริกชี้ฟ้าแดง เหลือง แต่พอได้ชิมแล้ว จะรู้สึกได้เลยว่าเป็นยำออกแนวไทยๆ ผสมญี่ปุ่นที่รสชาตินุ่มนวล ไม่เผ็ดเกิน และน้ำยำมีรส+กลิ่น คล้ายน้ำสลัดงาของญี่ปุ่น ซึ่งพิมชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ก็เลยแอบฟินกับเมนูนี้มากค่ะ

นี่ค่ะ หน้าตาของสลัดกระเจี๊ยบเขียวฝีมือเชฟเอ ^_^

ต่อมาจานที่สอง ก็คือ "กุ้งย่างพริกแกงใต้ กับซัลซ่าผลไม้" ... เมนูนี้เชฟเอใช้กุ้งกุลาดำตัวใหญ่มากๆ ความยาวของตัวกุ้งเกิน 1 คืบของพิมค่ะ แล้วยังสดสุดๆ ชนิดจับเมื่อวาน ทำกินวันนี้ และแถมเป็นกุ้งที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ ปลอดสารปลอดยาอีกต่างหาก เรียกว่าแค่กุ้งอย่างเดียวก็น่าอร่อยแล้วค่ะ

เมนูนี้เชฟเอ จะเอากุ้งมาผ่าตามแนวยาวตั้งแต่หัวจรดหางจากทางด้านหลังกุ้งนะคะ (เชฟบอกว่าเป็นการผ่าแบบ Butterfly)

จากนั้นก็เอากะทิออร์แกนิค merito ที่ผสมกับเครื่องแกงใต้ ที่ก็เป็นออร์แกนิคอีกเหมือนกัน มาทาบนตัวกุ้ง แล้วนำเข้าอบไฟ 200 องศา ด้านละ 3-4 นาที (แล้วแต่ขนาดตัวกุ้ง)

พอสุกก็นำมาทานคู่กับซัลซ่าผลไม้ และก็ลูกฟิกซ์อบค่ะ

ซึ่งมาถึงตรงนี้ เชฟเอได้ให้ความรู้พวกเราว่าในการเสริฟเมนูนี้ สามารถเสริฟได้ 2 แบบ หากเสริฟแบบแรกตามในรูปภาพด้านบน จะเป็นการเสริฟในลักษณะของ appetizer หรือถ้าภาษาไทยเราก็ประมาณว่าเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยอ่ะค่ะ แต่ถ้าหากเสริฟแบบในภาพด้านล่าง ก็จะเป็นการเสริฟในลักษณะของ main course หรืออาหารจานหลักค่ะ ^_^

ส่วนเมนูถัดไปก็ถึงคราวของหวานบ้างแล้วล่ะค่ะ วันนี้เชฟเอบอกว่าจะทำไอศกรีมกะทิใส่ขิงแบบไม่ใส่สารเสริมอะไรเลยให้พวกเราได้ชิมกัน ซึ่งรสที่เชฟเอนำเสนอก็คือ รสกะทิ และก็รสช๊อคโกแลต โดยวิธีการคร่าวๆ สำหรับไศกรีมกะทิก็คือ นำกะทิส่วนที่ 1 ไปต้มกับขิงประมาณ 30 นาที ใส่น้ำตาล คนจนน้ำตาลละลาย ก็ปิดไฟ ใส่กะทิอีกส่วนตามลงไป นำเข้าเครื่องปั่นไอศรีมพร้อมกับมะพร้าวอ่อนที่ขูดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ....จากนั้นก็รอเวลาอย่างเดียวเลยค่า ^_^

นี่ค่ะออกมาหน้าตาแบบนี้น๊าาา (รสช๊อค แต่งหน้าด้วยส้มกัมควอทเเชื่อม รสกะทิ แต่งหน้าด้วยขิงเชื่อม) ..... ขอบอกว่าอร่อยมากๆ ลูกที่เป็นรสกะทินี่ก็กะทิเต็มปากทุกคำที่ทานเข้าไป และลูกที่เป็นช๊อคโกแลต ก็เข้มข้นด้วยช๊อคโกแลตมากๆ เลยค่ะ