วันนี้พิมจะมาชวนทุกคนทำเมนูอร่อยๆ กันค่ะ รับรองเลยว่าหลายคนต้องถูกใจกับเมนูนี้แน่นอน เพราะนอกจากจะทำไม่ยาก ขั้นตอนไม่เยอะแล้ว ที่สำคัญอร่อยมากกกก กับ “เมี่ยงปลานิลนึ่ง และน้ำจิ้มถั่วตัด” นะคะ
งานนี้ไม่พูดเยอะ เรามาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่ะ ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- ปลานิล เบทาโกร 1 ตัว
- เกลือป่นสำหรับทาตัวปลา (ครั้งที่ 1) 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่นสำหรับทาตัวปลา (ครั้งที่ 2 ) 1 ช้อนชา
- ตะไคร้ทุบพอแตก หั่นท่อนสั้น 2 ต้น
- ใบมะกรูดแก่ 3-4 ใบ
- ถั่วตัด 50 กรัม
- รากผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมไทยแกะเปลือก 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสวนเด็ดก้าน 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำต้มสุก 1 ช้อนโต๊ะ
- ขนมจีนตามชอบ
- ผักกาดหอม ผักสลัด โหระพา สะระแหน่ ผักชีฝรั่ง ผักชีไทย ตามชอบ
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นเรามาทำตัวน้ำจิ้มกันก่อน ... ก็ให้เราหยิบครกออกมาค่ะ (ถ้าใครไม่มีครก ก็ใช้เครื่องปั่นได้น๊า) ใส่ถั่วตัดที่เตรียมไว้ลงไป ตำให้แหลก แล้วตักใส่ถ้วยรอไว้ก่อนนะคะ
ต่อมาใส่รากผักชี กระเทียม และพริกขี้หนูสวนลงไปตำในครกใบเดิมค่ะ สามอย่างนี้ตำให้แหลกแบบหยาบ ๆ ก็พอนะคะ
** กระเทียมที่ใช้ควรเป็นกระเทียมไทย เพราะมีกลิ่นที่หอมและรสที่เผ็ดร้อนมากกว่ากระเทียมแบบอื่น ทำให้เข้ากันได้ดีกับเมนูนี้ค่ะ
** พริกที่ใช้ควรเป็นพริกขี้หนูสวน เพราะจะมีความเผ็ดร้อน และหอมกว่าพริกชนิดอื่นนะคะ
จากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำเปล่า และถั่วตัดลงไป คนให้ทุกอย่างเข้ากัน ได้เป็นน้ำจิ้มถั่วตัดที่ออกรสเปรี้ยวหวาน เผ็ด เค็มตามค่ะ .. แต่ถ้าใครไม่ชอบรสชาติแบบนี้ จะปรุงมะนาว น้ำตาล น้ำปลาเพิ่ม ก็เอาตามที่ชอบได้เลยนะคะ
มาดูที่ปลานิลของเรากันบ้าง … การเลือกปลานิลมาทำเมนูนี้เป็นอะไรที่สำคัญมากค่ะ เพราะถ้าเราซื้อปลาสุ่มสี่สุ่มห้า ได้ปลาที่มีกลิ่นโคลน หรือมีกลิ่นคาวมาก ๆ ต่อให้น้ำจิ้มและเครื่องเคียงอื่น ๆ ของเราจะอร่อยแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์นะคะ
พิมก็เลยเลือกใช้เป็นปลานิลของเบทาโกรค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นปลานิลที่เลี้ยงในแหล่งน้ำธรรมชาติ #ไม่ได้เลี้ยงในบ่อดิน แล้ว ทางเบทาโกรเค้าก็ยังเลี้ยงปลาด้วยอาหารปลาคุณภาพดี ที่คิดค้นด้วยนักโภชนาการทางด้านอาหารสัตว์โดยเฉพาะด้วยนะคะ นอกนั้นเค้าก็ยังควบคุมคุณภาพการเลี้ยงและแปรรูปด้วยผู้เชี่ยวชาญ ฟาร์มปลาก็ได้รับมาตรฐาน GAP จากกรมประมง ก็เลยทำให้ได้ปลานิลที่สด สะอาด เนื้อแน่นนนเว่อร์ และปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะ .. ค่ะ
ที่สำคัญ คือ ปลานิลของเบทาโกรเป็นปลาที่ขอดเกล็ด ควักไส้มาเรียบร้อยแล้ว เพราะงั้นจึงสะดวกพร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเอาไปทำเมนูต้ม ผัด แกง ทอด ก็อร่อยได้ทุกเมนูเลยค่ะ
เพื่อน ๆ คนไหนสนใจ ก็ลองไปดูได้ที่ Betagro Shop นะคะ
เมื่อได้ปลานิลมาแล้ว ก็ให้เราเอากรรไกรหรือมีดตัดส่วนครีบ หางของปลาทิ้งไปเลยค่ะ จากนั้นใช้มีดบั้งปลาข้างละ 3 รอย #เพื่อให้สุกง่ายและตักกินได้ง่าย แล้วใช้เกลือป่นสัก 1 ช้อนโต๊ะ ทาถู ๆ ให้ทั่วตัวปลา ก่อนจะนำปลาไปล้างให้สะอาด และพักให้สะเด็ดน้ำนะคะ
พอปลาสะเด็ดน้ำดีแล้ว ก็ให้เราเอาเกลือป่นอีกสัก 1 ช้อนชา มาทาให้ทั่วตัวปลาทั้ง 2 ด้านค่ะ แล้วเอาตะไคร้กับใบมะกรูดที่เตรียมไว้ ยัดใส่ไปทางปากปลาและตรงท้องปลา เพื่อที่เวลาเราเอาไปนึ่ง เนื้อปลาจะได้มีกลิ่นหอมของสมุนไพรนะคะ
จากนั้นนำปลาวางลงในซึ้งที่รองด้วยต้นตะไคร้ทุบพอแตก หรือจะใช้เป็นใบโหระพาทั้งก้านก็ได้ #เพื่อไม่ให้หนังปลาติดก้นซึ้ง แล้วนึ่งประมาณ 12-15 นาที จนปลาสุกดี ก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
ถ้ายังไม่กินทันที ก็ปิดฝาซึ้งเอาไว้ก่อน เพื่อไม่ให้หนังปลาแห้ง และปลาหายร้อนนะคะ ^_^
พอถึงเวลากิน เราก็จัดปลาใส่ลงในจาน แล้วจัดเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มถั่วตัดที่เราทำไว้ พร้อมขนมจีน ลูกโดด และผักสดที่ชอบค่ะ
แล้วเราก็จะได้ “เมี่ยงปลานิลนึ่ง” อร่อย ๆ พร้อมกินออกมาหน้าตาอย่างนี้นะคะ ^_^
เมนูนี้นอกจากจะทำง่าย กินง่าย อร่อย แล้วก็ใช้เวลาในการทำไม่นานแล้ว ยังดีต่อสุขภาพมาก ๆ อีกด้วยค่ะ เพราะโปรตีนจากเนื้อปลาเป็นโปรตีนที่ย่อยง่ายที่สุด แถมยังได้วิตามินและเกลือแร่มากมายจากผักสด ๆ อีกด้วยนะคะ
ยังไงก็ลองไปทำกันดูนะคะ ติดขัดตรงไหนก็มาถามพิมได้ แล้วพิมจะมาตอบให้เรื่อย ๆ ค่ะ ^_^ ขอบคุณทุกการติดตาม แล้วเจอกันใหม่ในเมนูถัดไปนะคะ สวัสดีค่ะ ^_^