หลายเดือนก่อน (ย้ำๆ หลายเดือนก่อน หุหุ) คุณสามีเรียกร้องกินหมูส้มค่ะ เค้าว่าตอนอยู่ใต้เคยได้กิน แต่ตั้งกะมาอยู่กรุงเทพฯ กะพิม 7-8 ปีเนี่ย ไม่เคยได้กินเลย เพราะงั้นเมื่อคุณสามีรีเควสมา คุณภรรยาที่แสนจะดีอย่างพิม (ฮ่ะๆ) ก็ขอจัดให้ค่า
....... หมูส้มสูตรนี้เนี่ย เป็นสูตรที่พิมได้มาจากญาติคนนึงที่อยู่จังหวัดลพบุรี (บ้านหมี่) ซึ่งญาติคนนี้ของพิมเค้าก็ได้สูตรนี้มาจากคุณตาคนนึงที่มีอาชีพทำหมูส้มขายอยู่ที่จังหวัดลพบุรี และขายมาเกือบ 40 ปีแล้วอ่ะค่ะ เพราะงั้นความอร่อย .... ไม่มีปัญหาจ้า
ว่าแต่..... หมูส้มที่พิมจะทำให้ดูในวันนี้เนี่ย เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร หลายคนที่ไม่เคยได้ยินชื่ออาหารชนิดนี้ ก็อาจจะงง ๆ ว่ามีอาหารแบบนี้อยู่ในโลกใบนี้ด้วยเหรอเนี่ย
.... จริง ๆ แล้วตอนแรกที่พิมได้ยินชื่อหมูส้มจากปากคุณสามี พิมก็งงเหมือนกันแหละค่ะ นึกในใจว่า เอ๊ยยย.....p มันมีด้วยเหรอเนี่ยเจ้าหมูส้ม หน้าตาเป็นยังไงหว่า คล้ายปลาส้มไหมน๊า (หรือว่าจะคล้ายหมูป่า ... ฮ่ะๆ) แต่ครั้นจะบอกคุณสามีไปตอนนั้นว่า เอ๊ยย ไม่รู้จักอ่ะ หมูส้มคืออะไร ก็เสียฟอร์มพิมอ่ะสิค่ะ หุหุ เพราะงั้นตอนนั้น (หลายปีผ่านมาแล้ว) เมื่อคุณสามีบอกว่าอยากกิน และอยากให้พิมทำให้กินหน่อย พิมก็เลยต้องอาศัย internet เนี่ยแหละค่ะ search หาหมูส้มซะหน่อยว่าหน้าตาเป็นยังไง แต่ตอนนั้นเนี่ย ข้อมูลเรื่องหมูส้มมันก็มีน้อยมากค่ะ (ก็มันหลายปีแล้วอ่ะเน๊าะ) เพราะงั้นเมื่อหาจากเนตแล้วยังไม่ถูกใจ พิมก็เลยไปถามจากลุง ๆ ป้า ๆ น้า ๆ ข้างบ้านแทน (บ้านนี้เค้าทำปลาส้มอร่อยมากถึงมากที่สุด) ปรากฎว่าลุงป้าเค้าบอกว่า พิมไม่รู้จักหมูส้มได้ยังไงเนี่ย เพราะว่าจังหวัดลพบุรีที่พิมไปสมัยนั้นเกือบทุกปีเนี่ย เค้ามีหมูส้มเป้นของขึ้นชื่อพอ ๆ กับปลาส้มเลยน๊า ... พิมก็อ่าว เหรอ...อ แบบว่าเพิ่งรู้อ่ะค่ะ ไปทีไรก็ซื้อแต่ปลาส้ม ๆๆๆๆๆ ไม่เคยซืือหมูส้มซะที ..... แล้วพิมก็เลยโทรไปถามญาติคนนึงที่อยู่ลพบุรี (บ้านที่พิมไปนั่นแหละ) ว่า ที่นั่นมีหมูส้มจริง ๆ ใช่ไหม แล้วเค้าทำกันยังไง ว่าแล้วญาติพิมเค้าก็บอกสูตรมาค่ะ แถมกำชับกำชาว่าสูตรนี้เนี่ย ดีมาก (ว่างั้น) เพราะเป็นสูตรที่มีคุณตาคนนึงเค้าใช้ทำขายมาเกือบ 40 ปีแล้วน่ะ เพราะงั้นรับรองได้เลยว่า สูตรนี้อร่อย ... (ฟันธง)
เพราะงั้นเมื่อเจ้าของสูตร (ที่รับช่วงต่อมาอีกที) เค้าว่าอร่อยแบบฟันธง ....... เราก็มาลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ ^^
อันดับแรกก็มาดูส่วนผสมกันก่อนนะคะ ว่ามีอะไรบ้าง .... ก็จะมี เนื้อหมูติดมันหรือไม่ติดมันก็ได้ หั่นเป็นชิ้น ๆ หนาไม่เกิน 1 ซม. 400 กรัมค่ะ แล้วก็มีกระเทียมโขลกหยาบ ๆ 50 กรัม มีข้าวสุก (ทิ้งไว้ให้เย็น) 70 กรัม และก็เกลือป่นธรรมดาอีกราว ๆ ครึ่งช้อนแกงอ่ะค่ะ
เริ่มต้นก็เอาเกลือ ข้าว กระเทียม เทรวมใส่กาละมังเดียวกัน แล้วก็เคล้า ๆ ให้เข้ากันนะคะ
แล้วก็ใส่เนื้อหมูลงไป
จากนั้นใช้มือเรานี่แหละค่ะ บีบ ๆ นวด ๆ เคล้า ๆ ขยำ ๆ ให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี (พิมนวดเคล้าประมาณ 5 นาที) .... ก็จะได้ออกมาเป็นแบบนี้นะคะ
สุดท้ายก็ตักใส่ถุงพลาสติค รีดถุงให้แนบชิดสนิทกับหมูส้ม (ไม่ให้เหลือช่องว่างที่เป็นถุงพองๆ เอาไว้) แล้วก็รัดปากถุงด้วยหนังสือหรือเชือกให้แน่น .... แล้วก็ทิ้ง (ตากแดด) ไว้สัก 2-3 วัน
ผ่านไป 3 วันก็เอามาทำอะไรกินได้ล่ะค่ะ .... อย่างในภาพนี่วันที่ 3 พิมไม่ว่าง มาว่างเอาวันที่ 4 ... ก็จะได้หมูส้มออกมาหน้าตาแบบนี้นะคะ (ทิ้งไว้เกินกำหนดได้ค่ะ แต่อย่าให้นานมากไป ไม่งั้นจะเสียก่อนนะคะ)
ลองแกะถุงออกดู ........ก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ
แหวกดูด้านในสิ ... สีสันเป็นยังไง ...... ก็ยังสีสวยอยู่ค่ะ แถมกลิ่นน่ากินเชียวอ่ะ หอม ๆ เปรี้ยวนิด ๆ ชวนน้ำลายไหล อิอิ
สำหรับหมูส้มแบบชิ้น ๆ อย่างนี้เนี่ย .... วิธีที่เราจะทำให้หมูสุก (ก่อนเอาไปกิน) ก็มีอยู่ 2 วิธีด้วยกันค่ะ ก็คือ เอาไปทอด หรือไม่ก็ (ห่อใบตอง) ย่าง ... สำหรับพิมวันนี้ขอเลือกวิธีทอดแล้วกันนะคะ เพราะง่ายและก็สะดวกดีจ้า แต่ก่อนจะเอาไปทอด เพื่อนๆ ก็อย่าลืมรูดเอาเมล็ดข้าวที่ติดเนื้อหมูออกไปซะก่อนนะคะ ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะไม่งั้นเวลาเอาไปทอดเนี่ย มันจะไหม้ติดกระทะอ่ะค่ะ (อย่างในภาพ ถ้าเป็นข้าวเม็ดใหญ่ ๆ พิมจะเอาออกหมด แต่ถ้าเป็นเม็ดหัก ๆ เศษเล็กๆ พิมก็ไม่ได้เอาออกนะคะ)
จากนั้นก็ตั้งกระทะบนเตาไฟ ใส่น้ำมันลงไปค่ะ ไม่ต้องเยอะ ไม่ต้องให้ท่วม กะเอาว่าสูงสัก 1 ซม. ก็พอ. .... พอน้ำมันร้อนก็ใส่หมูลงไปทอดค่ะ (มีกระเด็นเล็กน้อย ให้ระวังด้วย / อาจจะชุบไข่ก่อนทอด ก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ)
แล้วก็ทอดจนหมูสุกเหลืองหน้าตาแบบนี้ ... ก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน กินคู่กับถั่วลิสง + ขิง + ผักกาดสด ๆ ..... ขอบอกว่าอร่อยมากเลยค่ะ ^^ ..... ยังไงเพื่อนๆ คนไหนสนใจ ลองเอาไปทำดูกันนะคะ