กระทู้: ...... ห้องเม้าท์ ........

พวกเราคนไทยสู้ๆๆๆๆ

]ตอนนี้พนักงานที่ทำงานนอกพื้นที่น้ำท่วม ก็เดือดร้อนเช่นกัน

เพราะโรงงานที่เป็นแหล่งผลิตโดนน้ำท่วม ปกติจะต้องส่งวัตถุดิบมาให้หน้าร้าน ทำขายให้ลูกค้า

เมื่อไม่มีวัตถุดิบ หน้าร้านเริ่มมีการประกาศปิดทำการแล้ว

หวังว่าน้ำท่วมครั้งนี้ กีฬาสีที่ห้ามใส่เสื้อสีโน้น สีนี้ หมดไปซะที

คนไทยแผ่นดินเดี่ยวกัน ขอให้รักและช่วยกันอย่างตอนนี้ ไม่ได้มีแต่เรื่องเศร้าอย่างเดียว

อย่างน้อยนี้คือความประทับใจที่คนไทย รัก สามัคคี ช่วยเหลือกัน อารมณ์วันนี้เป็นช่วงยิ้มเหงาๆๆๆๆ

ประกาศ วันนี้ สก. ในพื้นที่ นำถุงทราย มาแจก แต่บ้านดาไม่ได้รับหลอกเพราะเข้าไปในซอยอีก

ทราบข่าวเพราะไปซื้อกาแฟ เลยทราบ คนที่ได้รับถุงทรายได้รับบ้านละหนึ่งถุง งงอีกเราพอรู้ว่าเขาแจกหนึ่งถุง

แล้วจะให้เอาไปกั้นตรงนี้วะ ตั้งหนึ่งถุง พี่คนขายกาแฟ บอกว่าให้เอาไปกั้นน้ำเข้าท่อ อ๋อๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เข้าใจแล้ว

หมู่บ้านอื่นๆ เขามีถุงทรายเป็นพันๆๆๆ มากองหน้าปากทางหมู่บ้าน มีที่สูบน้ำพร้อม แต่หมู่บ้านตูแจกทรายหนึ่งถุง

ให้ไปปิดท่อ ช่วยได้มากเลยไม่รู้จะดีใจหรือเศร้าใจดี คิดได้ไง ถุยชีวิตจริงๆๆๆๆ

มีอะไรมาให้อ่านด้วยครับ จาก posttoday.com 15 ตุลาคม 2554

น้ำท่วม...บริหารจัดการไม่เป็นposttoday.com 15 ตุลาคม 2554

ไม่ใช่ภัยพิบัติลงโทษแต่...บริหารน้ำผิดพลาด

รุนแรงจนรัฐบาลต้องประกาศเป็น "วาระแห่งชาติ" ระดมความร่วมมือจากทุกสรรพกำลังมาร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ของประเทศที่จนถึงเวลานี้ 26 จังหวัด กำลังจมน้ำ ประชาชนกว่า 2.2 ล้านครัวเรือนกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก

นอกจากบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรที่เสียหายไปแล้วกว่า 9.6 ล้านไร่ มวลน้ำก้อนมหึมายังรุกคืบสร้างความเสียหายต่อเนื่องฝ่าปราการป้องกันเบื้องต้นรุกล้ำไปยังนิคมอุตสาหกรรม จนมูลค่าความเสียหายพุ่งสูงหลายแสนล้านบาท ยังไม่รวมยอดผู้เสียชีวิตที่สูงถึง 281 ราย

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในฐานะผู้คร่ำหวอดในแวดวงอุตุนิยมวิทยา มายาวนาน ฟันธงว่าวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ไม่ใช่เป็นผลพวงจาก "ภัยพิบัติ" แต่เป็นเรื่องการบริหารจัดการน้ำไม่เป็น!!!

"คือไม่สามารถจะบริหารน้ำได้ ไม่มีการติดตามข้อมูลตั้งแต่ต้นฤดูฝนว่าจะตกเยอะไหม ควรเก็บน้ำในเขื่อนไว้เท่าไหร่ ปรากฏว่าทุกคนเก็บน้ำไว้ในเขื่อนใหญ่หมด ทั้งกรมชลประทาน การไฟฟ้าฯ ซึ่งกลัวว่าจะไม่มีน้ำใช้ในหน้าแล้งซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ผิด

...ถ้าฝนตกต่อเนื่องทั้งกลางฤดู ปลายฤดู ยังตกอยู่ ปริมาณช่องว่างน้ำในเขื่อนจะไม่สามารถเก็บน้ำฝน
กลางฤดูได้ ตอนนี้เขื่อนใหญ่เต็มหมดแล้วปัญหาคือ เมื่อเขื่อนใหญ่เต็มหมดแล้ว ก็ปล่อยน้ำในเขื่อนออกมาพร้อมกัน ปริมาณน้ำที่ปล่อยมามากกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกใส่เขื่อน"

ดร.สมิทธ อธิบายว่า การปล่อยน้ำจากเขื่อนใหญ่ทั้ง เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ทำให้น้ำมารวมตัวในภาคกลางตอนบนไล่มาตอนล่าง ขณะที่ภาคกลางก็มีน้ำฝนที่ตกมาอยู่ท้ายเขื่อนอยู่ในที่ลุ่มอยู่แล้ว ดังนั้นน้ำในขณะนี้จึงมหาศาลมาก หลายคนบอกน้ำปล่อยมานิดเดียวแต่เพราะน้ำมีอยู่แล้วในที่ลุ่ม ในนา เมื่อปล่อยมาพร้อมกันปริมาณน้ำจึงมาก ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมพร้อมกัน ตั้งแต่ จ.นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา

"เป็นวิกฤตบริหารน้ำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่มีการวางแผนไว้ก่อน
อันที่จริงเราควรเก็บน้ำไว้ครึ่งหนึ่ง และถ้ามีฝนกลางฤดูที่แล้วก็สามารถเก็บน้ำไว้อีกได้"

ทั้งนี้ ที่ผ่านมานักวิชาการหลายคนบอกว่าน้ำไม่เคยสูงเช่นนี้ บางคนบอกน้ำเยอะแต่ไม่เคยท่วม ทุกคนต่างคนต่างมีข้อมูลของตัวเอง แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเถียงกันเรื่องข้อมูล เพราะข้อมูลที่แท้จริงกรมอุตุนิยมวิทยามีอยู่แล้ว เรามีสถานีวัดปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน กว่า 200 แห่งที่วัดปริมาณฝนได้

สำหรับแนวทางการแก้ไขในเวลานี้ ดร.สมิทธเห็นว่า จำเป็นที่จะต้องหยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนเพราะช่วงนี้ไม่มีปริมาณน้ำฝนที่จะตกเข้าเขื่อนแล้วทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนนี้3 เขื่อนใหญ่ก็จะไม่มีน้ำเข้าแล้ว ดังนั้นถ้าเรายังปล่อยน้ำมหาศาลซ้ำเติมระบบน้ำท่วมที่อยู่ในภาคกลาง น้ำจะท่วมหมด

"ความเสียหายเป็นแสนล้านบาท ประเทศไทยมีหน่วยงานที่ดูแลปัญหาเกี่ยวกับน้ำ
ภายใต้สังกัดกระทรวงต่างๆ กว่า 20 หน่วยงาน แต่เราไม่มีดาตาเบส
ต่างฝ่ายต่างทำไม่เอาข้อมูลมาแชร์กัน จึงทำให้ขาดผลวิเคราะห์ในการตัดสินใจ

...การบริหารน้ำถ้าไม่มีการประสานงานกันทั้งกรมอุตุฯ กรมชลฯ การไฟฟ้าฯ ว่าควรจะเก็บหรือปล่อยน้ำแค่ไหนมันก็ไม่มีฐานข้อมูลที่นำมาคำนวณปริมาณน้ำว่าควรจะปล่อยหรือพร่องน้ำในระดับใดจึงจะทำให้พื้นที่ไม่เดือดร้อน"

นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าการไม่มีเอกภาพในการทำงาน การที่นักวิชาการทะเลาะกันเอง ไม่มีความรู้อย่างแท้จริงนำไปเสนอรัฐบาล จึงทำให้ระบบรวนทั้งหมด สุดท้ายก็นำไปสู่ปัญหาอุทกภัยทั้งๆ ที่น้ำมวลใหญ่ที่ปล่อยออกมาจากเขื่อนใหญ่ๆนั้นบริหารจัดการได้

"ฝนปีนี้อาจจะมากกว่าปีที่แล้ว แต่การบริหารน้ำที่เราเก็บไว้มากไป แล้วปล่อยมาทีเดียว ไม่ปล่อยให้น้ำไหลไปตามธรรมชาติ หากปล่อยมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นฤดูตามธรรมชาติ กลางฤดูพอฝนตกก็เก็บบ้างปล่อยบ้างปลายฤดูก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยทีเดียวเยอะๆ น้ำก็จะไม่ท่วม ถ้าเราไม่ปล่อยน้ำก้อนใหญ่จากเขื่อน 3 แห่ง รับรองว่าน้ำไม่ท่วม กทม.ปริมณฑล พระนครศรีอยุธยา และอีกหลายจังหวัดอย่างที่เห็นกันอยู่"

มาตรการบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าเวลานี้ ดร.สมิทธ มองว่า อันดับแรกเขื่อนใหญ่ควรหยุดปล่อยน้ำและหาทางระบายน้ำที่อยู่ในแม่น้ำใหญ่ๆ ทั้งแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกงให้ลงทะเลเร็วที่สุด ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณปากแม่น้ำทั้งสามสาย เพราะช่วงนี้น้ำทะเลหนุนสูง น้ำเหนือไหลมาสมทบจะทำให้น้ำนิ่ง ไหลช้าลง ก็ต้องเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลก็จะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วม กทม.ได้

"แต่เพราะหลายเขื่อนยังปล่อยมาหลาย100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่แม่น้ำต่างๆระบายต่อวันได้ไม่ถึง 50 ล้านลูกบาศก์เมตรทุกเขื่อนพร้อมใจกันปล่อย มันก็มารวมกันที่ภาคกลาง เหมือนเราเทน้ำลงมาพร้อมกัน น้ำที่เต็มแก้วเมื่อเติมไปอีกมันก็ล้น

...เรื่องนี้ไม่ใช่ภัยพิบัติลงโทษ แต่เป็นเพราะการบริหารน้ำที่ผิดพลาด หากเราบริหารไม่ดีท่วมแน่ ถ้าไม่รู้จักเก็บน้ำในเขื่อนไว้ให้เหมาะสม นอกจากนี้การบริหารในเขื่อนเล็กๆแต่ละเขื่อนไม่สามารถระบายออกทะเลได้รวดเร็วพอ มันก็เอ่อในที่ลุ่มภาคกลาง"

ประเมินมาตรการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ออกมาถูกทางหรือไม่นั้น ดร.สมิทธ มองว่าจริงๆ รัฐบาลควรตั้งศูนย์เฉพาะกิจแต่แรกเพราะการบริหารภัยพิบัติใหญ่ๆ ต้องตั้งศูนย์เฉพาะ ต้องมีผู้บริหารใหญ่และผู้ควบคุมศูนย์คนเดียว จะเป็น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอกหรือนายกรัฐมนตรี ก็ได้ แต่ต้องตัดสินใจคนเดียว ทว่าตั้งช้าไปหน่อย แม้ตอนนี้จะเริ่มมีการตัดสินใจเดินหน้าแก้ไขหลายเรื่องแล้วแต่มาเริ่มตอนวิกฤตน้ำใกล้ท่วม กทม.ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอยู่มาก ทำให้ผลกระทบเยอะ
ส่วนความตื่นตระหนกของชาวบ้านที่ไม่มั่นใจสถานการณ์ และแก้ปัญหาด้วยการสร้างพนังกั้นน้ำหน้าบ้านตนเองจนวัตถุดิบขาดตลาดนั้น ดร.สมิทธ เห็นว่าอาจไม่ถูกต้องตามวิธีการ เพราะเป็นการสร้างที่ไม่มีหลักวิชาการการเอาดินวาง เอากระสอบทรายมาวาง มันสู้แรงดันน้ำไม่ได้

ทั้งนี้ น้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร หนักถึง 1 ตันถ้าสร้างเขื่อนสูง 2 เมตร แสดงว่ามีแรงดันน้ำถึง 2 ตัน ดังนั้นหากเขื่อนสร้างไม่แข็งแรงน้ำจะซึม กระสอบทรายไม่หนักพอก็ทลาย น้ำก็จะไหลอย่างรวดเร็วและแรงจนเอาไม่อยู่

ดร.สมิทธ อธิบายถึงแนวคิดที่ในอดีตเคยเสนอให้ตั้ง "กระทรวงน้ำ" ขึ้นมารับผิดชอบดูแลเรื่องนี้โดยตรง ว่าเป็นเพียงข้อเสนอของนักการเมืองที่จะทำให้มีตำแหน่งทางการเมืองเพิ่มขึ้นทั้งรัฐมนตรี ที่ปรึกษาและข้าราชการการเมือง เป็นการสร้างตำแหน่งเปล่าๆ

"ผมว่าทำอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบันก็เหมาะสมแล้ว คือการตั้งศูนย์เฉพาะแล้วรวมเอานักวิชาการผู้มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำมารวมกัน แต่ว่าการบริหารต้องการคนที่รู้เรื่องมาคุยกัน อย่าให้มานั่งเถียงกัน และการตัดสินใจก็ให้นายกฯ เป็นผู้ชี้ขาด"

เขื่อนใหญ่ต้องหยุดปล่อยน้ำ

ยังต้องลุ้นระทึกกับมวลน้ำก้อนใหญ่ ที่คาดว่าจะถึง กทม.ในวันสองวันนี้ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ยังอดเป็นห่วงฝีมือ กทม. กับการผันน้ำ กทม. หากเกิดน้ำทะลักเข้าพื้นที่เข้ามาจริงๆ

"ผมไม่เชื่อฝีมือ กทม. เพราะไม่เคยศึกษาหรือไปดูเขื่อน
เช่น เขื่อน จ.ปทุมธานี ที่เพิ่งแตกไป กทม.ก็ไม่ดูแลบอกว่าท้องถิ่นสร้างขึ้นเอง
ทั้งที่จริงแล้ว กทม.ควรมีหน้าที่ไปดูแลพื้นที่ด้วย เพราะน้ำที่จะแตกจากปทุมฯ
จะเข้า กทม.กทม.อยู่ติดจังหวัดต้นน้ำ ถ้าเถียงกันอย่างนี้ กทม.จมแน่"

ทั้งนี้ ไม่แน่ใจว่าเขื่อนรอบๆ กทม.จะมีความแข็งแรงพอหรือไม่ เพราะเขื่อนกั้นน้ำของ กทม.มีทั้งเขื่อนดินและเขื่อนคอนกรีต กระสอบทรายโดยเฉพาะในพื้นที่รอบนอก ทาง อบต. และอบจ. จะเป็นคนดูแล โดยใช้ผู้รับเหมาก่อสร้าง ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ อาจทำให้มีปัญหาเรื่องความแข็งแรง

"อันนี้ถือเป็นจุดอ่อนจะทำให้เกิดวิกฤตน้ำในกทม.ได้ ขณะนี้น้ำล็อตใหญ่ที่มาจากเขื่อนภูมิพลสิริกิติ์ ป่าสักชลสิทธิ์ กำลังผ่านเข้ามาใน 3-4 จังหวัดที่ท่วมอยู่แล้ว กทม.จึงต้องระวังเพราะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุน

ตอนนี้ดูแล้ว กทม.คงรอดยาก"

ดร.สมิทธ ประเมินว่า วิธีการแก้ไขให้ได้ผลเร็วคือ ต้องหยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนใหญ่ จากนั้นตั้งเครื่องสูบน้ำที่ปลายแม่น้ำที่จะลงสู่ทะเลให้มากที่สุดเพื่อสูบน้ำออกปากอ่าว นี่คือวิธีเดียวที่จะระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"การเอาเรือไปดันน้ำจะดันได้เฉพาะผิวน้ำเท่านั้น ไม่สามารถดันน้ำที่อยู่ลึกไปข้างล่างได้พระราชดำรัสของในหลวงเรื่องการสร้างคลองลัดโพธิ์ การที่เป็นคลองแคบจะทำให้การดันน้ำไหลออกจากคลองได้เร็ว แต่ถ้าเอาเรือหลายลำไปผูกแล้วดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่กว้าง เป็นการเสียน้ำมันเปล่า เพราะดันได้แค่ผิวน้ำเท่านั้นเรื่องนี้ต้องคิดต้องรู้ลักษณะของน้ำ ดังนั้นที่ถูกต้องคือการตั้งระบบสูบน้ำที่ปลายคลองหรือปลายแม่น้ำออกสู่ทะเลเลย"

สำหรับแนวคิดที่ กทม.ลงทุนทำอุโมงค์ยักษ์มีการระบายน้ำจากที่ลุ่มของกทม. เช่น รามคำแหงหนองจอก แทนที่จะระบายออกอ่าวไทย แต่กลับเอามาออกที่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไม่ช่วยอะไรเลยเพราะจะทำให้เจ้าพระยาล้นตลิ่งอีก หมุนเวียนถ้าจะลงทุนให้มากหน่อย วางท่อให้ยาวแล้วไปลงที่อ่าวไทยจะดีกว่า และทำให้ กทม.ปลอดภัยจากน้ำท่วมด้วย ไม่รู้ทำไมถึงคิดกันแค่นี้ เห็นว่าผู้ว่าฯกทม.จะทำอีกหลายอุโมงค์แต่ไม่รู้จะไปออกที่ไหน

ดร.สมิทธ ประเมินถึงสถานการณ์พายุบันยันที่วิเคราะห์แล้วเชื่อว่าไม่เข้าไทย แต่การที่นักวิชาการไม่มีความรู้แล้วไปให้ข้อมูลกับ ศปภ.และนายกฯ ว่าพายุจะสร้างผลกระทบต่อประเทศทำให้เกิดความตื่นกลัวกันหมด คนไม่รู้มาพูดทำให้ตกใจและประเมินพลาด

"พายุลูกนี้จะเข้าที่อ่าวตังเกี๋ย ประเทศจีนจากนั้นก็จะไปเวียดนามเข้ามาทางเหนือบ้านเราก็จะทำให้มีฝนตกนิดหน่อยที่เชียงใหม่ เชียงรายจากนั้นจะทำให้อากาศหนาวเย็นลง ผมอยากขอให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องอุตุนิยมวิทยา หรืออุทกวิทยา หยุดให้ข้อมูล เพราะจะให้เกิดความตระหนก แตกตื่นกันไปหมด"

ดร.สมิทธ วิเคราะห์ต่อไปว่า หลังจากนี้ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน จะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วหากมีพายุเข้ามาจะไม่ส่งผลให้มีฝนตก หรือถ้าตกก็จะไม่มาก สิ่งที่กรมอุตุฯ และรัฐบาลต้องระวังต่อไป คือ ร่องลมมรสุมที่จะเลื่อนจากภาคกลางตอนล่างไปยังตอนใต้ ผ่านสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ซึ่งปีที่แล้วช่วงเดือนเดียวกันก็มีพายุดีเปรสชันก่อตัวทางทะเลจีนตอนล่างพัดเข้าสู่อ่าวไทย คลื่นลมที่พัดมาจะทำให้เกิดคลื่นพายุหมุนซัดชายฝั่ง(สตอร์ม เซิร์จ) สูง 4-5 เมตร และจะส่งผลกระทบให้ภาคใต้ เช่น ปัตตานี ยะลา

ดังนั้น ข้อมูลในการเตือนภัยพิบัติของกรมอุตุฯ จะต้องแม่น และหากสภาวะลมแรงจะทำให้สตอร์ม เซิร์จ สูงถึง 5-6 เมตร ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแนวฝั่งและรัฐบาลต้องเตือนให้เขาอพยพไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย

ขอขอบคุณภาพข่าวจากโพสต์ทูเดย์

ดา เขียน:
คิดได้ไงอ่ะ ท่านผู้นำชุมชุน????? แจกทรายตั้ง...1 ถุงแนะ

คำเตือนของประชาชน ถึง ศปภ. กรุณาอ่านให้จบ

ภาพไม่ไป เสิดพี่ดาขอ Emil เสิดสะดวกไหม

สวัสดีเสิด ขอบคุณมากที่ให้ข้อมูล

แล้วก็ต้องขอบคุณโพสต์ทูเดย์ ที่ไปสัมภาษณ์ ดร.สมิทธ

นักวิชาการทั้งหลายเขาไม่ฟัง ดร.สมิทธ กันหรอก ตั้งแต่เรื่องสินามึแล้ว มาฟังตอนที่เกิดเหตุร้ายแล้ว

เหมือนตอนนี้นั้นแหละ อย่างน้อยข้อสงสัยที่พี่ดาสงสัยเรื่องที่ว่าการเอาเรือผันน้ำได้อะไรบ้าง ก็ได้คำตอบว่ามันเป็น

การเผาเงินภาษีชาวบ้านไปเรื่อยๆๆๆ โดยไม่เกิดประโยชน์ อยากให้เอางบน้ำมันมาซื้อเรือ แจกชาวบ้าน

แจกให้ทหารทำงานตอนนี้จะได้เรื่องซะมากกว่าอีก โชคดีที่ในหลวงท่านให้สร้างคลองลัดโพธิ์

เหมือนที่ท่านให้มีโครงการแก้มลิง

และการที่ต่างคนต่างมีข้อมูล แล้วคิดว่าตัวเองเก่ง หลงในอำนาจของแต่ละฝ่ายโดยไม่ยอมพูดคุยกัน ผลก็เป็น

อย่างที่เห็นทุกวันนี้ ชาวบ้านประสบปัญหาอย่างไรคุณไม่รับรู้ยังเถียงหัวชนฝาว่าคิดถูก ถึงต้องนี้ก็ยังไม่

ออกมายอมรับผิด มีอำนาจจะปลดกรมชนฯก่อนใครเลย เก็บน้ำไว้ทำไมตามเขื่อนสองเดือน มีความหลังอะไร

กับพายุกระเต็น ตอนนี้ใครออกมาก็เอาแผ่นที่คลองนั้นคลองนี้มากาง มาชี้ให้ดู แล้วบอกข้อมูลเป็นเปอร์เซ็นต์จะรู้ไหมนี้

แล้วบอกว่าขณะนี้มวลน้ำจำนวน 100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในใจสงสัยตลอดว่าประมาณไหน ก็ไม่รู้จะถามใคร

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ลูกบาศก์เมตร หนัก 1 ตัน แล้วได้เข้าใจว่าทำไมคันดิน ถุงทรายเอาไม่อยู่


ได้รู้ว่าอุโมงค์ที่สร้างเกิดประโยชน์เพียงใด

อยากให้คนที่มีอำนาจในประเทศได้ฟัง แนวคิด ดร.สมิทธ แล้วนำไปแก้ไข เพราะตลอดเวลาที่น้ำท่วม

ไม่มีวันไหนเลยที่จะมีประกาศว่าน้ำลดจังหวัดนั้น จังหวัดนี้ มีแต่เพิ่ม และขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ

ทั้งที่ตามหลักแล้วน้ำจะต้องไหลจากที่สูงไปที่ต่ำ ที่ไม่ลดเพราะคุณปล่อยน้ำอยู่ตลอด แต่บอกชาวบ้านว่าไม่มีการปล่อยน้ำแล้ว


แล้วมาแก้ปัญหาด้วยการผันน้ำ ผู้นำไปเปิดงานเป็นเรื่องเป็นราว

หรือประเทศไทยจะสิ้นคนดีแล้วเพราะตอนนี้อยุธยาได้แตกอีกรอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขอในหลวงทรงพระเจริญ พระพลานัยแข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ให้ปวงชนชาวไทยด้วยเถอะ

ดูขำๆๆๆ

พิม ดูฝ่าวิกฤตน้ำท่วม ช่อง Thai PBS อยู่หรือเปล่า

ถึงน้ำจะท่วม กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ลูกชิ้นหมูผัดหน่อไม้พริกเหลือง

บะหมี่น่องไก่ตุ่น

พี่ดา คุณโด่ง น้องเสิด น้องรถถัง และทุก ๆ คน ...... ค่ะ

ช่วงนี้พิมไม่อยากอ่านข่าวเกี่ยวกับน้ำท่วม ไม่อยากดูข่าวเกี่ยวกับน้ำท่วมเลยค่ะ ดูทีไรใจห่อเหี่ยวมาก น้ำตามันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวทุกทีเลย แต่ก็ต้องดู ต้องรับฟัง เพราะบ้านเรามันอยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยง ต้องดูเพื่อจะได้รู้ว่าน้ำมาถึงไหนแล้ว เราจะต้องเตรียมตัวป้องกันอะไรยังไง

ถามว่าตอนนี้เครียดไหม ก็ไม่เครียดค่ะ แต่ว่าถ้ามันจะท่วมก็อยากให้มาภายใน 3-4 วันนี้เลย จะได้ไม่ต้องอดหลับอดนอนแล้ว สงสารเพื่อนพิมบ้างคนอยู่ในเขตพื้นที่เสี่ยงมา รัฐบาลเค้าว่าน้ำจะมาๆๆๆ ก็อดหลับอดนอนมาหลายคืน น้ำก็ยังไม่มาซะที พอเผลอหลับไป น้ำมาตอนนั้นแหละค่ะ ฮือๆ

พี่ดาจ๋า ........ หนูไม่ได้ดูเลยค่ะ ข่าวเค้าว่าไงเหรอค่ะ หรือว่าเค้ามีคำแนะนำยังไงบ้างอ่ะค่ะ

อาทิตย์นี้ถ้าผ่านพ้นไปด้วยดี อาทิตย์หน้าพิมจะไปทำของแจกทหารที่เค้าไปช่วยชาวบ้านกันกับเพื่อนกลุ่มนึงค่ะพี่

ว่าแต่พี่ดาทำเองป่าวค่ะเนี่ย อาหารอ่า เห็นแล้วอยากกินมากมายเลยค่ะ ช่วงนี้ไม่มีกะจิตกะใจทำอาหารอะไรเลย แถมต้องออกนอกบ้านทุกวัน ก็เลยฝากท้องไว้ร้านนั้นบ้างร้านนี้บ้างตลอดเลยค่ะ >_<"

สวัสดีครับทุกๆ คน
พี่ดาครับ ได้เลย พี่ดา หยอดเบอร์พี่ดามาก็ได้เดี๋ยวน้อง sms ไปให้จร้า...
เมื่อวานเข้า กทม.ไปอบรมแถวสุขุมวิท ครับ เลยไม่ได้เข้าครัวฯ ตอนเที่ยงมีเลี้ยง และมีอาหารแนวแขกๆ ตั้งเสิร์ฟด้วย อร่อยไปอีกแบบครับ

อ่านแล้ว อนิจจาประเทศไทย จะเป็นยังไงต่อไปน่ะเนี๊ยะ แล้วมีเรื่องเต้าข่าวไม่ค่อยดีเท่าไหร่ด้วยครับ คือว่า

Fw: สำนักพระราชวังปฏิเสธข่าวลือfacebook เรื่องในหลวงรับสั่งฯ ให้น้ำผ่านสวนจิตรฯ
เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ รายงานวันที่ 19 ต.ค. 2554ว่า นายรัตนาวุธ วัชโรทัย ในฐานะที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สำนักพระราชวัง ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่มีการแชร์ข้อความในเฟซบุคว่าในหลวงทรงรับสั่ง "ถ้าน้ำเข้าพระนคร ให้น้ำผ่านวังสวนจิตรไปเลย อย่ากั้นให้ผ่านไปเลย" ว่าเป็นการพูดไปเรื่อย ไม่น่าเป็นไปได้ และโดยส่วนตัวไม่เคยรู้เรื่องนี้ น้ำไม่ได้เกี่ยวข้องกับพระนครอยู่แล้ว และถ้าน้ำเข้ามาถึงเขตวังได้จนท่วม ก็แสดงว่า กทม.ไม่สามารถเอาน้ำไว้อยู่ ซึ่งมันไม่สามารถเป็นไปได้อยู่แล้ว


และจากการติดตามสถานการณ์ข่าวในขณะนี้ ทั้ง กทม. และรัฐบาลต่างร่วมมือกันอย่างแข็งขันไม่ให้น้ำเข้าท่วมได้ ตั้งแต่กทม.รอบนอก และ ตอนนี้พื้นที่รอบวังสวนจิตรลดาในรัศมี 1 ตร.กม. ก็ยังไม่มีกระสอบทราบซักใบ เพราะเราเชื่อว่า กทม. จะสามารถกั้นน้ำไว้ได้ ในส่วนของวังหลวงและวัดพระแก้ว ก็เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า น้ำที่ท่าราชวรดิษฐ์สูงกว่าเขตวัง แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงเชื่อมั่นว่ากำแพงวังสามารถเอาอยู่


ส่วนข้อความที่มีการแชร์ในเฟซบุคนั้น คือ การตีข่าว ดึงเอาเจ้านายลงมา เพราะน้ำที่ท่วมทุกวันนี้มาไม่ถึงสวนจิตรลดา เพราะน้ำที่ท่วมทุกวันนี้ไม่ได้เกิดจากน้ำทะเลหนุน แต่เกิดจากคันดินพัง และ ไม่มีทางที่ถนนราชวิถีจะท่วม เพราะถ้า ถ.ราชวิถีท่วมวังสวนจิตรก็ต้องท่วมแน่นอน

เห็นด้วยกับพี่พิม ตอนนี้ข่าวน้ำท่วมทำให้เครียดมากๆ ครับ น่าเห็นใจ น่าสงสารอย่างบอกไม่ถูก อนิจจา..

พี่พิมครับ พี่ดาทำบะหมี่ กับ ลูกชิ้นหมูผัดพริกเหลือง ได้น่าหม่ำจริงเลยยย หิวจังอ่ะ

สวัสดีครับคุณพี่ดา คุณพิม คุณSerT คุณรถถัง และท่านอื่นๆ

ดูข่าวแล้วก็กลัวและกังวลใจไปด้วยกับสถานการณืน้ำของ กทม และ ปริมณฑล ได้แต่เอาใจช่วยให้มันไม่รุนแรงมากไปกว่านี้

แต่ดูท่าแล้ว จะไม่รอด แต่จะท่วมมากท่วมน้อยใน กทม ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของแต่ละคนที่ทำกันมา

ที่สำคัญบุญกรรมยังไม่เท่าความประมาทของแต่ละคนเอง

ซึ่งดูแล้ว พี่ดา กับ คุณพิม เตรียมการรับมือไว้พร้อมแล้ว ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ

ที่สำคัญอีกอย่าง ป้าของผม ที่บ้านอยู่ประชานิเวศน์ 2 ได้ ย้ายนิวาสสถาน พร้อม หลานผมสองคน และ หมาอีก 3 ตัว

เดินทางมาพักพิงที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวบ้านผมที่ประจวบ เรียบร้อยแล้ว

เนื่องด้วยเมื่อคืน ทางหน่วยแจ้งภัยได้ไปกดกริ่งแจ้งให้ย้ายอพยพได้ ท่วมแน่นอน

ป้าว่าอยู่มาเป็น ยี่สิบสามสิบปี ไม่เคยท่วม เพิ่งมาปีนี้ ไม่อาเพศ ก็เพราะใครหล่ะ แหมมม ไม่อยากจะด่า 555+

ป้าบอกก้เลยเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาเที่ยวประจวบหลังจากไม่ได้มานานมากแล้ว ป้าผมเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสซะ 555+

เอาใจช่วยอีกครั้ง และหลายๆครั้ง นะครับทุกคน

พิม Enya เขียน:
หวัดดี พิม

ข่าวที่ว่าคือเขาเชิญนักวิชาการมาคุย มีหนึ่งคนเป็นเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิสืบนาคะเสถียร

น่าจะป็นคนเดียวกับที่พิมบอกพี่ดา(ผู้ชายมีหนวดออกแนวศิลปินประมาณเพื่อชีวิต)

เขาพูดตรงดี แล้วใช้ภาษาที่ชาวบ้านเข้าใจ ไม่ได้ใช้คำ ที่ต้องแปลอีกครั้ง ก็บอกแนวของน้ำว่าจะไปในทิศทางไหน

แล้วให้เราสังเกตุว่าระดับน้ำประมาณไหนอันตรายแล้วให้หนี แล้วที่แจ้งให้ยกของขึ้นที่สูงก็ต้องบอกด้วยว่าจุดไหนต้องยกสูงแค่ไหน

ไม่ใช่บอกให้ยก เอาแผนที่มาให้ดู แผนที่นี้พี่เคยเห็นในเน็ตแต่ไม่รู้ว่าดูอย่างไร เพราะเขาจะเปรียบเทียบให้ดูเลยว่า

ของเก่าเป็นอย่างไร ปัจจุบันที่น้ำท่วมประมาณไหน คุยเรื่องคันกั้นน้ำว่าไม่รู้เอาแนวมาจากไหน เพราะเขาไม่เคยเห็นแนวถุงทรายแบบนี้

แล้วบอกว่าแนวกั้นน้ำสูงมากเท่าไร พังลงมาก็จะแรกเท่านั้น จุดอ่อนของน้ำคือความช้า

คือเขาไม่เห็นด้วยที่จะไปกั้น ให้น้ำไหลไปเลย มันจะไม่เป็นแบบนี้ ตอนนี้จะต้องใช้คำว่าน้ำหลาก

แล้วบอกจุดเพิ่ม ที่พิมบอกว่ามีบางซื่อ จตุจักร นั้นแหละจ้า พิมลองไปเปิดดูย้อนหลัง ของช่องพี่ว่ามีประโยชน์

บ้างช่วงอาจเป็นลักษณะของการถกกันบ้าง แต่มีสาระกว่าดู ศปภ. มากมาย


พิมจะไปทำอาหารแจกวันไหน พิกัดที่ไป เผื่อไปได้จะติดสอยหอยตามไปด้วยคน


ทำเองจ๊ะ เอาของที่บอกเป็นเสบียงสำหรับน้ำท่วมมาทำ เพราะทำไปเรื่อยๆ บ้างอย่างเก็บได้ไม่นาน

พวกบาโลน่า ไส้กรอก พอเบาบางไปซื้อเพิ่มเอา อยู่สองคนไม่ได้เตรียมไว้แยะ

พี่ดาไม่ค่อยถนัดเรื่องมาม่า ปลากระป๋อง เคยไปออกค่ายตอนเป็นนักศึกษา 1 เดือนที่กินสองอย่างนี้

กลับมาเป็นอาหารที่ไม่ค่อยกินเป็นสิ่งสุดท้ายที่เลือก แต่จำเป็นก็กินได้

วันนี้ไปตลาด ซื้อปลาน้ำดอกไม้ มาย่างเตรียมทำแกงไตปลา มันหมูจะเจียวแล้วทำผัดพริกขิงกากหมู

ทำหมูแดดเดียวไว้ เสบียงพี่ดาจะออกแนวนี้ ว่าจะซื้อน้ำมะขามมาทำน้ำพริกมะขามเก็บไว้เหมือนกัน

ขอดูเหตุการณ์อีกสามวัน อาจจะทำเพิ่ม ของแพงขึ้นแยะเลยพิมวันนี้ ทั้งปลา ทั้งผัก

SerT เขียน:
เสิด พี่เชื่อในบารมีของในหลวงท่าน คนที่มันคิดไม่ได้ มันต้องได้รับผลที่ทำ

!!---แสดงเฉพาะสมาชิกที่เข้าสู่ระบบเท่านั้น ไม่เปิดเผยต่อบุคคลทั่วไป---

พี่ดา พี่พิม ล่าสุดได้ข่าวว่า กทม. น้ำดื่ม/สินค้าอุปโภคบริโภค เริ่มไม่มีขายแล้วอ่ะ เป็นห่วงจัง จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมามากมายน่ะเนี่ยะ

หวัดดีเสิด ตอนนี้ข่าวลือมากเหลือเกิน ทั้งด้านของคนพูดกัน ทั้ง facebook ทวิตเตอร์ บีบี รู้จริงบ้าง คึกคะนองมัง
บ้านเมืองปั่นปวนกันไปหมดแล้ว สำคัญสุดความเป็นเอกภาพของผู้นำประเทศ ที่พูดกันไปทาง สองทาง
อีรุงตุงนังไปหมด วันๆ ก็บอกแต่ว่าเฝ้าระวัง แล้วบอกว่าเอาอยู่ อีกที่บอกว่าอพยพ ไรวะชาวบ้านงงงงงไปหมดแล้ว

คนเป็นผู้นำพูดอะไร ต้องมีความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่พูดแล้วต้องให้คนแก้

บางวัน รมต. มาร้องไห้ออกทีวี ชาวบ้านตาดำๆ จะรู้สึกอย่างไร คนที่จะเป็นหลักของกู ไปเสียแล้ว

น้ำท่วมขนาดนี้ ยังมาพูดเรื่อง อำมาตย์ เรื่องเขากลั่นแกล้ง ตอนแรกเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ตอนนี้เป็นเรื่องของการจัดการน้ำ โปรดกลับไปพิจารณาตนเอง คนไทยให้อภัยคนสำนึกผิด บ้านเราเป็นเมืองพุทธ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

วันนี้ตอนเช้าดูข่าวมีเรื่องน้ำในคลองประปา พิธีกรผู้ชายใส่แว่น สย วิเคราะห์แล้วเอาความคิดของตัวเองพูดเลยว่า

น่าจะเป็นแบบนี้ แล้วหันไปคุยกับพิธีกรหญิง พี่อารมณ์เสียเลย อะไรคุณยังไม่รู้เรื่องเลยพูดใหญ่แล้วพูดให้คนฟังกลัว

ทำไมไม่เช็คข่าวก่อน ไม่ใช่คิดเองแล้วมาพูดแบบนี้ เปลี่ยนช่อง มาเจอภาพ ทหาร เอาเรือไปช่วย คนแก่ คนเจ็บ

ตามบ้านสงสารมาก บางบ้านต้องเอาเลื่อยไปเลื่อยระเบียงบ้านแล้วช่วยกันออกที่บางบัวทอง

เปลี่ยนช่องกลับมาดูช่องเดิมที่มี พิธีกรผู้ชายใส่แว่น สย ต่อ ก็มีผู้หญิงออกมาขอความช่วยเหลือ

บอกแม่เขาพึ่งทำบอลลูน หัวใจ และเป็นเบาหวาน เอาอีกพูดอีก ถ้าตรงไหนบอกให้ยกของขึ้น

เอาคนแก่ คนเจ็บ ไปไว้ที่อื่นก่อนเลยนะ ทรัพย์สินที่หลัง

อยากถามจัง เอาไปไว้ที่ไหน ที่ประกาศให้อพยพ ๆ ไปไหน เขาไม่มีที่ไป เขาก็ต้องอยู่

คนจนก็รักชีวิต รักตัวกลัวตายเหมือนกัน บ้างคนไม่มีที่ไปอยู่บนหลัง

อยู่ไม่ได้ต้องมานอนบนสะพานลอยคนข้าม ไม่เห็นมีใครไปเหลียวแล

วันนี้ช่วงบ่ายโมง อยู่ดีๆ ห้างประกาศว่าจะปิดทำการอีกสิบห้านาที แตกตื่นกันอีกแล้วหรือน้ำจะมา

พี่เลยต้องลงไปเช็คกับสำนักงานของศูนย์

โอละพ่ออีกแล้วงานระบบเกิดข้อผิดพลาดอีกแล้ว ประชาสัมพันธ์สายแทบไหม้ โดนร้านค้าด่าซะ

คนยิ่งกลัวเรื่องน้ำท่วม เอวัง

หวัดดีโด่ง พี่ดา กับพี่พิม เราสองคนก็เก็บสมบัติได้ตามที่จะทำได้ บ้างอย่างสุดความสามารถ

เช่นตู้ หรือของที่น้ำหนักมากๆ ต้องจำยอม ให้เป็นไปตามบุญกรรมที่น้องว่า

ภาวนากันต่อไปว่าจะให้หนักหนาสาหัสไปกว่านี้เลย คนไทย บอบช้ำเหลือเกินแล้ว

น้ำท่วม หนนี้ น้ำตาที่รินไหลออกมา ไม่แพ้สายน้ำที่ท่วมท้น ในเวลานี้

ภาพข่าวหลังสุด อาสาสมัครไปช่วยอาม่า คนหนึ่งที่ขาหัก

อาม่าบอกว่าขาหักเลยออกมาช้าสุด ร่างกายและมือของอาม่า สั่นไปหมด

สายตาที่มีความหวาดกลัว เป็นภาพที่ยังอยู่ในความจดจำ ว่าคนไทยลำบาก

ขอบคุณความหว่งใยของน้องมาก

พี่ดา พี่พิม สู้ สู้ อดทน นะค่ะ
เอาชีวิตรอดไว้ก่อน เตรียมตัวให้พร้อมเสมอ ข่าวไม่อยากดูก็ต้องดูนะค่ะพี่พิม
จะได้เตรียมตัวทัน ถึงมันจะมั่วๆ

จินตนาการภาพอาม่าแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ พี่ดา
เราต้องยอมรับและอดทนกับเสียงส่วนมาก เศร้าใจจริงๆ แล้วเค้าก็ไม่ตาสว่างกันสักทีด้วยนะ

SerT เขียน:

SerT เขียน:
เสิด ของแทบไม่มีขาย อย่างพวกน้ำปกติพี่จะสั่งรถสายส่ง แต่ตอนนี้น้ำขาดมาเป็น อาทิตย์แล้ว

ของที่ขาดตลาดส่วนมาก พี่สาวคนโตเขาจะไปซื้อที่โกลเด้นเพลส และตามเซ่เวน จะมีของครบ

ตามซุปเปอร์ของห้างใหญ่ คนจะไปรุมซื้อ ร้านเล็กๆ เลยยังมีของ ส่วนของสดในตลาดยังปกติ

พี่จะไปซื้อตลาด หรือถ้าจะซื้อในห้างจะซื้อช่วงเช้า ขอบคุณในความห่วงใย

อันนี้เป็นชื่อตอนว่า ล้วงลับ นวนคร ชื่อเรื่องโดยดา

ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก หน้า สอง วันที่ 20 ตุลาคม 2554

'นวนคร'กลายเป็น'นิคมการเมือง'

เมื่อ "นวนคร" กลายเป็น "นิคมการเมือง" : ขยายปม โดย สมถวิล เทพสวัสดิ์

"ที่พูดกันก็พูดไม่หมด คนสั่งการพูดไปเรื่อย แต่คนทำงานทำแทบตาย คนปทุมธานีไม่มีสิทธิบริหารน้ำ เอาคนอื่นมาบริหาร เป็นความเจ็บปวดของคนปทุมฯ ศปภ.ไม่เคยฟังคนพื้นที่ ไปฟังแต่นักวิชาการ ไปฟังคนนอนห้องแอร์ ถ้าน้ำแตกอย่างนี้ไม่มียุบแล้ว มีแต่ขึ้น การบริหารจัดการน้ำไม่ดี เดิมแก้ไขได้ ทำไมจะทำไม่ได้ แต่วันนี้พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ พูดไปก็ไม่มีใครฟัง ผู้ใหญ่ไม่ฟัง มันจมหมดแล้ว" นี่เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกของ "ชาญ พวงเพ็ชร์" นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี หลังจากน้ำเข้าท่วมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ซึ่งเป็นเหมือนอู่ข้าวอู่น้ำของชาวปทุมฯ
ความพยายามในการรักษา "นิคมอุตสาหกรรมนวนคร" ของหลายฝ่าย เพื่อไม่ให้น้ำเข้าท่วม ถือว่า "ล้มเหลว" แม้จะใช้ "กำลังภายใน" ของ "บอร์ด" บางคนช่วยประสาน "ผู้หลักผู้ใหญ่" เข้ามาช่วยรักษานิคมไว้ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ
เนื่องจากปัญหาของ "มวลน้ำ" ที่มีมากกว่าปกติและปัญหา "มวลชน" ภายนอกนิคมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม "พื้นที่การเกษตร" ของประชาชนที่อยู่บริเวณรอบๆ ก็ทำให้การตัดสินใจ "จัดการน้ำ" ไม่สามารถทำได้เต็มที่
เพราะการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งของรัฐบาลย่อมส่งผลกระทบต่อ "ฐานคะแนนเสียง" ของรัฐบาลอย่างแน่นอน
หากมาไล่เรียง "ผู้แทน" หรือ "ส.ส." ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ทั้ง 6 เขต ล้วนเป็น "ส.ส.พรรคเพื่อไทย" ทั้งหมด
"สุทิน นพขำ" เขต 1 "สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล" เขต 2 "สมศักดิ์ ใจแคล้ว" เขต 3 "พรพิมล ธรรมสาร" เขต 4 "ว่าที่ ร.ต.สุเมธ ฤทธาคนี" เขต 5 และ "ชูชาติ หาญสวัสดิ์" เขต 6
โดยเฉพาะ "จ.ปทุมธานี" มี "รัฐมนตรี" ถึง 2 คน คือ "สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ "ชูชาติ หาญสวัสดิ์" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
แต่มาตรการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ยังมีเสียงบ่น บางพื้นที่ถึงกับตัดพ้อ "ส.ส.หนีหน้า" ไม่มาให้เห็นเหมือนช่วงลงพื้นที่หาเสียงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.
ขณะเดียวกันเมื่อไปดู "รายชื่อกรรมการ" ของ "นิคมอุตสาหกรรมนวนคร" จะพบว่าส่วนใหญ่มีความ "ใกล้ชิด" กับคนในรัฐบาล จึงไม่แปลกที่หลายฝ่ายพยายาม "รักษา" ให้นิคมอยู่รอดให้นานที่สุด
โดยเฉพาะ "ประธานบอร์ดนวนคร" ที่ชื่อ "บิ๊กแอ๊ว" พล.อ.อัครเดช ศศิประภา อดีตรอง ผบ.สส. ซึ่งเป็นน้องชายของ "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ซึ่งจัดอยู่ในก๊วนทหารเครือข่ายทักษิณมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทย และ "หัฏฐจิต หนุนภักดี" กรรมการบริหาร และรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน)
ปฏิบัติการรักษานวนคร จึงมี "บิ๊กอ๊อด" ลงมาเป็น "มือประสาน" ด้วยตัวเอง พร้อมกับมีการนำกำลังทหารจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ จำนวน 625 นาย เข้ามาช่วยรักษานิคมอุตสาหกรรมนวนครอย่างเต็มที่ โดยมี "เสธ.อ๊อบ" พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ลูกชาย พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีต ผบ.ทบ. และเลขาฯ รสช. ในฐานะ "ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์" มากำกับดูแลด้วยตัวเอง
ขณะเดียวกันก็มี "พล.อ.วิชา ศิริธรรม" ที่ปรึกษาและประธานอนุกรรมการฝ่ายกิจการพิเศษ นวนคร ก็เป็น "แนวหน้า" ในการขับเคลื่อน เพื่อรักษานวนครไม่ให้ถูกน้ำท่วม พยายามประสานกับรัฐบาลผ่านทาง "ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย" หรือ ศปภ. แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร
จึงออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ "ทั้งต่อว่าและแขวะรัฐบาล" เพื่อขอให้รัฐบาลเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 5 บาน เช่น ประตูระบายน้ำเชียงรากน้อย เชียงรากใหญ่ สารพัน คลองระพีพัฒน์ และคลองเปรมประชากร เพื่อระบายน้ำออก และรักษาพื้นที่เศรษฐกิจไว้ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากรัฐบาลจนกระทั่งไปเชิญ "บรรหาร ศิลปอาชา" อดีตนายกรัฐมนตรี มาช่วยเจรจา แต่ว่าก็ไม่ประสบความสำเร็จ
จนกระทั่งต้องให้ "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ เป็นผู้ประสานตรงกับ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี
เพราะปัญหาน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมนวนครเริ่มมีการถกเถียงเรื่องการระบายน้ำที่บางพื้นที่ไปกระทบต่อพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของ "ส.ส.ปทุมธานี" จึงไปแจ้งกับ "พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก" รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) อย่าระบายลงในพื้นที่ฐานเสียง ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกข้าว สวนส้ม พืชไร่
และจุดนี้เองทำให้การระบายน้ำในนิคมนวนครมีปัญหา!
จนเป็นที่มาของการ "นั่งโต๊ะเจรจา" เพื่อหาทางออก ระหว่างรักษาพื้นที่เศรษฐกิจ กับพื้นที่การเกษตร
และท้ายที่สุดก็ต้อง "รัฐบาล" ต้องทำตามข้อเสนอของ "นวนคร" ที่ขอให้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 5 บาน เพื่อรักษาพื้นที่เศรษฐกิจไว้ เนื่องจากการ "กู้" ภาคการเกษตรทำได้ง่ายกว่าการกอบกู้ภาคธุรกิจที่มีต่างประเทศมาร่วมลงทุนรวมกันหลายแสนล้าน
แต่นั่นหมายความว่า "รัฐบาล" ต้องเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือและหาเงินชดเชยสิ่งที่ชาวบ้านยอมแลกกับการรักษาภาคธุรกิจไว้
ก่อนหน้านี้ "กองทัพ" และ "กฤษฎีกา" เคยเสนอให้ "รัฐบาล" ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ เพราะปัจจุบันที่ใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของกระทรวงมหาดไทย ปี 2550 ใช้ไม่ได้ผลไม่สามารถดูแลประชาชนได้ แต่รัฐบาลหวาดระแวงที่จะมอบอำนาจให้ทหารเป็นผู้ดูแลจนสถานการณ์น้ำท่วมเริ่มบานปลาย
บทเรียน "น้ำท่วมนวนคร" ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญของรัฐบาล เพราะนอกจากแก้ไขปัญหามวลน้ำที่มีมากแล้วยังต้องเผชิญกับมวลชนที่ไม่พอใจการบริหารน้ำของรัฐบาลจนเกิดการกระทบกระทั่งกันหลายจุด
เพราะเหตุการณ์ที่ "นิคมอุตสาหกรรมนวนคร" ครั้งนี้ไม่เหมือน "นิคมอุตสาหกรรม" ทั่วไป แต่เกี่ยวโยงกับ "การเมือง" อีกด้วย!

ตอนนี้ไม่ดูข่าวช่อง NBT ไม่ฟังแถลงของ ศปภ. ไม่อ่านมติชน

เสิด พี่เห็นภาพนี้ขำกลิ้งเลย สุดยอด

ข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ 19 ต.ค. 54 เปลวสีน้ำเงิน
สงสารใคร 'คนไทยหรือประเทศ'?
• เปลว สีเงิน
19 ตุลาคม 2554 - 00:00
"ขึ้น ฮ.-กางแผนที่-ชี้นิ้ว" ออกโทรทัศน์กรม นปช.สัมพันธ์ ช่อง ๑๑ นั่นแหละ "งานขึ้นหน้า-ขึ้นตา" ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ สงสัยประเทศ "เสร็จ" น้ำท่วมนี้แล้ว นายกฯ หญิงจะเป็นโรคเสพติด ฮ.เพราะเอะอะก็ขึ้น ฮ.วางแผน ตั้งแต่ท่วมนครสวรรค์ จนมาจ่อคอหอยคือ กทม.ขณะนี้แล้ว เธอก็ขึ้น ฮ.ทำเหมือนผู้ชำนาญการเดินทัพของน้ำงั้นแหละ!?
เลิกเล่นขายข้าว-ขายแกงได้แล้ว...ท่านนายกฯ นี่ความเป็น-ความตายของประเทศ "ทั้งประเทศ" นะครับ จะต้องให้มาล่มเพราะหญิงไม่ประสาคนหนึ่ง เผอิญเป็นหุ่นอำนาจแล้วมาบัญชาการในศึกที่มีบ้านเมืองเป็นเดิมพัน
น่าหวาดเสียวยิ่งนัก!
สภาพน้ำท่วมขณะนี้ รัฐบาลทำงานกับไม่ทำงานค่าเท่ากัน เพราะไม่เกิดผลทางบวกกับสถานการณ์เลย สู้อยู่เฉยๆ ไม่ต้องตั้งศูนย์ ศปภ.เสียดีกว่า
แต่ถ้าจะให้เป็นเวทีโชว์ตัว-โชว์ตำแหน่ง "ทีมงาน นปช." ก็ว่าไป แต่ถ้าหวังจะให้เป็นศูนย์แจ้งข้อมูลข่าวสารที่ "ทันการณ์และเชื่อถือได้"
เปิดช่อง "ไทยพีบีเอส" แช่ไว้ ได้สาระ-น่าเชื่อมากกว่า!
ขณะนี้ "คน กทม." กำลังเป็นโรคประสาท น้ำท่วมไม่กลัว แต่กลัว "พรวดพราดมิดหลังคา" ชนิดมาไม่รู้ตัว เครียดตรงนี้อย่างหนึ่ง และอีกอย่าง เครียดเพราะไม่รู้จะฟังและเชื่อศูนย์ไหนได้มากกว่ากัน ระหว่างศูนย์ กทม.ของคุณชายสุขุมพันธุ์กับศูนย์ ศปภ.ของยิ่งลักษณ์
เท่าที่สังเกตท่าทีการป้องกันน้ำท่วม กทม. ฝ่ายรัฐบาลและฝ่าย กทม.จะกั๊กๆ-กันๆ เล่นการเมืองต่างขั้วกันอยู่ ด้วยเกรงว่าใครจะได้หน้า-ได้ผลงานกว่ากัน
คุณชายสุขุมพันธุ์ดูจะเสียเปรียบนิดๆ ในฐานะต้องรับหน้า-รับเกือกในฐานะผู้ว่าฯ กทม. เพราะอย่างนั้นจึงเห็นหน้าตาท่าจะเครียด และคงใช้น้ำองุ่นหมักในถังไม้โอ๊กดับเครียดหนักเอาการ
หน้าจึงฉ่ำ ยิ่งกว่าน้ำแฉะ!
ส่วนทางฝ่ายรัฐบาล เลิกพูดเรื่อง "กองทัพปราบน้ำ" กันไปตั้งแต่ปีมะโว้ ที่ยิ่งลักษณ์ตั้งให้ พล.ต.อ.ประชา เป็นผู้อำนวยการใหญ่ พล.อ.อ.สุกำพล เป็นเสนาธิการใหญ่ และนายปลอดประสพ เป็นแม่ทัพใหญ่นั่นแหละ ไม่มีทั้งขนมจีนและน้ำยา แต่ชาวบ้านเขาฮานะ เขาบอกว่า
ขำกว่า "ชมพู่-โย่ง-โหน่ง-เท่ง" ในรายการ ก่อนบ่ายคลายเครียด!
จากที่ ศปภ.รีบเอาหน้า "ไม่ต้องห่วง กรุงเทพฯ ปลอดภัยแล้ว...มวลน้ำก้อนใหญ่ลงทะเลไปหมดแล้ว" เอาเข้าจริงเต็มหน้าเลย เพราะกองทัพน้ำเข้ามาจ่อคอหอยชาว กทม.ไม่รู้จะพรวดเดียว "มิดเมือง" ตอนไหน?
เท่าที่สังเกต จากการตีลูกกั๊ก-ลูกกัน และน้ำทำท่าจะพังแนวกั้นเข้ามา ฝ่ายรัฐบาลเริ่มตีลูกชิ่ง ออกข่าวว่าเคล้าเคลียตาม กทม.ร้องขอ หมายความว่า ถ้ายันอยู่...นี่เพราะพวกกูนะ แต่ถ้ายันไม่อยู่ น้ำพังเข้ามาได้ ทั้งหลาย-ทั้งปวง
ฉิบหาย..คุณชายเอาไปคนเดียว!
ได้ยินยิ่งลักษณ์กับรัฐมนตรีปึ้งคุยโขมง ๒๔ ชั่วโมงแข่งกับ "คุยโขมง ๖ โมงเช้า" ของดุ่ย ณ วังน้อย ว่าได้ขอให้สหรัฐส่งเรือบินมาช่วยตั้งร่วม ๓๐ ลำแล้ว ก็เบาใจว่าถ้าท่วมถึงฟ้า ไม่ต้องกลัวปลาดาวตอด เกาะเครื่องบินรบสหรัฐไปอยู่ดูไบโน่นเลย
เฮงและซวยสุดๆ น้ำท่วม กทม.จริงๆ คนกรุงก็ ย.ห.-อย่าห่วง เพราะยิ่งลักษณ์กะปึ้งเขาปิ๊งไอเดีย "เรือโนอาห์" ติดต่อสหรัฐอีกเหมือนกัน ให้ส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส จอร์จ วอชิงตัน จากท่าสิงคโปร์มาช่วยแล้ว ท่วมมิดทั้งประเทศจ้างก็ไม่จมน้ำตาย
ขึ้น "เรือโนอาห์" ไปอยู่โลกใหม่ มีเสี่ยดูไบเป็นศาสดา!
ความคิดขอให้สหรัฐส่งเรือรบมาช่วยน้ำท่วมนี้ เป็นข่าวเก๋ ก๊ากๆๆๆ ดีนะ มันให้ภาพรัฐบาลน้องสาวทักษิณซี้ย่ำปึ้กกะรัฐบาลสหรัฐ ใครเป็นคนคิดสร้างข่าว-สร้างภาพรัฐบาลไปวันๆ เช่นนี้ น่าให้รางวัลซักป้าบ ในเมื่อซี้ย่ำปึ้ก
ขอมาหลายๆ ลำหน่อยไม่ดีหรือ?
ให้แล่นไปจอดสแตนด์บายที่มหาสมุทรนครสวรรค์ซักลำ ช่วยคนทางเหนือ มหาสมุทรอยุธยาอีกซักลำ ช่วยคนภาคกลางและอีสาน มหาสมุทรนวนครซักลำ ช่วยคนชานเมืองแถวปทุมฯ-นนท์ มหาสมุทรแสนแสบอีกลำ อ้อ...เผื่อคนฝั่งธนฯ ด้วย ให้ไปจอดสแตนด์บายที่
บางกอกน้อย โอเชี่ยน!
อย่าลืมสั่ง "ยามฝั่ง" ให้ตะโกน โบ๊ต...อะฮอย ให้แน่ใจก่อนล่ะว่าใครเป็นใคร เดี๋ยวเรือรบเขมรดอดเข้ามาถึงปากอ่าวมหาสมุทรนครสวรรค์ได้ละแย่เลย!
น้ำ-ทำไมจึงพยายามเข้าท่วมตัว กทม.?
คิดอีกทีก็...พอเข้าใจ มีคนทำคุณไสยด้วยการเอาเลือดสาดแผ่นดินไว้เมื่อปีที่แล้ว พระพิรุณจึงรับโองการให้มาชำระล้างแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์คืนความบริสุทธิ์
น้ำเที่ยวนี้จึงมีชีวิต ทั้งแม่ทัพ และเสนาธิการทัพ แผนล้ำเลิศเหนือมนุษย์ ไม่เชื่อท่านลองย้อนหนังข่าวเก่าๆ ฟังซี...ไหลมาแล้วครับ..มาแล้วครับ..ไหลตลบหลังแนวกั้นเข้ามา...แตกแล้วครับ..แตกแล้ว...!!
เมื่อวาน แนวรบด้านรังสิตรายงานละล่ำ-ละลักทางข่าววิทยุ...น้ำข้ามสะพานมาได้แล้วครับ ผมฟังก็ทั้งระทึกและทั้งอมยิ้ม เพราะน้ำฉลาด ไหลตลบหลัง และไหลข้ามสะพานไปท่วมอีกฝั่งได้ เก่งเหนือมนุษย์ศปภ.จริงๆ
เนี่ย...ในขณะที่ทัพน้ำบุก และบดเข้ามาทีละหน่อย..ทีละหน่อย..กองทัพยิ่งลักษณ์ก็บุ๋มๆๆๆๆ อลหม่านเหมือนงานทิ้งกระจาด เพราะไม่เข้าใจระหว่างคำว่า "ปล่อยให้ไปตามทางน้ำไหล" กับคำว่า "กำแหงหาญไปต้านขวางทางน้ำไหล"!
น้ำนี่...เขาสร้างทางมา-ทางไปของเขาไว้คู่กับแผ่นดินตรงนั้นๆ มาแต่ดึกดำบรรพ์ ด้วยความละโมบ มนุษย์ไปแย่งทางเขาสร้างโน้น-สร้างนี้ปิด เมื่อเจ้าของเขาจะเอา ต้องคืนทางให้เขา ไม่ใช่ไปแข็งขืนต้าน ด้วยการปิดทางเขาหนักขึ้น
อย่าลืม แรงกระแทกจะเพิ่มเป็นสองเท่าแรงต้าน เมื่อแตกจึงมาพรวด พริบตา...มิดหัว!
ดูอย่างเขื่อนซี ที่ไม่พังไม่ใช่เพราะสร้างแข็งแรงเหนือกว่า หากแต่เขา "เปิดทาง" ส่วนหนึ่งให้น้ำได้ไหลออกไปด้วย กรุงเทพฯ จะรอดได้ก็ต้องยอมให้บางพื้นที่ท่วม คืนทางของเขาให้เขาไหลไปบ้าง
ถ้ามัวแต่กั้นตะพึด-ตะพือ และทุกจุดไป โดยไม่ศึกษา "ทางน้ำไหล" มนุษย์ไม่ชนะหรอกครับ!
รัฐบาลลองคิดดูอีกที แล้วแยกแยะพร้อมจัดลำดับความสำคัญในงานที่ต้องทำเฉพาะหน้าให้ถูกกาล-เทศะ ระหว่างงาน "บริหารการไหลบ่าของน้ำ" กับงาน "เอาหน้า-เอาสนุกรับของบริจาค"
งานบริหารน้ำ มันยาก มันเหนื่อย เป็นงานปิดทองหลังพระที่ต้องใช้ภูมิปัญญา ถูกด่า-ถูกเข้าใจผิด มากกว่าถูกชม-ถูกเข้าใจถูก
ส่วนงานรับเงิน-รับของบริจาค มันง่าย ไม่เหนื่อย แถมสนุก ได้หน้า นายกฯ ไม่จำเป็นต้องไปแหกปากหัวเราะอย่างที่รับบริจาคจากหลาน-ว่าที่เจ้าสาวคนสวยอย่างนั้นก็ได้
นี่ซี...ที่ควรสนใจ เห็นคนถูกน้ำท่วมเขาด่าประจานฝากนักข่าวออกจอทุกคืน เขาไม่เคยได้รับของแจกเลย เพราะเอาไปแจกกันแต่ริมๆ ทาง ตามที่ไปถึงได้ง่ายๆ
อย่าวัดหน้า-วัดตาจากกองของบริจาค ควรสนใจวัดปาก-วัดท้องชาวบ้านที่เดือดร้อนจริงๆ ให้ทั่วถึง มีทั้งเครื่องบิน-เรือรบสหรัฐ ไหนคุยว่ามีเครื่องสแกน มดยืนเยี่ยวอยู่บนยอดไม้ยังมองเห็น ก็ขนเอาของไปโปรย ไปโยนให้ถึงตัว-ถึงปากชาวบ้านด้วย
ที่สภาพเป็นเช่นนี้ เป็นความบกพร่องรัฐมนตรีมหาดไทย ก็เข้าใจ แผ่นดินกว้าง น้ำขวาง ไปไม่ถึง ซ้ำไม่รู้อยู่ตรงไหน แต่ด้วยความเป็นนายทะเบียนคนทั้งประเทศของมหาดไทย มันต้องรู้!
รู้ยังไง...ก็รู้ด้วยการเห็นหัวและให้เกียรติผู้นำท้องถิ่นเขา ตำบลไหน อำเภอไหน จังหวัดไหน ก็เชิญกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ. นายกเทศมนตรีแต่ละแห่งมาซีครับ เขารู้ว่าลูกบ้านเขาอยู่ เขาตาย ใครหลง-ใครติดอยู่ที่ไหน ตรงไหน
ให้เอาทะเบียนแต่ละลูกบ้านมากาง แล้วเอาข้าวของให้เขาไปแจกจ่ายในส่วนลูกบ้านเขา ทำให้เป็นระบบ อย่าเหยียบเล็ก ยกแต่ใหญ่ การแจกข้าวของทุกวันนี้ ชาวบ้านบางส่วนมารับในลักษณะมือใครยาวสาวได้สาวเอา
คนปากทางแทบจะเอาไปตั้งห้างแข่งเซเว่น-อีเลฟเว่นได้เลย ส่วนคนปลายทางเหมือนห้างถูกคนตาแหกแย่งเกลี้ยงชั้นวางของ!
เอ้า...ก่อนจบรายการคนแก่บ่น จะบอกว่าคนที่ถามหากันขรมตั้งแต่น้ำท่วม....มาแล้วครับ มาด้วยการให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ออสเตรเลียวานนี้ ตอนหนึ่งว่า
"ทหารเป็นพวกเสพติดอำนาจ คนติดยาบ้ายอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ยา เช่นเดียวกับคนที่หลงใหลในอำนาจก็จะทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่งอำนาจ การบริหารงานของเพื่อไทยที่นำโดยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ได้รับยืนยันแผนที่จะแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การบริหารงานกลาโหม ซึ่งอนุญาตให้มีการนัดหมายพูดคุยในทางทหาร
เพื่อป้องกันการรัฐประหาร เราต้องเสริมสร้างระบอบประชาธิปไตย ถ้าประชาธิปไตยจะรุ่งเรือง ทหารจะต้องอยู่ในค่ายตัวเอง ผมออกจากการเมือง แต่ก็เป็นไปได้ที่จะกลับไปประเทศไทย หลังจาก ๕ ปีที่อยู่นอกประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงติดคุก ๒ ปี จะกลับไปอยู่เมืองไทย แต่ไม่ทราบเมื่อไหร่หรือวิธีใด
"มันเป็นประเทศของผม ครอบครัวของผม ผู้คนและที่บ้านของผมเอง ผมคิดถึงพวกเขามาก"
มันคือใคร..ไม่ต้องบอกก็รู้ ชิมิ?

มีคนฝากโคลงสี่สุภาพมาให้อ่าน คลายเครียดครับ

[น้ำล้างเลือดชั่ว]...
ทุกข์เทวษ ทั่วถ้วนหน้า --- ประชาไทย
สายน้ำเชี่ยว เป็นเกลียวไป --- ทุกแหล่งหล้า
ยิ่งแก้ ยิ่งแน่ใจ --- เอาไม่หยุด
ยิ่งลักษณ์ ยิ่งปากกล้า --- ยิ่งท่วมธรณินทร์

บอกไว้ หลายหมื่นครั้ง --- ว่ากาลี
เหยียบย่ำ แม่พระธรณี --- สาดเลือด
เลอะเลือน เปื้อนปฐพี --- ไสย์แสร้ง มนต์ดำ
กรรมที่ทำ ตามเชือด --- ล้างให้ มลายสูญ

สูสู้เสก สูสู่สร้าง --- แต่ปางไหน
ไทยนี้จึง เป็นไทย --- มาได้เห็น
โคตรสูจากแดนใด --- ได้พึ่ง โพธิ์สมภาร
เสื่อผืน หมอนใบได้เล้น --- หลบเลี้ยง บำรุงสู
จนเติบใหญ่ ได้อยู่ยั้ง --- ยืนยง
เป็นตระกูล ชินวัตรคง --- มั่นแล้ว
สัมปทาน การดำรง --- ส่งสร้าง ดาวเทียมฯ
ธุรการ ปานได้แก้ว --- เก่งกล้า กำแหงหาญ

ลืมเลือน กำเริบแล้ว --- หรือไรสู
ประเทศนี้ เป็นของกู --- สูแอบอ้าง
15ล้าน นั้นคิดดู --- สูซื้อได้ แต่ใดมา
ปูก็ปู น้องสูสร้าง --- นางปลื้ม แต่ลืมสมอง

ธรณี ภพนี่นี้ --- เป็นพยาน
เสียเวลา มาเนิ่นนาน --- กับสูแล้ว
บัดนี้ จะปราบมาร --- ให้สิ้น แผ่นดินไทย
มหานที นี่แหละแม้ว --- ล้างเลือดให้ จัญไรสูญ..

หวัดดี เสิด

น้องช่วงนี้ เป็นมหกรรมกักตุนของๆ ในซุปเปอร์ที่เป็นของกินแทบไม่มีเหลือ

แบบว่าวางหมดๆๆ คนกรุงทั้งตื่นกลัว และตื่นตระหนก

พอบอกว่าน้ำจะเข้ากรุง แทบจะรุมทึ้งของกัน พี่ดามีมาม่ากับเขา แค่ 7 ซอง

ปลากระป๋อง 4 ป๋อง มีปลากระป๋องที่เตรียมใส่บาตรอีก 3-4 ป๋อง ไข่เค็ม 2 ใบ

ไข่ไก่ 10 ฟอง ข้าวสาร 3 ถุง เดือนนี้ยังไม่ซื้อเพราะไม่มีข้าวสารเหลือให้ซื้อเลย

ปกติจะซื้อเก็บไว้ตลอด เดือนละครั้ง ซื้อเป็นสปาเก็ตตี้ มักกะโรนี

ไว้สองห่อ ไม่มีอะไรก็กินอันนี้แหละ ผัดกับหมู ไม่ค่อยได้เก็บเสบียงเหมือนคนอื่น

ว่าจะให้เสิด สอนทำน้ำผักไท นี้แหละ จะซื้อเส้นจันท์ไว้แล้ว ถ้าน้ำท่วมจะได้ผัดกิน

เสบียงเตรียมยากเสิด เพราะถ้าน้ำท่วมสูง ไฟถูกตัด ของสดในตู้เย็นก็เก็บไม่ได้

บ้างคนซื้อของแบบแช่แข็งไปแยะมากเลย ถ้าน้ำไม่ท่วม ของที่เขาซื้อไปกินได้เป็นเดือน

เมื่อวานไปดูถังน้ำ จะซื้อให้พี่สาวเก็บน้ำไว้ใช้ชั้นสอง เพราะน้ำท่วมต้องปิดปั้ม

ปรากฎว่า หมดสนิทไม่เหลือเลย

หวัดดี ทุกคน

ไม่ได้หายไปไหน เสาร์ - อาทิตย์ งานยุ่ง เลยไม่ได้เข้าครัว

พิม วันนี้ขายของเป็นงัยบ้าง

เสิด อย่าลืมสอนพี่ทำน้ำผัดไทยนะ ไม่ก็ถ้ามีข่าวน้ำท่วม ลาดพร้าว บางนา ส่งที่ผัดเรียบร้อยมาให้พี่ดา พี่พิม ได้เลย

รถถัง เปิดไพ่ ให้พี่ดา พี่พิม ด่วน ว่าจะเจอน้ำท่วม มากน้อยประมาณไหน โด่งทำไรอยู่น้อง ส่งข่าวบ้างนะ

ลูกลิง มด พี่พานา พี่เยาะ หายไปนานเหลือเกินแล้ว

รถถังลองเปิดไพ่ 5ใบ ถามว่าน้ำจะท่วมบ้านพี่ดามั้ย
แล้วก็ตามด้วยพี่พิม อีก5ใบ
ไพ่ขึ้นมาไม่ดีนัก เลยตั้งจิตขออีกรอบ ไพ่ออกมาเหมือนเดิม

บ้านพี่ดาไพ่ขึ้นมาว่าแล้วแต่ผลกรรมที่ได้เคยทำเอาไว้และมีปัญหาเกี่ยวกับน้ำ ให้ขอขมาต่อพระแม่คงคา ก็อาจจะช่วยผ่อนหนักเบา
ของพี่พิมไพ่ตอบโจทย์เป็นข่าวดี แต่ว่ามันก็ทำให้เกิดการสูญเสียเงินทองไปโดยใช่เหตุ
พี่พิมลองบนบานศาลกล่าวกับสิ่งศักดิ์ดูนะค่ะ

ทั้งพี่พิมมีไพ่ที่เราเรียกว่าเจ้ากรรมนายเวรเหมือนกัน เป็นไพ่ที่จะได้รับผลจากการกระทำ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
แต่รถถังเชื่อมั่นค่ะว่าพี่ 2 คนทำแต่สิ่งดีๆ กตัญญูและช่วยเหลือเพื่อน
จะไม่มีสิ่งที่ร้ายแรงเกิดขึ้นกับพี่ค่ะ

ครูโด่งค่ะ มาช่วยทายเพิ่มด้วยค่ะ รถถังมือใหม่เกิ๊น
พีดา
Judgement,5ดาบ,temperance,devil,8ไม้
พี่พิม
เด็กเหรียญ,3ดาบ,5เหรียญ,hermit,judgement

รถถัง ขอบคุณมาก ตอนนี้คงต้องเป็นไปตามบุญ และกรรมจริง

สู้กันต่อไป พวกเราชาวไทย

"เสิด อย่าลืมสอนพี่ทำน้ำผัดไทยนะ ไม่ก็ถ้ามีข่าวน้ำท่วม ลาดพร้าว บางนา ส่งที่ผัดเรียบร้อยมาให้พี่ดา พี่พิม ได้เลย"

ถ้าน้ำท่วมบางนาจะผัดส่งไปช่วยครับพี่ดา ส่วนเรื่องน้ำปรุงฯ เดี๋ยวป๋า จัดห้ายยยยย คร๊าบบบบ

พี่ดา,พี่พิม เมื่อวานที่ไปขายของ มีเหตุการณ์ระทึก (แม่ค้าบอกว่า เป็นสีสันของตลาดนัด) มีคนตีกันครับพี่ใกล้ๆ แผงผมอ่ะ ผัดไปเนี่ยะ ใจสั่นใจคว่ำใจหาย ไป อ่ะ กลัวเหตุมันจะบานปลาย มาโดนร้านเราพังไม่ต้องขายกัน

คือมีลูกสาวแม่ค้าขายผัก เดินไปด่าและตีกับลูกชายของแม่ค้าขนมหวาน เรื่องที่ว่า คู่กรณีไปถีบรถของแม่เค้าขายผักล้มหรืออะไรสักอย่าง ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำแบบนั้น (แต่ลูกชายแม่ค้าขนมหวานอ่ะ ก็ดูอันธพาลหน่อยๆ) ผู้หญิงใจเกินหญิง เข้าไปด่าและทั้งตีทั้งถีบ ไอ้ผู้ชายก็กล้าทำผู้หญิง อ่ะ คนเดินตลาดนี้ตกใจกันไปหมด โชคดีที่ผู้หญิงมันไปคว้ามีดที่เขียงหมูข้าง ๆ แต่เค้าห้ามไว้ได้ ไม่งั้นคงจะเป็นอะไรกันมากกว่านี้ พอจากนั้น ไอ้ผู้ชายลูกแม่ค้าขนมหวานก็เดิมข้ามซอยมาด่าลูกแม่ค้าขายผักที่ตรงผมกำลังผัดก๋วยเตี๋ยวอยู่พอดี ในใจก็ภาวนาอย่าพังร้าน กรูเล้ยยยย เจ้าประคุณเอ้ยยย สักพักก็เลิกรากันไป... แต่เราก็ไม่รู้ว่าว่า จะยังไงกันต่อน่ะครับพี่ดา

พี่พิมเคยเจออะไร แบบนี้ที่ตลาดบ้างป่าว????

เสิด ตอนนี้เรื่องการตีกัน ไม่มีการแบ่งแล้วเพราะสุภาพบุรุษหายากมาก

เออผู้หญิงเราก็ใช้ได้เลยนะนั้น แมนอย่างแรง ผู้ชายก็นะยังมีเดินข้ามซอยมาด่า

อารมณ์ขึ้น คว่ำกระทะผัดไท น้องเสิดถีบกลับแน่ไอ้เว- โชคดีไปไม่คว่ำ

สมัยเด็กที่ตลาดจะเห็นแต่ป้าๆๆๆ แม่ค้าในตลาด ถลกผ้าถุงด่ากันอย่างเมามัน ลงไม้ลงมือไม่ค่อยเห็น

เสิดหายตกใจยัง ช่วงตกใจน่าจะหาโอกาสทำเป็นกอดสาวๆๆ แถวนั้นนะ

ปล.ป๋าขาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอย่าลืมจัดน้ำปรุงผัดไทยให้หนูนะป๋าขาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

555 คือพอดีแถวนั้นมีแต่เจ๊ๆ เลยทำเนียนกอดไม่ได้อ่ะ เสียดาย 55555555555

ป๋าจัดให้ทางเมล์แล้วน่ะจ๊ะ น้องดาด้า....

ดา เขียน:

ขอบคุณสำหรับสูตรน้ำปรุงผัดไทย ที่ป๋าเสิดกรุณาให้ หนูดามา

ความตั้งใจเลยนะป๋าเสิด ถ้าน้ำท่วมหนูดาจะทำแจกให้คนในซอยกินผัดไทยสูตรป๋าเสิด

ใครติดใจ จะแนะนำให้ไปกับที่ศรีราชา ร้านป๋าเสิด โอเคไหม

เข้าไปเช็ค Emil ป๋าเสิด โปรยว่า ของเค้าเด็ด ตกใจ ของใครวะ เด็ด คิดว่าป๋าเสิด

จะเอาอะไรเด็ดๆๆ ของผู้นำมาให้ดู ที่แท้ของป๋าเสิดเด็ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

อย่าคิดลึก สูตรน้ำปรุงจ๊ะที่เด็ด เดี่ยวพิมตกใจ สองคนนี้ทำไรกัน

ร้านสะอาดสะอ้านดีนะน้อง มีขันโตกด้วยดีแล้วร้านค้าต้องมีการพัฒนา ดูสะอาดเป็นระเบียบจะดึงดูดคนซื้อเข้าไป

ซื้อ ถึงแม้ว่าเราจะขายในตลาดนัด เราก็มีระดับนะจะบอกให้ ขอแนะนำ เสิดเอาผ้ายางสีสวยปูก่อนวางเครื่องและขันโตก

ก็ดูงามขึ้นนะ ถ้ามีทุนอีกนิด น้องเสิด เอาตัวเองไปเป็นแบบให้เขาวาดเป็นการ์ตูนล้อเลียน เป็นรูปเสิดกำลังผัดอยู่

แล้วลงไวนิว ก็น่าจะแจ่มนะ อ.ยิ่งศักดิ์ เขายังมีเลย อาจารย์ประเสริฐ์ ผัดไทยกระทะร้อนจะมีมังไม่ได้


ปล.ไม่เห็นหน้าคนผัด ข้างๆ ผัดไทยเป็นอะไร ช่วงนี้ไม่ได้ทำปอเปี๊ยแล้วเหรอ

สวัสดีค่าทุกๆ คน

พี่ดาค่ะ .......ช่วงนี้เป็นมหกรรมกักตุนสินค้าจริง ๆ ค่ะพี่ แม้แต่น้ำแข็งใน 7-11 แถวบ้านพิมก็ยังไม่มีเลยค่ะ
เพราะคนเค้าซื้อไปตุนไว้ในตู้เย็น เผื่อว่าน้ำมาจริง ๆ อย่างน้อยก็เอาไว้แช่ของได้ T__T เรียกว่าเป็นอะไรที่แทบจะไม่อยากเชื่อเลยค่ะ

ส่วนที่บ้านพิม ... ไม่รู้จะเรียกว่าตุนได้ไหม
ตอนนี้มีข้าวสารถุงละ 5 โล 2 ถุง มีปลากระป๋องประมาณ 10 ป๋อง มาม่า 2 กล่องใหญ่
แครกเกอร์ 2 ห่อ (อันนี้ไม่ชอบเลยค่ะ แต่ก็ซื้อติดไว้ง่ะ) มีไข่อยู่ประมาณ 20 ฟอง (กะว่าจะทยอยทำพวกขนมปัง เค้ก คุ๊กกี้เก็บไว้)
แล้วก็พรุ่งนี้ว่าตอนค่ำ ๆ จะทำหมูฝอยเก็บไว้ค่ะ (สูตรยังไม่มี มั่วเอา อิอิ)
แล้วก็ว่าจะไปหาไข่เค็มมาติดบ้านไว้สัก 20 ฟอง ... เพราะชอบกินไข่เค็มมาก (แต่ไม่ค่อยจะได้กิน เลยถือโอกาสนี้กินซะหน่อย)
แต่ไม่รู้มันจะมีขายหรือเปล่านะคะเนี่ย

แต่ที่รู้ ๆ ตอนนี้นอกจากข้าวของนม มาม่า ข้าวสาร ขนมปัง ไข่ น้ำเปล่า ฯลฯ จะหายากแล้ว
ทุกอย่างก็ราคาสูงขึ้นมากเลยค่ะ จนแม่พิมเค้าพูดว่านี่มันถึงยุคข้าวยากหมากแพงแล้วเหรอเนี่ย

อาทิตย์นี้แม่พิมไปจันฯ ค่ะ เค้าก็เลยว่าจะซื้อน้ำดื่มจากที่โน่นติดมาสัก 20 แพค เก็บเอามาไว้ให้พิมกับคุณสามีกิน
เพราะตอนนี้น้ำดื่มที่บ้านพิม ขนาดใช้เครื่องกรองแล้ว รสก็ยังเฝื่อนฝาดเลยอ่ะค่ะพี่

ส่วนน้ำสำหรับใช้ พิมรองใส่โอ่งใหญ่ โอ่งเล็กไว้หมดแล้วค่ะ

ส่วนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขายของดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ
แต่ตอนแรกก็แอบลุ้นค่ะว่า จะรอดไหมจะได้ขายไหม (เนื่องจากลงทุนไปเกือบหมื่นแล้วอ่ะค่ะ)
เพราะว่าตอนเย็น ๆ วันเสาร์ประธานชุมชนพิมเค้าประกาศผ่านทางเครื่องขยายเสียงของหมู่บ้านค่ะว่า
น้ำ (ในขณะนั้นที่ประกาศ) อยู่ที่สะพานใหม่ กำลังไหลเข้ามาที่รามอินทรา และน้ำจะถึงชุมชนของเราตอนเช้าวันพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์)
พิมก็เลยเครียดมาก แม่ก็เลยเครียดมากเลยค่ะ เพราะถ้าน้ำท่วมชุมชนบ้านพิมเท่าข้อเท้า
นั่นก็หมายความว่าตลาดนัดซอย 87 ต้องท่วมแค่เข่าแน่นอนค่ะ ก็เลยแบบว่าทำงานไปเครียดไป เครียดจนปวดหัวเลย
เพราะถ้าน้ำท่วมมันก็ขายไม่ได้ เงินส่งบ้านก็ไม่มีอ่ะคะ >_<"
แต่สุดท้ายขนเช้าน้ำก็ไม่ได้มา และก็ขายของดีมากๆ เลยค่ะพี่


น้องรถถัง ....... ขอบคุณมากเลยน๊า ที่ช่วยดูให้พี่
ตรงที่ว่าพี่มีไพ่ที่เรียกว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวรนี่ หมายถึงลูกในท้องพี่ที่แท้งไปหรือเปล่าอ่ะ หรือว่ายังไง
พี่จะได้แก้ไขถูก แอบกังวลมากมายเลยอ่า (แต่ยังกังวลเรื่องน้ำท่วมมากกว่า ฮ่ะๆ)


น้องเสิด ....... พี่ยังไม่เคยเจออะไรแบบที่น้องเสิดว่าเลยอ่ะ
แต่เคยไปตลาดบางกะปิ แล้วเจอพ่อค้าเขียงหมูเอาอีโต้ไล่ฟันศัตรูซะจนยับปางตายเลยง่ะ
นึกแล้วยังเสียวอยู่เลย เหอๆ


ป.ล. ครูโด่งสงสัยอยู่ในเฟส ต้องไปตามมาซะแล้ววววววววววว

ว่าแต่อ่านข้อความของรถถังอันนี้แล้ว ... อยากจะบอกว่าตรงมากมายเลย

"ของพี่พิมไพ่ตอบโจทย์เป็นข่าวดี แต่ว่ามันก็ทำให้เกิดการสูญเสียเงินทองไปโดยใช่เหตุ
พี่พิมลองบนบานศาลกล่าวกับสิ่งศักดิ์ดูนะค่ะ "

เพราะเมื่อเช้าพี่เพิ่งเสียเงินค่าซ่อมรถ (ลูกปืนแตก) ไปเกือบ 2 หมื่นอ่ะรถถัง >_<" เครียดมากมายเลย ช่วงนี้เงินยิ่งหายาก ๆ อยู่ด้วย จริง ๆ ไม่ได้คิดว่าลูกปืนรถมันจะแตกหรอกนะ ได้ยินเสียงแคร่กๆ ตรงล้อรถ นึกว่ามีเศษหินอะไรเข้าไปอุดในนั้น เลยเอาไปให้ร้านเพื่อนดู ปรากฎว่าลูกปืนล้อหน้าแตก 2 ข้างเลย แถมยังต้องทำอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง สรุปแล้วเสียเบ็ดเสร็จไปเกือบ 2 หมื่นอ่ะรถถัง พี่ช่วยกันออกคนละครึ่งกันแม่ เครียดเลยง่ะ >_<"

ป.ล. หรือจะไม่ใช่เรื่องนี้ หรือจะมีเรื่องอื่นให้ต้องเสียเงินเสียทองโดยใช่เหตุอีกเนี่

ชอบพี่พิมอ่ะ ขายของดีมากๆ ตลอดๆ เลย คนค้าคนขาย ถ้าขายดีขายได้ ก็จะมีกำลังใจทำไปไม่คิดเหน็ดเหนื่อย ฮิๆๆ จริงป่าวจ๊ะ พี่พิม???

พี่ดา ตอนนี้ต้องเอาดีด้านผัดไทยอย่างเดียวเพราะเสิดกับน้องขายกันแค่สองคน เสิดผัด น้องตักขาย ลำพังแค่ผัดไทยก็ไม่ทันแล้วครับพี่ดา เลยจำใจต้องตัดน้องปอเปี๊ยะที่รัก ออกไปก่อน (ตัดออก แต่รายได้ก็ไม่ได้หายไปมากจร้า..)
พี่ดาตาดีน่ะ เห็นด้วยว่าข้าง ๆ มีอะไรวางขายอยู่ เป็นสาหร่ายชุบแป้งทอดกรอบจร้า รับมาจากแถวๆ สัตหีบ (แต่โรงงานผลิตอยู่ที่ ท่าใหม่ เมืองจันฯ) ขายดีมาก เคยลองเอามาขายช่วงเทศกาลเจ ขายหมดเร็วมาก จร้า..

อ่อ ตอนนี้คนจัดตลาดเค้าให้ที่ประจำน้องแล้วครับ ไม่ต้องเดินตาม ไม่ต้องลุ้นว่าจะมีที่ให้ลงหรือเปล่า เพื่อนแม่ค้าด้วยกันบางคนก็ถึงกับงง ว่าทำไมได้ที่ประจำเร็วจัง ไปซื้อหรือให้เงินคนจัดกี่บาท เราก็บอกว่า ไม่ได้ให้อะไรสักบาท พี่เค้าเอ่ยปากให้เองเลย โชคดีจังคับพี่ดา มีที่ขายของประจำไม่ต้องเร่ร่อนซะที

คุณรถถังครับ ดูท่าทางเป็นแม่หมอ ถ้าเปิดสำนักวันไหน บอกมา เดี๋ยวจะไปรำเบิกโรงให้ 555555555555

หวัดดี ทุกคน

วันนี้ขับรถมาทำงาน เจ้าประคุณเอ๊ย เกิดอะไรขึ้น เข้าประตูแรก เห็นรถมีมากเลย อ้อมไปเข้าประตู 2 เข้าไป

แล้ว รปภ.ก็ปล่อยให้เลี้ยว ปรากฏว่าขึ้นข้างบนไม่ได้ วนออกมาประตู 3 ชักโมโหแล้วอะไรหนักหนา พอเข้ามา

ก็เจอ น้อง รปภ. ที่คุ้นเคยสองคน เลยตะโกนถามว่า เขาจะให้จอดตรงไหน น้องเขาให้ไปอ้อมมา เจอ รปภอีกคน

ก็บังคับจะให้ลง ชั้นใต้ดิน บอกไม่ไป เพราะปกติที่จอดประจำอยู่ที่ ด้านบน น้องรปภ ที่คุ้นกับพี่ เลยยกกรวยให้

เบี่ยงขวาเบาใจแล้วว่าน่าจะได้ขึ้น อ้าวปิดอีก น้องเขาวิ่งตามมา จะมีจุดให้ขึ้น 1 จุด ปกติเป็นทางลง ให้วิ่งสวน

ขึ้นไปตอนนี้เขาไม่ให้คนที่ไม่มีบัตรขึ้นแล้ว เพราะคนเอารถมาจอดจนลูกค้าลำบาก นี้เป็นวันธรรมดานะ ถ้า

เสาร์-อาทิตย์มันก็นี้อีก จอดรถได้แล้ว ลงไปซุปเปอร์ เจอปลากระป๋องอะยัม 1 กระป๋อง 29 บาท 1 คน 6

กระป๋อง โทรถามพี่สาวเขาต้องการ 20 กระป๋อง เพราะที่บ้านมีคน ประมาณ 6-8 คน เลยต้องใช้วิธีที่ไม่ดี

วนซื้อแต่ที่บ้าน ไม่มีเลยจริง ให้แม่บ้านลงมาช่วยอีกคน ได้ของพี่สาว 18 กระป๋อง ดา 6 กระป๋อง

เพราะตอนจ่ายเงินหยิบมา 26 กป. แล้วพนักงานถามว่าเห็นป้ายหรือไม่ที่ให้คนละ 6 กป. บอกเห็น

มีความรู้สึกว่าตัวเองโดนตบหน้า โดยคำพูด เขาพูดแค่นั้นแต่สิ่งที่รู้สึกคือเข้าใจภาษาคนหรือไม่

ครั้งนี้รู้ว่าตัวเองผิด แต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ซื้อเลย มีแค่นี้จริงๆ เพราะปกติจะเป็นคนที่ทำตามกฎกติกาตลอด

ไม่เคยทำแบบนี้ เสียความรู้สึกมาก เซ็งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เมื่อคืนดูรายการตอบโจทย์ ทาง PBS เศร้าอีกแล้วตู เขาเอาแผ่นที่พื้นที่ ที่จะโดนน้ำท่วม ว่าตรงไหน

ระดับไหนตอนแรกก็ได้อยู่นะ บางนาอยู่ในแนวกั้นน้ำ มีแต่ถ้า แนวกั้นไม่อยู่ เขตบางนาของข้าพเจ้า

จะโดนน้ำท่วม 1 เมตร 1 เดือน ให้เราพิจารณาดูว่าจะอยู่ หรือย้ายออกไป ถ้าอยู่อาหาร น้ำดื่ม

พอหรือไม่ น้ำไฟต้องโดนตัด เป็นอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ถ้าจะไปควรไปประมาณตอนไหน

ก่อนหน้านี้ที่ดาคิดเองนะ น้ำท่วม ประมาณไม่เกิน 1 เมตร และไม่นานมาก ตัวเองก็เลยไม่ได้เตรียม

ของกินอะไรไว้มากมาย คิดแต่ว่าอย่างมากมีข้าวสาร แล้ว มาม่า 20 ห่อ ปลากระป๋อง 6+4 ป๋อง

ไข่ 15 ใบ ของสดในตู้เย็น พอแล้ว เจอแบบนี้ไม่มีอะไรให้ซื้อแล้ว ขนมยังไม่มีขายเลย

ยังคิดเลยว่าเกิดเหตุการจริงๆ จะกินอะไรลงเหรอ ตอนนี้ก็แทบกินไม่ลงแล้ว ช่วงนี้ยังรู้สึก

เจ็บกระเพาะบ่อยๆ พร้อมอาการแสบๆ ท้อง ความเครียดและอาการนอนน้อย ทำให้เป็นกระเพาะอีกแล้ว

นอนดึกตื่นเช้าทุกวัน โชคดีช่วงนี้ไม่มีฝน ฝนตกแทบไม่ได้นอนผวาไปหมด ค่อยดูน้ำว่ามากน้อยแค่ไหน

พ่อ แม่ พี่ น้องที่อยู่ต่างจังหวัดก็พลอยกังวลกับเราไปด้วย อนิจจังชีวิตจริงๆๆๆๆเลย

น้ำดื่ม รองน้ำใส่ถังลิตรไว้ 2 ถัง น้ำใช้มีแท็งค์น้ำ และเอาถุงใส่น้ำไว้ตามชั้นสองชั้นสามแล้ว

พิม พี่ดา ไม่แน่ใจว่าอะปทานไปไหมนะ อาบน้ำแล้วพี่มีความรู้สึกว่าคัน ยิบ พี่คิดไปเองหรือเปล่า

พิมเป็นไหม

เสิด ขอบคุณที่เผยโฉม ให้เห็นหน้าเห็นตากัน ในรูปเป็นเขื่อนรัชประภา หรือเมืองกาญ เดาเอานะ

พี่ดาตัวจริงในภาพนั้นแหละ มีภาพชัดกว่านี้ดันใส่เสื้อสีแดง ว่างๆ จะเอาไปเปลี่ยนใน Photoshop

เป็นสีอื่นๆ พอดีรูปปัจจะบันมีไม่มาก ถ่ายคนอื่นไว้เยอะ แต่ไม่มีรูปตัวเอง เสิดถ่ายรูป สาหร่ายชุปแป้งทอด

ชัดๆ ให้ดูนิด อยากเห็นชัดๆๆ ว่าแบบไหน ดีใจด้วยที่ได้ที่ขายประจำ จะได้สะดวกทั้งคนขาย คนกิน


รถถัง เสิดขอไปรำเบิกโรงให้แล้ว ช่วงนี้พี่จะให้เสิดมาซ้อมรำแก้บ่นที่ สี่แยกพระพรหมก่อน

หารายได้พิเศษด้วย

พิม เราลุ้นกันต่อไปนะ ว่าน้ำจะถึงบ้านใครก่อน เก็บของไปถึงไหนแล้ว

เมื่อเช้า พี่ดาเอาเสบียงขึ้นชั้นสอนแล้ว พวกตู้ ยังไม่ได้ยก สามีบอกให้น้ำถึงพระโขนงก่อน

ดา เขียน:
5555555 ที่เขื่อนรัชประภาครับพี่ดา (สวยมาก อยากไปอีก) ก็ไม่เห็นแตกต่างจากรูปประจำตัวที่ใช้อยู่น่ะ
จัดรูปสาหร่ายชุบแป้งทอดให้พี่ดาเลย คือแอบจิ๊กมากินที่ออฟฟิสอ่ะ 55555

(กลัวว่ายิ่งรำ น้ำยิ่งท่วมหนักน่ะซิครับ )

ดา เขียน:
พี่ดาครับ อยากจะบอกว่า น้ำมันมาเร็วมาก ๆ น่ะครับ อยากให้เตรียมตัวให้พร้อมไว้เป็นดีที่สุด เห็นข่าวชาวบ้านแต่ละคนมาโอดโอยว่าเก็บของไม่ทัน บ้าง อะไรบ้าง คืออยากจะบอกว่าทั้ง ๆ ที่เค้าก็ออกมาเตือน มาประกาศอยู่แล้ว แต่ด้วยความชะล่าใจของคนกรุง ก็เลยได้รับไปเต็มๆ เฮ้อ...