สวัสดีค่า วันนี้พิมจะมาพาเพื่อน ๆ ไปทานอาหารที่ร้านของเชฟคนนึง ซึ่งถ้าเอ่ยชื่อเชฟไปเนี่ย พิมเชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะเชฟคนนี้ก็คือ "เชฟป้อม" หนึ่งในเชฟกระทะเหล็กแห่งประเทศไทยนั่นเองค่า
ช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาพิมมีโอกาสได้ไปกินอาหารที่ร้านเชฟป้อมมาค่ะ เป็นอะไรที่แบบว่าตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นทั้งที่จะได้เจอกับเชฟป้อมตัวจริง (ปกติเคยเห็นแต่ในจอทีวี) และตื่นเต้นที่จะได้กินอาหารฝีมือเชฟป้อมนะคะ เพราะว่าถ้าพูดถึงเชฟกระทะเหล็กของไทยแล้วเนี่ย เชฟป้อมก็เป็นเชฟหนึ่งในดวงใจของพิมเลยค่ะ ^_^
ร้านเชฟป้อมชื่อเต็ม ๆ ว่า Chef Pom Chinese Cuisine by Todd ค่ะ เป็นร้านที่เชฟป้อมร่วมทุนกับคุณต๊อด เบียร์สิงห์นะคะ ตัวร้านตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 ในโครงการ J.S.P. ถ้าสมมติว่าเราขับรถเข้ามาในโครงการแล้ว ก็ให้ตรงเข้าไปด้านในสุด จะเห็นร้านเชฟป้อมอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลยค่ะ
สำหรับอาหารที่พิมได้ไปชิมมาก็จะเป็นอาหารในเซตตรุษจีน และก็พวกติ่มซำหลาย ๆ อย่างนะคะ ซึ่งปกติอาหารพวกนี้ก็จะมีขายที่ร้านอยู่แล้ว เพียงแต่พอถึงช่วงเทศกาล ทางร้านเค้าก็นำมาจัดเป็นเซตเพื่อให้สะดวกต่อการสั่งเท่านั้นเองค่ะ ว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่า ว่ามื้อนี้พิมได้ชิมอะไรไปบ้างนะคะ ^_^
เริ่มจากเมนูแรก "หยี่ซั้งโล้วเห" หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่าสลัดปลาดิบค่ะ
หยี่ซั้งโล้วเห... ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเมนูมงคลนะคะ วัตถุดิบหลักของเมนูนี้ทำมาจากปลาสามชนิด ก็คือ ปลาทูน่า ปลาแซลม่อน และปลากระพงขาวค่ะ เมนูนี้เนี่ยนิยมกินในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะชาวจีนเชื่อว่าปลาเป็นอาหารมงคล เมื่อเรากินปลาเข้าไปแล้วก็จะมีความโชคดีประมาณนั้นนะคะ ซึ่งเมนูนี้ทางร้านเค้าจะเสิร์ฟปลาสด ๆ ที่แล่เป็นชิ้นบาง ๆ มาพร้อมกับผักและเครื่องต่างๆ แล้วก็ซอสที่มีรสหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ ค่ะ เวลาจะกินก็เอาทุกอย่างมาเคล้ารวมกัน โดยการใช้ตะเกียบพุ้ยขึ้นในอากาศ แล้วก็ปล่อยให้ตกลงมา ซึ่งตอนที่ปล่อยให้ทุกอย่างตกลงมาในถาด คนที่ร่วมโต๊ะเดียวกันก็จะนิยมพูดพร้อมกันว่า "โล้วเห" แปลว่า ขอให้ทำมาค้าขึ้น ค้าขายดี ๆ นะคะ ^_^
สำหรับใครที่ไม่เคยทานเมนูนี้ พิมบอกเลยว่าต้องลอง เพราะรสชาติหวานอมเปรี้ยวและความสดชื่นที่เราได้รับจากผัก ปลา กับเครื่องต่าง ๆ ทำให้พอกินเข้าไปแล้วรู้สึกสดชื่นมาก เหมือนเปิดประสาทรับรู้รส ทำให้พร้อมที่จะกินเมนูถัดไปมากขึ้นค่ะ ^_^
ต่อมาจานที่ 2 ก็จะเป็น "โห่สีฝาดฉ่อย" นะคะ
โห่สีฝาดฉ่อยเนี่ยเป็นเมนูที่มีความหลากหลายของรสชาติมากค่ะ เริ่มจากที่อยู่ในฝาหอยเป็นของทอดสีทอง ๆ นั่นคือ นมชุบแป้งทอดที่ราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้านนะคะ เวลากินก็ให้กินพร้อม ๆ กับส่วนที่อยู่ตรงกลางที่เป็นหอยนางรมแห้งตุ๋นกับหมูสามชั้นย่าง สาหร่ายเส้นผมและเครื่องปรุงอื่น ๆ ค่ะ รสชาติก็จะนุ่มนวลสไตล์จีน มีความหอมของนมทอด มีความเปรี้ยวหวานสดชื่นจากสลัดที่อยู่ด้านล่างใต้นมทอด และก็มีความเข้ากันกับหอยนางรมตุ๋นมาก ๆ ความพิเศษของเมนูนี้ก็คือวัตถุดินแต่ละอย่างมีชื่อพ้องเป็นคำมงคล ความหมายคือ ถ้าได้ทานแล้วจะมีโชคลาภวาสนาที่ดีค่ะ
ต่อมาจานที่ 3 "ซุปกระเพาะปลาจักรพรรดิตำหรับแต้จิ๋ว"
ปกติแล้วเวลาเราไปกินซุปกระเพาะปลาตามร้านต่าง ๆ ส่วนใหญ่ที่เจอก็คือ ทางร้านเค้าจะใช้กระเพาะปลาทอดแล้วเอามาต้มอีกทีเน๊าะคะ แต่ว่าที่ร้านนี้ไม่ใช่ค่ะ ... ความพิเศษของเมนูนี้คือที่ร้านเค้าจะใช้กระเพาะปลาสดไซส์ใหญ่จัมโบ้ ที่ได้มาจากปลาทะเลน้ำลึกนะคะ เพราะนั้นนอกจากจะเป็นกระเพาะปลาที่หายากแล้ว ด้วยไซส์กระเพาะ ด้วยขนาดตัวปลา ด้วยอายุของปลา ก็ยังทำให้ตัวกระเพาะปลามีความหนึบอร่อยมากเป็นพิเศษค่ะ ในส่วนของตัวซุปที่ทำมาจากไก่ดำตุ๋นรวมกับถั่งเช่า โสมป่า โสมแดง แฮมจินหัว กว่า 10 ชั่วโมง ก็ยิ่งทำให้น้ำซุปมีรสชาติที่ซับซ้อน แล้วก็หอมอร่อยอย่างบอกไม่ถูกเลยเลยนะคะ ซึ่งจากส่วนผสมและวัตถุดิบต่าง ๆ ที่นำมาทำเมนูนี้ ชาวจีนก็เชื่อกันว่าจะช่วยส่งเสริมความมั่งคั่งและทำให้อายุยืนยาวค่ะ
** ในภาพทางร้านเอากระเพาะปลามาให้เราดูก่อนว่าเป็นไซส์ไหน จากนั้นจึงจะเอาไปจัดการแบ่งเป็นชิ้นพอคำให้เราอีกทีนะคะ
จานถัดมา บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในจานที่พิมชอบมากที่สุด กับ "เป็ดปักกิ่ง" และ "เมี่ยงเป็ด" ค่ะ
พิมเป็นคนชอบกินเป็ดปักกิ่งมาก ถ้าไปร้านไหนแล้วมีเป็ดปักกิ่ง พิมจะต้องสั่งมาลองก่อนเป็นอันดับแรก ๆ เลยนะคะ เป็ดปักกิ่งของเชฟป้อมเป็นเป็ดปักกิ่งที่หนังกรอบแล้วก็บางมาก หาไขมันไม่เจอเลยค่ะ เวลาจะทานก็หยิบหนังเป็ดวางลงบนแผ่นแป้งโรตีที่นึ่งมาร้อน ๆ หยิบผักดอง แตง พริก ต้นหอมวางลงไป แล้วก็ราดด้วยซอสหวานสูตรเฉพาะของเชฟป้อม ขอบอกเลยว่าสิบคำก็ไม่พอนะคะ เพราะอร่อยจริงจังมาก ๆ
ส่วนเนื้อเป็ด ทางเชฟเค้าก็เอาไปทำเป็นเมี่ยงเป็ดสไตล์จีน กินคู่กับข้าวตัง ผักสด ขิง มะนาว พริก ถั่วตัด แล้วก็ซอสสูตรเด็ดของที่ร้าน อร่อยจริงจังไม่แพ้กับหนังเป็ดปักกิ่งเลยค่ะ ซึ่งเป็ดเนี่ยถือว่าเป็นสัตว์มงคลอีกชนิดนึงของจีนที่บ่งบอกถึงความความมั่งมีนะคะ ^_^
ต่อมาจานที่ 5 เป็น "เป๋าฮื้อนึ่งซอสกระเทียม" นะคะ
ตามความเชื่อของคนจีนแล้ว เป๋าฮื้อถือว่าเป็นอัญมณีของมหาสมุทรค่ะ เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งมีมั่งคั่ง สำหรับเมนูนี้เชฟป้อมเค้าสั่งเป้าฮืัอเป็น ๆ มาจากออสเตรเลียนะคะ เอามาน๊อคน้ำแข็ง แล้วก็นึ่งให้สุกแบบพอดี ๆ (เท่าที่ถามมา เชฟป้อมบอกว่านึ่ง 3 นาที) แล้วราดด้วยซอสกระเทียม เวลาทานเข้าไปแต่ละคำก็จะสัมผัสได้ถึงความเด้ง นุ่ม หนึบหวานของเนื้อหอย แล้วก็รสชาติเค็มนำนิด ๆ อร่อยฟิน ๆ ไปค่ะ
ส่วนจานนี้ก็เป็นจานที่ 6 กับเมนู "ปลาเก๋าแดงนึ่งซีอิ้ว" นะคะ
ที่นี่เค้าเสิร์ฟปลานึ่งซีอิ๊วมาแบบสวยงามมาก ตอนแรกที่พิมเห็นก็แอบตะลึงนิด ๆ ว่าเชฟช่างคิด คือให้อารมณ์เหมือนปลาที่กำลังโบยบินอยู่ในท้องทะเลเลยค่ะ แล้วตอนที่เค้ายกมาเนี่ย เค้าจะแยกตัวซอสกับปลาออกจากกัน พอพนักงานเอาจานปลามาวางที่โต๊ะแล้ว เค้าก็จะทำการเทซีอิ๊วร้อน ๆ จากในการาดลงบนตัวปลาอีกที ซึ่งนอกจากกลิ่นที่หอมแล้ว ก็ยังสร้างความตื่นเต้นในการทานขึ้นมาอีกหลายเสต๊ปด้วยนะคะ ซึ่งปลาเป็นสัตว์ที่ว่ายออกทะเลไปเพื่อการเจริญเติบโต เพราะงั้นถ้าใครได้ทานเมนูนี้จึงเหมือนกับว่าชีวิตจะเจริญก้าวหน้า เติบโต และครอบครัวมั่งคั่งรุ่งเรืองค่ะ ^_^
ต่อมาจานที่ 7 ก็คือ "กุ้งบอสตันผัดหมี่ร่ำรวยกับโสมป่าและยอดซุป" นะคะ
จานนี้เนี่ยถือว่าเป็นทีเด็ดของที่ร้านอีกจานนึงเลยค่ะ เพราะว่าทางร้านเค้าจะใช้กุ้งลอบสเตอร์ไซส์ใหญ่แบบสด ๆ ที่ทั้งเนื้อแน่น หวาน หอม และนำ้ซุปที่เคี่ยวเป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมง เอามาปรุงรสให้เป็นเหมือนราดหน้าสไตล์จีน แล้วเสิร์ฟพร้อมกับบะหมี่ร้อยลี้ ที่มีความเหนียวนุ่มมากๆ แล้วก็ไม่ขาดง่าย เชื่อกันว่าถ้าใครได้ทานก็จะมีอายุยืนยาว มีวาสนาที่ยาวใกล และมีอนาคตที่สดใสรุ่งเรืองเหมือนเส้นบะหมี่นะคะ ^_^
ส่วนจานสุดท้ายในเมนูเซตตรุษจีน จะเป็นขนมหวานที่ชื่อว่า "ไอศกรีมรังนกกับกะทิสดสมุย ส้มเศรษฐี และไข่หงส์ทองคำ" ค่ะ
ก็จะประกอบไปด้วยไอศกรีมกะทิที่มีส่วนผสมของรังนก ซึ่งรังนกก็เปรียบเสมือนความขยันหมั่นเพียรสร้างฐานะจนมั่งคั่งนะคะ ส้มก็เหมือนตัวแทนของความโชคดีและทรัพย์สินล้นมือ ส่วนไข่หงส์ก็คือความทรัพสมบัติงอกเงยเหมือนงาค่ะ รสชาติของไอศกรีมก็จะหอมหวานกะทิ เมื่อกินคู่กับส้มที่มีรสอมเปรี้ยวนิด ๆ และไข่หงส์ที่มีความหอมของงา ความกรอบของแป้ง ก็เข้ากันได้ดีเลยค่ะ
ส่วนจานอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเซตเมนูตรุษจีนและพิมได้ทาน ก็มีหลากหลายอย่างอยู่เหมือนกันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นฮะเก๋าชาเขียววาซาบิ ขนมจีบกุ้ง เกี๊ยวหอยเชลล์ เกี๊ยวตับห่าน ก๋วเยตี๋ยวหลอดหมึกดำไส้กุ้งกรอบ ก๋วยเตี๋ยวหลอดหมูอบ เผือกทอดไส้ไหล และเผือกทอดแบบธรรมดาที่ทั้งรสชาติและรสสัมผัสไม่ธรรมดาเอาซะเลย
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจอยากลองไปชิมฝีมือเชฟป้อม ก็ไปกันได้เลยนะคะ เชฟประจำอยู่ในครัวทุกวันเลยค่ะ ^_^
ร้าน :: เชฟป้อมพระราม 3 (Chef Pom Chinese Cuisine by Tod)
พิกัด :: โครงการ J.S.P. ร้านอยู่ด้านในสุด ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
เบอร์โทร :: 02-294-3998 c]t 091-407-5678
วันเวลาเปิดปิด :: เปิดทุกวัน รอบมื้อกลางวัน 11.00 - 14.30 น. และมื้อเย็น 17.30 - 22.00 น.