ไปเที่ยวเชียงใหม่ในทริปที่ผ่ามา นอกจาก "เต้ยติ่มซำ" แล้ว ก็ยังมีร้านอาหารอีกหลายร้านที่พิมไปชิมและไปชมมา วันนี้ก็เลยขอเอามารีวิวอีก 1 ร้านค่ะ
NOTE :: รีวิวนี้ พิมไปชิมเมื่อ 28 พฤศจิกายน 2554 หากกาลเวลาที่ผ่านไปทำให้ร้านนี้เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะในทางไหน ก็ขอให้เพื่อนๆ พิจารณาดูเองนะคะ ^__^
ร้านก๋วยจั๊บตรงอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ร้านนี้ จะว่าไปจริง ๆ แล้วพิมไม่ได้ตั้งใจจะไปกินเลยค่ะ คือจะว่าไงดีล่ะ ตอนที่เตรียมข้อมูลก่อนจะไปเชียงใหม่เนี่ย พิมก็เคยอ่าน ๆ เจอนะคะว่า ถ้าไปเชียงใหม่อย่าลืมไปกินก๋วยจั๊บที่ร้านนี้ค่ะ เพราะว่าน้ำซุปเค้าอร่อย และอย่างยิ่งใครที่ชอบความเผ็ดร้อนจากพริกไทยก็ยิ่งน่าจะชอบมาก เพราะน้ำซุปเค้านอกจากอร่อยแล้วยังเผ็ดร้อนด้วยพริกไทยอีกอ่ะค่ะ .. แต่นะ ... ตอนเตรียมข้อมูลก็จดไว้อย่างดีล่ะค่ะ แต่พอไปถึงเชียงใหม่ ชีวิตดำเนินอยู่ที่เชียงใหม่ บางทีอะไรหลายๆ อย่างมันก็ไม่เป็นไปตามแผน ไอ้ที่ว่าจะไปลองชิมก๋วยจั๊บที่ร้านที่ว่านี่ พิมก็เลยลืม ๆ ไปเลยอ่ะค่ะ
จนกระทั่งเช้าวันนึง ประมาณวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมาล่ะค่ะ ตื่นเช้ามาไม่รู้จะไปกินอะไรที่ไหนดี เพราะวันนั้นที่พักที่เป็นเกสต์เฮ้าส์เค้าไม่มีอาหารเช้าให้ (ขอเม้าท์นิดนึงว่าค่าห้องเกสต์เฮ้าท์แพงกว่าโรงแรมที่พิมพักมา 2 โรงแรมอีกค่ะ แต่ไม่มีอาหารเช้าง่ะ) ก็เลยโพสต์ในเฟสบุ๊คว่า เอ๊ จะไปกินอะไรที่ไหนดี ใครอยู่เชียงใหม่แนะนำหน่อย ปรากฎว่าน้องที่รู้จักกันก็แนะนำก๋วยจั๊บร้านนี้แหละค่ะ บอกว่าอย่าพลาด ๆ ... พอพิมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จประมาณสัก 10 โมงกว่าก็เลยชวนคุณสามีบอกว่าไปร้านนี้กัน
ป.ล. ร้านนี้อยู่ตรงข้ามกับหอศิลปวัฒนะธรรมเมืองเชียงใหม่นะคะ
แต่จะว่าไปก่อนจะไปที่ร้านนี้ ก็แอบ ๆ คิดนะคะว่า เอ๊ ร้านนี้เค้าจะเป็นประมาณยังไงน๊า แบบว่าเป็นร้านห้องแถว 2 คูหา 3 คูหาไรงี้ป่าวน๊า เพราะเห็นเค้าว่าขายดีมาก ยิ่งช่วงเที่ยง ๆ ล่ะไม่ต้องไป คนเยอะสุด ๆ และขายมานานแล้ว ก็เลยคิดว่า อืมๆๆ ร้านเค้าจะดูเป็นร้านถาวระอะไรประมาณนึงงี้อ่ะค่ะ ...... เพราะงั้นพอไปถึงแถวสามกษัตริย์แล้วมองไม่เห็นร้าน 2 คูหา 3 คูหาที่ขายก๋วยจั๊บก็เลยแอบงงค่า เลยต้องแว๊บถามคุณลุงรถแดง คุณลุงก็เลยบอกว่าให้เดินไปอีกหน่อยนึงเดี๋ยวก็ถึง อยู่ขวามืออ่ะ (พอดีพิมลงรถแดงแถว ๆ อนุสาวรีย์พอดีเลยอ่ะค่ะ)
และหลังจากพิมเดินจากอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ไปอีกหน่อยนึง ทางด้านขวามือพิม (หรือฝั่งตรงข้ามถนน) พิมก็เจอกับร้านก๋วยจั๊บร้านที่ว่าจริง ๆ อ่ะค่ะ แต่ตอนแรกก็แอบคิดนะคะว่า เอ๊ จะใช่ร้านนี้ป่าวว๊า คือไงอ่ะค่ะ ตอนพิมไปที่หน้าร้านไม่ค่อยมีลูกค้าเท่าไหร่ค่ะ (หารู้ไม่ว่านั่งด้านในร้านเต็มเลย) แถมป้ายร้านก็ยังทำให้แอบงง เพราะจากที่เพื่อนบอกร้านดังที่ว่าเค้าขายก๋วยจั๊บน้ำใส แต่ป้ายมันเป็นก๋วยจั๊บน้ำข้นอ่ะค่ะ แต่ว่าหลังจากมองซ้ายขวาหนาหลังแล้ว ก็มองไม่เห็นร้านก๋วยจั๊บร้านอื่นเลย บวกกับท้องเริ่มร้องว่าหิวมากแล้ว ก็เลยตัดสินใจว่าเอาล่ะค่ะ ร้านนี้ก็ร้านนี้ ใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่รู้ล่ะ เดี๋ยวว่ากันอีกที
ว่าแล้วก็ลุยเข้าไปที่หน้าร้านกันเลยค่า .... ซึ่งพอพิมเห็นเครื่องเคราวัตถุดิบที่อยู่ในตู้หน้าร้านเค้าแล้ว ก็แอบคิดในใจว่าร้านนี้ต้องใช่ร้านที่น้องเค้าแนะนำมาแน่ ๆ เลย แม้ป้ายมันจะดูอ่านแล้วชวนให้งง ๆ ก็เถอะ
ดูวัตถุดิบหน้าร้านเค้าแล้ว ก็ไปหาที่นั่งด้านในร้านกันดีกว่าค่ะ (ที่นั่งร้านนี้เป็นไปในลักษณะยาวลึก ด้านหน้าจะมีโต๊ะแถวเดียวชิดริมกำแพง ส่วนด้านในที่ลักษณะเหมือนตั้งโต๊ะในตัวบ้าน จะมีมีประมาณ 3 แถวอ่ะค่ะ)
หาที่นั่งเสร็จแล้ว ก็มาดูกันดีกว่าค่ะว่าจะสั่งอะไรมากินดี ...อาหารของที่นี่เค้าก็จะมีก๋วยจั๊บ เกาเหลา และก็ข้าวหมูกรอบนะคะ ทุกอย่างชามละ จานละ 50 บาท หากใครอยากกินเยอะ กลัวน้อยจะไม่พอกิน สั่งพิเศษเพิ่มได้ชามละ 70 บาทค่ะ หรือถ้าหากใครอยากกินไส้ (มีหมูข้างใน) เปล่า ๆ หมูกรอบเปล่า ๆ ก็สั่งได้เช่นกันค่ะ
สั่งเสร็จแล้วก็นั่งรอะ ......... ระหว่างรอจะสั่งเครื่องดื่มที่เป็นกาแฟสด หรืออิตาเลียนโซดามาดื่มไปพลาง ๆ ก็ได้นะคะ ที่นี่เค้ามีขายเช่นกันจ้า (ราคาตามแผ่นกระดาษขาว ๆ ด้านหลังเลย)
แต่ถ้าไม่ทานกาแฟ ไม่ทานน้ำหวานทุกชนิด ที่นี่เค้าก็มีน้ำเปล่าให้นะคะ ทั้งน้ำชาและก็น้ำธรรมดาเลย
ระหว่างรอก๋วยจั๊บที่สั่งไป พิมก็แอบเหล่ ๆ ดูพนักงานของที่ร้านนี้ค่ะ ซึ่งอยากจะบอกว่าพนักงานของที่ร้านนี้เยอะมากๆ นับ ๆ ดูแล้วเอาที่เห็นหน้าร้านก็เป็นสิบคนแล้วค่ะ บ่งบอกได้เลยว่าร้านนี้ขายดีมากจริง ๆ
แล้วเตาของที่ร้านนี้ ส่วนใหญ่เค้าก็จะใช้เตาถ่านด้วยค่ะ ซึ่่งตามความรู้สึกพิมเนี่ย พิมว่าเตาถ่านใช้หุงข้าวและทำอาหารได้อร่อยกว่าเตาชนิดอื่นนะคะ
หลังจากเหล่พนักงานไป 3 รอบ เหล่ร้านไปซะ 2 รอบ ก๋วยจั๊บยังไม่มา พิมก็หันไปเหล่หมูกรอบที่เพิ่งทอดเสร็จใหม่ ๆ ต่อค่ะ (พอดีเค้าวางไว้บนโต๊ะ ใกล้ๆ โต๊ะที่พิมนั่งเลย) ........ ซึ่งหมูกรอบของที่นี่หน้าตาบางชิ้นอาจจะดูเหมือนหนังหมูด้านๆ ไปนิด แต่ขอบอกว่าอย่าดูแค่เพียงหน้าตาค่ะ เพราะจริง ๆ แล้ว .... เมื่อได้ชิมจะรู้ว่าไม่มีชิ้นไหนด้าน แถมอร่อยทุกชิ้นเลยค่า ^^
และหลังจากเหล่ทุกอย่างในร้านครบเรียบร้อยแล้ว (มั้ง) ก๋วยจั๊บ เกาเหลา ข้าวหมูกรอบที่พิมและคุณสามีสั่งไป ก็มาเสริฟแล้วล่ะค่ะ ... ถึงตรงนี้พิมแอบขำ ๆ ตัวเองนิดนึง คือตอนที่เห็นป้ายราคาเค้าเขียนว่าก๋วยจั๊บชามละ 50 เกาเหลา ข้าวหมูกรอบจานละ 50 พิมก็แอบคิดในใจว่า โอ้โห ... ราคาสูงนะเนี่ย (หมายถึงว่าสูงกว่าราคาปกติทั่วไปที่เค้าขายจานละชามละ 30-35-40 อ่ะค่ะ) แอบแพงหรือเปล่า แต่ปรากฎว่าพอเค้าเอามาเสริฟ ...... อืมมม ชามเบ้อเร่อเลยอ่ะ แถมเครื่องก็เยอะมาก มาแบบทั้งเนื้อทั้งน้ำเต็มชามสุด ๆ ไปเลย สมแล้วที่เค้าตั้งราคาไว้ชามละ 50
ป.ล. น้ำซุปเค้าจะค่อนข้างเข้มข้ม รสจัด บางคนกินจืดเป็นปกติ ก็อาจจะว่าเค็มไปได้อ่ะค่ะ ^^
และหลังจากนั้นก็ถึงเวลาชิมล่ะค่ะ ^^ (ชิมก๋วยจั๊บก่อนเพราะพิมสั่งเอง ชามอื่นของคุณสามี) .... ตอนแรกก็แอบคิดในใจก่อนว่า เอ๊ะ จะอร่อยไหมน๊า จะถูกปากเราไหมน๊า (เป็นพวกชอบคิดไปก่อน) ..... ปรากฎว่าพอได้ชิมน้ำซุปคำแรก โอ้วว อร่อยจริง ๆ ค่ะ คือจะว่าไงดีล่ะ พิมเป็นคนที่ชอบพริกไทยมาก และชอบความเผ็ดร้อนจากพริกไทยสุดๆ เลยค่ะ พอมาเจอน้ำซุปใสที่รสชาติกำลังดี แล้วก็เผ็ดร้อนด้วยพริกไทยที่บดใหม่ ๆ แบบนี้ก็เลยอดที่จะถูกใจมากไม่ได้ค่ะ
แล้วนะคะ .... ขอบอกว่า ร้านนี้ทั้งหมูกรอบ ไส้ หนังปลา เครื่องใน มาแบบชิ้นใหญ่มากเลยค่ะ (มาอย่างละ 2 ชิ้น) บางชิ้นต้องกัดตั้ง 3 คำแน่ะกว่าจะหมดชิ้น ^^
ส่วนเกาหลาของคุณสามีก็ไม่แพ้กันค่ะ เครื่อเคราแต่ละอย่างมาชิ้นใหญ่ ๆ ทั้งนั้น แถมผักที่รองอยู่ก้นจานก็ไม่ใช่ผักกาดหอมนะคะ แต่เป็นผักกาดแก้วที่ท่าทางจะสดมากๆ เพราะเมื่อได้ลองตักขึ้นมากินดูแล้ว ตัวผักกาดนั้นทั้งหวานและหอมมากเลยอ่ะค่ะ
ส่วนข้าวหมูกรอบของคุณสามี ดูเผิน ๆ จากในรูปหลายคนคงจะมองว่า ปริมาณก็ไม่เห็นจะแตกต่างจากข้าวหมูกรอบจานละ 30 35 ที่ร้านอื่นๆ สักเท่าไหร่เลย แต่ขอบอกว่าต้องมาสัมผัสของจริงค่ะ
เพราะของจริงนั้นแม้ขนาดชิ้นจะไม่ใหญ่นัก แต่ว่าแต่ละชิ้นหนามากเลยอ่ะค่ะ ถ้าเทียบกับร้านอื่นที่ขายจานละ 30-35 หมูกรอบของที่นี่ 1 ชิ้น ร้านอื่นก็น่าจะสับได้ประมาณสัก 3 ชิ้นได้ค่ะ ...... แต่รสชาติ ตัวข้าว ตัวน้ำราด พิมกับคุณสามีคิดว่ามันยังขาด ๆ อะไรไปค่ะ คือมันไม่อร่อยโดดเด่นเหมือนกับก๋วยจั๊บหรือเกาเหลา แต่ว่าด้วยความที่น้ำซุปที่มากับข้าวหมูกรอบมันเข้มข้นมาก (มากกว่าน้ำซุปก๋วยจั๊บ เกาเหลา) ก็เลยทำให้ช่วยชูรสข้าวหมูกรอบได้ เลยทำให้ข้าวหมูกรอบอร่อยขึ้นเยอะเลยอ่ะค่ะ
อร่อยหรือไม่อร่อย ดูได้จากลีลาท่าทางการทานของคุณสามีพิมได้ค่ะ ^^
และหลังจากเวลาผ่านไปประมาณเกือบ 20 นาที พิมกับคุณสามีก็จัดการทั้ง 2 ชามกับอีก 1 จานหมดเรียบร้อยอ่ะค่ะ .... และด้วยความอร่อยของก๋วยจั๊บ เกาเหลาที่นี่ ก็เลยเป็นครั้งแรกที่ทำให้คุณสามีพูดว่า "อยากจะซื้อกลับไปฝากที่บ้านจัง" ^^
สุดท้ายก่อนจะบ๊ายบายร้านนี้ไป ก็ขอถ่ายรูปกับเจ้าของร้านเพื่อเป็นเกียรติหน่อยจ้า (พี่เค้าชื่ออะไรก็ไม่รู้ค่ะ ไม่ได้ถาม แต่ว่าพี่เค้ามาชวนคุยเรื่องกล้องก่อน ก็เลยถือโอกาสขอพี่เค้าถ่ายรูปซะเลย ^^) ....... สรุปค่าเสียหายทั้งหมด 150 บาทเป๊ะๆ จ้า
และหลังจากออกจากร้านก๋วยจั๊บแล้ว .... ก็ขอไปตบท้ายด้วยไอติมสารพัดรสชาติที่ขายอยู่ตรงหน้าอนุสาวรีย์ 3 กษัตริย์สักหน่อยค่ะ ไอติมไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ รสชาติใส ๆ แต่ลุงคนขายใจดี ............ ^__^
และแล้วก็ขอจบการรีวิวก๋วยจั๊บ 3 กษัตริย์ไว้แต่เพียงเท่านี้ot8t ไว้ปีหน้า ส.ค. ก.ย. 2555 ไปเชียงใหม่อีก 2 รอบ จะแวะไปชิมอีกครั้งแล้วจะกลับมาอัพเดทให้ฟังนะคะว่ายังอร่อยอยู่เหมือนเดิมไหมจ้า ^^