ไดโดมอน .. เป็นร้านอาหารร้านนึงที่เมื่อก่อนถ้าใครชวนพิมไป พิมต้องร้อง.......ยี้.... พร้อมกับตอบว่า ขอนอนอยู่บ้านดีกว่า หรือขอกินข้าวไข่เจียวที่บ้านดีกว่า ถ้าต้องไปกินร้านนี้  แต่หลังจากมีครั้งนึงที่เหตุการณ์บังคับให้ต้องเข้าไปกิน  ปรากฎว่าทัศนคติที่พิมมีต่อไดโดมอนก็เปลี่ยนไป  ส่วนจะเป็นยังไง ... ก็ลองตามพิมมาดูกันค่ะ

NOTE :: ล่าสุดพิมไปกินมาเมื่อมีนา 2554  (สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ)  พบว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปมาก รายการบางรายการในเมนู เฃ่น เนื้อโคขุน ถูกตัดออก  บางรายการมีของประเภทเดียวกันแต่คุณภาพด้อยกว่าเยอะมาแทน บางรายการก็ถูกตัดทิ้งไปเลย  คุณภาพของน้ำจิ้มด้อยลง (ใสขึ้น จิ้มเนื้อไม่ค่อยติด) อาหารทอดก็เป็นของที่ทอดทิ้งค้างไว้จนสีเปลี่ยน แล้วเวลาจะเสริฟให้เราก็เอามาอุ่นอีกที  อีกทั้งวันที่ไปกิน ทางร้านเอากิมจิที่เสียแล้ว (เหนียวเป็นยางยืดๆ) มาเสริฟให้กิน และอีกหลาย ๆ อย่างที่เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง เพราะงั้นคงไม่ไปอีกแล้วค่ะร้านนี้

จะว่าไป ... พิมกินไดโดมอนมานานมากเลยนะคะ  ถ้าจำไม่ผิดเนี่ย ก็ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ ป.ตรีเลยค่ะ  (บ่งบอกอายุสุดๆ) ก็กินมาเรื่อยๆ ๆๆๆๆ  ไม่ได้มีปัญหาอะไร .... จนกระทั่งมีช่วงนึง ประมาณปี 2546 หรือ 2547 เนี่ยแหละค่ะ  พิมมีความรู้สึกว่าไดโดมอนเริ่มเปลี่ยนไป ในทางเลวร้ายลง (อย่างมาก-ในความรู้สึกพิมตอนนั้น)  ทั้งอาหารที่ด้อยคุณภาพลง   มีแต่ลูกชิ้น ไส้กรอก หมูยอราคาถูกๆ  (ที่ขายตามตลาดสด)  เนื้อสัตว์ที่เป็นเนื้อสัตว์จริง ๆ หาแทบจะไม่ได้   ทั้งการบริการที่แทบจะต้องอ้อนวอนขอ  พนักงานก็สุดแสนจะหน้าบึ้ง  ... ทำให้พิมเลิกไปไดโดมอนโดยปริยายเลยค่ะ   และหลังจากนั้นถ้าใครชวนไปไดโดมอนเมื่อไหร่  พิมจะต้องร้อง......ยี้ แล้วก็บอกว่าขอกินข้าวไข่เจียวอยู่บ้านดีกว่า

จนกระทั่งเมื่อสักต้นปีที่แล้วได้ .... คุณสามีพิม เค้าชวนพิมไปหาอะไรกินที่เดอะมอลล์ บางกะปินี่แหละ  แล้ววันนั้นร้านอะไรๆ ก็คิวยาวหมดเลยค่ะ  บางร้านต้องรอกันเป็น ชม. สองชม.  พิมกับคุณสามีซึ่งตอนนั้นหิวหน้ามึดแล้วค่ะ  ก็เลยตัดสินใจว่า เอาฟร่ะ ... เดินผ่านร้านไหน แล้วร้านนั้นว่าง ก็เข้าร้านนั้นแหละ ไม่เลือกอีกแล้ว ....... ปรากฎว่าตอนนั้นก็มีแต่ไดโดมอนนี่แหละค่ะที่ว่าง  ... ปรากฎว่าครั้งนั้นแหละค่ะ ที่ทำให้ทัศนคติที่พิมมีต่อไดโดมอนเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น  และเมื่อต่อมามีใครชวนพิมไปไดโดมอน พิมก็ไม่ร้อง ........... ยี้ ... อีกแล้วค่ะ ^^

แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันนึงค่ะ ... ที่พิมกับคุณสามีและก็เพื่อนคุณสามี อยากกินอะไรที่มันปิ้งๆ ย่าง ๆ แบบง่ายๆ  สบาย ๆ ไม่ต้องเรื่องมาก (ราคาประหยัดหน่อยก็ดี พักนี้ต้อง save) ...  เราก็เลยไปกินที่ ... ไดโดมอน...กันค่ะ

"ไดโดมอน" ... สาขาที่พิมไปนี่ อยู่ที่เดอะมอลล์บางกะปินะคะ  เมื่อไปถึงหน้าร้าน น้องพนักงานในชุดนักศึกษา 2 คน ก็รีบไหว้พิมกับคุณสามีทันที  .. พิมเองรับไหว้น้องเค้าแทบไม่ทันเลยค่ะ

แล้วหลังจากนั้นน้องเค้าก็พาเรา 3 คนไปนั่งที่โต๊ะค่ะ  (ก็เลือกเอาตามใจชอบอ่ะนะคะ ว่างโต๊ะไหนก็ไปนั่งเลย) ..... พอนั่งปุ๊บ น้องเค้าถามเราค่ะว่าจะกินแบบไหน บุฟเฟท์หรือธรรมดา  พอเราบอกว่าเอาบุฟเฟท์ดีกว่า น้อองเค้าก็หยิบเมนูมาให้เราดูค่ะว่ามีอะไรที่เราสั่งได้บ้าง  ... ซึ่งตามในภาพก็สั่งได้ทุกอย่างค่ะ ยกเว้น หมูไซบีเรีย กับ ปลายากิเท่านั้นที่ยกเลิกไป (คาดว่าขายไม่ดีนะ)

ส่วนเมนูอีกหน้านึง .. จะเป็นแบบไม่บุฟเฟท์ค่ะ คืออยากกินอะไรก็สั่งมาเฉพาะที่อยากกิน  ราคาก็ว่ากันไปตามในภาพเลยค่ะ  มีทั้งแบบจานเดี่ยวๆ และก็แบบมาเป็นชุด ชอบอันไหน สั่งอันนั้นค่ะ  และก็มีราคาของพวกเครื่องดื่มอยู่ด้วย

อ้อๆ ... ลืมไปค่ะ  ในส่วนของบุฟเฟท์ มีเมนูใหม่ ๆ เพิ่มมาอีก 4 เมนูด้วยนะคะ ก็ตามภาพด้านล่างเลยค่ะ  (ถ้าพิมจำไม่ผิด .. เดิมพวกนี้ไม่อยู่ในรายการบุฟเฟท์ ต้องสั่งแยกมา)

พอเราดูรายการอาหารในเมนูเสร็จ  เราก็มาเขียนลงในใบออเดอร์ค่ะว่า เราจะสั่งอะไรบ้าง ... สมมติอยากสั่งเนื้อโคขุน 5 จาน  (จานนึง ...ปริมาณจะน้อยกว่าที่เห็นในภาพประมาณ 1/3  - 2/3) ... ก็เขียนเลข 5 ต่อท้ายในบรรทัดที่เขียนว่าเนื้อโคนขุน ..... อ่ะค่ะ .... และพอเขียนเสร็จ เราก็เอาใบ ยื่นให้น้องพนักงานเค้าไป  เพื่อให้น้องเค้าไปจัดชุดอาหารมาให้เรา ตามที่เราเขียนน่ะค่ะ

ระหว่างน้องเค้าไปจัดชุดอาหาร ... น้องพนักงานอีกคนก็เอาเตากับกระทะมาตั้งในเรา  และก็เติมน้ำซุปให้ด้วยค่ะ   (ตะแกรงย่าง เห็นดำๆ แบบนั้น แต่ลองเอาทิชชู่เช็ดแล้ว ก็ไม่มีคราบอะไรติดมา นอกจากคราบน้ำมันที่เค้าทามาบางๆ อ่ะค่ะ)

และน้องพนักงานอีกคน ...  ก็มาเติมน้ำให้เรา ตามที่เราสั่งค่ะ  ... น้ำอัดลมธรรมดาแก้วละ 25 บ. แต่ถ้ารีฟิล 39 บาท ส่วนน้ำเปล่าขวดละ 20- น้ำแข็งถังละ 15 ค่ะ ... เย็นเจี๊ยบบบ ชื่นใจ ^__^

ระหว่างรออาหาร ... เราก็มาเตรียมอุปกรณ์และชุดเครื่องจิ้มกัน .... นี่เลยค่ะหน้าตาของน้ำจิ้มที่ทางร้านเค้าเตรียมไว้ให้เรา  มีน้ำจิ้มสุกี้ (รสเปรี้ยวนำ)  กับน้ำจิ้มแบบย่างๆ   (รสหวานๆ เค็มๆ) ..... เค้าจะใส่ขวดพลาสติคและวางไว้บนโต๊ะทุกโต๊ะ  ใครอยากกินแค่ไหน ก็บีบใส่ถ้วยเอาตามใจชอบค่ะ

แล้วก็มีพริก-กระเทียม-มะนาว ด้วยนะคะ  เผื่อใครอยากเติมเปรี้ยว เผ็ดอีก  (ซึ่งแน่นอนว่าพิมเติมอยู่แล้วววว ^^) ...... แต่ขอตินิดนึงว่า พริก ... บดหยาบมากๆ  น่าจะบดให้ละเอียดกว่านี้สักนิดนึง   .. จะดีกว่านี้นะคะ

และก็นี่ค่ะ ... หน้าตาน้ำจิ้มของพิม  ชอบรสจัดๆ  ใส่พริกกระเทียมไปอย่างละ 2 ชุดเลย ... ฮ่ะๆ

และนอกจากน้ำจิ้ม ก็มีถ้วย-ช้อน-จาน-ตะเกียบนี่ล่ะค่ะ ที่เราต้องเตรียมให้พร้อม .... พิมจำได้ว่าเมื่อก่อนโน้นสมัยไดโดมอนตกต่ำ (ขอใช้คำนี้นะคะ) ... ถ้วยจานชามพวกนี้  ล้างกันไม่สะอาดเลยค่ะ จับมามีครบมันๆ หลงเหลืออยู่เสมอ  แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแบบนั้นแล้วค่ะ

และหลังจากที่เราสั่งอาหารไปไม่นาน .... น้องพนักงานเค้าก็ยกชุดอาหารที่เราสั่งไปมาให้ค่ะ ........ อันนี้ชุดแรก เบาะๆ นะคะ ^__^  ..... (แต่แหมมม ภาชนะที่ใส่มา แอบเลอะข้าง ๆ มากไปหน่อยนะเนี่ย เสียชื่อที่อุตส่าห์ชมนะ ขอบอกๆ)

ชุดแรกที่พิมสั่งไป ก็จะมีพวกเนื้อวัว  เนื้อหมู เนื้อไก่  และก็ผักต่างๆ ล่ะค่ะ .... กระจายออกมาแล้ว หน้าตาจะประมาณนี้

นี่ค่ะ .... เนื้อโคขุน  กับ ตับหมู ...... เนื้อโคขุนเนี่ย ตอนพิมมากินแรกๆ พิมมีความรู้สึกว่ามันอร่อยกว่านี้นะคะ อย่างน้อยเนื้อไม่ก็กระด้าง นุ่มลิ้น และค่อนข้างมีมันแทรกบ้างเป็นระยะ ๆ แต่ว่ามาคราวนี้  เนื้อไม่อร่อยเลยค่ะ  ย่างออกมา ไม่ว่าจะใช้ไฟแรงไฟอ่อน เนื้อแข็ง กินแล้วไม่สบายลิ้นเลย >_<"  ส่วนตับหมู ก็ปกตินะคะ นุ่มดี

ส่วนนี่ก็  เห็ดหูหนู .. และเห็ดเข็มทองค่ะ .... ก็โอเค สดใช้ได้นะคะ และน่าจะล้างมาอย่างดี เพราะว่าพลิกซ้ายขวาดูแล้ว ไม่มีสิ่งสกปรกอะไรติดมาค่ะ ..... จริง ๆ พิมสั่งผักอย่างอื่นด้วยนะคะ พวกกะหล่ำปลี ผักกาดขาว แต่สภาพไม่น่าถ่ายรูป  ก็เลยไม่ได้ถ่ายมาให้ดูอ่ะค่ะ

แล้วก็มี สาหร่ายทรงเครื่อง กับ เบคอนสติ๊ก ...... เจ้าเบคอนสติ๊กเนี่ย แม้จะเป็นเมนูใหม่แต่พิมว่า คล้ายกับ หมูไซบีเรียมากเลยค่ะ  แถมไม่รู้เป็นเบคอนได้ยังไง ไม่มีกลิ่นของเบคอนสักนิดเลยค่ะ T__T   .. ส่วนสาหร่ายทรงเครื่องก็ปกติค่ะ

ต่อมาเป็น เต้าหู้ปลากับบุกแผ่นนะคะ ... เต้าหู้ปลาก็นุ่มดีค่ะ  หอมดี  ส่วนบุกแผ่นก็จืดๆ ดึ๋งๆ ดีตามปกติ

ไก่สด ... กับไก่พริกไทยดำ  ... อันนี้พิมไม่ได้กินเลยค่ะ  ไม่รูู้ว่าอร่อยไหม  แต่อย่างน้อยมันก็ไม่มีค่อยมี น่าจะกินได้สะดวกปากดี

อันนี้ก็ ... สามชั้นสไลด์กับหมูสไลด์นะคะ ... สามชั้นมันน้อยดีค่ะ  ส่วนหมูสไลด์  พิมว่าเค้าสไลด์บางมากเกินไป จนทำให้กินแล้ว มันไม่อร่อย .. น่าจะหนากว่านี้สักนิด จะดีนะคะ

ส่วนหมูทรงเครื่อง ... ก็โอเคอยู่ค่ะ  แต่ว่าไม่ถูกปากพิม  พิมไม่ค่อยชอบแบบนี้  ก็เลยสั่งมากินถาดเดียว  (แค่ถาดเดียวก็ยังจะไม่หมดเลย)

และนี่ก็ กิมจิค่ะ ... คุณสามีของกิมจิของที่ไดโดมอนมากๆ สั่งมาทีละ 3 ทีละ 4 เค้าบอกว่ากินแอ้มกับเนื้อสัตว์ย่าง แล้วมันไม่เลี่ยนดี  ยิ่งถ้าได้แบบแช่เย็นจัดๆ  มา ยิ่งจะช่วยชูรสเนื้อย่างให้อร่อยมากขึ้นค่ะ  (แต่วันนี้ไม่ค่อยเย็นเลย) .... ส่วนความรู้สึกพิม ก็ดีค่ะ ผักกรอบดี  รสชาติก็เปรี้ยวๆ เผ็ด ๆ ดี .... รู้สึกดีว่ากิมจิของชาบูชิ และซูกิชิ (ถ้านับแค่ 3 ร้านนี้นะคะ)

ส่วนนี่ก็ .. ข้าวผัดกระเทียมค่ะ ..... ซึ่งเมื่อก่อนพิมเคยคิดว่าข้าวผัดกระเทียมของที่ไดโดมอนนี่มันอร่อยนะ  แต่มาระยะหลังๆ บางวันก็ข้าวแฉะ  ติดกันเป็นก้อน ...  บางวัน (อย่างวันนี้) ก็ข้าวแข็งมาก เหมือนหุงยังไม่สุก แล้วเอามาผัด  บางวันก็จืดเป็นส่วนๆ  บางวันก็เห็นมีกระเทียมบ้าง บางวันก็แทบหาไม่เจอเลย (โดยเฉพาะในช่วงหน้ากระเทียมแพงแบบนี้) ... คือ สรุป เหมือนไม่ค่อยมีมาตรฐาน ... และวันนี้ก็ผิดหวังอ่ะค่ะ >__<"

เมื่อเสบียงมาครบ .... เราก็มาเริ่มลงมือย่างกันเลยค่ะ  .... ในภาพที่เห็นก็จะเป็นเบคอนสติ๋ก กับไก่สดนะคะ  ... ซึ่งตอนแรกที่เริ่มย่าง ไฟมันยังแรงมาก วางเนื้อสัตว์ลงไปแป๊บเดียว แอบเกรียมเลยค่ะ  ต้องคอยพลิกกลับไปกลับมาบ่อย ๆ ถึงจะดี ^^

ป.ล. เนื้อสัตว์ที่ถูกย่างจนเกรียม  เราไม่ควรกินนะคะ ส่วนสาเหตุว่าทำไมไม่ควรกิน อ่านรายละเอียดได้ใน หน้านี้ ด้านล่างๆ เลยค่ะ

นี่ค่ะ .... ถ้าย่างดีๆ  มือไวๆ หน่อย ย่างออกมาแล้วจะหน้ากินแบบนี้ ...... เอาโปะลงบนข้าว กิมจิวางทับหน่อย  ตามด้วยน้ำจิ้มที่มีพริกกระเทียมเยอะๆ  ....... อ๊ามมมม อร่อยมากเลยค่า  (ถ้าไม่นับว่าเบคอนสติ๊ก มันไม่ค่อยอร่อยนะคะ >_<")

แบบลวกๆ ต้มๆ ก็มีนะคะ ... ทั้งหมูพันสาหร่าย  เต้าหู้ปลา และก็ผักต่างๆ  อ่ะค่ะ ... (เห็ดเข็มทองนี่ ลวกพอให้สุกหน่อย ๆ แล้วเอามากิน อื๊มมมม มันกรุบ ๆ หนึบๆ อร่อยมากอีกเหมือนกันล่ะค่ะ)

ว่าแล้ว ...... ก็ย่างและก็ต้มกันต่อปายยยยยยยยยยยยยย  ... ในภาพนี่เนื้อโค (ขุน) กับ ไก่สด นะคะ

และแล้ว ... เมื่อเวลาผ่านไป ประมาณ 20 นาที ชุดที่ 1 ก็หมดไปค่ะ

ระหว่างรออาหารชุดที่ 2 และ 3 ที่เราเพิ่งสั่งติดต่อกันไปเมื่อสักครู่นี้ .... เราก็ทำการพักท้องสักแป๊บ ด้วยการเงยหน้าดูบรรยากาศภายในร้านค่ะ ..... อื๊มมม วันนี้ไดโดมอนคนเยอะจริง ๆ นะคะ ปกติมาทีไร กลางวันมีมากสุดแค่ 4-5 โต๊ะ  แต่วันนี้เต็มแทบจะทุกโต๊ะเลยค่ะ   สงสัยเพราะม๊อบเสื้อแดง .... ^^"

ระหว่างรอ... ก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อยค่ะ ถ่ายไปถ่ายมา ไม่รู้จะถ่ายอะไรดีแหละ หันมาถ่ายหน้าน้องที่ไปกินด้วยกันดีกว่า  .... แต่น้องเราทำหน้าแบบว่า ... เจ๊ๆ  หยุดถ่ายผมซะทีได้ไหม ... ฮ่ะๆ ^__^

จากนั้นไม่นาน ... อาหารชุดที่ 2 และ 3 ก็มาเสริฟถึงที่โต๊ะล่ะค่ะ  .. แต่พิมไม่เอามาเรียงให้ดูล่ะนะคะ แบบว่าก็เหมือนๆ ชุดแรกเลยอ่ะ

พออาหารมา .. เราก็จัดการย่างกันต่อ  แต่อ้อๆ .......... น้องพนักงานเค้าใจดีค่ะ มาเปลี่ยนตะแกรงย่างให้ก่อน เพราะอันที่ย่างตะกี้ มันดำแหละ ......และก็ให้พนักงานเค้าช่วยปรับเรื่องไฟให้ด้วย เพราะพอย่างมานาน ๆ ถ่านไฟมันก็เริ่มโรยราซะแล้วค่ะ  กว่าจะสุก  เนื้อสัตว์ก็แห้งแข็งไปซะก่อนแล้ว  กินไม่อร่อยเลย

พอน้องเค้าเปลี่ยนตะแกรง+ปรับไฟให้เรียบร้อย เราก็จัดการลงมือย่างกันต่อทันทีเลยค่ะ  เริ่มต้นด้วยเบคอนสติ๊กอีกล่ะ  (ไหนใครว่าจะไม่สั่งแล้วววววเนี่ย)

ตามด้วยตับ  หมูสไดล์ เนื้อวัว  หมูสามชั้นสไลด์ ... สลับๆ กันไปค่ะ

และเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ ชม. กว่าๆ ... เราทุกคนก็อิ่มกันท้องแทบแตกแล้วค่ะ     แต่ว่า......พิมสั่งเผื่อคนอื่นเค้ามาหลายจาน โดยที่เค้าไม่ได้บอกพิม >__<"  พิมก็เลยต้องพยายามรับผิดชอบจานที่ยังเหลืออยู่ด้วยอ่ะค่ะ T___T    ดีว่ามันเหลือไม่เยอะน๊า  เนื้อประมาณ 5 ชิ้นได้อ่ะ ... ถ้าเหลือเยอะกว่านี้ สงสัยพิมต้องกลิ้งออกจากร้านแน่ ๆ ง่ะ

ป.ล. จริง ๆ เค้าให้เวลา 2 ชม. กว่าๆ นะคะ แต่เราทั้งสาม มิสามารถจะกินไปได้จนถึงเวลานั้นหรอกอ่ะค่ะ >_<"

แล้วในช่วงระหว่างกินตอนท้ายๆ เนื่องจากมันกินจะไม่ค่อยลงแล้ว  (ยังเหลือเนื้ออีก 2 ชิ้น) ....   พิมก็เลยหาเรื่องทำอย่างอื่นไปด้วย ก็ถ่ายรูปคนข้างๆ นี่แหละค่ะ   แต่ปรากฎว่าเนื่องจากหัวฟูมากๆ  ผมเลยบังหน้าซะมิด  มิอาจจะถ่ายหน้าตามาให้เห็นได้ค่ะ ... ^^

แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ... ประมาณว่ากินไป ถ่ายรูปไป .....  พิมก็กินของคาวทุกอย่างเสร็จหมดเรียบร้อยค่ะ  ถึงตอนนี้คุณสามีบอกให้เรียกพนักงานมาเช็คบิลได้แล้ว เพราะเราจะต้องไปทำธุระที่อื่นอีก  แต่ปรากฎว่ามันเป็นธรรมเนียมของพิมค่ะ กินของคาวเสร็จ ต้องตบท้ายด้วยของหวาน เพราะนั้นขอตบท้ายด้วยไอศกรีมสัก 2 ถ้วยนะคะ (ถ้วยละ 1 ลูกเล็ก)  ก็มีรสอะไรสักอย่าง (ที่ลืมไปแล้ว) ใส่โอริโอ้บด ๆ อ่ะค่ะ ... ก็อร่อยดี หวาน หอม มันค่ะ

ส่วนอีกถ้วยที่พิมหยิบมากินก็เป็น สตรอเบอรี่ค่ะ  ... จริง ๆ อันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะหยิบมากินค่ะ แต่สีมันสวยดี เลยอดใจไว้ไม่ได้  .. ซึ่งพอหยิบมาก็ไม่ผิดหวังเลยค่ะ  ขอบอกว่าไอศกรีมรสนี้อร่อยมาก หวานๆ เปรี้ยวๆ  กินแล้วสดชื่นดีจังเลยค่ะ / ส่วนรสอื่นๆ พิมไม่ได้หยิบมากิน (เพราะกินไม่ไหวแล้ว) แต่ที่เคยลอง อย่างมะนาวก็เปรี้ยวกลมหล่อมดีค่ะ ช๊อคโกแลตก็หวานหอมดี ... รสอื่นๆ ก็โอเค เรียกว่าหยิบมากินได้ทุกรส ไม่ผิดหวังค่ะ

กินเสร็จเรียบร้อยทั้งคาวหวาน ... ก็จัดการจ่ายเงิน  ซึ่งหลังจากใช้บัตรลดแล้ว ปรากฎว่าก็เฉลี่ยจ่ายกันคนละ 217 บาทค่ะ ..... ก็เป็นอันว่าการไปกินอาหารปิ้งๆ ย่างๆ ที่ไดโดมอนวันนี้จบลงด้วยความเรียบร้อยนะคะ  .... ก็อิ่มดีค่ะ  แต่สงสัยว่าอีกนาน (น่าจะสัก 4 เดือน)  ค่อยมาอีกรอบ  เพราะว่าบ่อย ๆ ไม่ไหว กินเนื้อสัตว์มากไป ไม่ดีต่อร่างกายพิมค่ะ >_<"

แล้วเจอกันใหม่อีกที ... ร้านหน้านะคะ ^____^

ผลสรุป .. วัดเอาจากความรู้สึกพิมนะคะ

ความอร่อย :: เมื่อก่อนให้ 2 เต็ม 10 ... เดี๋ยวนี้ให้ 7 เต็ม 10  (เมื่อเทียบกับราคา และที่ตั้งร้าน) ..... พัฒนาขึ้นจากเมื่อช่วงตกต่ำเยอะเลยค่ะ

คุณภาพอาหาร :: เป็นไปตามราคา  โดยรวมก็ใช้ได้ค่ะ  ไก่ไม่ค่อยมีมัน สามชั้นสไลด์มันก็น้อย  เนื้อสัตว์อื่นๆ  ก็ไม่มีกลิ่นหรือรสสัมผัสแปลกปลอม สีก็ยังดูสวยสดอยู่ ... ดีค่ะ  แต่วันนี้เนื้อวัวค่อนข้างเหนียวไปหน่อย ไม่นุ่มเหมือนคราวก่อน ๆ  แล้วก็ค่อนข้างกระด้าง   คิดว่าน่าจะเป็นคนละส่วนกับที่เอามาขายในครั้งอื่นๆ นะคะ

ชนิดอาหาร :: มีจำนวนให้เลือกน้อยไป  บางครั้งเข้าไปนั่งแล้ว เริ่มสั่งแล้ว ถึงได้รู้ว่าอันโน่นหมด อันนี่หมด เคยเจอแย่สุด ก็หมดไปซะ 5 อย่างค่ะ  แต่วันนี้เจอหมด+ยกเลิกไปแค่ 2 อย่าง  แต่ก็ยังดีกว่าหลายๆ ทีที่ผ่านมา

ราคา :: 199 บาท / น้ำอัดลมรีฟิล 39 บาท / น้ำเปล่าขวดละ 20 / น้ำแข็งถังละ 15 ..... ไม่บวก vat ไม่บวก Service Charge  ... ก็ตกประมาณคนละ 240 บาท  ถ้าใช้บัตรลดของไดโดมอน จะลดได้อีกประมาณคนละ 20 ก็เหลือราวๆ 220 บาท

ความสะอาด :: ดูจากภาชนะที่ใส่อาหารมา ก็ไม่มีคราบสกปรก ไม่มีเศษอาหารติดมา ไม่ลื่น ไม่มัน  ไม่มีรอยมือจับค่ะ  / แต่ภาชนะที่ใส่เนื้อสัตว์มา แอบมอมพอประมาณเลยนะคะ
การบริการ :: พนักงานค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับปริมาณลูกค้า แต่ก็ยิ้มแย้มแจ่มใสดีประมาณนึง .. ไม่มีอะไรให้น่าขัดใจค่ะ ^^

สรุป ........ ก็ถ้าให้ไปอีก ก็ไปนะคะ แต่ว่าคงจะนาน ๆ ที ... เพราะกินแต่เนื้อสัตว์มากๆ ไม่ดีต่อสุขภาพจ้า

.................................

...... บทความนี้เขียนไว้ตั้งแต่วันที่ 13 เดือนมีนาคม 2553 นะคะ ......
ณ ปัจจุบันครั้งสุดท้ายที่ไปกินไดโดมอน สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ 12 เมษายน 2554 พบว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปมากในทางแย่ลง
ทั้งเนื้อที่ไม่ใช่เนื้อโคขุนแล้ว แต่เป็นเนื้อวัวอะไรไม่รู้   ทั้งรสชาติและหน้าตาของอาหารที่แย่ลง  และน้ำจิ้มที่ใสมากขึ้น
ก็คิดว่า ... คงจะไม่ไปอีกแล้วแหละค่ะ >_<"  แต่ถ้าใครอยากลอง  ก็ลองดูนะคะ