เพื่อนๆ ชอบกินพิซซ่ากันไหมค่ะ? ... สำหรับพิมหากเป็นพิซซ่ายี่ห้ออื่นจะรู้สึกเฉยๆ ค่ะ แต่ถ้าเป็นพิซซ่ายี่ห้อนี้ อืมมม เท่าไหร่เท่ากันเลยค่ะ

หมายเหตุ ::  รีวิวครั้งนี้เป็นการบรรยายแบบละเอียดมาก ออกแนวเยิ่นเย้อ ตามอารมณ์ของคนรีวิว  หากเพื่อน ๆ แอบเบื่อ โปรดอ่านข้าม ๆ ไปเท่าที่อยากอ่านนะคะ  ^^

....... ก็เมื่อ 2-3 วันก่อน ตอนช่วงบ่ายๆ .....  พิมกับคุณสามี ตั้งใจจะไปซื้อเครื่องฉีดน้ำ (สำหรับล้างรถ) ที่โลตัส สุขาภิบาล 1 ค่ะ คือแบบว่าเคยไปดูมารอบนึงแหละ  แต่ตอนนั้นยังไม่พร้อม มาตอนนี้พร้อมแล้ว ก็เลยชวนกันไปซื้อล่ะค่ะ    แต่เมื่อไปถึง... ดั๊นนนนนน .... พบว่าปั๊มน้ำตัวที่อยากได้  มันขึ้นราคาจาก 4200 หน่อยๆ (ที่สาขาบางกะปิ)  เป็น 5700 กว่าบาท   (ที่สาขานี้อ่ะค่ะ)  .... สอบถามพนักงาน เค้าบอกว่าเป็นรุ่นเดิมแต่ล๊อคใหม่  (แล้วไมขึ้นราคาเยอะขนาดนี้ว๊าา ห่างกัน 3 อาทิตย์เอง)  สาขาไหนก็ขึ้นราคาเหมือนกัน  ....... ก็เลยยังไม่ซื้อค่ะ  ขอไปดูห้างอื่นก่อนดีกว่า ว่ามันจะราคาขึ้นเหมือนกันไหม

แต่ไหน ๆ ในเมื่อมาแล้ว จะกลับมือเปล่า หรือไม่ได้ทำอะไรที่นี่เลย มันก็กระไรอยู่  เพราะงั้นในเมื่อไม่ได้ซื้อของอะไร ก็ขอให้ได้หาอะไรกินหน่อยก็ยังดีอ่ะค่ะ  ^__^

ตอนแรกก็ถามคุณสามีว่าจะกินอะไรกันดีหว่า แบบว่าเบื่ออาหารมากมายค่ะ ฟู๊ดคอร์ทก็ไม่เอานะ mk ก็ไม่เอา  แมค kfc ขอบาย  ........  คุณสามีก็บอกว่างั้นเดินไปข้างหน้าห้างม่ะ เห็นมีนารายณ์พิซเซอเรียอยู่ สนป่ะ .. (ประมาณนี้ล่ะค่ะ)  พิมก็อือ ๆ ไปก็ไป   ไงก็ได้อยู่แล้วค่ะ อยู่ง่ายกินง่าย ขอให้อร่อย ถูกปากก็แล้วกัน  ... ซึ่งพิซซ่าและอาหารในนารายณ์พิซเซอเรียเนี่ย ตั้งแต่สมัยเค้าเปิดสาขาสยามใหม่ๆ จนกระทั่งมาเปิดสาขาแถวบ้านพิม (อิมฯ ลาดพร้าว)  พิมเคยกินมา 3-4 รอบแล้วค่ะ  ก็อร่อยใช้ได้เลยค่ะ (สรุปว่าชอบนั่นแหละ)

ว่าแล้ว ... อาหารมื้อนี้ เราสองคนขอฝากท้องไว้ที่นารายณ์พิซเซอเรียล่ะกันนะคะ ^^

และหลังจากเราตัดสินใจกันว่าจะฝากท้องที่นี่แหละ  เราก็เดินอย่างองอาจเข้าไปในร้านเลยค่ะ  .... บรรยากาศในร้านก็จะชิวๆ แบบนี้เลย   (พนักงานผู้หญิงชุดดำที่ยืนหลังเคาเตอร์ เค้าเป็นผู้จัดการสาขาค่ะ มนุษยสัมพันธ์ก็ดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใจ พูดจาไพเราะ และบริการก็ยิ่งกว่าดีมากอีกค่ะ)

แล้วเราก็เลือกนั่งโต๊ะด้านในสุดกันค่ะ  (สะดวกกับการถ่ายภาพ แบบว่าไม่รบกวนใคร แต่จริงๆ แล้วคิดผิด เพราะมันมึดไปหน่อยอ่ะ)

จากนั้นน้องพนักงานเค้าก็เอาเมนูมาให้เราคนละเล่มค่ะ  คุณสามีก็เริ่มดูแหละ ... จะกินอะไรดีหว่า

นี่ค่ะ .... เมนูของนารายณ์พิซเซอเรียเค้าหน้าตาแบบนี้ค่ะ  (ส่วนตัวชอบเมนูของที่นี่มากค่ะ ถ่ายรูปได้สวย จัดวางได้สวย  กระดาษที่ใช้ก็ดี .. สรุปว่าชวนอ่านชวนดูมากเลยค่ะ)

หน้าแรก .... เป็นหน้าของรายการซุปต่าง ๆ ค่ะ  ... หน้านี้พิมแอบคิดในใจว่า  เอ.อ..อ.อ. เอาซุปก่อนดีไหมน๊าาา  เอามารองท้องสักหน่อย ....  จะเป็น Chicken Cream Soup หรือ  Marco Polo Mushroom Soup หรือ Corn Cream Soup  หรือ Spinach Cream Soup หรือ  Clams Soup ดีน้อออ..อ.อ.อ.อ   แต่ยังไม่ทันคิดออก คุณสามีพิมก็สั่งสั่ง Clams Soup ไปแล้วล่ะค่ะ ... (เพราะงั้นอ๊ะๆ  พิมยังไม่สั่งค่ะ ขอชิมของคุณสามีก่อนล่ะ)

ต่อมาก็เป็นหน้าของพวก Appetizer ต่างๆ ค่ะ .... มีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบเครื่องเทศ  , เฟรนฟรายด์ ,  ขนมปังกระเทียมธรรมดา , ขนมปังกระเทียมชีส ,  ฟิสโต้ มิสโต้ (เนื้อปลา-ไก่-ข้าวโพดอ่อน ปรุงรสชุบเกล็ดขนมปังทอด) , ป๊อปอายสติ๊ก , ไก่ทอดพิซเซอเรีย , กุ้งห่อเบคอนทอด , บาร์บีคิวชิกเก้น และก็หอยลายอบเครื่องเทศค่ะ  ...... (หมวดนี้พิมไม่ได้สั่งนะคะ เพราะว่าสั่งมา กินคนเดียวไม่หมด คุณสามีเค้าบอกว่าเค้าไม่ช่วยกินอ่ะค่ะ >_<")

เมนูหน้าต่อมาก็เป็นพวกสลัดค่ะ  มีให้เลือก 3 แบบ ก็คือ ทูน่า-แฮม สลัด กับซีซ่าสลัด .....  อันนี้พิมก็ไม่ได้สั่งอีกแหละ   (อยากกินอ่ะ แต่คุณสามีไม่ช่วยกินอีกแหละ)  แต่เห็นโต๊ะอื่นสั่ง จานเบ้อเร่อเลยค่ะ  ผักก็ท่าทางจะสดดี  น่ากินมากมาย

ต่อมาก็หน้านี้เลยค่ะ ... หน้าสำมะคัญ เป็นเมนูหน้าของพิซซ่า ... ซึ่งขอบอกว่าพิซซ่าที่นี่ก็มีหน้าให้เลือกเยอะแยะไม่แพ้พิซซ่าเจ้าดัง ๆ เลย  เช่น Pepperoni , Super Hawaiian , Grandiosa , Spicy Sausage ,  Super Seafood , Meat Combo ,  Pizzeria ,  Chicken Spicy ,  Hawaiian , Bacon Delight ,  Augratin Pizza ,  Kimau Kai , Sweet Sausage ,  Tuna , Cheeze Pizza   โดยที่ถาดเล็กสุดกินกัน 1-2 คน  (มี 4 ชิ้น ขนาด 6")  ราคาถาดละ 129-149 บ. / ถาดกลาง กิน 3-4 คน (มี 6 ชิ้น ขนาด 8")  ถาดละ 269-289 บ. และถาดใหญ่สุด มี 8  ชิ้น  (12") กินได้ 5-6 คน ก็ถาดละ 399-419 บ. อ่ะค่ะ

และสำหรับคนที่อยากกินถาดใหญ่ แต่อยากกินมากกว่า 1 หน้า  ทีนี้เค้าก็มีถาเพิเศษ ให้เพื่อน ๆ ได้เลือกอร่อยกับพิซซ่า 2 หน้าในถาดเดียวกันได้ด้วยอ่ะค่ะ  ซึ่งเรียกว่า Half Pizza  โดยที่ถาดกลางจะราคาอยู่ที่  299  และถาดใหญ่จะราคาอยู่ที่ 429 อ่ะค่ะ

นอกจากนั้นสำหรับคนที่ชอบชีสและทอปปิ้งเยอะ ๆ เราสามารถขอเพิ่มชีสกับท๊อปปิ้งได้ด้วยอ่ะค่ะ  อย่างถาดเล็กก็เสียเพิ่ม 10 บ. ถาดกลาง 20 บ. และถาดใหญ่ก็ 30 บ. อ่ะนะค่ะ ... ซึ่งดูตัวอย่างที่เค้าทำมาแล้ว ก็น่ากินไม่ใช่เล่น แต่ว่าพิมไม่ได้ลองค่า ^^

อ้อ ๆ .... เกือบลืมแหละ นอกจากพิซซ่าหน้าเปิดอย่างด้านบน ๆ แล้ว ที่นี่เค้าก็ยังมีพิซซ่าพัฟ ที่เรียกว่า Calzone ด้วยนะคะ   โดยขนาดกลางอยู่ที่  259 บ. และขนาดใหญ่อยู่ที่ 379 บ. ค่ะ ... ซึ่งอันนี้เนี่ยตอนแรกพิมเล็ง ๆ แล้วล่ะว่าจะสั่ง  แต่ว่าก็ไม่ได้สั่งค่ะ  เพราะว่าดูท่าทางคุณสามีจะไม่ช่วยกิน  ..... ไว้รอคราวหน้ามาอีกรอบแล้วกันนะคะ >_<"

ส่วนใครที่ไม่อยากกินพิซซ่า ก็มีพวกสปาเกตตี้ให้เลือกหลากหลายชนิดเลยนะคะ  อันนี้พิมไม่ขอบรรยายล่ะนะคะ  (แบบว่ามันเยอะมากอ่ะ)  ดูตามภาพเอาเลยค่า  ... น่ากินทั้งนั้น

แบบเส้นดำ .... หรือแบบสไตล์ไทยๆ อย่างต้มยำกุ้ง  ขี้เมา  ผัดฉ่า ผัดน้ำพริกเผา .... ก็มีนะคะ  น่ากินเชียวอ่ะ

และสำหรับคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ ที่นารายณ์พิซเซอเรีย เค้าก็ยังมีพิซซ่ามังสวิรัตน์ด้วยนะคะ   ที่เห็นๆ  ก็มีให้เลือกด้วยกัน 3 หน้าอ่ะค่ะ   (คราวหน้ากะว่าถ้าไปอีกจะสั่งถาดล่างสุดตามในภาพเลยค่ะ ท่าทางจะอร่อยดี)

แล้วนอกจากพิซซ่ามังสวิรัตน์ ...... ก็ยังมีสปาเกตตี้แบบมังสวิรัตน์ด้วยนะคะ  น่ากินไม่แพ้แบบมีเนื้อสัตว์เลยอ่ะ

ส่วน 2 หน้าสุดท้ายก็เป็นหน้าของเครื่องดื่มและก็ของหวานค่ะ  เครื่องดื่มที่นี่ก็มีหลากหลาย  ไม่ว่าจะน้ำผลไม้ น้ำปั่น กาแฟร้อน-เย็น น้ำอัดลม  รวมไปถึงเบียร์ ....   แล้วใครที่ทานน้ำอัดลมก็มีแบบรีฟิลด้วยนะคะ  คุ้มค่ะอันนี้  ^^

และหลังจากที่เราสองคนดูเมนูกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เราสองคนก็ตัดสินใจสั่ง ...... น้ำเป๊ปซี่ชนิดรีฟิลมาก่อนเลย 2 แก้วค่ะ  ตามด้วยซุปหอยลาย  สปาเกตตี้คาโบนาร่า   และก็พิซซ่า Spicy Sausage ถาดเล็กค่ะ ... ซึ่งหลังจากสั่งไปแล้ว ระหว่างนั่งรอ พิมก็มาจัดการเตรียมอาวุธคู่กายที่ใช้กินให้พร้อมค่ะ   ^^

แล้วแค่ประมาณไม่ถึง 1 นาทีหลังจากที่พิมสั่งอาหารไป  น้ำเป๊ปซี่รีฟิลก็มาเลยค่ะ แบบว่าเร็วมากมาย ... (แต่แหมมม หลอดมันโดดเด่น ไม่เข้ากะแก้วเลยนะเนี่ย)

แล้วก็ตามมาติด ๆ ด้วยซุปหอยลาย ที่โรยหน้าด้วยกรูตองค์ค่ะ ทันใจคุณสามีพิมดีจริง ๆ

ระหว่างรออาหารอย่างอื่นมาเสริฟ ... คุณสามีพิมก็เริ่มจัดการกับซุปหอยลายก่อนล่ะค่ะ  แบบว่าตั้งอกตั้งใจกินมาก ท่าทางจะหิว หุหุ  .... (ซุปถ้วยนี้ พิมได้กินไปหน่อยนึงค่ะ  ค่อนข้างใสกว่าที่คิดเอาไว้ รสชาติก็ครีม ๆ ดี ..... ส่วนตัวพิมจะชอบแบบข้นกว่านี้นิดนึงอ่ะ)

พอคุณสามีกินซุปไปเกือบหมดถ้วย (ไม่ถึง 3 นาที)  สปาเกตตี้ก็มาเสิรฟล่ะค่ะ  ... แว่บแรกที่เห็น อืมมๆ...... เป็นคาโบนาร่าที่หน้าตาจิ้มลิ้มมาก ๆ  (คือแบบว่าดูน้อยมาก เมื่อเทียบกับภาพที่เห็นในเมนูและเทียบกับราคาอ่ะค่ะ >_<")

แต่หลังจากได้กิน ... ขอบอกว่ามันรสชาติเข้มข้นมากเลยค่ะ  เข้มข้นทั้งชีสทั้งไข่ .... สรุปว่าอร่อยค่ะ ชอบแบบนี้แหละ   แต่ถ้าปริมาณมากกว่านี้สักหน่อย  อย่างน้อยให้ใกล้เคียงกับในภาพก็ได้ ก็จะดีกว่านี้นะคะเนี่ย ^^"

และหลังจากกินซุปกับสปาเกตตี้หมดไป ........... แต่นนน แต๊นนนน แต๋นนนน พิซซ่าของเราก็มาแล้วค่า .... ตอนแรกแอบงง นี่มันพิซซ่าถาดเล็ก หรือว่าพิซซ่าจานเล็กกันเนี่ย แบบว่าเล็กมากจริง ๆ อ่ะค่ะ  เส้นผ่าศูนย์กลางของพิซซ่าสั้นกว่าคืบนึงของพิมซะอีก >_<" (ไม่ได้ดูไซด์ตอนสั่งอ่ะค่ะ หุหุ)   แบบว่าพิมไม่เคยได้สั่งพิซซ่าถาดเล็กน่ะ  เคยสั่งแต่ถาดใหญ่ทุกที  พอมาเจอถาดเล็กแบบนี้เลยไม่คุ้นเคย >_<"  แอบงงๆ  ไปเลย ว่ามันเล็กสมชื่อจริง ๆ นะเนี่ย

แถมตอนจะสั่งพิซซ่าหน้านี้นะคะ คุณสามีพิมก็ไม่ค่อยหนับหนุนค่ะ  เค้าบอกประมาณว่ามากินพิซซ่าทั้งที มากินหน้าไส้กรอกเนี่ยนะ  แบบว่ามันไม่ใช่อ่ะ  (อะไรทำนองนี้แหละค่ะ)  แต่ว่าในที่สุดเค้าก็ตามใจพิม  สั่งหน้านี้มาจนได้นั่นแหละอ่ะ

พิซซ่าหน้านี้เนี่ย ชื่อว่า Spicy Sausage  .... มีส่วนผสมหลักๆ  ก็คือ ไส้กรอก พริกขี้หนู มะเขือเทศ พริกเขียว  และก็ชีสสสสสส ค่ะ

อ้อ ๆ ลืมบอกไปค่ะว่าสโลแกนของพิซเซอเรียเค้าก็คือ  "ความสุขที่ ยืดดด.ด.ด.ด.ด. ได้" ...... เพราะงั้นเราต้องมาลองกันหน่อยแล้วค่า ว่าพิซซ่าที่นี่มันจะยืดได้แค่ไหน จะยืดได้ยาวสมกับสโลแกนของร้านเค้าหรือไม่  ว่าแล้วคุณสามีพิมเค้าก็เริ่มขอเปิดเป็นคนแรกชิ้นแรกก่อนเลยล่ะค่ะ  ... อ๊ะๆ เริ่มยืด.ด..ด.ด..ด หน่อยนึงแล้วค่า

ยกพิซซ่าขึ้นสูงอีก .... ชีสก็ยังยืดด..ด.ดดด..ด.ด.ด. ตามอีก ยังไม่ขาดค่า  (ลุ้นกันมากมาย หุหุ)

แล้วคุณสามีพิมก็ยกชิ้นพิซซ่าขึ้นสูงกว่าเดิมอีกเรื่อย ๆ ..... ดูจากในภาพ ก็สูงประมาณจากพุงถึงแก้มได้แล้วอ่ะค่ะ .... ชีสบนพิซซ่าก็ยังยืดดดดดดดด ยังไม่ขาดค่า ^^

แล้วคุณสามีพิมก็ยกพิซซ่าขึ้นสูงงงงงงงงงงงอีก  เกือบจะเลยหัวแล้วน๊า ... ลุ้น ๆ มันจะขาดไหม .......... แล้วในที่สุด มันก็ขาดจนได้จ้า    (สรุปยืดได้ยาวที่สุดเท่าที่พิมเคยกินพิซซ่าในร้านระดับเดียวกันมาเลยนะคะเนี่ย)

และแล้วเมื่อชีสขาด....นั่นก็แสดงว่าพิซซ่าชิ้นนั้นถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ  (ฮ่ะๆ)  ... แล้วเจ้าพิซซ่าชิ้นที่ชะตาขาดก็ตกเป็นเหยื่อของสามีพิมล่ะค่า

พิซซ่าหน้านี้ ... ส่วนตัวพิมคิดว่ารสค่อนข้างเข้มข้นค่ะ  แล้วก็เผ็ดด้วยอ่ะ  (ยิ่งถ้าเคี้ยวโดนพริกจังๆ ยิ่งเผ็ดมาก)  เพราะว่ามีพริกขี้หนูหั่นหยาบ ๆ โรยมาบนหน้าพิซซ่า (แต่ซ่อนตัวอยู่ใต้ไส้กรอก) ด้วย  ทำให้กินแล้วไม่เลี่ยน (ประมาณว่าถ้ากินเพลินๆ  ก็คงกินได้เรื่อยๆ)  .... สรุปว่าอร่อย พิมชอบมากค่ะ  คุณสามีก็ชอบอ่ะ  ถ้ามาคราวหน้าก็คงสั่งอีก และคงจะเพิ่มเป็นขนาดกลาง ^^"

ซึ่งถาดนี้ .. พิมกับคุณสามีแบ่งกันคนละ 2 ชิ้นค่ะ ... (ขอบอกว่า มันน้อยมากเมื่อเทียบกับกระเพาะของเราสองคน >_<")

ระหว่างนั่งกินพิซซ่ากันไป นั่งคุยกันไป ก็มีน้องพนักงานเค้ามาถามว่าพิมมีบัตรสมาชิกของที่นี่หรือยัง  พิมก็บอกไปว่ายังไม่มีอ่ะค่ะ  แล้วน้องเค้าก็เลยขอนำเสนอสิทธิประโยชน์ของบัตรสมาชิกค่ะ  ซึ่งหากทำบัตรสมาชิกวันนี้ ราคา 129 บ. สิทธิประโยชน์ที่เพื่อน ๆ จะได้รับก็คือ

1. ส่วนลดอาหารและเครื่องดื่ม 10% เมื่อกินที่ร้าน และ 5% เฉพาะอาหารเมื่อเอากลับบ้าน
2. ส่วนลด 20% ทุกวันพุธสำหรับพิซซ่าถาดกลางและใหญ่ สำหรับทานที่ร้านนะคะ
3. ฟรีพิซซ่าขนาดกลาง เมื่อมาใช้บริการที่ร้านในเดือนเกิดอ่ะค่ะ

ตอนแรกพิมเองก็ไม่แน่ใจว่าจะทำดีไหม  คืออาหารอร่อยอ่ะนะคะ แต่ว่าคงไม่ได้มากินบ่อยเท่าไหร่  ทำไปจะคุ้มหรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็เลยแอบลังเลใจแว๊บนึงค่ะ .... ซึ่งระหว่างกำลังลังเลใจอยู่นั้น น้องคนที่เป็นผู้จัดการร้าน  (ที่มานำเสนอบัตรนี่แหละค่ะ)  ก็บอกกับพิมว่า ถ้าพิมทำบัตรกับเค้าวันนี้  พิซซ่าถาดที่พิมกินไปตะกี้เนี่ย 129 บ.  เค้าให้พิมกินฟรีเลยค่ะ (ประมาณว่าเป็นของขวัญสำหรับการทำบัตรอ่ะนะ / พอดีสาขานี้เค้าเพิ่งเปิดมาไม่กี่วัน)  .... ซึ่งพอน้องเค้านำเสนอมาอย่างนี้  พิมก็เลยตัดสินใจว่า  เอาก็เอาอ่ะ ... ทำก็ทำ  น้องเค้าใจดีขนาดนี้แล้ว  หากพิมไม่ทำน้องเค้าคงเสียใจแย่ (.......... จริงๆ แอบงก อิอิ ..........)

เมื่อทำบัตรสมาชิกไปแล้ว กินพิซซ่าหมดไป 1 ถาด (เล็ก) แล้ว ... ปรากฎว่าเราสองคนยังไม่อิ่มเลยค่ะ  >_<"

เพราะงั้นก็ต้องมีการสั่งพิซซ่าถาดที่สองกันสักกะหน่อย .... แล้วจะสั่งอะไรดีว๊าาาาา  เหมาหมดร้านเลยดีม่ะเนี่ย  (คุณสามีพิมต้องคิดงี้แน่เลย)

และหลังจากพลิกเมนูซ้ายขวาอยู่สามสิบห้าตลบ (ตลกแหละยัยพิม >_<")  คุณสามีพิมเค้าก็สั่ง Cheese Pizza ไปค่ะ  (แบบว่าไม่เคยกินที่อื่น เลยอยากรู้ว่าจะเป็นไง) .....  สั่งเสร็จ ก็นั่งรอค่ะ

ระหว่างรอ ... ก็แอบดูบรรยากาศในร้านไปเรื่อยเปื่อย ... เห็นน้องชายโต๊ะข้างหน้าพิมไหมค่ะ  นั่นเค้าสั่งพิซซ่ากันมา 2 ถาดเลยค่ะ กลางกับใหญ่  ตอนแรกก็คิดว่า เอ...อ น้องเค้าจะกินหมดเหรอ ปรากฎว่าหมดจริงๆ  ค่ะ ในเวลาแป๊บเดียวเอง กินเก่งกันมากมาย ไม่แพ้คุณแฟนเราเลย หุหุ

และแล้วเมื่อเรานั่งรอกันไปได้ประมาณไม่ถึง 10 นาที .... พิซซ่าหน้าชีสที่เราสั่งไป ก็มาเสริฟล่ะค่ะ   (ดูหน้าโล้นๆ ชอบกล)

ตอนแรกน่ะพิมแอบคิดว่าพิซซ่าหน้าชีสเนี่ย ชีสมันคงจะต้องเยอะมากเยิ้มมาก  เวลาตักชิ้นพิซซ่าออกมา ชีสมันจะต้องยืดดดด ได้ยาวกกว่าถาดเมื่อกี้แน่ .... แต่ปรากฎว่า ชีสไม่ยืดสักกะนิดเลยค่ะ >_<"  คิดว่าเค้าคงใช้ชีสตัวอื่นที่ไม่ใช่มอสเซอเรล่าแน่ ๆ

รสชาติของชีสพิซซ่าเนี่ย ... ออกแนวจืด ๆ ค่ะ ซึ่งพิมเองไม่คุ้นกับพิซซ่ารสชาติแบบนี้  เลยต้องขอเติมเครื่องกะซอสมะเขือเทศสักกะหน่อย

ป.ล. ช่วงนี้แหละค่ะ ที่พิมแอบประทับใจน้องคนที่เป็นผู้จัดการเอามากๆ  ก็แบบว่าพิมหยิบขวดซอสจะมาเทอ่ะนะคะ แต่ว่าเนื่องจากมันเป็นขวดใหม่ซิง ๆ ยังไม่เคยมีใครเปิดใช้  พอพิมเปิดขวดแล้วเท  แต่เทเท่าไหร่ ซอสมันก็ไม่ออกมาค่ะ  ปรากฎว่าในขณะที่พิมกำลังคิดว่าจะเอาไงดีหว่า (ไม่ถึง 5 วินาที) และยังไม่ทันได้เอ่ยปากร้องขอหรือเรียกพนักงานร้านเลย  ผู้จัดการร้านเค้าแว๊บเห็นอาการพิม  เค้าก็รีบเดินตรงมาหาพิมเลยค่ะ  แล้วก็พูดว่า "ช่วยไหมค่ะ" ด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมบริการเป็นอันมาก  พิมก็เลยส่งขวดให้เค้า แป๊บเดียวน้องเค้าก็เทซอสลงจานให้พิมเป็นที่เรียบร้อยค่ะ  แล้วก็ชวนพิมคุยเกี่ยวกับกับร้านของเค้าด้วยท่าทีที่นอบน้อม ... เรียกว่าทำเอาพิมประทับใจมากเลยค่ะ

ซึ่งสำหรับพิซซ่าจานนี้ พิมกับคุณสามีก็แบ่งกันคนละ 2 ชิ้นเท่าๆ  กันอีกแล้วแหละค่ะ ....

ซึ่งพอได้กินพิซซ่าถาดนี้หมดไป  ความอิ่มก็เริ่มคืบคลานเข้ามาในกระเพาะของเราสองคน  ไอ้ที่เราคิดว่าจะสั่งอะไรกินกันต่อ ก็เลยคิดว่าไม่สั่งดีกว่า  เอาแต่พออิ่มเท่านี้ก็โอเคแล้วอ่ะ

เพราะงั้นเมื่ออิ่มแล้ว .... ก็เช็คบิลกันเลยดีกว่านะคะ

และก็นี่ค่ะ ... ค่าเสียหายทั้งหมด 508 บาท กับ 1 อิ่มของเราทั้งสองคน    (จริง ๆ ราคามันมากกว่านี้นะคะ แต่ว่าได้ส่วนลดพิซซ่า 1 ถาดกับส่วนลดอีก 10% ก็เลยเหลือเท่านี้อ่ะค่ะ)

แถมท้ายด้วย Gif File เล็กๆ ..... เป็นภาพตอนคุณสามีกำลังพยายามยืดดดดด ชีสในพิซซ่าถาดแรกค่ะ .....^^ ..... แล้วเจอกันใหม่ ร้านหน้านะคะ บายๆ  ^^