ปกติพิมเป็นคนที่ชอบเดินงานแสดงสินค้ามากเลยค่ะ  โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องครัวและอาหาร พิมชอบมากๆ   และถ้าเกิดว่าสะดวกตรงกับวันที่จัดงาน พิมแทบไม่เคยพลาดเลยอ่ะค่ะ

หลายวันก่อน พิมไปเปิดดูคลิปทำอาหารคลิปนึงในยูทูป แล้วก็เจอเค้าพูดถึงงาน Makro Horaca  2014 พอดี พิมก็เลยเกิดความสนใจค่ะ  .... จริงๆ งาน Makro Horaca เนี่ย พิมเคยได้ยินข่าวมาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยไปสักครั้ง เพราะไม่เคยว่างตรงกับวันที่เค้าจัดงานเลยค่ะ   จนมาปีนี้แหละค่ะถึงได้ว่างตรงกัน

งาน Makro HoRaCa 2014 ในปีนี้เค้าจัดขึ้นระหว่างวันพฤหัสที่ 30 ตุลา - วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกา  เวลา 10.00 - 19.00 ที่อิมแพคเมืองทองธานี ฮอล์ 2-3   ค่ะ ..... พิมเองลองดูวันแล้ว ปรากฎว่าเสาร์ที่ 1 กับอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกาพิมไม่ว่าง จะว่างก็แต่วันพฤหัสกะวันศุกร์ เลยคิดว่าไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ไปซะวันพฤหัสซึ่งเป็นวันเปิดงานวันแรกเลย จะได้เก็บข้อมูลกลับมารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันด้วยอ่ะค่ะ 

พิมเริ่มเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ 10 โมงกว่าค่ะ  รถไม่ค่อยติดเท่าไหร่  ถึงอิมแพคประมณ 11 โมงนิดๆ  หลังจากขับรถไปจอดที่ใต้อาคารชาแลนเจอร์แล้ว  พิมก็ขึ้นลิฟท์มาที่ชึน 2 แล้วเดินข้ามมายังฮอลล์ 2-3  ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน Makro HoRaCa ในปีนี้อ่ะค่ะ

เมื่อเดินมาถึงงาน อันดับแรกให้เราไปลงทะเบียนก่อนนะคะ เพื่อรับเอกสารต่าง ๆ  

และสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่เป็นสมาชิกแมคโคร มีบัตรแมคโครอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบัตรแข็ง บัตรชั่วคราว หากนำมายื่นที่เคาเตอร์ลงทะเบียนก็จะได้รับกระเป๋าใบโตเพิ่มอีก 1 ใบค่ะ   (เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้ามา 4 วัน ก็ให้ 4 ใบเลย ^_^)

จากนั้นก็เดินไปทำเรื่องยืมรถเข็นตรงเคาเตอร์ที่อยู่ไม่ไกลกัน  โดยเค้าจะมีแบบฟอร์มให้กรอก เราก็กรอกรายละเอียดลงไปและแนบบัตร ปชช. ไปด้วย 1 ใบค่ะ  (ใช้เสร็จค่อยมาคืน พร้อมรับบัตรประชาชนกลับไป)   

 

และเมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็เดินเข้างานกันเลยค่ะ ^_^

แต่ก่อนเข้างาน หากเพื่อน ๆ มีบูธสินค้า/บริษัทอะไรในดวงใจ อยากไปดูก่อนเป็นอันดับแรกๆ ก็สามารถดูแผนผังการจัดบูธได้ที่หน้างาน ใกล้ ๆ กับจุดลงทะเบียนเลยนะคะ   และตรงจุดนี้ก็ยังจะมีข้อมูลบอกเราอีกว่าในแต่ละวัน จะมีเวิร์คช๊อป มีสัมมนา แข่งขัน  สาธิตทำอาหาร ทอล์คโชว์  หรือกิจกรรมอะไรบ้างอ่ะค่ะ 

 

และเมื่อเราเดินเข้าไปภายในงาน ก็จะพบกับบรรยากาศประมาณนี้นะคะ  ซึ่งตอนพิมไปเนี่ยงานเพิ่งเปิดได้ไม่นาน  คนยังไม่ค่อยมาก แต่ตอนจะกลับช่วงบ่ย 4 กว่าๆ คนเยอะมากเลยค่ะ 

 

เมื่อเดินจากหน้าประตูเข้าไป  บูธที่เราจะเห็นเป็นบูธแรกทางด้านขวามือก็คือบูธของ Makro เองค่ะ   

ซึ่งในบูธนี้ก็จะมีการโชว์ผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผลไม้ เฟรนฟรายด์ และอื่นๆ    

 

 แล้วก็ยังมีผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม   ลูกชิ้น  รวมไปถึงเนย ชีส

มีผักผลไม้สด ๆ มากมาย   ซึ่งเหล่านี้เพื่อนๆ  สามารถหาซื้อหรือสอบถามได้ที่แมคโครทุกสาขานะคะ    ^_^  (เมล่อนญี่ปุ่นพันธุ์เอมี่ที่อยู่ในรูปด้านล่างทั้งสีเขียว สีส้ม หวาน หอม กรอบ อร่อยมากเลย สามารถซื้อได้ในงานเลย ลูกละ 160 บาท ที่น้ำหนัก 2 กก. กว่าๆ  ค่ะ) 

ถัดมาก็เป็นซุ้ม Makro Go Green ค่ะ  เป็นซุ้มที่จะสอนเพื่อนๆ และให้เพื่อนๆ  ได้มีโอกาสทำน้ำ EM  ด้วยตัวเอง  พร้อมกับให้นำกลับเอาไปใช้ที่บ้านด้วยล่ะค่ะ  พิมเองก็ได้มา 1 ขวด  ทำกันใหม่ ๆ สด ๆ หน้าบูธเลย แต่ทำเสร็จแล้วยังใช้ไม่ได้นะคะ ต้องรออีก 14 วัน ถึงจะเอามาใช้ได้ค่ะ   (ทางบูธให้คู่มือการใช้มาด้วย) 

จากนั้นก็จะเป็นบูธแสดงสินค้าจากบริษัทต่าง ๆ มากมายล่ะค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นบริษัททางด้านอาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูป เครื่องเทศ  กาแฟ เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว เนยนม ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป    บริษัทเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน น้ำยาซักผ้า ปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก  เครื่องนอน  อุปกรณ์การเรียน เครื่องเขียน กาละมัง หม้อไห ภาชนะพลาสติคในรูปแบบต่างๆ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่น ๆ อีกมากมายค่ะ  ซึ่งในโซนแรกที่พิมจะพาเพื่อนๆ ไปก็เป็นโซนของอาหารนะคะ

ซึ่งในโซนนี้เนี่ยก็จะมีอยู่ด้วยกัน 4-5 ล๊อคยาวๆ เลยค่ะ  อาหารที่นำมาวางโชว์+จำหน่าย ก็มีหลากหลายมากมาย อย่างในล๊อคแรกก็จะมีสาหร่ายพร้อมปรุง สาหร่ายแก้ว  ถั่วงอกไต้หวัน  ปูอัดคานิแฟมิลี่  (มีให้เลือกหลายแบบมาก)  

ส้มจากสวนสมธนาธร ผลไม้สด ผลไม้ตัดแต่งต่างๆ  หลากหลายชนิด

หมูปิ้งไก่ปิ้งเสียบไม้แช่แข็ง  ปลาไข่  เนื้อปลาหั่นเป็นชิ้น   เนื้อสัตว์ปรุงรสต่างๆ   

ซึ่งสินค้าเหล่านี้เนี่ยล้วนมีขายอยู่ในแมคโครแล้ว แต่ที่มาในงาน มักจะมีการลดราคาเป็นพิเศษอ่ะค่ะ 

แต่บูธที่มีคนให้ความสนใจมากสุดในล๊อคแรกก็คงจะหนีไม้พ้น บูธปูนิ่มเก้าดาวฟาร์มอ่ะค่ะ  ซึ่งนอกจากเค้าจะมีปูนิ่มมาขายแล้ว  ก็ยังมีการขายอาหารที่ทำจากปูนิ่มที่ทำกันสด ๆ ในงานอีกด้วยอ่ะค่ะ   คุณสามีพิมก็สั่งไปจานนึงเหมือนกันค่ะ  แต่เนื่องจากว่าคนสนใจหลายคน ก็เลยต้องรอคิว

ซึ่งระหว่างรอ เพื่อนๆ  ก็สามารถไปสัมผัสกับปูนิ่มที่ทางร้านนำมาใส่อ่างใบใหญ่โชว์ไว้ได้นะคะ   (จะได้รู้ว่ามันนิ่มจริงๆ) 

และถ้าหากสนใจอยากจะเอาปูนิ่มกลับไปทำอาหารทานที่บ้านก็สามารถซื้อได้ที่บูธในราคาที่พิเศษมากๆ อ่ะค่ะ   ^_^ 

แล้วระหว่างที่เดินชมงานอยู่เพลิน ๆ พิมก็ได้ยินเสียงจากพิธีกรจากบนเวทีประกวด  ประกาศว่ากำลังจะมีการประกวดทำอาหารจานเอกลักษณ์ระดับนักศึกษาที่บนเวทีแข่งขัน  และที่บนเวทีกลางก็มีทอล์คโชว์จาก อ.จตุพล ไปพร้อม ๆ กันด้วยอ่ะค่ะ 

ซึ่งการแข่งขันอาหารจานเอกลักษณ์นั้น การแข่งขันก็จะเป็นแบบทีมค่ะ มีเวลาให้แต่ละทีม 1 ชม. ในการทำอาหารจากวัตถุดิบที่ทางกรรมการกำหนดมาให้  แล้วในแต่ละระดับก็จะมีรางวัลด้วยกัน  3 รางวัลนะคะ ซึ่งเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในลิ้งค์นี้เลยอ่ะค่ะ
http://www.siammakro.co.th/makro_newsletter_horeca9.php 

ถัดจากเวทีแข่งขัน ก็จะเป็นบูธสินค้าแนวอาหารเหมือนเดิมค่ะ  ในล๊อคนี้ก็จะเป็นพวกอาหารทะเลสำเร็จรูป กึ่งสำเร็จรูป  น้ำพริกต่างๆ  พริกแกงต่งๆ  น้ำปลาร้าสำเร็จนะคะ  

 

มีผลิตภัณฑ์จาก ส.ขอนแก่น  ผลิตภัณฑ์จาก ก.แสนไทย  

มีวิปปิ้งครีม Millac  (เชฟประจำบูธ ถือมาให้ชิมเองเลย ดีใจมากๆ)  ผลิตภัณฑ์ ROBO   และ ของทะเลแห้ง ผลไม้แห้ง   

ผลิตภัณฑ์นมเนยชีสจาก Anchor  รวมไปถึงแซลมอนจากนอร์เวยด้วยอ่ะค่ะ 

และในล๊อคนี้เนี่ยนะคะ บูธที่มีคนให้ความสนใจกันมากเลยก็คือ บูธของ P&P Food Supply เป็นบูธที่มีสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปหลากหลาย  ไม่ว่าจะเป็นกุนเชียง หมูยอ แหนม และเนื้อสัตว์ (หมู-ไก่) ปรุงรสต่างๆ มากมายเลยอ่ะค่ะ 

ซึ่งนอกจากบูธนี้จะเป็นบูธใหญ่ มีสินค้าขายมากมายแล้ว ก็ยังมีตัวอย่างสินค้าให้ได้ชิมหลากหลาย  ประมาณว่าเค้ามีสินค้าอะไรขายบ้าง ก็เอามาให้ลูกค้าที่เดินชมงานได้ชิมกันทุกอย่าง  ซึ่งขอบอกว่าอร่อยทุกอย่าง จนแทบจะซื้อกลับบ้านอย่างละถุงแล้ว แต่เผอิญคุณสามีไม่ช่วยหิ้ว เลยซื้อได้แค่นิดหน่อยค่ะ - -" 

ถัดจากบูธด้านบนก็จะมาเป็นบูธของ PFP  ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากปลาทะเล  บูธนี้ตอนที่พิมไปดูเนี่ย มีคนให้ความสนใจกันเยอะมากเลยค่ะ เพราะว่าเชฟชุมพลซึ่งเป็นเชฟกระทะเหล็กแห่งประเทศไทย กำลังสาธิตวิธีการทำผัดฉ่าเต้าหู้ปลาอยู่  ก็เลยมีคนเข้าไปชม ไปถ่ายรูป ไปถ่ายวีดีโอกันเพียบเลยค่ะ  ^_^

 

ซึ่งใครที่เป็นแฟนคลับของ PFP เนี่ย พิมอยากจะบอกเลยค่ะว่ามางานนี้รับรองจะไม่ผิดหวังค่ะ เพราะผลิตภัณฑ์บางตัวของ PFP  ลดถึง 50% เลยนะคะ  แถมยังมีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ยังไม่ได้ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการมาจำหน่ายด้วยอ่ะค่ะ ^_^ 

ถัดจากซุ้ม PFP  ซ้ายขวาก็จะเป็นซุ้มของสินค้าเกี่ยวกับขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มธรรมดา เครื่องดื่มแบบมีแอลกอฮอล์ค่ะ  

แล้วก็มีน้ำอัดลม ชา กาแฟ น้ำผลไม้ ประมาณนี้นะคะ  

และใน zone นี้ซอยนี้ ก็ยังมีสินค้าที่หลายคนให้ความสนใจต่อคิวไปกันยืนรอชิม ก็คือ หูฉลามน้ำแดงค่ะ  ซึ่งเท่าที่พิมเห็นก็จะมีอยู่ 2 ร้านด้วยกัน  ร้านนึงขายแบบพร้อมทาน  และอีกร้านขายแบบต้องเอาไปปรุงเองอ่ะค่ะ 

ในบริเวณใกล้ ๆ กัน ก็มีร้านที่ขายทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเป็ดค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นเป็ดสด เป็นย่าง เป็ดพะโล้ ชิ้นส่วนเป็ด .. และบูธนี้ก็เป็นอีกบูธที่ได้รับความสนใจจากเพื่อน ๆ ที่เข้าไปชมเป็นอย่างมาก เพราะเค้าแจกเป็ดพะโล้/ย่าง กันเป็นตัวๆ เลยอ่ะค่ะ  เพื่อนๆ คนไหนสนใจก็ไปลองดูได้นะคะ  ^__^  (เป็ดพะโล้ของยี่ห้อนี้ นุ่มและหอม โอเคเลยค่ะ) 

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบทำเบเกอรี่ หรือทำเบเกอรี่เป็นอาชีพ  พิมว่าบูธนี้เป็นอีกบูธที่น่าสนใจค่ะ เพราะเค้ามีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการทำเบเกอรี่พวกไซรัป  filling topping ผลไม้กวนเยอะแยะเลย   แถมเค้านำเอาผลิตภัณฑ์ของเค้ามาทำเป็นขนมต่างๆ ขายในงานด้วยอ่ะค่ะ   ที่สำคัญพิมไปชิมมา 2-3 อย่าง อร่อยทุกอย่างเลยค่า ^_^  ... เพื่อนๆ คนไหนสนใจ อาจจะลองไปหาไอเดียจากบูธนี้ได้นะคะ 

นอกจากบูธของกินด้านบนๆ แล้ว ก็ยังมีบูธของกะทิกล่อง  (เห็นมีมายี่ห้อเดียวคือ อร่อยดี)  เครื่องปรุงรสแบบญี่ปุ่น เครื่องปรุงรสแบบเกาหลี  

 กะทิธัญพืช  น้ำข้าวกล้อง  เนยเทียม

 มีน้ำมันพืชมรกต ทับทิม กุ๊ก มีข้าวสารตราแสนดี ตราฉัตรมาลดราคา 

มีซอสปรุงรสสไตล์ไทยๆ  มากมายไม่ว่าจะเป็นน้ำปลา ซอสถั่วเหลือง ซอสหอยนางรม น้ำส้มสายชู ฯลฯ 

 และก็มีทูน่ากระป๋อง กะปิ พวกนี้ด้วยอ่ะค่ะ 

ถัดจาก zone อาหาร ก็จะเป็น zone ของสินค้าที่มีไว้ใช้ในครัวเรือนแล้วนะคะ   ... อย่างบูธนี้ก็จะเป็นบูธของผลิตภัณฑ์กระดาษทิชชู่สก๊อตค่ะ    (ในภาพเค้ากำลังเล่นเกมส์ แจกรางวัลกันอยู่) 

ผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำ  น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม  สเปรย์เพิ่มกลิ่นหอม  ^_^ 

ผลิตภัณฑ์จากพลาสติคมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นกล่อง ตะกร้า กาละมัง  ถังน้ำ ลิ้นชักใส่ของ   (ในภาพล่างสุด ที่เป็นลิ้นชัก 4 ชั้น ราคา 400 กว่าบาท) 

หรือแม้แต่กล่องที่ภายในกล่องมีการแบ่งเป็นช่องเล็กช่องน้อยไว้ให้เราใส่ของจุกจิก  กล่องรองเท้าหลากหลายรูปแบบ

จานชาม ทั้งกระเบื้อง พลาสติค เมลามีน พอร์ชเลน  

ถังซักผ้า  น้ำยาที่ไว้ใช้ในครัวเรือนต่างๆ    (บางอย่างก็ราคาพิศษมากๆ)

หรือใครที่กำลังมองหากระทะ หม้อ ไหใบใหม่ไม่ว่าจะสำหรับใช้ในครัวเรือน หรือใช้ค้าขายที่งานนี้ก็มีหมด แถมบางตัวราคา sale กว่า 20-30% เลยอ่ะค่ะ  ..... มีทั้งแบบแสตนเลส 

แบบอลูมิเนียม   (ตราจรเข้) 

ช้อน มีดแบบเดี่ยว ๆ แบบเป็นเซต ก็มีทั้งหมดค่ะ 

หรือใครกำลังมองหาถ้วยฟอยด์แบบต่างๆ  จานโฟมแบบสวยๆ  เหมือนอย่างที่ขายในแมคโคร ที่นี่ก็มีให้เลือกซื้อนะคะ 

หรือถ้าต้องการภาชนะที่รักธรรมชาติ ก็มาที่บูธนี้เลย  ราคาถูกมาก ๆ แถมน้องพนักงานก็น่ารักค่ะ  ^_^ 

ถัดจาก zone เครื่องใช้ในครัวก็มาเป็น zone เครื่องเขียน 

หลอดไฟ และเครื่องใช้ไฟฟ้านะคะ  .. ซึ่งในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้าเนี่ยก็มีหลากหลายเลยค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นหม้อทอดไร้น้ำมันที่เค้าฮิตๆ กันในตอนนี้ ก็มีมาทั้ง Philips Tefal  และยี่ห้อที่เป็นของคนไทยอย่าง summer 

มีเครื่องซักผ้า เตาอบ เตาไมโครเวฟ เครื่องปิ้งขนมปัง ตู้เย็น  หม้อหุงข้าว เตาไฟฟ้า  

มีเครื่องตี เครื่องปั่น  เตาอบแก๊ส เตาปิ้งย่าง และเครื่องสารพัดเครื่องจากแบรนด์ Champs 

 

มีกระทั่งตู้แช่  เตาแก๊สแบบแม่ค้า เตาฟู่  มีโต๊ะ รถเข็น ตู้ ชั้นวางของแบบเป็นแสตนเลสเกรดดีให้เลือกซื้อมากมาย ...... เรียกว่ามางานนี้งานเดียว  ได้ครบแทบทุกสิ่งที่เกี่ยวกับอาหารเลยอ่ะค่ะ  

แล้วอย่างที่พิมเกริ่นไว้ข้างต้นว่างาน Makro HoReCa  ไม่ใช่แค่งานแสดงสินค้า แต่เค้ามีเวิร์คช๊อปสอนทำอาหารด้วย  แถมฟรีอีกต่างหากค่ะ ^_^    

ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจเวิร์คช๊อปของวันพรุ่งนี้สามารถดูได้ในภาพด้านล่าง หรือถ้าเป็นวันอื่นก็เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เวปไซด์ของงานเลยนะคะ  

ก่อนจะกลับบ้าน เนื่องจากเดินชมงานมาเป็นเวลาหลาย ชม. ทั้งเหนื่อย เมื่อย หิว  >_<   พิมก็เลยขอชวนคุณสามีหาอะไรกินที่งานสักหน่อยก่อนกลับค่ะ   ซึ่งในงานเค้าก็มีรวมร้านอาหารเด่นดัง 10 ร้านด้วยกัน

 ไม่ว่าจะเป็นร้านข้าวขาหมูตอกซุงซึ่งพิมทานเป็นประจำมา 20 กว่าปีแล้ว  ร้านตีใหญ่ชวนชิมที่ขายหอยทอด  ร้านเอี๊ยะแซที่ขายชา-กาแฟโบราณ  ร้านฮั่วเซ่งฮงที่ขายอาหารจีน-ติ่มซำ 

ร้านกระเพาะปลาคาเธ่ย์ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าขายกระเพาะปลาเน๊าะคะ ^__^   ร้านส้มตำดนตรี  ร้านเซ็งซิมอี้  ร้าน Sushi Boy 

 ร้านไอติมหม้อไฟ  และก็ร้าน ส.รุ่งโรจน์ .... ซึ่งจากที่พิมเคยชิมมา  5-6 ร้าน อร่อยทุกร้านค่ะ ^_^ 

และเมื่อเดินชมงานเสร็จ ท้องก็อิ่ม ของก็ได้ติดไม้ติดมือกลับบ้านเพียบ ........ ก็ได้เวลากลับบ้านแล้วล่ะค่ะ  

แต่ก่อนออกจากบริเวณงาน อย่าลืมเอารถเข็นไปคืนที่เคาเตอร์เดียวกับตอนที่เราไปยืมและรับบัตรประชาชนคืนมาด้วยนะคะ 

แล้วพบกับพิมใหม่ กับรีวิวงานดี ๆ อย่างนี้อีก  ... สวัสดีค่า ^_^

:: ข้อแนะนำเพิ่มเติม ::

- จอดรถได้ทั้งที่ลานจอดใต้อาคารชาเลนเจอร์ และลานจอดด้านนอก  ซึ่งถ้าจอดรถใต้อาคารชาเลนเจอร์ หลังจากจอดเสร็จ ให้ขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้น 2 แล้วเดินข้ามไปยังอาคารฝั่งตรงข้าม เดินลงบันไดไป เลี้ยวขวาก็จะเจอฮอลล์ 2-3 ค่ะ

- หากต้องการไปช๊อปปิ้ง แนะนำว่าให้เอารถเข็นไปด้วยนะคะ เพราะไม่งั้นจะเมื่อยมากๆ - -"   แต่ถ้าไม่มี ไปขอยืมจากที่งานเหมือนอย่างพิมก็ได้ค่ะ 

- เพื่อนๆ คนไหนที่ใช้สินค้าของยูนิลีเวอร์เป็นประจำอยู่แล้ว แนะนำให้ซื้อคูปองที่งานในราคา 1000 บาท  (ซื้อได้ที่เคาเตอร์ที่มีพนักงานแมคโครใส่เสื้อยืดสีแดงนั่งอยู่ ที่อยู่ใกล้ ๆ หน้าห้องน้ำชายในฮอลล์) แต่สามารถไปซื้อสินค้าของยูนิลีเวอร์ที่แมคโครได้มูลค่า 2000 บาท แถมยังเอาใบเสร็จที่ซื้อคูปอง มาเล่นเกมส์ที่บูธยูนิลีเวอร์ ของรางวัลมีผงซักผ้าแบบถัง 8-9 กิโล กับน้ำยาล้างจานซันไลท์แบบแกลลอนอ่ะค่ะ