ที่บ้านพิม .. ปลูกมะม่วงทวาย หรือมะม่วงสามฤดู ไว้เกือบสิบต้นค่ะ แต่ละต้นก็ใหญ่ ๆ ทั้งนั้น พอเวลามันออกดอกออกผลที ก็เลยกินกันไม่ทัน ... ต้องเอามาทำเป็นมะม่วงดอง หรือไม่ก็มะม่วงกวน แบบที่ทำในวันนี้แหละค่ะ
มะม่วงกวน ... โดยปกติเค้าจะนิยมใช้มะม่วงแก้วค่ะ เพราะว่ามะม่วงแก้วเนี่ย พอทำออกมาสำเร็จเสร็จเรียบร้อยเป็นมะม่วงกวนพร้อมกินแล้ว เนื้อมะม่วงกวนจะดูสุกใส มีสีเหลืองสวยมาก ๆ ต่างจากมะม่วงพันธุ์อื่น (บางพันธุ์พอทำเสร็จแล้ว จะมีสีดำ ๆ คล้ำ ๆ ดูด้านๆ น่ะค่ะ)
แต่ว่าบ้านพิมไม่มีมะม่วงแก้วค่ะ (จริง ๆ เคยมี แต่มันโค่นไปแล้ว ตอนพายุมาเมื่อหลายปีก่อน) .. มีแต่มะม่วงสามฤดูนี่แหละ ซึ่งจะว่าไปก็พอใช้แทนกันได้อยู่ ... เพราะทำเสร็จแล้ว ออกมา สีจะเหลืองสวย น้อยกว่ามะม่วงแก้วนิดนึงเองค่ะ
:: ส่วนผสม ::
1. เนื้อมะม่วงสุก
2. น้ำตาลทราย
3. น้ำมะนาว (นิดหน่อย)
4. เกลือป่น (นิดหน่อย)
หมายเหตุ - สัดส่วนไม่สามารถระบุได้แน่นอน ขึ้นกับรสชาติของมะม่วงที่นำมาใช้
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเลย ก็มาดูที่มะม่วงกันนะคะ ...... วันนี้พิมใช้มะม่วงทั้งแบบสุกมาก (หวานมากๆ) และสุกน้อยปนกัน (หวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย) แต่ก็เป็นมะม่วงสามฤดูอย่างเดียวทั้งหมด
นี่ค่ะ ...... หน้าตามะม่วงสามฤดูที่บ้านพิม อันนี้เก็บจากที่หล่น ๆ อยู่โคนต้นนะคะ (บางลูกมันสอยไม่ถึงจริง ๆ เพราะอยู่สูงมากๆ เลยต้องรอหล่นอย่างเดียว)
ป.ล. การใช้มะม่วงที่หวานมาก และมะม่วงที่มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ปนกัน จะทำให้เราไม่ต้องปรุงแต่งรสชาติของมะม่วงกวนเพิ่มมากมาย รสมะม่วงกวนจะกลมกล่อมโดยธรรมชาติของมันเองน่ะค่ะ
เอามะม่วงไปล้างน้ำสักครั้งนึงก่อน เพื่อให้สิ่งสกปรกที่ติดอยู่ตามเปลือกหมดไป ... จากนั้นก็นำมาปอกเปลือก ล้างอีกรอบ แล้วฝานเอาแต่เนื้อไว้เป็นชิ้นใหญ่ ๆ ... (วันนี้พิมได้เนื้อมะม่วงประมาณ 6 โล)
แล้วก็นำไปปั่นหรือบด .......... ให้ละเอียด
ก็บดทั้งหมด จนละเอียดแบบนี้นะคะ ...... ก็ใช้ได้ (ยิ่งบดละเอียด เราจะยิ่งใช้เวลาในการกวนน้อยลง)
จากนั้นก็ก็นำมาเทใส่ภาชนะที่เราจะใช้กวนค่ะ .... จะใช้เป็นกระทะหรือหม้อก็ได้ แต่ขอบอกไว้นิดนึงว่าภาชนะที่ใช้กวนมะม่วง มีผลต่อสีของมะม่วงกวนด้วยนะคะ ... หากเป็นไปได้ ใช้พวกกระทะทองเหลือง จะดีที่สุดค่ะ ...... แล้วก็นำไฟตั้งไฟ (ใช้ไฟกลาง)
เมื่อนำเอาเนื้อมะม่วงไปตั้งไฟในตอนแรก คอยกวนเป็นระยะ ๆ ก็พอค่ะ ยังไม่ต้องกวนตลอด ... จนกระทั่งเนื้อมะม่วงเริ่มเดือดปุดๆ ... ช่วงนี้ก็ให้เราเริ่มกวนไปรอบ ๆ กระทะบ่อยขึ้น (ระวังกระเด็น)
กวนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเนื้อมะม่วงลดเหลือประมาณ 2/3 ก็ทำการชิมดูนะคะ ว่าหวานเปรี้ยวแค่ไหน ... ซึ่งพิมว่ามะม่วงกวนที่อร่อย จะต้องหวาน และอมเปรี้ยวเล็กน้อยค่ะ
โดยปกติมะม่วงที่เค้านิยมนำมากวนกัน มักจะมีรสเปรี้ยว เวลานกวนจึงต้องเติมน้ำตาลเพิ่มเพื่อความหวาน แต่ว่ามะม่วงกวนของพิมในวันนี้ ...... หวานนำมาก ๆ ค่ะ -*- หวานจนหาเปรี้ยวไม่ได้แม้แต่เล็กน้อย .... เลยทำให้ไม่ต้องเติมน้ำตาล แต่จะต้องเพิ่มความเปรี้ยวด้วยการเติมน้ำมะนาวลงไปแทนค่ะ
แต่การเติมน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มความเปรี้ยว ก็ใช่ว่าจะเติมได้เยอะตามใจเหมือนเติมน้ำตาลนะคะ เพราะถ้าเติมน้ำมะนาวมากเกินไป จะทำให้กลิ่นมะนาวโดดเด่นออกมาจนกลบกลิ่นมะม่วงน่ะค่ะ ... ส่วนจะเติมได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณมะม่วงได้ ...... ยังไงถ้าเพื่อน ๆ เจอปัญหาแบบพิม ก็ลองเติมไป ชิมไปนะคะ โดยการเติมทีละราว ๆ 1 ชต. ประมาณนั้นน่ะค่ะ
แล้วเมื่อ...เราเติมไป ชิมไป จนได้รสชาติมะม่วงกวนที่ถูกใจแล้ว ก็ให้เราทำการกวนมะม่วงต่อไปค่ะ .... กวนไปจนเนื้อมะม่วงในกระทะลดลงเหลือสักครึ่งนึง และเหนียวพอประมาณ (ประมาณนมข้น) ... ก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ
จากนั้นก็พักระยะให้เนื้อมะม่วงเย็นลงสักแป๊บ ก็นำมาละเลงลงพิมพ์ หรือเอาง่าย ๆ ก็ละเลงใส่ถาด โดยมีพลาสติครองก่อน ... แบบนี่อ่ะค่ะ ... (เอาพลาสติครอง จะทำให้แกะง่าย และไม่ต้องล้างถาด .... อิอิ)
แล้วก็นำไปตากแดดจัด ๆ ประมาณ 2 วันค่ะ .. แต่ถ้าแดดไม่จัด ก็ราว ๆ 3 วัน .......... พอเนื้อมะม่วงแห้งเหนียวเป็นชิ้นเดียวกัน และเหนียวหนึบ ๆ ...... ก็เป็นอันว่าแกะมากินแบบนี้ได้เลยค่ะ ^___^
จริง ๆ .... ตอนแรกพิมอยากจะถ่ายรูปตอนที่แกะมะม่วงกวนเป็นแผ่น ๆ ออกมาจากพลาสติคแล้ว ... มาให้ดูด้วยนะคะ แต่ว่า - -" ....... ตอนแกะมะม่วงน่ะ ทั้งน้อง ทั้งเพื่อน ทั้งหลาน 6-7 คน ..... มามะรุมมะตุ้มอยู่ที่ถาด (ทำแค่ 5 ถาด) ... ปรากฎว่าพอแกะถาดสุดท้าย หันมาอีกที .... มะม่วงที่แกะจากถาดอื่นไว้แล้ว ก็หมดพอดีเลยค่ะ T____T ...... ไว้คราวหน้าถ้าทำอีก จะถ่ายรูปตอนเป็นแผ่นสวย ๆ มาแก้ตัวใหม่ .... ตอนนี้ก็เอาภาพตอนกำลังแกะแบบนี้ไปก่อนนะคะ - -"
:: เพิ่มเติม ::
- บางคนจะนิยมเอามะม่วงที่ปอกเปลือกแล้วทั้งลูก ไปแช่น้ำสารส้มสักแป๊บ เพื่อช่วยให้สีของมะม่วงกวน สุก สวย และมีความเหนียวแบบกรึบ ๆ มากขึ้น