ทริปเชียงใหม่ที่ผ่านมา พิมได้มีโอกาสไปกินติ่มซำที่ร้านดังของเมืองเชียงใหม่ เลยถือโอกาสเก็บความอร่อยใส่ภาพถ่ายมาฝากเพื่อนๆ  ทุกคนกันค่ะ

NOTE :: รีวิวนี้ พิมทำขึ้นวันที่ 2 ธันวาคม 2554  หากกาลเวลาที่ผ่านไปทำให้ร้านนี้เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะในทางไหน ก็ขอให้เพื่อนๆ พิจารณาดูเองนะคะ ^__^

จะว่าไป ... จริง ๆ แล้วก่อนจะไปเชียงใหม่ก่อนที่จะมากินที่ร้านนี้ พิมก็ไม่เคยรู้เลยอ่ะค่ะว่าร้านติ่มซำร้านนี้เค้าดังในเชียงใหม่  (กระแสในเนตเค้าว่าไว้อย่างนั้น)   รู้แต่ตอนที่เพื่อนคุณสามีกับภรรยามารับพิมกับคุณสามีที่อาเขตเพื่อจะไปส่งที่โรงแรมที่พัก   แต่เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่พิมจะไปเช็คอิน (ประมาณ 8 โมงเช้า)   เพื่อนคุณสามีก็เลยชวนไปนั่งกินติ่มซำกันก่อนน่ะค่ะ

ก่อนจะไปถึงร้านเพื่อนคุณสามีเค้าก็บอกว่าร้านนี้อ่ะติ่มซำรสชาติใช้ได้เลยนะ  แล้วเค้ายังบอกว่าเมื่อวานเค้าก็แวะมาร้านนี้ตอนสัก 8 โมงเช้านะ แต่ร้านยังไม่พร้อมให้บริการ ยังอยู่ในช่วงเตรียมของอยู่ก็เลยไม่ได้กิน  วันนี้ถือโอกาสที่คุณสามีกับพิมไปเยือนเชียงใหม่ เค้าก็เลยอยากจะชวนไปร้านนี้อีกรอบอ่ะค่ะ .... พิมก็อ่ะ เอาไงก็เอาค่ะ  เพราะจะว่าไปก่อนมาเชียงใหม่ แม้จะหาข้อมูลมาเยอะมาร้านอาหารไหนน่าไป ควรจะไป  แต่เอาจริงพอมาถึงเชียงใหม่ก็ลืมหมดเลยค่ะ ^^"

วันนั้นที่เราทั้งสี่คนไปถึง เวลาเดินไปถึงประมาณ 9 โมงกว่าๆ ค่ะ แต่พอไปถึงที่ร้าน ตอนแรกเค้าก็บอกว่าร้านยังไม่เปิดค่า เพื่อนคุณสามีพิมได้ยินอย่างนั้นก็เลยร้องว๊าาาาาา  ประมาณว่าฉันมาสองวันแล้วน๊าทำไมไม่ได้กินเนี่ย  (เพื่อนคุณสามีพิมเค้ามาร้านนี้ประจำจนเจ้าของร้าน และคนในร้านจำได้แล้วอ่ะค่ะ)   แล้วสักแป๊บไม่นาน พี่ผู้หญิงในร้านที่ไม่น่าจะใช่พนักงานก็มาบอกว่าให้เค้ามานั่งก่อน มีบางอย่างสั่งได้แล้วอ่ะ  พวกเราก็เลยยิ้มได้ล่ะค่ะ ^^

และก็นี่ค่ะ ... บรรยากาศในร้านเต้ยติ่มซำ  จะออกแนวโล่งๆ โปร่งๆ  หากไปช่วงที่อากาศเย็นจัด ๆ เวลาลมพัดมาทีแอบสะดุ้งเหมือนกันคะ  (ข้อดีนะคะ มิใช่ข้อเสีย)

แล้วเราก็ไปหาโต๊ะนั่งกันดีกว่าค่ะ โต๊ะของทางร้านนี้จะมีสองแบบคือแบบไม้ กับแบบแสตนเลส ... สำหรับพิม เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเมืองเชียงใหม่ ก็ขอเลือกเป็นโต๊ะไม้ดีกว่าค่ะ

บนโต๊ะก็จะมีอุปกรณ์ และซอสต่างๆ  รวมไปถึงน้ำดื่มวางเอาไว้

หลังจากเลือกโต๊ะได้แล้ว เอาข้าวของสัมภาวะวางไว้ที่โต๊ะแล้ว  เพื่อนคุณสามีก็ชวนให้พวกเราไปดูที่หน้าร้านกันค่ะ

ติ่มซำของที่นี่จะมีให้เลือกหลากหลายแบบมาก  ทั้งหน้าหมึก ปลา ข้าวโพดอ่อน เห็ดหอม ปูอัด เต้าหู้ ไข่นกกระทา เห็ดเข็มทอง หมี่หยก  ขนมจีบกุ้ง  หมู  หมั่นโถว และอื่น ๆ อีกมากมาย ... ซึ่งใครชอบแบบไหน อยากกินแบบไหน ก็ไปชี้ ๆ บอกๆ พนักงานเค้าได้ที่หน้าร้านเลยค่ะ  หรือจะสั่งเอาจากที่โต๊ะก็ได้เหมือนกัน

ป.ล. ติ่มซำที่นี่ปัจจุบัน เข่งละ 18 บาทค่ะ

หรือถ้าหน้าร้านมีให้สั่งไม่พอ  จะเขยิบเข้ามาสั่งที่หลังร้านก็ได้นะคะ  ^^

สั่งเสร็จ น้องที่ร้านเค้าก็จะเอามานึ่งให้ร้อนแบบนี้ล่ะค่ะ

ระหว่างน้องเค้านึ่งติ่มซำที่เราสั่งไว้  เราก็มานั่งรอที่โต๊ะกันค่ะ .... ภรรยาเพื่อนคุณสามีก็รินน้ำให้ทุกคนในโต๊ะจ้า

แล้วเราก็เตรียมอุปกรณ์พิฆาตติ่มซำให้พร้อม

พร้อมกับขอกระเทียมเจียว และผักกาดแก้วมารอเอาไว้เลย  (ร้านนี้เค้ามีกระเทียมเจียวแยกให้แบบนี้เลย  และมีผักกาดแก้วที่สดมาก ไว้ให้กินคู่กับติ่มซำด้วยค่ะ)

และแล้วไม่นาน ....... ติ่มซำที่เราสั่งไปชุดแรกก็มาเสริฟจ้า  ขอบอกว่ามาแบบร้อนมากๆ ^^

ติ่มซำที่เราสั่งไปชุดแรกก็จะมีพวกหมั่นโถว ฮะเก๋า เกี๊ยวซ่า ซาลาเปาไส้หมูแดง ขนมจีบกุ้ง ขนมจีบหมู ประมาณนี้ล่ะค่ะ ซึ่งขอบอกว่าทุกอย่างรสชาติใช้ได้ค่ะ    ติ่มซำอันไหนที่มีส่วนประกอบเป็นกุ้ง กุ้งเค้าก็จะเหมือนบดสับมาแบบไม่ละเอียดค่ะ ทำให้เวลาเคี้ยวเนี่ย เนื้อกุ้งจะเต็มปากเลย  แถมรสชาติติ่มซำโดยรวมของเค้าก็กำลังดี  ไม่จัดและไม่อ่อนจนเกินไป ทำให้เผลอแป๊บเดียว ติ่มซำชุดแรกก็หมดไปโดยที่แทบจะไม่ทันรู้ตัวเลยค่ะ (ว่าได้กินอะไรไปบ้าง ฮ่ะๆ)

เพื่อนคุณสามีก็เลยมองหาพนักงาน เพื่อจะสั่งติ่มซำชุดถัดไปค่ะ  (จริง ๆ สั่งตั้งแต่ชุดแรกยังไม่ได้เริ่มกินซะด้วยซ้ำ เพื่อไม่ให้ขาดตอนค่ะ ^^)

และแล้วติ่มซำชุดที่ 2 ชุดที่ 3 ก็ตามมา

ติ่มซำชุดนี้ก็จะมีติ่มซำหน้ากุ้ง หน้าเห็ดเข็มทอง ปูอัด ชิกุวะ ข้าวโพดอ่อน เห็ดหอมและอีกหลาย ๆ หน้า  ซึ่งขอบอกว่าก็โอเคทุกหน้าเลยค่ะ

เกือบลืมๆ  เพื่อนคุณสามีสั่งของทอดจานนี้มาด้วยค่ะ (คือติ่มซำทั้งหมด พิมไม่ได้สั่งเลยค่ะ เพราะไม่รู้จะสั่งอะไรยังไงดี เพื่อนคุณสามีเลยจัดการสั่งให้หมดเลย ต้องขอบคุณมากๆ)  ..... แล้วก็บอกว่าให้คุณสามีกับพิมทานคนละชิ้นค่ะ  แล้วเพื่อนก็ย้ำ ๆ ว่าแนะนำเลยนะอันนี้เนี่  ซึ่งเจ้าของทอดจานนี้ มีชื่อว่า "กุ้งกรอบ" นะคะ ตอนแรกที่เพื่อนคุณสามีสั่งไป พิมก็นึกประมาณว่าจะเหมือนกุ้งกรอบของโชคดีติ่มซำที่พิมเคยไปกินบ่อย ๆ แต่จริง ๆ แล้วมาแบบคนละอารมณ์คนละหน้าตากันเลยอ่ะค่ะ

กุ้งกรอบของที่นี่จะเป็นเนื้อกุ้งที่สับบดหยาบ ๆ ผสมกับมันหมูเนื้อหมู  (ก็จะเนื้อแบบเดียวกับในติ่มซำล่ะค่ะ)   แต่แทนที่จะนำไปนึ่ง  เค้าก็จะนำมาห่อด้วยแผ่นเกี๊ยวแล้วพันกด้วยเส้นบะหมี่เหลืองบะหมี่หยกอีกที ก่อนจะนำลงไปทอดจนสุกและเส้นบะหมี่กรอบแบบในภาพด้านล่าง ก็เป็นอันใช้ได้อ่ะค่ะ  .... ซึ่งพอพิมได้ลองทานแล้วก็ขอบอกว่าอร่อยค่ะ  รสเค้ากำลังดี ยิ่งจิ้มกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยที่ออกหวาน ๆ หน่อย ยิ่งเข้ากันมากเลยค่ะ  เสียอย่างเดียว กินตอนที่มันยังร้อนมาก เลยแอบลวกปากนิดหน่อย >_<"

และแล้วหลังจากเรานั่งกินไปเรื่อยๆ  สั่งมาหลาย ๆ รอบ ผ่านไปประมาณ ชม. กว่าๆ  เราทั้ง 4 คนก็อิ่มกันเป็นที่เรียบร้อยล่ะค่ะ

หลังจากนั้นก็ถึงเวลาคิดเงินล่ะจ้า  ถ้าไม่รวมของทอด ติ่มซำที่เราทั้ง 4 คนกินไปทั้งหมด รวมแล้วก็ 27 เข่งล่ะจ้า  ค่าเสียหายทั้งหมดรวมน้ำรวมขนมแล้วด้วยก็ 500 กว่าบาท งานนี้เพื่อนคุณสามีเลี้ยง ต้องขอบคุณเพื่อนคุณสามีมา ณ ทีนี้ด้วยนะคะ ^__^

แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวอาหารอร่อย ๆ จากเชียงใหม่ในคราวหน้านะคะ ^__^

ป.ล. อย่าถามเวลาเปิดปิดของร้านเต้ยติ่มซำนะคะ เพราะพิมก็ไม่รู้เหมือนกัน >_<"   แต่ไปตอนประมาณ 9 โมงกว่าๆ  ของบางอย่างเค้าก็เริ่มมีขายแล้วนะคะ  แต่ที่เห็นประมาณสัก 10 โมงถึงจะเริ่มมีคนเข้ามาอ่ะค่ะ  (ประมาณว่าในร้านพร้อมแล้ว)  ส่วนเที่ยง ๆ เห็นเพื่อนบอกว่าคนเยอะมาก  ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ให้หลีกเลี่ยงจ้า