header



http://www.pim.in.th/images/all-one-dish-food/suki/suki-008.JPG

อากาศกรุงเทพฯ เริ่มเย็นลงบ้างแล้ว (เพิ่งสัมผัสได้เมื่อคืน)  จนทำให้เมื่อคืนนี้พิมต้องนอนห่มผ้า ........วันนี้พิมก็เลยขอชวนเพื่อนๆ มาทำอะไรร้อนๆ กินกัน เพื่อเป็นการต้อนรับลมหนาวที่กำลังจะมาเยือนนะคะ  (ภาวนาขอให้มาเยือนนาน ๆ ด้วยเต๊อะะะะะะะ)

พอพูดถึงสุกี้ ... พิมก็มีเรื่องอยากจะเม้าท์ให้เพื่อน ๆ ฟังอ่ะค่ะว่าสมัยตอนพิมเรียนจบ ม.3 ใหม่ ๆ ระหว่างรอต่อ ปวช. ช่วงนั้นฐานะทางบ้านพิมก็ลำบากนิดนึงค่ะ  พิมเลยต้องหางานพิเศษทำ   ซึ่งตอนแรกพิมก็ไม่รู้จะไปทำงานอะไรดีค่ะ จนกระทั่งมีเพื่อนผู้ชายคนนึงชื่อ ฐิติ เป็นเพื่อนสมัยเรียน ม.3  อยู่ดี ๆ เค้าก็มาถามว่าอยากทำงานพิเศษตอนปิดเทอมไหมที่ MK สาขาสุขุมวิท 39 เค้าเปิดรับสมัคร ... พิมก็อืมๆ  ไปก็ไปค่ะ ทั้งที่ตอนนั้นอายุเพิ่ง 15 หมาดๆ และยังไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานพิเศษที่ไหนมาก่อน แถมไม่เคยรู้ด้วยว่าสุขุมวิท 39 เนี่ยมันอยู่ตรงไหน  (สมัยนั้นบ้านพิมอยู่แถวเซ็นทรัลพระราม 9)

พอถึงวันนัด (อีกสองวันถัดมา)  ก็นัดเจอเพื่อนที่หน้าโรงเรียนค่ะ  แล้วเพื่อนก็พาขึ้นรถเมล์สาย 98 ไปซอยสุขุมวิท 39  และจากปากซอยก็ต้องเดินเข้าไปอีกประมาณนึง ..... แต่พอไปถึงปรากฎว่าเค้ารับแต่ผู้หญิงค่ะ ผู้ชายไม่รับ เพื่อนพิมมันก็มองหน้าพิมประมาณว่าแล้วจะเอายังไงดี  พิมในตอนนั้นก็อึนๆ มึน ๆ เหมือนกันค่ะว่าแล้วเราจะเอายังไงดี สรุปหลังจากคุยกันเพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไรอ่ะ  เดี๋ยวเค้าไปสมัครทำงานที่อื่นก็ได้ ส่วนพิมน่ะทำงานที่นี่ไปเห๊อะ พิมก็อืมๆๆ ยังไงก็ได้อ่ะ   สรุปเพื่อนก็เลยนั่งรถไปสมัครงานที่อื่นต่อ ส่วนพิมก็ได้ทำงานพิเศษที่ MK สาขานั้น เริ่มงานก็วันรุ่งขึ้นเลยค่ะ

โดยตารางการทำงานของพิมในแต่ละวันก็คือ พิมจะต้องออกจากบ้านประมาณ 9 โมงครึ่งค่ะ เพื่อให้มาถึง MK สัก 10 โมงกว่าๆ  และเริ่มทำงานตอน  11 โมง งานที่พิมจะต้องทำก็คือ  รับออเดอร์ เสริฟ เก็บโต๊ะ ล้างแก้ว.......ประมาณนี้ค่ะ แล้วพอบ่าย 2 ก็พักกินข้าว  ซึ่งทาง MK เค้าก็มีอาหารเลี้ยงค่ะ  ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้าว-แกงไก่ใส่มะเขือ  เค้าให้เวลาเรากินข้าวประมาณครึ่ง ชม.   เสร็จแล้วเราก็จะต้องนั่งปอกกระเทียมไปเรื่อยๆ จนถึงประมาณบ่าย 4 ก็ขึ้นมาทำงานต่อไปจนถึงราว ๆ 3 ทุ่ม .....  ทำเสร็จก็ไปรับเงินค่าแรงที่หัวหน้า 100 บาทค่ะ แต่ถ้าวันไหนลูกค้าเยอะ หัวหน้าก็จะถามว่าอยู่ต่อได้ไหม อีก 2 ชม. 50  บาท  ซึ่งส่วนใหญ่พิมก็จะอยู่ต่ออ่ะค่ะ  และก็จะกลับถึงบ้านประมาณเที่ยงคืนประจำ

หลายคนอ่านแล้วอาจจะสงสัย เด็ก 15 .. กลับบ้านดึกขนาดนี้ไม่กลัวอันตรายเหรอ พิมก็ขอตอบว่าไม่กลัวอ่ะค่ะ เหตุที่ไม่กลัวเพราะพิมมีความรู้สึกว่ามันไม่อันตราย อีกอย่างสมัยนั้นแม่พิมขายผักอยู่ที่ตลาดประตูน้ำ แม่พิมต้องออกจากบ้านตั้งแต่ตี 3 เพื่อไปขายผักเป็นประจำ ซึ่งพิมก็มักจะไปกับแม่ด้วย  (ติดสอยห้อยตามไปตั้งแต่เด็กถึงจน ม. ต้น)  แล้วเวลาแม่พิมไม่สบาย พิมก็จะต้องไปขายแทนแม่  (ขายเสร็จก็รีบกลับมาอาบน้ำไปโรงเรียน)   ดังนั้นแล้วเรื่องการเดินทางเวลาดึก ๆ ไม่น่ากลัวสำหรับพิม  เพราะมันชินอ่ะค่ะ  (แต่จริง ๆ อันตรายมันมีอยู่ทุกที่ ไม่ประมาทเป็นดีที่สุดค่ะ)

........ ว่าแต่เม้าท์ไปนอกเรื่องซะยาว กลับมาเรื่องสุกี้ของเราดีกว่าเน๊าะค่ะ ^___^   สำหรับสุกี้ที่พิมมาจะมารีวิวให้เพื่อน ๆ ดูกันในวันนี้ก็เป็นสุกี้น้ำนะคะ  ซึ่งมีวิธีการทำที่ง่ายมาก และถ้าเรามีวัตถุดิบพร้อม ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 10 นาทีเราก็จะได้สุกี้หน้าตาประมาณนี้ออกมาทานกันแล้วล่ะค่ะ

http://www.pim.in.th/images/all-one-dish-food/suki/suki-007.JPG
http://www.pim.in.th/images/all-one-dish-food/suki/suki-009.JPG
http://www.pim.in.th/images/all-one-dish-food/suki/suki-006.JPG

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- ผักกาดขาว 2 ใบ 
- ผักบุ้งจีน 8 ต้น
- ต้นหอม 2 ต้น
- ขึ้นฉ่าย 1 ต้นใหญ่
- หมูหมัก  5 ชิ้น
- กุ้งสด 3 ตัว 
- วุ้นเส้นแห้ง 50 กรัม 
- น้ำซุปไก่ 1 1/2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำจิ้มสุกี้ (ปริมาณตามชอบ)

:: ส่วนผสมหมูหมัก ::

- หมูส่วนสันคอหั่นเป็นชิ้น  300 กรัม
- น้ำมันหอย 2 ชต.
- ซอสปรุงรส 2 ชต.
- น้ำตาลทราย 2 ชช.
- ไข่ขาว 1 ฟอง
- แป้งมัน 1 ชต. ละลายด้วยน้ำ 1 ชต.

ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน นวดเล็กน้อย พักไว้อย่างน้อย 1 ชม.

สูตรน้ำจิ้มสุกี้  >> คลิ๊กที่นี่ <<  นะคะ

http://www.pim.in.th/images/all-one-dish-food/suki/suki-001.JPG

:: วิธีทำ ::

อันดับแรกเราจะต้องมาจัดการในส่วนของผักกันก่อนนะคะ  ในส่วนนี้พิมไม่ได้ถ่ายรูปมาฝาก แต่คิดว่าจากคำอธิบายของพิมก็น่าจะเข้าใจได้ไม่ยากค่ะ  ^__^

ซึ่งผักอย่างแรกที่พิมจะจัดการก็คือผักกาดขาว ..... สำหรับผักกาดขาวเนี่ย  ตอนแรกพิมกะว่าจะใช้สัก 3 ใบค่ะ (แต่ละใบยาวประมาณ 1 คืบ)  แต่ปรากฎว่าเยอะเกิน  ถ้าใส่หมดสงสัยล้นชามแน่ๆ   >_<"   เลยลดเหลือ 2 ใบพอ ..... ก็เอาผักกาดขาวไปล้างให้สะอาดนะคะ  (ล้างทีละใบ)   ล้างเสร็จก็หั่นไว้เป็นชิ้นพอคำ  ซึ่งโดยปกติพิมจะหั่นครึ่งตามแนวยาวให้เป็นสองชิ้นก่อน  แล้วเอาสองชิ้นมาวางทับกันก่อนจะหั่นเป็นชิ้น ๆ อีกทีอ่ะค่ะ

ผักอย่างที่สองที่พิมจะจัดการก็คือ ผักบุ้ง ...... สำหรับผักบุ้ง ก็เอามาตัดรากและโคนที่แก่ๆ ทิ้งไปซะก่อน จากนั้นเด็ดใบเหลืองใบเน่าออกไป ล้างน้ำให้สะอาด  แล้วเด็ดไว้เป็นท่อนยาวประมาณ 2 นิ้วค่ะ

ต้นหอม ..... ตัดรากทิ้งนะคะ  แล้วลอกใบที่ช้ำเน่า+ตัดปลายใบที่แหลม ๆ ทิ้งไป ล้างทีละต้นให้สะอาด  แล้วหั่นไว้เป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้วครึ่งค่ะ

ขึ้นฉ่าย ...... ทำเช่นเดียวกับต้นหอมนะคะ นั่นก็คือ ตัดโคน+รากทิ้งไป  เด็ดใบช้ำเน่าเหลืองทิ้งไป ล้างทีละก้านให้สะอาด (ขึ้นฉ่ายมักจะมีดินซุกซ่อนอยู่ตามซอกก้าน)  แล้วกั่นไว้เป็นท่อนยาวประมาณ 1 นิ้วครึ่งเช่นกันจ้า

ส่วนวุ้นเส้น ....... พิมใช้วุ้นเส้นแบบแห้งนะคะ นำมาแช่น้ำจนนิ่ม แล้วตัดเป็นท่อนสั้น ๆ ค่ะ  (ใครจะใช้วุ้นเส้นสดก็ได้นะคะ แต่ความรู้สึกส่วนตัวของพิม พิมว่าวุ้นเส้นแห้งเหนียวและกินอร่อยกว่าวุ้นเส้นสดค่ะ)

เมื่อเตรียมในส่วนของผักและวุ้นเส้นเสร็จ ก็มาเตรียมในส่วนของเนื้อสัตว์กันต่อ ... สำหรับหมู พิมใช้หมูส่วนสันคอหั่นเป็นชิ้นหมักกับส่วนผสมตามด้านบนนะคะ  ส่วนกุ้ง...พิมใช้กุ้งที่หนักประมาณตัวละ 50 กรัม เอาเปลือกออก (จะไว้หางหรือไม่ไว้ก็ได้ค่ะ)  ผ่าหลังกุ้ง และชักเส้นดำทิ้งค่ะ

และในส่วนที่สำคัญอีกอย่างคือส่วนของน้ำซุป .... พิมใช้น้ำซุปไก่ โดยการเอาโครงไก่ 2 โครง ล้างให้สะอาด ลวกในน้ำเดือดจัด  1 ครั้งแล้วเอามาล้าง  แล้วนำไปต้มรวมกับกระเทียมกลีบใหญ่ทั้งเปลือกทุบพอแตกประมาณ 2 หัว รากขึ้นฉ่าย รากผักชี้ พริกไทยเม็ด น้ำตาลกรวด และเกลือป่น .. เป็นเวลาประมาณ 1 ชม.ครึ่งค่ะ   ก่อนที่จะกรองเอาแต่น้ำซุปใส ๆ มาใช้อ่ะค่ะ

..............

และเมื่อเตรียมวัตถุดิบทุกอย่างพร้อมแล้วก็ได้เวลาลงมือทำกันแล้วล่ะค่ะ ^__^

เริ่มต้นก็ให้เทน้ำซุปใส่หม้อใบเล็ก ๆ สักใบนะคะ  (พิมใช้หม้อที่มีด้ามจับค่ะ จะได้ถือสะดวกๆ)   แล้วเอาหม้อตั้งเตา เปิดไฟกลาง พอน้ำเดือดก็ใส่หมูลงไป  ตามด้วยผักทั้งหมดนะคะ  พอผักสุกหมูสุกก็ใส่กุ้งลงไปค่ะ

NOTE  :: สำหรับผัก ... หากใครชอบผักสุกมากๆ  นิ่มมาก ๆ  ให้ต้มผักกับน้ำซุปก่อนนะคะ จนผักสุกนิ่มตามต้องการแล้วค่อยใส่หมูลงไป หมูจะได้ไม่แข็งเกิน  แล้วรอหมูสุกค่อยใส่กุ้งค่ะ  แต่อย่างพิมชอบผักกรอบ ๆ หน่อย ไม่ชอบให้ผักนิ่มมาก ก็ใส่หมูไปพร้อมผักเลย แล้วให้สุกพร้อม ๆ กันอ่ะค่ะ

http://www.pim.in.th/images/all-one-dish-food/suki/suki-002.jpg

รอให้กุ้งสุก (ซึ่งใช้เวลาแป๊บบบเดียว)  ก็ค่อย ๆ เทไข่ที่เราตีไว้แล้วลงไป (คนในหม้อไปด้วยนะคะ)  ตามด้วยวุ้นเส้น  และน้ำจิ้มสุกี้สัก 3 ชต.

http://www.pim.in.th/images/all-one-dish-food/suki/suki-003.JPG

รอจนเดือดอีกครั้ง .... ก็ปิดไฟเตา

NOTE :: ถ้าอยากให้ไข่เนียนไปกับน้ำ ไม่เป็นชิ้นๆ แบบนี้และน้ำซุปสุกี้ข้นๆ  ให้ปิดไฟเตาก่อนนะคะ แล้วค่อยใส่ไข่ลงไปค่ะ

http://www.pim.in.th/images/all-one-dish-food/suki/suki-004.JPG

ตักใส่ชาม ..... ราดด้วยน้ำจิ้มสุกี้ที่เราทำไว้ (ปริมาณมากน้อยตามชอบ)  ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ..... แล้วเราก็จะได้สุกี้น้ำออกมาหน้าตาประมาณในภาพด้านล่างนี่นะคะ

http://www.pim.in.th/images/all-one-dish-food/suki/suki-007.JPG

ซึ่งขอบอกว่าเป็นสุกี้ที่ถูกปากพิมมากเลยจ้า ... แบบว่าผักกรอบ ๆ หมูนุ่ม ๆ  กุ้งหวาน ๆ รสชาติเปรี้ยวนำ เค็ม เผ็ดตาม หวานนิด ๆ หอมเต้าหู้ยี้ หอมกลิ่นงา .... สรุปว่าโอเคมากมายเลยค่ะ

http://www.pim.in.th/images/all-one-dish-food/suki/suki-009.JPG

หากเพื่อนๆ  คนไหนชอบสุกี้ หรือชอบทานอะไรเป็นแบบน้ำๆ ร้อนๆ และยังไม่รู้ว่าจะเอาสูตรไหนไปลองทำดี ... พิมขอแนะนำสูตรนี้ คิดว่าไม่น่าจะผิดหวังค่ะ ^___^

http://www.pim.in.th/images/all-one-dish-food/suki/suki-006.JPG

:: เพิ่มเติม ::

หากเพื่อน ๆ อยากทานเป็นสุกี้แห้ง วิธีทำก็ไม่ยากค่ะ ...... เริ่มต้นด้วยการตั้งกระทะบนเตาไฟนะคะ ใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันสำหรับผัดลงไปเล็กน้อย ตามด้วยกระเทียมสับลงไปเจียว พอกระเทียมเหลืองหอมดีก็ใส่เนื้อสัตว์ลงไปผัดให้สุก ตามด้วยผักทั้งหมดและวุ้นเส้น ผัดด้วยไฟแรงให้ผักสุกและไหม้นิดๆ  ก็ตอกไข่ใส่ลงไป  ยีไข่ให้กระจาย ตามด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว พริกไทยป่นนิดหน่อย และน้ำจิ้มสุกี้  ผัดให้เข้ากันอีกที เป็นอันใช้ได้อ่ะค่ะ



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก