วันนี้พิมขอเอาใจคนที่ชอบกินของทอดนะคะ กับเซตเมนูของทอด 4 อย่าง ที่มาพร้อมแจ่วปลาร้าสามรส และวิธีนึ่งข้าวเหนียวให้นุ่มข้ามคืนค่ะ
สูตรนี้พิมบอกเลยว่า รสชาติดี อาจจะไม่ได้อร่อยที่สุด แต่ว่าคนที่ชิม 5-6 คน บอกว่าอร่อยแบบกินได้เรื่อย ๆ กินได้เพลิน ๆ นะคะ ^_^ เพื่อน ๆ คนไหนจะเอาไปทำกิน พิมเชื่อว่าไม่ผิดหวัง ส่วนใครจะเอาไปทำขาย จะขายแยกเดี่ยว ๆ หรือขายแบบจัดเซตอย่างในภาพ พิมว่าก็โอเคเลยค่ะ
ป่ะ .... ไปดูสูตรและวิธีทำกันเลยนะคะ ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "หมูทอดชาววัง" ::
หมูสันคอหั่นเส้น 300 กรัม
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
แป้งข้าวโพด 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับหมัก 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสหอยนางรม 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอดหมู
** ทอดเสร็จแล้วจะได้หมูน้ำหนักประมาณ 220-230 กรัม บวกลบนิดหน่อย
** 1/2 เท่ากับ ครึ่ง เพราะนั้นถ้าสูตรบอก 1/2 ถ้วย จะหมายถึงครึ่งถ้วย ถ้าสูตรบอก 1/2 ช้อนชา จะหมายถึงครึ่งช้อนชานะคะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "สามชั้นทอดกระเทียมพริกไทย" ::
หมูสามชั้น (ไม่เอาหนังหมู) 300 กรัม
ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรสฝาเขียว 1/2 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทรป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
พริกไทยขาวป่น 1/2 ช้อนชา
กระเทียมไทยตำหรือปั่นให้แหลกแบบหยาบๆ 1/4 ถ้วย
น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอด
** สำหรับสามชั้น พิมหั่นชิ้นกว้างประมาณ 2 - 2.5 ซม. และหนาประมาณ 1.5 - 2 ซม. นะคะ
** ทอดเสร็จแล้วจะได้หมูน้ำหนักประมาณ 220-230 กรัม บวกลบนิดหน่อย
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "ปีกกลางทอดน้ำปลา" ::
ปีกกลางไก่ ผ่าครึ่ง 300 กรัม
น้ำปลา 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/4 ช้อนชา
แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอด
** ทอดเสร็จแล้วจะได้หมูน้ำหนักประมาณ 200 กรัม บวกลบนิดหน่อย
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "ไก่ทอดพริกแห้ง" ::
อกไก่ (ไม่เอาหนัง) หั่นชิ้นพอคำ ประมาณ 2 x 3 ซม. 300 กรัม
น้ำปลา 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย (ส่วนที่หมัก) 1/4 ช้อนชา
พริกไทยขาวคั่วป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำมันพืช 1/2 ช้อนโต๊ะ
แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสำหรับทอด
พริกแห้งป่นหยาบ (ไม่ต้องคั่ว) 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย (ส่วนที่ผัด) 1/8 ช้อนชา
** สำหรับพริก ถ้าชอบเผ็ดใช้พริกแห้งเม็ดเล็ก พวกพริกจินดาแห้ง พริกยอดสนแห้ง ถ้าไม่ชอบเผ็ดใช้พริกแห้งเม็ดใหญ่
** สำหรับน้ำมันพืช พิมลืมหยิบมาถ่ายรูปด้วยนะคะ
** ทอดเสร็จแล้วจะได้หมูน้ำหนักประมาณ 220-230 กรัม บวกลบนิดหน่อย
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "แจ่วปลาร้าสามรส" ::
พริกจินดา 30 กรัม
กระเทียมไทย เลือกแบบที่เปลือกบางๆ 30 กรัม
หอมแดงไทย ปอกเปลือก 60 กรัม
มะเขือเทศสีดา 70 กรัม
น้ำปลาร้าต้มสุก 1/4 ถ้วย
น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ (หรืออาจจะไม่ต้องเติม ถ้าน้ำปลาร้าเค็มมากพอแล้ว)
น้ำมะขามเปียกข้น ๆ 2 ถึง 4 ช้อนโต๊ะ (สามารถเพิ่มลดได้ตามความเปรี้ยวที่ชอบ)
น้ำเปล่าต้มให้เดือด พักให้เย็น 2-3 ช้อนโต๊ะ (ใส่ตามความข้นของแจ่วที่ชอบ)
*** น้ำปลาร้าต้มสุก พิมใช้แบบสำเร็จรูป
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเราจะมาหมักเนื้สัตว์แต่ละอย่างกันก่อนนะคะ ซึ่งการหมักเนื้อสัตว์แต่ละอย่าง บอกเลยว่าไม่มีอะไรยุ่งยาก ใคร ๆ ก็ทำได้แน่นอนค่ะ ^_^
เริ่มที่ "หมูทอดชาววัง" ... ให้เราหยิบชามใบโตมาใบนึง ใส่หมู น้ำตาล แป้ง ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และน้ำมันพืชตามสูตรที่พิมบอกไว้ด้านบนลงไป จากนั้นคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วหมักไว้สัก 1 ชม. นะคะ
*** ใครไม่ชอบสันคอ จะใช้หมูส่วนสะโพกแทนก็ได้ค่ะ แต่จากที่พิมลองทำลองเทสต์มาหลายรอบ พิมว่าสันคอนี่แหละ อร่อยสุดแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับความชอบของแต่ละคนด้วยนะคะ ^_^
ต่อมา "สามชั้นทอดกระเทียม" ... ก็ให้เราทำเหมือนกับด้านบนค่ะ คือ หยิบชามใบที่สองออกมา ใส่สามชั้นหั่นชิ้นลงไป (ย้ำ ๆ ไม่เอาหนังนะคะ) ตามด้วยกระเทียมโขลกหยาบ พริกไทยป่น เกลือ น้ำตาล ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และน้ำเปล่านิดหน่อย (เพื่อไม่ให้แห้งเกินไป) คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วหมักไว้อย่างน้อย 1 ชม. เหมือนกันค่ะ
ต่อมา "ปีกกลางทอดน้ำปลา" .. พิมใช้ปีกกลางแบบที่ผ่าครึ่งแล้วนะคะ เพื่อน ๆ จะซื้อแบบเป็นปีกมาผ่าเอง หรือว่าจะซื้อแบบผ่าแล้วตามตลาดสด / CP Shop / Macko ก็มีขายอยู่ค่ะ
ให้เราหยิบชามมาใบที่สามออกมา ใส่ปีกไก่ลงไป ตามด้วยน้ำเปลา น้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วหมักไว้ประมาณ 1 ชม. เหมือนกันนะคะ
สุดท้าย "ไก่ทอดพริกแห้ง" พิมใช้เป็นส่วนอกไก่หั่นชิ้นไม่เอาหนัง แต่ถ้าใครจะเอาหนัง หรือจะใช้เป็นเนื้อส่วนสะโพกก็ได้ ตามที่ชอบเลยค่ะ
ให้เอาอกไกใส่ลงในชามใบที่สี่ ตามด้วยน้ำปลา พริกไทย น้ำตาล น้ำมันพืช และก็น้ำเปล่านิดหน่อย (เพื่อไม่ให้ส่วนผสมแห้งเกินไป) คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วก็หมักไว้ประมาณ 1 ชม. นะคะ
ทั้ง 4 อย่างที่พิมหมักไว้ รวม ๆ แล้วก็จะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ หมักประมาณ 1 ชม. ก็ไม่ต้องเอาเข้าตู้เย็น แต่ถ้าหมักนานกว่านั้น เช่น 2-3 ชม. หรือข้ามคืน ต้องเข้าตู้เย็นนะคะ ไม่งั้นหมูหมักไก่หมักของเรามีกลิ่นพิเศษแน่นอน .... อ้อ ๆ เกือบลืม เนื้อสัตว์ทุกอย่างต้องล้างและพักใส่ตะกร้าให้สะเด็ดน้ำก่อนเอามาหมักด้วยค่ะ
ระหว่างที่หมักไก่ เราก็จะมาทำตัวแจ่วปลาร้าสามรสกันนะคะ
เริ่มจากการตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟกลาง ใส่หอม กระเทียม พริกจินดา มะเขือเทศที่เราเตรียมไว้ ลงไปคั่วให้สุกค่ะ สำหรับมะเขือเทศ .. ก่อนใส่ลงไปในกระทะให้เราผ่าหรือเจาะมะเขือเทศสักหน่อย ไม่งั้นตอนที่เราคั่ว ความร้อนสะสมในมะเขือเทศ อาจจะทำให้มะเขือเทศระเบิดได้นะคะ
** สำหรับหอมแดง ปอกเปลือกล้างน้ำให้สะอาด แล้วก็หั่นแต่ละหัวให้เป็นชิ้นเล็กลงหน่อย ส่วนกระเทียม ถ้าเปลือกไม่แข็งมาก ก็ใส่ไปทั้งเปลือกได้เลย แต่ถ้าเป็นกระเทียมเปลือกแข็ง ให้ปอกเปลือกแข็งออกก่อนค่ะ ส่วนมะเขือเทศกับพริกแค่ดึงก้านทิ้ง ล้างให้สะอาด แล้วเอาผ้าหรือกระดาษอนเกประสงค์ซับผิวให้แห้งก็พอนะคะ
เมื่อคั่วเครื่องทุกอย่างสุกดีแล้ว ก็นำมาตำให้แหลกค่ะ จะแหลกมากแหลกน้อยก็ตามชอบอีกนั่นแหละ หรือถ้าใครชอบแจ่วที่เนื้อละเอียด จะเอาไปใส่เครื่องปั่นเลยก็ได้นะคะ ^_^
พอตำเสร็จก็ตักใส่ชาม ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำมะขามเปียก น้ำปลา แล้วก็เติมน้ำต้มสุกไปหน่อยนึง ให้ได้ความเค็ม เปรี้ยว เผ็ด และความข้นที่ชอบค่ะ สำหรับแจ่วสูตรนี้เนี่ยพิมตั้งใจทำให้ออกมาเป็นสามรสนะคะ คือ เค็มเผ็ดนำ แต่ไม่ได้โดดมาก เปรี้ยวตามพอนัว ๆ และก็มีความอูมามิ หวานเล็กน้อยจากมะเขือเทศ ใครที่ชิมแล้วไม่ชอบ อยากจะปรับเพิ่มลดรสไหน ก็เอาตามที่ชอบได้เลยค่ะ ^_^
สำหรับแจ่วสูตรนี้ ถ้าทำแล้วแบ่งใส่กระปุกเล็กแบบในภาพ (ที่อยู่ในกล่อง) จะได้ 4 กระปุกนะคะ แต่ถ้าใครทำเก็บไว้กินเอง ก็ตักใส่กล่อง เก็บแช่ตู้เย็นไว้ได้ 1-2 อาทิตย์เลยค่ะ
*** รสเปรี้ยวหลักของแจ่วอันนี้มาจากมะเขือเทศนะคะ แล้วก็ตามด้วยเปรี้ยวจากน้ำมะขามเปียก เพราะนั้นแล้วถ้าใครไม่ชอบเปรี้ยวก็ลดน้ำมะขามเปียกลง และใครที่ชอบเค็มนำกว่านี้ ก็เพิ่มน้ำปลาร้า น้ำปลาได้ค่ะ
เมื่อทำแจ่วเสร็จแล้ว เราก็จะมาทอดหมูกันต่อเลยนะคะ
ก่อนจะไปทอดหมู ระหว่างที่เรารอน้ำมันในกระทะร้อน ก็ให้เราผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเปล่าตามสัดส่วนที่พิมให้ไว้ในสูตรด้านบน แล้วคนให้เข้ากันค่ะ จากนั้นเอาไปเทใส่ลงในชามไก่หมักหมูหมักแต่ละชาม แล้วคนด้วยทัพพีให้พอเข้ากันนะคะ
จากนั้นเราก็เริ่มทอดหมูทอดไก่ทีละอย่างได้เลยค่ะ ใครจะเริ่มทอดอะไรก่อนก็ได้ เอาที่สะดวก ส่วนพิม...พิมเริ่มทอดปีกไก่ก่อน ตามด้วยสามชั้น ไก่ทอดพริกแห้ง และก็ไปจบท้ายที่หมูทอดชาววังนะคะ
สำหรับวิธีการทอดก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก ให้เราตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟกลาง แล้วใส่น้ำมันลงไปให้มีความสูงอย่างน้อย 2 นิ้วค่ะ พอน้ำมันร้อนก็ใส่หมูใส่ไก่ลงไปทอด แล้วก็หมั่นคนเป็นระยะ ๆ พอหมูไก่เหลืองสวยดีแล้ว ก็ตักขึ้นวางพักบนตะแกรง เพื่อให้สะเด็ดน้ำมันนะคะ
การทอดปีกไก่และสามชั้น พิมจะใช้ไฟกลางค่อนไปทางอ่อนแต่ไม่อ่อนมากในตอนแรก (ประมาณไฟสัก 35-40%) แล้วค่อยเร่งไฟแรงในตอนท้ายเพื่อไล่น้ำมัน และทำให้ของทอดมีสีเหลืองสวยค่ะ ส่วนการทอดอกไก่ อันนี้พิมใช้ไฟกลางตลอด เนื่องจากว่าอกไก่เป็นเนื้อสัตว์ที่สุกง่าย และถ้าใช้ไฟอ่อน ทอดนาน ๆ อาจจะทำให้เนื้อไก่แห้งเกินนะคะ ^_^
สำหรับปีกไก่ทอดน้ำปลา และสามชั้นทอดกระเทียม เมื่อทอดจนเหลือง ก็ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน เป็นอันว่าใช้ได้นะคะ ... กินได้เลย แต่ส่วนของไก่ทอดพริกแห้ง และหมูทอดชาววัง หลังจากทอดเสร็จแล้ว จะมีขั้นตอนต่ออีกนิดหน่อยค่ะ
ส่วนของไก่ทอดพริกแห้ง เมื่อทอดเสร็จและพักไก่จนสะเด็ดน้ำมันแล้ว ให้เราตั้งกระทะเปล่าบนเตา ตักน้ำมันที่ทอดไก่ใส่ลงไปสัก 1-2 ช้อน จากนั้นใส่กระเทียมลงไปผัดให้เหลืองหอม ตามด้วยพริกป่น ผัดพอเข้ากัน ก็ใส่อกไก่ทอดลงไป ตามด้วยน้ำตาล ผัดให้เข้ากันอีกที เป็นอันใช้ได้นะคะ
*** น้ำตาลที่ใส่ตอนผัด ไม่จำเป็น แค่จะทำให้สีสวยขึ้น ถ้าใครไม่ใส่ก็ได้ค่ะ
ส่วนหมูทอดชาววัง ตอนทอดให้ใช้ไฟกลาง และทอดหมูแค่พอสุก + หมูเปลี่ยนสี อย่าทอดนาน จะทำให้หมูแข็งนะคะ พอทอดเสร็จให้ตักหมูใส่ชามเอาไว้ จากนั้นเทน้ำมันในกระทะที่ทอดออกให้หมด (หรือจะใช้กระทะใบอื่นก็ได้) ใส่หมูเมื่อกี้ลงไป ตามด้วยซอสหอย เปิดไฟกลาง ผัดทุกสิ่งอย่างให้เข้ากัน พอซอสเคลือบหมูทุกชิ้นทั่ว ๆ กันแล้ว ก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
แล้วเราก็จะได้หมูทอด ไก่ทอด 4 แบบ พร้อมกับแจ่วปลาร้า ออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างค่ะ ^_^ ใครที่อยากลองเอาไปทำกิน หรือถ้าถูกใจแล้ว จะเอาไปทำขาย พิมก็ยินดีนะคะ ติดขัดตรงไหนก็มาถามกันได้ค่ะ
สำหรับใครที่จะเอาไปทำขาย นอกจากจะทอดขายเป็นขีดแล้ว เพื่อน ๆ อาจจะลองจัดเป็นเซตแบบนี้ มีข้าวเหนียว มีแจ่วปลาร้า มีหมูทอดไก่ทอด 4 แบบตามสูตรด้านบน และผักสดอีกสักอย่างสองอย่าง พิมว่าก็ดีนะคะ เป็นทางเลือกให้ลูกค้าได้
ส่วนใครที่อยากได้สูตรข้าวเหนียวนุ่ม ๆ หุงแล้วทิ้งไว้ข้ามคืนก็ยังนุ่ม สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิ้งค์นี้เลย >> สูตรข้าวเหนียวนึ่ง นุ่มข้ามคืน << แล้วพบกันใหม่กับเมนูถัดไป สวัสดีค่ะ ^_^