สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนนะคะ หลายวันก่อนพิมไปทำธุระที่แถว ๆ สุขุมวิท นึกอยากทานอาหารอะไรอร่อย ๆ ที่ปกติแล้วไม่ค่อยได้ทาน ก็เลยพุ่งไปที่ร้านอาหารเกาหลีร้านนึงบนห้างเอ็มควอเทียร์อ่ะค่ะ
ร้านอาหารเกาหลีร้านที่พิมว่าเนี่ย ชื่อว่าร้าน Bulgogi Brothers นะคะ ซึ่งถ้าพูดถึงร้านอาหารเกาหลีแนวพรีเมี่ยมในเมืองไทยแล้วเนี่ย เชื่อว่า Bulgogi Brothers ต้องติดอยู่ในอันดับต้นๆ แน่นอนอ่ะค่ะ เพราะเป็นร้านอาหารที่ Import ทั้งวิธีการปรุง รสชาติ ทั้งหน้าตาอาหาร แบะคุณภาพวัตถุดิบมาจากเกาหลีซึ่งเป็นประเทศต้นตำรับเลยนะคะ
ร้านบูลโกกิเนี่ย #ขอพิมพ์ภาษาไทยเน๊าะจะได้ไม่ต้องสลับแป้นพิมพ์บ่อยๆ ^_^ .... เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2556 ค่ะ แล้วก็ด้วยความที่อาหารของที่นี่มีรสชาติดี คุณภาพวัตถุดิบเยี่ยม ก็เลยทำให้ภายในเวลาแค่ 3-4 ปี ร้านบูลโกกิก็มีสาขาทั่วโลกกว่า 40 แห่งเลยนะคะ ซึ่งก็รวมที่ไทย 2 สาขาด้วยอ่ะค่ะ
สำหรับที่ไทยเนี่ย ร้านบูลโกกิบราเธอร์ จะมีอยู่ด้วยกัน 2 สาขา คือ ที่เอ็มควอเทีย และที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิตนะคะ แต่ว่า 2 สาขานี้ก็จะเน้นประเภทอาหารแตกต่างกัน ซึ่งถ้าใครอยากจะมาลองอาหารเกาหลีแบบพรีเมี่ยม ทั้งคุณภาพวัตถุดิบ และรสชาติอาหาร พิมก็แนะนำให้มาที่สาขาเอ็มควอเทียร์เลยค่ะ
พูดพล่ามทำเพลงกันมาเยอะ พิมเชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงเริ่มอยากจะรู้แล้วว่า อาหารของที่นี่มีเมนูอะไรน่าสนใจบ้าง และวันนี้พิมกินอะไรไปบ้าง ....... เรามาเริ่มกันเมนูแรกเลยเน๊าะคะ ^__^
สำหรับเมนูแรกที่พิมได้ทาน ก็คือ Bulgogi Brothers Special (บูลโกกิ บราเธอร์ส สเปเชียล) ค่ะ เป็นเนื้อบดหมัก+เนื้อสไลด์สไตล์เกาหลี ที่เรียกว่า อุนยาง กับกวางยางนะคะ ทำจากเนื้อริบอาย US เกรดพรีเมี่ยม เสิร์ฟมาพร้อมกับมันฝรั่ง เห็ดออรินจิและกระเทียมอ่ะค่ะ
ซึ่งตอนที่เสิร์ฟ เค้าจะเสิร์ฟมาแบบเนื้อยังดิบ ๆ อยู่ เพื่อให้เราได้มองเห็นคุณภาพและความสวยของเนื้อนะคะ แต่พอเราจะทาน ทางร้านเค้าก็จะนำไปย่างให้ หรือถ้าเราอยากโชว์ฝีมือในการย่างเอง #พนักงานเค้าจะเอาอุปกรณ์ที่ใช้ในการย่างมาให้เราได้ย่างที่โต๊ะ ...... ก็ทำได้เช่นกันอ่ะค่ะ ^_^
ส่วนเมนูที่สองก็จะเป็น Grilled Pork Belly (หมูสามชั้นย่าง) นะคะ เป็นหมูสามชั้นแบบที่มีมันไม่มาก เสิร์ฟมาพร้อมกับหอมใหญ่ มันฝรั่ง เห็ดออรินจิ แล้วก็กระเทียมสไลด์อ่ะค่ะ
ซึ่งหมูสามชั้นจานนี้เนี่ย ตอนสด ๆ หน้าตาก็ดูไม่แตกต่างจากหมูทั่วไปเท่าไหร่ แต่ขอบอกว่าพอย่างสุกแล้ว กลิ่นหอมแตกต่างจากหมูทั่วไปมากเลยนะคะ แถมหมูยังนุ่มมาก ที่สำคัญกินคู่กับซอสและเครื่องเคียงที่ทางร้านเตรียมมาให้ ไม่ว่าจะเป็นผักบุ้งดอง รากบัวต้มซีอิ๊ว กิมจิหัวไชเท้า ยำผักบุ้ง .... เข้ากันที่สุดเลยอ่ะค่ะ
อย่างที่สาม ก็จะเป็น Spicy Ham and Sausage Hot Pot หรือหม้อไฟเกาหลีสูตรดั้งเดิมที่เสิร์ฟมาพร้อมกับเส้นมาม่า และเครื่องปรุงแบบเกาหลีเพื่อเพิ่มความเผ็ดนะคะ ในหม้อนี้เนี่ยก็จะแน่นไปด้วยไส้กรอก แฮม ลูกชิ้น แป้งต๊อก ต้นหอมญี่ปุ่น เห็ด ผักกาดขาว พริกหั่นแว่น และก็อื่นๆ อีกหลายอย่างเลยอ่ะค่ะ ใครที่มากันแค่ 2 คน แล้วสั่งหม้อนี้ ขอบอกว่า มีจุกกกเลยนะคะ
อย่างที่สี่ก็จะเป็น Kimchi Fried Rice with Cheese หรือข้าวผัดกิมจิ ชีสค่ะ ...... จานนี้จะเป็นข้าวผัดกิมจิหมูโปะมาด้วยไข่ดาวและชีสแบบแน่น ๆ แล้วเสิร์ฟมาในกระทะร้อน #ร้อนจริงๆนะ ..... เวลาทานก็คลุกข้าวผัด ชีส กับไข่ดาวรวมกัน จะได้ข้าวผัดกิมจิชีสแบบยืดดดดดดดด ใครที่เป็นสาวกชีส น่าจะชอบจานนี้มากๆ เลยอ่ะค่ะ
ส่วนจานต่อมา อย่างที่ห้า ก็จะเป็น Stir Fried Spicy Chicken with Cheese หรือไก่สไปซี่ชีสสไตล์เกาหลีนะคะ จานนี้เนี่ยจะเป็นไก่ทอดแบบเกาหลี คลุกเคล้ามากับซอสสูตรอร่อยของร้าน Bulgogi (เป็นซอสบลูโกผสมซอสเผ็ดสูตรของทางร้าน) แล้วก็โปะมาด้วยชีส เสิร์ฟมาในกระทะร้อน .... รสชาติจานนี้จะออกเผ็ดนิด ๆ หวานหน่อย ๆ แต่เป็นรสชาติที่ถูกใจพิมมากกกกก เลยอ่ะค่ะ
จานถัดมา ก็จะเป็น Pork Kimchi Stew (ซุปกิมจิหมู) จริงๆ เมนูนี้พิมไม่ได้ตั้งใจจะสั่งมาทานนะคะ แต่คุณสามีเกิดอยากกินขึ้นมา ก็เลยสั่งมาค่ะ เมนูนี้เนี่ย #ซุปกิมจิหมู เค้าจะเสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวสวย 1 ถ้วยนะคะ รสชาติซุปกิมจิของที่นี่เนี่ยจะค่อนข้างกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวมาก ไม่เผ็ดมาก ไม่เค็มเกิน เรียกได้ว่ารสอร่อยเลย แถมเต้าหู้ก็ไม่นิ่มมาก ออกจะเด้งๆ คล้ายลูกชิ้นปลา #แต่ไม่ใช่ ทานคู่กับข้าวสวย เข้ากันมากนะคะ
ต่อมาจานที่เจ็ด ก็จะเป็น Spicy seafood dumplings หรือ เกี๊ยวทอดราดซอสซีฟู้ดค่ะ ...... เป็นเกี๊ยวทอดสอดไส้หมูกับผัก แล้วท๊อปปิ้งมาด้วยซีฟู้ดผัดกับซอสสูตรพิเศษนะคะ รสสัมผัสของเกี๊ยวจะกรอบนอกนุ่มใน แล้วก็มีรสเผ็ดหวานนิด ๆ สไตล์เกาหลี อร่อยดีค่ะ
ส่วนจานนี้จะคล้ายกับจานไก่ด้านบนนะคะ เป็น Stir Fried Spicy Pork with Cheese หมูผัดเผ็ดสไตล์เกาหลี และชีส รสค่อนข้างจัดกว่าจานไก่ หวานมากกว่านิดนึง แต่ความอร่อยไม่แพ้กัน ทีเด็ดอยู่ตรงชีสที่กลางกระทะนี่แหละค่ะ รสชาติเข้ากับหมู เข้ากับซอสมาก กินคู่กับผักสด ๆ สไตล์เกาหลีแล้วเวิร์คมากๆ เลยนะคะ
จบจากของหนัก ๆ เรามาต่อที่ของหวานกันบ้างค่ะ ซึ่งของหวานที่พิมได้ชิมในวันนี้ทั้งหมดเป็นบิงซู 3 รสชาตินะคะ
รสแรกคือ บิงซูโอวัลตินภูเขาไฟ ตัวเกล็ดน้ำแข็งรสไม่เข้มมาก ออกไปในแนวเบา ๆ นิดนึง #เบาทั้งตัวเกล็ดน้ำแข็งและรสชาติน้ำแข็ง แต่พอทานกับผงโอวัลติน โอรีโอ้ที่อยู่ด้านบน และราดด้วยนมข้นหวาน ก็รสชาติลงตัวอ่ะค่ะ
รสที่สอง ก็จะเป็น บิงซูมะม่วงนะคะ ... ด้านบนของบิงซูจะท๊อปด้วยซอสมะม่วงที่ทางร้านทำเอง และก็โปะด้วยเนื้อมะม่วงหั่นเป็นชิ้นอ่ะค่ะ รสชาติโดยรวมจะออกแนวหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ใครที่ชอบมะม่วง พิมว่าเมนูนี้น่าจะถูกปากมากๆ เลยนะคะ
ส่วนบิงซูรสสุดท้าย ก็จะเป็นบิงซูสตรอเบอร์รี่กล้วยหอมนะคะ บิงซูรสนี้ด้านบนจะท๊อปมาด้วยซอสสตรอเบอรี่ สตรอบเอรี่แช่แข็ง แล้วก็กล้วยหอมอ่ะค่ะ .... กล้วยหอมสุกกำลังดี สตรอเบอรี่รสชาติเปรี้ยวนำไปหน่อย แต่ถ้าราดนมข้นหวานลงไปแล้ว ก็เปรี้ยวหวานกำลังดีอ่ะค่ะ
สุดท้าย ... ท้ายสุดของมื้อนี้ ที่พิมได้ชิมไป ก็คือ เครื่องดื่มที่เป็นน้ำเลม่อนเข้มข้นใส่โซดา กับน้ำพุทราใส่โซดานะคะ ..... รสชาติทั้งสองเมนูอร่อยมาตรฐาน หวานน้อย ถูกใจพิมมากเลยอ่ะ แต่ส่วนตัวพิมจะชอบตัวที่เป็นน้ำพุทรามากกว่า เพราะเป็นรสชาติแปลกใหม่ ยังไม่เคยกิน แถมยังหอมนุ่มนลมากๆ จนพิมต้องสั่งแก้วที่ 2 เลยอ่ะค่ะ ^^
เป็นไงกันบ้างคะ สำหรับอาหารเกาหลีของพิมกับคุณสามีในวันนี้ ...... อลังการเลยใช่ไหมอ่า งานนี้แบบว่าอิ่มกันแน่น ๆ เลยอ้ะค่ะ สำหรับใครที่ชอบอาหารเกาหลี อยากกินอาหารเกาหลีรสชาติต้นฉบับเหมือนบินไปกินที่เกาหลีเอง ก็ลองมาทานกันดูได้ที่ Bulgogi Brothers ชั้น 8 เอ็มควอเทียร์ ........ รับรองอร่อยถูกปากแน่นอน แล้วพบกันใหม่ในเมนูถัดไปนะคะ ส่วนวันนี้ขอตัวไปผึ่งพุงก่อนล่ะค่า ^_^
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> แฟนเพจ Bulgogi Brothers Thailand <<
โทร :: 098-246-0888
เวลาเปิดปิด :: 10.00 - 22.00 น.