สวัสดีค่า ... ไหนใครชอบทานปู ยกมือขึ้นจ้า เพราะว่าวันนี้พิมจะมาชวนเพื่อนๆ ไปทาน #ปู แบบไม่อั้น ทั้งปูม้า ปูหิมะ ปูยักษ์ และอีกสารพัดเมนู ที่สำคัญคือรวมเครื่องดื่มแล้ว ในราคาแค่ 899 บาทเท่านั้นค่ะ ^_^
พูดถึง #ปู แล้ว พิมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะชอบกินปูกันเน๊าะคะ แต่ทีนี้เนี่ยปูม้าก็ว่าราคาสูงแล้ว มาเจอปูยักษ์ ปูหิมะอีก ก็ยิ่งราคาสูงเข้าไปใหญ่ หากจะซื้อมาทำกินเองแบบให้อิ่มจัดๆ หรือว่ากินแบบไม่อั้นเนี่ย ก็น่าจะต้องกำเงินไว้สักพันนึงต่อคนอ่ะค่ะ เพราะงั้นวันนี้พิมก็เลยจะมาชวนเพื่อน ๆ ไปกินปูแนวใหม่ คือกินแบบไม่อั้น กินเท่าไหร่ก็ได้ใช่วงเวลา 4 ชม. ในราคาแค่ 899 บาทต่อคน (จากราคาเต็มประมาณ 1600 บาท) ที่ห้องอาหารอเทลิเย่ โรงแรม Pullman Grande Sukhumvit กันนะคะ
ปกติแล้วบุฟเฟท์ของที่ห้องอาหารแห่งนี้เค้าก็จะจัดธีมโน้นธีมนี้สลับกันไปค่ะ บางทีก็เป็นกุ้ง บางทีก็เป็นอาหารทะเลแบบรวมๆ แต่ว่าช่วงนี้ไปจนถึงเมษา 2562 เป็นช่วงเทศกาลปู หรือ Crab Carnival นะคะ ทางโรงแรมเค้าก็จะจัดปูหลากหลายไม่ว่าจะเป็นปูม้า ปูหิมะ หรือปูยักษ์ มาไว้ในไลน์บุฟเฟท์ให้เราได้ทานกัน แต่นอกจากปูแล้ว เค้าก็ยังมีอาหารทะเลอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหอย หมึก กุ้ง แล้วก็ยังมีอาหารญี่ปุ่น ปลาดิบ มีอาหารไทย จีน อินเดีย ยุโรป รวมถึงขนมหวาน เค้ก เครปสด ไอศกรีมอร่อย ๆ และช๊อคโกแลตฟองดูอีกด้วยค่ะ ทั้งหมดนี้คือ 899 บาทจริง ๆ เพื่อน ๆ คนไหนสนใจก็ตามมาดูรีวิวจากพิมได้เลยนะคะ ^_^
Pullman Bangkok Grande Sukhumvit เป็นโรงแรมที่อยู่แถวสี่แยกอโศก หากเราเอารถไปเองก็สามารถจอดรถได้ที่ตึกจอดรถด้านหลังโรงแรมได้ค่ะ แต่ถ้าสมมติว่าเราเดินทางโดยรถไฟฟ้า ก็ลงที่สถานีอโศก แล้วเดินไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงหน้าโรงแรมนะคะ พอเรามาถึงโรงแรมก็ให้ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2 แล้วเลี้ยวขวานิดนึง ก็จะเจอเคาท์เตอร์ reception ของห้องอาหารอเทลิเย่ (Atelier) อยู่ตรงข้างหน้าเลยค่ะ
เนื่องจากว่าช่วงนี้เป็นช่วง CRAB Carnival หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือ ช่วงเทศกาลปู อาหารหลักของที่นี่ในช่วงนี้ก็จะเป็น ปู ปู และปูนะคะ ^_^ ซึ่งที่นี่ก็จะมีทั้งปูม้า ปูหิมะ และปูอลาสก้าอย่างที่พิมบอกไปตอนต้นค่ะ แต่ว่านอกจากปูแล้ว ที่นี่เค้าก็ยังมีไลน์อาหารอย่างอื่นด้วย แต่จะมีไลน์อะไรบ้าง อันไหนน่าสนใจ ตามพิมมาดูดีกว่าเน๊าะคะ ^_^
เริ่มกันจาก #โซนแรก ที่แบบว่าเห็นเด่นชัดกันตั้งแต่เดินเข้าห้องอาหารมากับ โซน Seafood On Ice ค่ะ ... โซนนี่ก็จะมีทั้งปูม้า ปูหิมะ ปูอลาสก้า หมึก กุ้ง หอยแมลงภู่ตัวใหญ่ ๆ แบบนึ่งสุกเรียบร้อยวางอยู่บนน้ำแข็ง พร้อมให้เราหยิบมาทานได้เลยนะคะ ... สิ่งที่พิมชอบในโซนนี้ก็คือ ขาปูยักษ์ที่เนื้อแน่นขนาดเอาส้อมจิ้มเนื้อปูออกมาเป็นยวง ๆ ได้เลย ที่สำคัญคือไม่เค็ม กุ้งหมึกที่มีความสด ลวก/ต้ม/นึ่งมาได้สุกกำลังดี เนื้อไม่แข็งเกิน กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้ เด็ดเลยค่ะ
ในส่วนของน้ำจิ้มซีฟู้ดของทางโรงแรม อันนี้จะรสไม่จัดมาก เป็นรสกลางๆ แบบที่กินได้ทุกเพศทุกวัย แต่ใครที่ชอบรสจัดมากกว่านี้ สามารถหยิบพริก มะนาว มาปรุงเพิ่มเองได้เลยนะคะ
ต่อมาในโซนที่ 2 ... ใครที่ชอบอาหารทะเลแบบนึ่งมาร้อน ๆ ทางโรงแรมเค้าก็จัดปูม้านึ่ง กุ้งนึ่ง หอยแมลงภู่นึ่งแบบอุ่นร้อนไว้ให้ด้วยนะคะ ปูม้านี่แบบว่าเนื้อแน่น ส่วนกุ้งก็เนื้อเด้งอร่อยดี ... แบบว่าไม่พูดเยอะ ขอน้ำจิ้มอีกถ้วยเลยดีกว่าค่ะ 555
โซนที่ 3... ก็จะเป็นโซนปิ้งย่างนะคะ ในโซนนี้เนี่ยเค้าก็จะมีอาหารสด ๆ มีเนื้อสัตว์ให้เราสามารถเลือกไปปิ้งย่างได้เยอะแยะมากมายค่ะ ไม่ว่าจะเป็นกุ้งแม่น้ำ ปู เนื้อวัว หมู แซลมอน อกไก่ ... แต่ว่าระดับเราแล้ว ไม่ต้องไปยืนปิ้งย่างเองให้หัวเหม็นนะคะ ฮ่าๆ สมมติเราอยากจะกินเสต๊กเนื้อ เสต๊กแซลมอน เราก็แค่หยิบเบอร์โต๊ะมา (อยู่ในถ้วยบนโต๊ะของเรา) แล้วยื่นให้พนักงานตรงหน้า Station พร้อมกับบอกเค้าว่าอยากได้อะไรอย่างละเท่าไหร่ สุกแบบมากน้อยแค่ไหน แล้วเดี๋ยวพอเค้าปิ้งย่างเสร็จ เค้าก็จะยกไปให้เราที่โต๊ะเลย ... สบาย ๆ จ้า แต่บางทีแล้วก็อาจจะช้านิดนึงในช่วงเวลาทีมีลูกค้าเยอะ เราก็กินอย่างอื่นรอ ๆ ไปก่อนค่ะ ^_^
ต่อมาในโซน Carving Station ปกติแล้วที่นี่เค้าก็จะมีปลากะพง แกะ แซลมอน ปรุงรสหลากหลายแบบสลับ ๆ กันไปนะคะ แต่วันนี้เป็นคิวของปลากะพงตัวใหญ่ (ใหญ่จริงๆ) อบสมุนไพรค่ะ เท่าที่พิมตักมาลองชิมประมาณ 3 รอบ เนื้อปลากะพงแน่นแต่นุ่ม หอมกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ (สมุนไพรฝรั่ง) มีรสเค็มนิดๆ กินเฉยๆ อาจจะจืดไปหน่อยสำหรับลิ้นคนไทยเรา เพราะงั้นราดน้ำจิ้มหน่อยจะยิ่งอร่อยมากขึ้นนะคะ ^_^
สำหรับใครที่ชอบซาซิมิ ซูชิ ที่นี่เค้าก็มี Station อาหารญี่ปุ่นด้วย ซึ่งก็จะมีทั้งหมึก แซลมอน ทูน่า ไข่หวาน ปูอัด และข้าวปั้นหลากหลายแบบเลย สามารถเลือกกินได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ
ส่วนใครที่ชอบอาหารไทย อย่างพิม ... ที่นี้เค้าก็มีโซนอาหารไทยด้วยน๊าาา อาหารเค้าก็จะสลับ ๆ กันไป อย่างวันที่พิมไปก็จะมีห่อหมกปู มีต้มยำไก่ ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ กุ้งผัดพริกเกลือ และก็มีน้ำยาปูด้วยนะคะ ... เท่าที่พิมได้ลองชิมไป #ห่อหมก เนื้อห่อหมกค่อนข้างแน่น รสกลางๆ ไม่เผ็ดไม่เค็ม หอมพริกแกงน้อยไปนิด #น้ำยาปู อันนี้พิมว่าถ้าใช้ปูม้าทำน่าจะอร่อยมากกว่านี้ เพราะพอใช้ปูยักษ์ เนื้อปูมันจะหยาบไปไม่ค่อยเหมาะกับอาหารไทย แต่เนื้อปูเยอะดีค่ะ ส่วน #ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ อันนี้รสชาติดี พิมตักหลายรอบอยู่นะคะ ^_^
ส่วนใครที่ไม่ถนัดอาหารไทย ฮ่า ๆ (จะมีไหมเนี่ยยย) ที่นี่เค้าก็ยังมีโซนอาหารจีน อินเดีย ยุโรป ให้เพื่อนๆ เลือกกินอีกด้วยค่ะ เช่น ไก่ย่างราดซอสโรสแมรี่ (Grilled Chicken with Rosemary Sauce) ปลากะพงราดซอสเลมอนบัตเตอร์ (Pan Fried Seabass with Garlic Lemon Butter Sauce) มันฝรั่งทอด (Potato Wedge) ผักรวมย่าง (Grilled Vegetables) มีแกงผัก (Aloo Bhaji) ไก่ไม่มีกระดูกในซอสมะเขือเทศ (Butter Chicken) หมูผัดซอสเปรี้ยวหวาน (Deep Fried Pork with Sweet and Sour Sauce) ปูผัดพริกแกง (Wok Fried Crab Meat with Yellow Chilli) ปลากะพงนึ่งเต้าซี่ (Steamed Sea Bass with Black Bean Sauce) และก็อีกมากมายเลยนะคะ ที่พิมแนะนำก็จะมี #หมูผัดซอสเปรี้ยวหวาน เค้าจะเอาหมูหั่นเป็นเส้นไปชุบแป้งทอดก่อน แล้วมาผัดกับซอสเปรี้ยวหวาน รสกลมกล่อมดีค่ะ ส่วนปลากะพงราดซอสเลมอนบัตเตอร์ อันนี้ก็จะรสเบา ๆ หน่อย แต่มีความหอมของเนยและน้ำเลมอน พอเคี้ยวไปเจอเคเปอร์ที่ออกรสเค็มนิดๆ ก็จะทำให้ชูรสชาติปลากะพงขึ้นมาอีกนะคะ
สำหรับใครที่ชอบทานพาสต้า ขอบอกเลยค่ะว่าที่นี่ทำพาสต้าได้อร่อยยนะ ควรค่าแก่การสั่งมาทานค่ะ ส่วนไข่เจียวที่นี่มีให้เลือกทั้งหมู กุ้ง ปู ใครที่ชอบไข่เจียวปู กุ้ง แบบเนื้อเน้น ๆ เยอะๆ ก็สามารถแกะเนื้อปูกุ้ง มาให้เชฟใส่เพิ่มในไข่เจียวได้นะคะ เรียกว่ามีความสามารถในการ #แกะ แค่ไหน ก็จัดมาเลยจ้า
นอกจากรายการอาหารที่พิมบอกไปข้างบนแล้ว ที่นี่เค้าก็ยังมีโซนขนมปัง ชีส Cold-cut สลัดทั้งแบบไทยแบบฝรั่ง มาให้เราเลือกกินอีกด้วยนะคะ โดยในโซนสลัดฝรั่งเนี่ย น้ำสลัดที่เป็นซีซาร์ดีงามเลยค่ะ เค็ม ๆ หอม ๆ มัน ๆ คลุกเคล้ากับผักสด ๆ โรยเบคอนทอดกรอบไปหน่อย กินเพลินเลยนะคะ ส่วนในโซนสลัดไทย น้ำตกหมูอร่อยแบบละมุน ๆ เชฟเค้าใช้สันคอหมูหมักย่าง แล้วค่อยเอามาทำน้ำตก แม้ว่ารสชาติจะไม่เผ็ดจัด เปรี้ยวจัดมาก แต่รสกลมกล่อมดี และหมูก็ย่างมาได้แบบละมุน ๆ ชอบเลยค่ะ
ส่วนในโซนเครื่องดื่ม (ราคานี้รวมเครื่องดื่มแล้ว) เค้าก็จะมีให้เราเลือกดื่มได้ทั้งชามะนาว น้ำส้ม โค๊ก โค๊กไม่มีน้ำตาล น้ำเปล่า รวมไปถึงชา กาแฟด้วยนะคะ ใครจะรักเดียวใจเดียวดื่มแค่อย่างเดียว หรือดื่มแก้วนี้หมดแล้วก็ไปดื่มแก้วอื่นต่อจนครบทั้ง 5 อย่าง ก็ตามที่ชอบเลยค่า (ไม่รวมเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์น๊า แต่สั่งเพิ่มได้)
สุดท้าย ... ท้่ายสุด เมื่อกินอาหารคาวอิ่มแล้ว แน่นอนว่าเราก็จะต้องจบด้วยของหวานและผลไม้เน๊าะคะ ^__^ ที่นี่เค้าก็จะมีทั้งเครปแบบทำตามสั่ง มีฟองดู ผลไม้สด 4-5 อย่าง มีไอศกรีมหลากหลายรสชาติพร้อมท๊อปปิ้งเป็นสิบชนิด มีขนมไทยแบบคำเล็ก ๆ มีช๊อคโกแลตชิ้นใหญ่ แบบที่เวลาเราจะกิน เราจะต้องไปทุบให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เอง ^_^ และก็เค้กสารพัดแบบค่ะ
ในส่วนของไอศกรีม ฟองดู พิมไม่ได้ชิม ตอบไม่ได้ว่าอร่อยไหม แต่เพื่อนพิมที่ไปด้วยกันเค้าว่ารสชาติดีอยู่นะคะ ส่วนขนมไทย...พิมว่ารสชาติรสสัมผัสไม่ค่อยโอเค บางอย่างจืดไป บางอย่างแข็งไป และมีความหลากหลายน้อยไปหน่อย ใครที่ไม่ได้อยากทานขนมไทยมาก ๆ ก็ผ่านตรงนี้ไปได้เลยค่ะ แต่ที่ดีงามยกให้เค้กกับช๊อคโกแลต โดยเฉพาะบลูเบอรี่ชีสเค้ก เค้กช๊อคโกแลต และก็ช๊อคโกแลตแบบที่เราต้องไปทุบ ๆ เอง (เค้ามีค้อนไม้สำหรับทุบช๊อคโกแลตจัดไว้ให้) ถูกใจพิมมาก ถ้าเพื่อน ๆ ได้ไปทานอาหารที่นี่ อย่าลืมลองชิมขนม 3 อย่างนี้นะคะ
#สรุปจ้า ..... ที่นี่เป็นบุฟเฟท์มื้อค่ำ (18.00 - 22.30 น.) ทุกวันอาทิตย์ - พฤหัสบดี นะคะ ราคาปกติอยู่ที่คนละ 1399 บาท ++ (เบ็ดเสร็จแล้วก็ประมาณ 1600 กว่าบาท) แต่ว่าถ้าเพื่อนๆ จองผ่านลิ้งค์นี้ >> https://bit.ly/2rHM3uI มีส่วนลดสูงสุดที่ 50% เหลือแค่ 899 บาทเท่านั้นเองค่ะ ใครสนใจก็จองมาลองชิมกันนะคะ
ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่มีอะไรอยากสอบถามเพิ่มเติม ก็โทรไปที่ 02-204-4071 ได้เลยค่ะ (ประเด็นเรื่องราคา ก็โทรสอบถามได้ที่เบอร์นี้เหมือนกันนะคะ)
งานนี้..พิมว่าถ้าใครชอบกินปู หรือกินเก่ง ๆ คือคุ้มเลยค่ะ
ทางไปจองแบบลด 50% >> https://bit.ly/2rHM3uI
(ต้องจองก่อนนะคะ เพราะทางโรงแรมเค้าจะได้จัดเตรียมโต๊ะไว้ให้ พอเราไปถึงโรงแรม แจ้งกับเจ้าหน้าที่ เค้าจะได้พาเราไปนั่งที่โต๊ะเลย / ไม่สามารถ walk-in ได้จ้า)
#ข้อดีข้อด้อย
ด้วยความที่มีโปร ลูกค้าที่นี่ก็เลยค่อนข้างเยอะ เพราะนั้นในช่วงเวลาที่เปิดไลน์อาหารใหม่ ๆ ตรง #ปู on ice ก็จะมีลูกค้าไปต่อคิวรอตักปูกันอย่างเนืองแน่น จนหลายคนอาจจะกังวลว่า ถ้าเราไม่ไปต่อคิวรอในช่วงแรก ๆ เราจะได้กินปูไหม อันนี้ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ พิมแนะนำให้เราใช้ช่วงเวลานี้ไปตักอาหารอย่างอื่นมาทานเล่นก่อนนะคะ จะเป็นสลัดไทย สลัดนอก หรือพวกซูชิ ซาซิมิ พาสต้า ฯ ก็ได้ แล้วพอคนตรงปูซา (ประมาณ 5-10 นาที) เราก็ค่อยไปตักปูค่ะ งานนี้ไม่ต้องกลัวว่าปูจะหมด เพราะว่าเท่าที่พิมเคยไปกิน 2 ครั้ง ครั้งแรกเค้าเชิญ ครั้งสองไปกินเอง ที่นี่เค้าเติมตลอดนะคะ
ส่วนใครที่ชอบทานขนมหวาน หากใครเล็งเค้กตัวไหนไว้พิมแนะนำให้ไปตักมาไว้ก่อนค่ะ เพราะว่าเค้กบางอย่าง พอหมดแล้วเค้าก็จะเปลี่ยนป็นเค้กตัวอื่นไป ไม่ค่อยมีมาซ้ำของเดิมนะคะ
อีกอย่างคือ ด้วยความที่มีโปรลด 50% ก็จะมีลูกค้าค่อนข้างเยอะ และจะมีความพลุกพล่านมาก ถ้าใครไม่ต้องการความพลุกพล่านมาก พิมแนะนำให้จองโต๊ะที่อยู่โซนด้านหน้าโรงแรมค่ะ โดยเฉพาะโต๊ะแรก ๆ เพราะว่าโซนนี้ทางเดินค่อนข้างกว้างกว่าโซนอื่น จะเดินสบายหน่อย ไม่ค่อยต้องเบียดกับใครนะคะ แถมยังอยู่ใกล้ไลน์บุฟเฟท์มากด้วยค่ะ ^_^
#พิเศษสุด ๆ
สำหรับแฟนบุฟเฟ่ต์ปู ... ทานครบ 3 ที่จาก 3 โรงแรมตามด้านล่าง รับฟรีไปเลย #หนึ่งมื้อ นะคะ
โรงแรมพูลแมน กรุงเทพฯ แกรนด์ สุขุมวิท จับมือกับโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ เพลินจิต สุขุมวิท และ โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพฟีนิกซ์ สีลม นำเสนอแคมเปญสุดพิเศษเอาใจคนรักปู เมื่อทานบุฟเฟท์ครบทั้งสามโรงแรม รับฟรี! บุฟเฟ่ต์ปูอีก 1 มื้อ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
สามารถสอบถามรายละเอียดเพื่มเติม และสำรองที่นั่งได้ที่
- Prawn Ja –The SQUARE restaurant โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ สีลม, โทร: 02 206 9100
- Crab Dinner Buffet – The SQUARE restaurant, โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ เพลินจิต สุขุมวิท, โทร: 02 305 6000