วันนี้พิมขอมารีวิวอาหารบุฟเฟท์ที่สั่งมาจัดในงานทำบุญครบรอบ 7 วันงานศพของตาพิมเมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมานะคะ (นานหน่อย ว่าจะรีวิวแล้วก็ลืมจ้า) .. แบบว่าอาหารธรรมดา ๆ แต่หน้าตาน่ากินทั้งนั้นเลยค่ะ
สมัยตอนพิมยังเด็ก ๆ ... ครอบครัวพิมมีกันแค่ ยาย (แม่ของแม่) แม่พิม พิม และก็น้องชายคนโต 4 คนเท่านั้นค่ะ (ตาแท้ ๆ ของพิมเสียไปตั้งแต่พิมยังเด็กมาก)
ด้วยความที่แม่พิมต้องทำงาน เพื่อเลี้ยงคนทั้งครอบครัว (4 คน) แม่พิมก็เลยต้องทำงานหนักถึงหนักมาก เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันของแม่ หมดไปกับการทำงานแล้วก็ทำงาน พิมกับน้องชายก็ เลยถูกฝากฝังเอาไว้ให้อยู่กับบ้านข้าง ๆ ซึ่งเป็นบ้านของตากับยาย และก็บรรดาน้า ๆ น้าสาว น้าชาย ซึ่งตาที่บ้านหลังนี้ เป็นน้องชายของยายแท้ ๆ ของพิม ดังนั้นแล้ว พิมกับน้องชายก็เลยเสมือนเป็นหลานแท้ ๆ คนนึงของตาด้วยค่ะ พิมและน้องชาย จึงมีความรักและรู้สึกผูกพันกับตาและยายที่บ้านนี้ เสมือนเป็นตากับยาแท้ ๆ ของตัวเองเลยค่ะ
.
.
ในเดือนเกือบสองเดือนที่ผ่านมานี่ พิมค่อนข้างวุ่น ๆ เนื่องจากการงานและภาระทางสังคม ทำให้แทบไม่ได้อยู่บ้านเลยค่ะ จนมีวันนึง น้องชายโทรมาบอกว่า ตาล้มหัวฟาดพื้นนะ น๊อคไป ตอนนี้ไม่ได้สติ น้าสาว (อยู่บ้านเดียวกับตาและยาย) กำลังพาตาไปส่ง รพ. ... พิมก็โอเค ๆ จะรีบทำงานให้เสร็จ แล้วจะรีบกลับไป แล้วหลังจากวันนั้นอีกประมาณสอง วัน น้องชายก็โทรบอกพิมว่า ตาไม่เป็นอะไรแล้วนะ รพ. ให้กลับบ้านได้ ก็ โอเคค่ะ พิมก็คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่ในใจตอนนั้นก็เป็นห่วง และคิดถึงตามากมาย
ช่วงประมาณวันที่ 12 ... (หลังจากน้องชายโทรไปหาได้ไม่กี่วัน) พอทำงานเสร็จ พิมก็รีบกลับบ้านกรุงเทพฯค่ะ กะว่า กลับถึงบ้านเสร็จ วันรุ่งขึ้นจะไปหาตาสักหน่อย .... แต่พอวันรุ่งขึ้น และอีกวันก็วุ่น ๆ กับเรื่องต่าง ๆ หลายเรื่องค่ะ ก็เลยผลัดไปว่า พรุ่งนี้ (15) ค่อยไปหาตาล่ะกัน ตาไม่ค่อยเป็นอะไรแล้วนี่นา
แต่ปรากฎว่าช่วงเย็น วันที่ 14 .... ขณะกำลังรีบทำงานอยู่ น้องชายก็วิ่งมาบอกว่า น้าสาวโทรมาบอกว่า ...... ตาเสียแล้วนะ พิมได้ยิน ... บอกตามตรงว่า นึกอะไรไม่ออกเลยค่ะ พูดอะไรไม่ถูกเลย ไม่รู้จะเอ่ยอะไรกับน้องดี ตอนนั้นน้ำหูน้ำตามันไหลเปรอะหน้าตาไปหมด พอเพื่อนมาถามว่าเป็นอะไรไป ก็ได้แต่ร้องไห้โฮเลยค่ะ
.
.
และหลังจากวันนั้น .. วันที่ตาเสีย จนถึงวันนี้ก็ 11 วันแล้วค่ะ ศพของตาถูกเผาไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแม้ศพของตาจะถูกเผามอดไหม้ไปแล้ว แต่ความรัก ความเมตตาของตาที่มีต่อพิมกับน้อง ก็ยังคงอยู่ในใจพิมไปตราบนานเท่านานค่ะ
หลังจากเริ่มทำใจได้ ... พิมก็เลยอยากจะมารีวิวอาหารในงานทำบุญครบรอบ 7 วันที่ตาเสียให้ชมค่ะ เป็นอาหารบุฟเฟท์ ที่สั่งเค้าทำ (ไม่ได้ทำเอง เพราะว่าไม่สะดวกค่ะ) ส่วนว่าพิมสั่งจากที่ไหน มีอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ รสชาติเป็นไง บริการดีไหม .. เดี๋ยวดูรายละเอียดในด้านล่างนะคะ
วันนี้อาหาร..... ที่สั่งมาเนี่ย เป็นอาหารยี่ห้อ "โสรัจ จรรญาลักษี" ค่ะ ... พิมไม่แน่ใจว่า ชื่อโสรัจ เป็นชื่อเจ้าของหรือเปล่านะคะ เพราะว่าคนติดต่อคือน้าสาวพิม ไม่ใช่พิมน่ะค่ะ โดยคนที่แนะนำมาก็คือญาติ ๆ กันอีกที ..... ก็สั่งมาทั้งอาหารเย็นสำหรับเลี้ยงแขกที่มางานในช่วงสวด 5 วัน กับอาหารวันทำบุญ 7 วันค่ะ
สำหรับอาหารเลี้ยงแขก 5 วัน พิมจำไม่ได้ว่าวันไหนมีอะไรบ้าง แต่รวม ๆ ก็คือ มีกระเพาะปลา ข้าวต้มปลากะพง (2 วัน) ก๋วยจั๊บ และก็เกี๊ยมอี๋อ่ะค่ะ (แต่พิมไม่ได้ถ่ายรูปมาสักอย่างเลย เพราะว่าวันสวดศพ ไม่ได้เอากล้องไปสักวัน) รสชาติอาหารโดยรวม .... ใช้ได้ค่ะ แต่บางอย่างเช่นกระเพาะปลากับก๋วยจั๊บจะออกรสหวานนำ ถ้าคนชอบอาหารที่มีรสหวานนำ ก็โอเคเลยค่ะ ส่วนข้าวต้มปลากะพง แขกที่มางานส่วนใหญ่บอกว่าอร่อยมาก น้าชายพิมเลยขอสั่งข้าวต้มปลากะพงอีกวันนึงน่ะค่ะ
เงื่อนไขการสั่ง (สำหรับอาหารเลี้ยงแขกในงานศพ แบบถ้วยเดียว) :: ขั้นต่ำ 4 พันบาท (ถ้าจำไม่ผิด จะประมาณ 70-80 ที่)
ส่วนอาหารที่สั่งมาในงานทำบุญ 7 วัน เป็นอาหารบุฟเฟ่ท์ค่ะ มีอาหารคาวทั้งหมด 6 อย่าง และก็อาหารหวานหรือผลไม้ (เลือกเอาอย่างใดอย่างนึง) อีก 1 อย่าง (ซึ่งที่บ้านพิมเลือกอาหารหวาน เพราะว่าผลไม้ เอาจากที่สวนไปเองค่ะ) ซึ่งอาหารคาวเนี่ย .... เค้าจะมีหมวดมาให้เราเลือกทั้งหมด 7 หมวดด้วยกัน ก็คือ หมวดแกง - เครื่องเคียง - ผัด - อบและทอด - น้ำพริกและสลัด - ซุปและต้มจืด - และก็หมวดยำ (ไปทางอาหารอิสาน) โดยเราสามารถจะเลือกได้หมวดละ 1 อย่างก็ได้ (ไม่เกิน 6 อย่าง) หรือจะเลือกชนิดที่ชอบ โดยซ้ำหมวดกันก็ได้เหมือนกันค่ะ
ซึ่งที่เลือกไปก็คือ แกงส้มกุ้งชะอมทอด - ซุปเยื่อไผ่ - น้ำพริกลงเรือ - ผัดผักรวมมิตร - หมูเค็ม และก็ ยำรวมมิตร ค่ะ
เงื่อนไขในการสั่งอาหารบุฟเฟท์ของทาง โสรัสก็คือ ขั้นต่ำ 50 หัว ๆ ละ 150 บาทค่ะ แต่ถ้าสั่งมากกว่า 100 หัว ก็ราคาจะลดไปอีกหัวละ 10 บาท (รายละเอียดตามภาพด้านบนนะคะ) ... โดยถ้า เราสั่งแบบบุฟเฟท์เนี่ย เค้าก็จะมีโต๊ะเป็นแบบไลน์ในบุฟเฟท์มาให้ มีจาน ชาม ถ้วย ช้อน ทิชชู่ และก็โต๊ะเก้าอี้มาให้พร้อมเลยค่ะ เราไม่ต้องจัดหาอะไรเพิ่มเติมอีก (แบบในภาพเลย)
ซึ่งจานข้าวที่เค้าจัดให้เรามา ก็จะเป็นจานกระเบื้องหนาสีขาวแบบนี้นะคะ (จาน ชาม ล้างมาสะอาดดีค่ะ ไม่มีคราบเศษอาหาร ไม่มีคราบมัน ไม่มีคราบสิ่งสกปรกค่ะ)
ส่วนช้อนส้อม ก็เป็นแสตนเลส ล้างมาสะอาดดี ไม่มีคราบมัน ไม่มีเศษอาหาร และก็เช็ดมาแห้งดีค่ะ (อ้อๆ จัดเรียงสวยอีกต่างหาก แต่พิมมองไม่ออกว่าเป็นรูปอะไร ^^")
ถ้วยขนม ช้อนตักขนม จานเล็กสีขาวสำหรับใส่ผลไม้ไปทานที่โต๊ะ เค้าก็จัดเรียงไว้สวยงามเช่นกันค่ะ
... ดูจานชามที่จะใช้กิน ดูบรรยากาศโดยรวมกันไปแล้ว .. ก็มาดูหน้าตาอาหารโดยรวมกันเลยนะคะ ..... ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน ผลไม้ เยอะแยะมากมายเลยค่ะ
......... ดูแบบรวม ๆ ไปแล้วก็มาแยกดูที่ละอย่างกันดีกว่าค่ะ
อย่างแรกที่สั่งไปก็คือ แกงส้มกุ้ง-ชะอมทอดจ้า
ตัวน้ำแกงส้ม ข้นมาก ๆ ถึงมากที่สุดค่ะ ให้อารมณ์เดียวกับเวลาเราแกงส้ม พอกินไม่หมด ก็อุ่นเก็บไว้กินพรุ่งนี้ แล้วก็อุ่นไปอีกหลาย ๆ วัน จนสุดท้ายน้ำแกงส้มที่เหลือก้น ๆ หม้อก็จะข้นคลั่ก ... ยังไงก็หยั่งงั้นเลยค่ะ ซึ่งพิมว่ามันข้นมากไปสักหน่อย จนซดไม่คล่องคอ ถ้าใสกว่านี้สักนิด น่าจะดีกว่า (ในความรู้สึกพิมนะ)
ตัวกุ้ง ... กำลังดี ไม่ใหญ่ไม่เล็ก ลวกมาได้ไม่แข็งจนเกินไปค่ะ / ชะอมทอด ... ทอดได้ความนุ่มกรอบกำลังดี เข้ากับแกงส้มมากๆ ค่ะ และด้วยความที่ชะอมทอดมีชิ้นค่อนข้างหนา 1- เกือบ ๆ 2 ซม. ทำให้อมน้ำแกงไว้เยอะ เวลากินชะอมในแกงส้ม น้ำแกงส้มจะเต็มปากเลยค่ะ แต่น่าเสียดายอย่างนึงว่า เป็นชะอมทอด ที่แทบจะไม่มีกลิ่นชะอมเลยค่ะ
ใน เรื่องรสชาติ ของน้ำแกงส้ม ..... จะมีรสหวานนำเปรี้ยวค่ะ ถ้าเป็นไปได้ อยากให้เพิ่มเปรี้ยวกับเค็มอีกนิด จะโอกว่านี้ค่ะ
อาหารคาวอย่างที่สองที่สั่งไป ก็คือ ....... ซุปเยื่อไผ่ (ต้มกับกระดูกอ่อน) ค่ะ .. ตัวน้ำซุป .... รสชาติกลาง ๆ กำลังดี ไม่เค็มจนเกินไป ส่วนกระดูกอ่อน .... ก็ต้มมาได้เปื่อยนุ่มกำลังดีเช่นกันค่ะ แต่ติว่าตรงต้นหอมที่หั่นมาโรยหน้า มีเศษหญ้าปนมานิดหน่อย (เห็นได้จากในรูป) อ่ะค่ะ
..... อาหารคาวอย่างที่สามที่สั่งไป ก็คือ ผัดผักรวมมิตรกับกุ้งค่ะ
ผักที่นำมาผัด ก็จะมีข้าวโพดอ่อน บร๊อคโคลี่ เห็ดฟาง และก็แครอท ..... รสชาติกำลังดีค่ะ ไม่หวาน ไม่เค็มเกินไป ผักก็ลวกมาสุกกำลังดี ไม่แข็งไม่นิ่มกำลังอร่อยเลยค่ะ
แต่ส่วนตัว + ความคิดเห็นญาติ ๆ คิดว่า แครอทเยอะมาก และก็หั่นชิ้นใหญ่ไปหน่อย คนแก่เคี้ยวไม่ค่อยได้ค่ะ ถ้าแครอทน้อยกว่านี้ หรือหั่นชิ้นเล็กกว่านี้หน่อย หรือเพิ่มผักอย่างอื่นมาเช่น ถั่วแขก ถั่วลันเตาหวาน จะดีมากๆ เลย ... ส่วนกุ้ง ... ด้วยความที่พิมชอบกุ้งที่ผัดแล้วเนื้อไม่แข็งมาก พิมเลยคิดว่าเนื้อกุ้งแข็งไปนิ๊ดนึงค่ะ
อาหารอย่างที่สี่ ก็คือ น้ำพริกลงเรือค่ะ .... ตอนแรกแอบงงว่าน้ำพริกอะไรหว่า ใช่ที่น้าสาวสั่งไปรึเปล่านะเนี่ย แต่เค้าก็ว่านี่คือน้ำพริกลงเรือค่ะ ก็โอเคนะคะ อร่อยใช้ได้เลย (แต่จะออกหวานนำ สไตล์เดียวกับแกงส้มเลยค่ะ)
น้ำพริกลงเรือของ ที่นี่จะมีผักและเครื่องเคียง อยู่ 4 อย่างค่ะ ก็คือ แตงกวา มะเขือ-อแหล ขมิ้นขาว และก็ไข่เค็ม ซึ่งผักเค้าล้างมาสะอาดดีค่ะ บางอย่างก็แกะสลักมาอย่างสวยงาม ..... เลยทีเดียว
แต่อาหารอย่างที่ห้านี่ แอบแปลกใจค่ะ เห็นน้าสาวบอกว่าสั่งหมูเค็มแดดเดียวไป แต่ทำไม๊ทำไม ..... หมูที่เค้าทำมาให้ ดั๊นนนเป็นหมูหวานแดดเดียวซะงั้นค่ะ (คือรสชาติหวานนำอย่างเห็นได้ชัด) แต่ถ้าไม่คิดว่าจะเค็มหรือหวาน ก็ถือว่ารสชาติอร่อยเลยค่ะ แต่หมูเหนียวไปนิ๊ดดดดนึง ^^"
ป.ล. ไม่มีภาพถ่ายหมูแดดเดียวแบบเดี่ยว ๆ นะคะ ขออาศัยภาพจากสำรับกับข้าวที่ถวายพระไปแทนล่ะกันนะคะ
ส่วนอาหารคาวอย่างสุดท้ายที่สั่งไปก็คือ "ยำรวมมิตร" ......... ก็หน้าตาอย่างในภาพเลยค่ะ มีปูอัด หมึก และก็กุ้ง .... ส่วนตัวพิมรู้สึกว่าหน้าตาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ค่ะ อยากให้มีสีสันมากกว่านี้ ส่วนรสชาติที่เค้ายำออกมา กลมกล่อมกำลังดีค่ะ เป็นรสชาติกลาง ๆ (รสชาติไม่จัดจ้านแบบที่สาว ๆ ชอบกิน) ออกนัว ๆ ...... กินได้ทุกเพศทุกวัย แม้แต่เด็กเล็กค่ะ
ส่วนอาหารหวานที่เลือกไป ก็คือ "บัวลอยเผือก กะทิสด" ค่ะ
..... สำหรับพิม บัวลอยเผือกเจ้านี้เป็นบัวลอยที่มีลักษณะแปลกจากบัวลอยที่พิมเคยกินและเคยทำ อาจจะเพราะเค้าไม่ได้ใช้แป้งข้าวเหนียว หรือว่าใช้น้อยมาก แล้วไปใช้แป้งมันหรือแป้งเท้าแทน + เผือกในปริมาณที่เยอะกว่า ตัวเม็ดบัวลอยก็เลยจะออกมาลักษณะลื่น ๆ ค่ะ ไม่หนึบ ๆ เหมือนบัวลอยที่เราทำกินกัน ..... น่ะค่ะ ทำให้เมื่อทำเสร็จแล้ว ตั้งทิ้งไว้นานๆ เม็ดบัวลอยก็ไม่อืดขึ้น (ไม่อมน้ำกะทิแล้ว) ..... ก็แปลกดี แต่อร่อยไปอีกแบบค่ะ
ส่วนความหวานหอมของกะทินี่ก็กลาง ๆ เลยค่ะ ไม่หวานมากไป กำลังอร่อยเลย ^^
ก็ประมาณนี้ล่ะค่ะ ... อาหารที่ทางน้าสาวพิมสั่งเค้าไป .... โดยรวมก็ใช้ได้เลย ทั้งเรื่องความสะอาด คุณภาพอาหาร รสชาติอาหาร และก็การบริการ ... ถ้ามีงานบุญหรืองานอะไรที่ไม่อยากลงมือทำอาหารเอง เรียกใช้ "โสรัจ จรรยาลักษณมี" พิมคิดว่าไม่น่าผิดหวังค่ะ ^^
ป.ล. แถมท้ายด้วยภาพผลไม้จากในสวนบ้านพิมที่นำมาให้แขกได้ทานกันในงานด้วยอ่ะค่ะ แบบมาแต่ภาพเฉย ๆ คำบรรยายไม่มีแหละค่ะ ^^ (แอบหมดมุขล่ะ)
แล้วเจอกันอีกที ... รีวิวหน้านะจ๊ะ ^^