น้องดา มาม่าที่นี่มีขายร้านเอเซียห่อละประมาณ 30 บาทไทย เวลากลับจากเมืองไทยพี่หิ้วแต่ของกินจริงๆ คุรสามีชอบขนมฝอยทองมากหิ้วมาทีสองโล คุณพ่อกับคุณลูก จัดไปไม่ถึงสามวันหมดไม่เคยเสียของ ไปคราวนี้ไม่หิ้วเระจะไปเรียนทำขนมไทยเอาให้หวานขึ้นสมองกันไปข้างนึงเลย เมื่อเย็นก้ทำพิซซ่า ให้คุณผู้ชายทั้งสามคน ส่วนตัวเองกินข้าวไข่เจียว
มาม่าห่อ 30 บาท ข้ามน้ำข้ามทะเลไปซะไกล ดามีเรื่องราว มีน้องสาวเป็นญาติทางแฟนอยู่หอพัก
โรงเรียนประจำ ก็จะมีกฎระเบียบข้อห้ามมากมายแอบมาม่าไปขายที่หอพักราคาห่อละ 30 บาท
อันนี้ต้องขาย 30 บาท เพราะต้องคอยหลบอาจารย์ฝ่ายปกครอง แต่สร้างรายได้ให้กับน้องพอ
สมควร ตอนนี้ไม่ได้ขายแล้ว เพราะอาจารย์เข้มงวดมาก และกาต้มน้ำโดนอาจารย์ริบไปหลายไป
ความเหมือนในเรื่องราคา แต่แตกต่างในความอยากลำบากของการที่จะได้กิน
อันนี้เล่าเรื่องฝอยทอง ทองหยิบ หม้อแกง ดามีเพื่อนอยู่ที่ จ.เพชรบุรี แถวหาดเจ้าสำราญ
ไม่ไกลจะบ้านเพื่อนมากนัก จะมีบ้านที่ทำขนมพวกนี้ส่งตามร้านค้าที่ขายในตัวเมืองเพชร
แล้วมาติดชื่อเป็นแม่นั้นแม่นี้ เมื่อสองปีก่อนฝอยทอง 100 บาทถุงใหญ่มาก แล้วบ้านนี้เข้าไป
ซื้อหอมตลบอบอวลไปด้วยขนมหวาน แต่ถ้าไม่ได้แวะไปที่หาดเจ้า ดาจะซื้อของแม่บุญล้น
สาขาในกรุงเทพฯ จะอยู่ที่ลาดพร้าว โชคชัย 4 แต่ดาเองถ้าอยากกินดาจะซื้อที่ห้างเสรี
ชื่อร้านปอมปัน เป็นร้านที่ป้าข้างบ้านทำขนมลูกชุบ ไปส่งขาย ตอนหลังไม่ได้ส่งแล้ว
เพราะลูกสาวให้ป้าพัก พี่กลับมาดาสั่งให้ลองชิม
แต่พี่เจี๊ยบว่าไหมขนมไทยเป็นอะไรที่ทำ
ยากมากใช้ความประณีต ฝีมือ ตัวดาเองไม่เคยลองทำ ได้แต่เป็นลูกมือเขา บ้านเพื่อนที่
จ.สุพรรณบุรี พอมีงานเขาจะทำขนมไทยแยะมากๆๆๆ ตอนเย็นคุณตาคุณยาย จะมานั่งคุยกันชิมน้ำชาเสริฟ์
พร้อมขนมไทยๆๆ อย่างหม้อแกงถ้าชาวบ้านทำกินกันหรือมีงานเวลาที่ปัจจุบันนำเข้าเตาอบ
แต่ดาเห็นชาวบ้านเข้าจะถาดหม้อแกงไปวางบนสังกะสีเสร็จแล้วเอาสังกะสีอีกอันมาปิดแล้ว
ถ่านที่ติดไฟแล้วมาวางกระจายบนสังสีเพื่อให้หน้าหม้อแกงเกรียมและหอม เป็นภูมิปัญญา
ชาวบ้าน อีกอย่างเม็ดขนุน พวกเราเด็ก ๆ จะถูกป้าๆ น้าๆ ให้ทำหน้าที่ปั้นเม็ดขนุน ตอนแล้ว
ก็สนุกปั้นด้วยความสวยงาม ตอนหลังความงามหายไป อยากให้เสร็จซะที่เม็ดก็ใหญ่ขึ้น
ก็ให้ปั้นกันที่ เป็นกาละมังซักผ้า และการได้ไปทดลองตีไข่แดง สมัยก่อนไม่มีเครื่องตีไข่
ใช้มือตี พ่อเจ้าประคุณเอ๊ยปวดแขนจริง เข้าใจเลยว่าคนทำมีความพยายามและความตั้งใจแค่ไหน