ตั้งแต่เกิดมาบอกตามตรงว่าพิมไม่เคยไปชมทุ่งดอกกระเจียวเลยสักครั้งค่ะ ทุกปีที่ผ่านมาได้แต่บอกกับตัวเองเสมอว่าอยากไป...อยากไป แต่ไม่มีความพร้อมเลย จนกระทั่งมาปีนี้แหละค่ะ ถึงไม่พร้อม ... ก็จะไป
...... ทริปของเราในครั้งนี้เกิดขึ้นจากว่าพิมอยากไปชมทุ่งดอกกระเจียวของจริงมากค่ะ แต่ทุกปีที่ผ่านมาพิมติดปัญหาหลายอย่าง ไอ้โน่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่สะดวก อีกทั้งด้วยความที่ระยะทางมันค่อนข้างไกลนะ จะขับรถไปกลับวันเดียวก็เกรงจะไม่ไหว ทุกปีที่ผ่านมาเลยต้องกินแห้วตลอดค่ะ (แปลว่าไม่ได้ไป) จนกระทั่งมาปีนี้ได้แว๊บ ๆ เข้าไปอ่านในเวบ "ท่องเที่ยว 9 วัด" ของ ขสมก. ก็พบว่าเค้ามีทัวร์จัดไปชมทุ่งดอกกระเจียวที่ อช. ป่าหินงาม จ.ชัยภฺมิด้วยค่ะ ซึ่งพอพิมเห็นปุ๊บ พิมก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก (ฮาาาาาาา) แล้วก็รีบไปเล่าให้คุณสามีฟังค่ะว่ามันมีรายละเอียดยังไงบ้าง (คือก่อนจะชวนคุณสามีไปเที่ยวไหน พิมจะต้องมีแผนการณ์ที่วางไว้แล้วอย่างแน่นอนให้เค้าดูประกอบการตัดสินใจด้วยค่ะ ว่าจะอนุมัติไหม ฮ่ะๆ) ...... คุณสามีเค้าก็ใช้เวลาคิดอยู่พักใหญ่ค่ะว่าจะเอายังไง จริง ๆ คือคุณสามีเค้าก็อยากไปนะคะ แต่่วาตอนที่พิมไปถามเค้าเนี่ย พิมไม่สบายค่ะ เป็นไข้หวัด ตัวร้อน คุณสามีเค้าก็เลยลังเลว่าถ้าตัดสินใจไปเนี่ย (ในอีก 1 อาทิตย์หลังจากที่พิมถามเค้า) พิมจะหายทันไหม สรุปคุณสามีเลยบอกว่า ถ้าพิมหายทันก็ไปล่ะกันค่ะ ^^ ซึ่งพิมก็โอเคนะ (เพราะตอนนั้นคิดว่าจะหายทันน่ะค่ะ)
แต่พอถึงวันพฤหัส ... ก่อนวันที่จะไปแค่เพียง 2 วัน อาการหวัดของพิมก็ยังไม่ดีขึ้นค่ะ แถมแย่ลงอีกต่างหาก พิมก็เลยต้องไปหาหมอ ซึ่งหมอก็แนะนำตามปกติอ่ะค่ะว่าให้นอนหลับพักผ่อนเยอะ ๆ กินน้ำอุ่นเยอะๆ อะไรประมาณนี้ ซึ่งพิมก็ทำตามแทบจะทุกอย่างนะคะ แต่จนแล้วจนรอดกระทั่งบ่าย ๆ วันศุกร์ พิมก็ยังไม่หายดีเลยค่ะ คุณสามีพิมเค้าก็แอบเป็นห่วงว่าแล้วอย่างนี้จะไปไหวเหรอ ไว้ไปอาทิตย์อื่นดีไหม แต่พิมก็บอกคุณสามีไปว่า ไม่ล่ะค่ะไม่เปลี่ยนแล้วอ่ะ เพราะว่าโอกาสที่พิมจะว่างช่วงวันเสาร์อาทิตย์เนี่ยหายากมากกกกกกก หากไม่ไปอาทิตย์นี้ อาทิตย์หน้าอาจจะไม่ได้ไป เพราะงั้นพิมจะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว .... คุณสามีเห็นพิมยืนยันอย่างนั้น ก็เลยตกลงใจว่าไปก็ไปค่ะ
แต่นะ ........ ไม่รู้ทำไม เวลาที่เช้าวันไหนพิมจะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ไม่ว่าจะไปด้วยเรื่องงานหรือไปด้วยเรื่องเที่ยวก็ตาม หรือแม้กระทั่งจะกลับไปบ้านคุณสามี คืนนั้นพิมมักจะนอนไม่หลับเลยค่ะ เรียกว่าพยายามยังไงก็ไม่หลับ ... ดังนั้นคืนวันศุกร์ก่อนไปเที่ยวทุ่งกระเจียวของพิมกับคุณสามีในคราวนี้ พิมกับคุณสามีก็เลยนอนไม่หลับเหมือนเดิมค่ะ
และด้วยความที่นอนไม่หลับ พิมกับคุณสามีก็เลยนั่งดูหนังฟังเพลง อ่านหนังสือกันไปเรื่อยเปื่อยค่ะ จนกระทั่งถึงประมาณตี 3 ครึ่ง พิมกับคุณสามีก็ไปเตรียมตัวอาบน้ำแต่งตัว และหลังจากจัดการธุระส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อย พวกเราสองคนเริ่มเดินทางออกจากบ้านกันตอนประมาณตี 4 ครึ่งค่ะ ..... ซึ่งปกติถ้าพิมออกจากบ้านไปไหนในเวลานี้ พิมจะใช้บริการรถแท๊กซี่เกือบทุกครั้ง แต่เนื่องจากอยากประหยัดในส่วนที่สามารถประหยัดได้ (แล้วเอาเงินไปเสียในส่วนอื่นแทน ฮ่าๆ) ก็เลยเลือกใช้บริการรถเมล์แทน ซึ่งงานนี้พิมจะต้องขึ้นรถเมล์ทั้งหมด 2 ต่อด้วยกัน ต่อแรกนั่งจากแถว ๆ ข้างบ้านไปหน้าปาก และต่อที่ 2 นั่งจากปากซอยไปที่อู่ ขสมก. บางเขนอ่ะค่ะ ^__^
ถึงตรงนี้ ........ พิมก็อยากจะขอเชิญเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้ามาอ่านบันทึกของพิมอันนี้ ....... ร่วมเดินทางท่องเทียวไปกับพิมด้วยกันในวันนี้เลยนะคะ ^__^
เริ่มต้นพิมก็นั่งรถเมล์สาย 191 จากข้างบ้านมาลงที่หน้าปากซอยก่อนนะคะ ซึ่งจากข้างบ้านพิมมาหน้าปากซอยฝั่งถนนสุขาภิบาล 1 ก็ไม่ไกลมากค่ะ ประมาณ 3-4 ป้ายรถเมล์ได้ จากนั้นพิมก็มาต่อรถสาย 95 ค่ะ จะไปลงที่อู่บางเขนค่ะ ซึ่งขอบอกว่ารถเมล์ตอนตี 5 กว่าๆ เนี่ยว่างมากกกกกกกค่ะ (อย่างในภาพเลย)
ด้วยความที่ทั้งรถว่าง และถนนก็ว่าง (มาก) เผลแป๊บเดียวไม่ถึงครึ่ง ชม. พิมก็แถวหน้าการไฟฟ้าบางเขนแล้วค่ะ ซึ่งขอบอกว่าด้วยความเอ๋อของพิม พิมไม่รู้ว่าสาย 95 มันไปสุดตรงไหน พิมก็เลยลงรถเมล์มันที่ป้ายนี้แหละค่ะ (ทั้งที่นั่งต่อไปอีกประมาณป้ายนึง รถเมล์ก็ไปจอดในอู่ ตรงที่ซื้อตั๋วทัวร์ ขสมก. พอดี หุหุ)
จากนั้นพิมก็เดินข้ามสะพานลอยไปทางฝั่งวัดพระศรีฯ ค่ะ พอลงสะพานลอย ก็เดินหน้าขึ้นไปอีกประมาณ 200 เมตร
ก็จะเจอกับอู่ ขสมก. บางเขน อยู่ทางด้านขวามือแบบนี้ล่ะค่ะ ^^
ด้วยความที่พิมมาที่นี่เป็นครั้งแรก พิมก็เลยแอบเอ๋อค่ะ ไม่รู้ว่าเค้าซื้อตั๋วกันยังไง รถจอดตรงไหน ก็เลยไปถามพี่พนักงาน ขสมก. ที่อยู่ด้านหน้าตึก เค้าก็บอกว่า เดินเข้าไปข้างในโลด เดี๋ยวเจอเอง ....... พิมก็เลยเดินไปตามที่เค้าบอกค่ะ และก็ไปเจอกับจุดขายตั๋วตามอย่างในภาพนี้ที่ด้านในสุดของตึกในอู่เลยจ้า
ซึ่งถ้าใครจะไปดูดอกกระเจียวก็ซื้อตั๋ว "ชัยภูมิ" ตรงนี้เลยนะคะ 499 บาท เป็นตั๋วไปและกลับด้วยค่ะ ^^ ........ หากใครจะไปที่อื่นก็ซื้อตั๋วเอาตามที่อยากไปเลยนะคะ
ซื้อตั๋วเสร็จ ... ยังไม่ได้ออกเดินทางทันที ต้องรอเวลาให้ถึง 7 โมงเช้าก่อน .... และรถที่เราจะใช้เป็นพาหนะในการเดินทางก็ยังไม่มาด้วย เพราะงั้นก็ไปหาที่นั่งกันก่อนค่ะ
นั่งไปสักพัก ....... ประมาณ 6 โมงเช้า คนเริ่มมากันเยอะแล้ว
และพอสัก 6 โมงกว่านิดนึง รถ ขสมก. ทัวร์ของเรา ก็เริ่มมาจอดตรงจุดสตาร์ทอ่ะค่ะ .... ไม่ว่าจะเป็นรถที่ไปสายพิษณุโลก รถไปที่ไปหัวหิน รถไปราชบุรี รถไปอยุธยา และอีกมากมาย
ส่วนคันนี้คือรถที่จะไปทัวร์ทุ่งกระเจียวกับเรานะคะ
แต่ว่าเนื่องจากรถยังไม่พร้อม ต้องมีการไปเติมน้ำมันก่อน (ก็เติมในอู่นั่นแหละ) เราก็ยังคงต้องนั่งรอต่อไปค่ะ ^^"
ระหว่างรอ คุณสามีก็แอบไปซื้อกาแฟเติมพลังซะหน่อย รวมถึงซื้อพวกยาแก้เจ็บคอ ยาจิบแก้ไอมาให้พิมด้วยอ่ะค่ะ
จากนั้นสักประมาณ 6 โมง 35 ก็ไปขึ้นรถกันเลยจ้า
ซึ่งที่นั่งบนรถก็จะประมาณนี้นะคะ เป็นที่นั่งแบบรถเมล์แอร์ทั่ว ๆ ไปเลยอ่ะค่ะ ...... นั่งไม่สบายก้นและขาแม้แต่น้อย แต่ก็นั่นแหละค่ะ ทัวร์ประหยัดนี่นาเน๊าะ ^__^ ทนได้ๆ
แล้วหลังจากพิมกับคุณสามีขึ้นไปนั่งสักพัก ผู้โดยสารท่านอื่นก็เริ่มทยอยตามขึ้นมาค่ะ จนถึงประมาณ 6 โมง 50 ผู้โดยสารก็เต็มคันรถแล้วจ้า
จากนั้นเมื่อผู้โดยสารพร้อม คนขับพร้อม พนักงานประจำรถพร้อม .......... ก็ถึงเวลาออกเดินทางตอนประมาณ 6 โมงกะอีก 55 นาที ล่ะค่า ^^ ......... ซึ่งระหว่างการเดินทางในช่วงแรก พี่แดง พนักงานผู้ชายที่เห็นในภาพ ก็จะถือโทรโข่งมายืนอธิบายถึงรายละเอียดการเดินทางโดยคร่าวๆ ในวันนี้ให้พวกเราได้ทราบกันนะคะ ว่า เอ่อ...วันนี้เราจะไปไหน แวะกินข้าว ทำอะไร ยังไงกันตอนกี่โมงบ้าง และก็เล่าถึงประวัติของสถานที่ทุก ๆที่เราจะไปชมในวันนี้กันอย่างย่อๆ ให้ฟังด้วยอ่ะค่ะ
ซึ่งระหว่างนั่งฟังพี่แดงพูดไป ด้วยความที่เมื่อคืนไม่ได้นอนหลับมาเลยสักกะ ชม. พิมก็แอบเคลิ้มเล็กน้อยค่ะ >_<"
จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 7 โมง 45 พี่แดงก็บอกเราทุกคนว่าเราจะแวะที่จุดนี้เป็นจุดแรก เพื่อให้ทุกคนได้จัดการในเรื่องอาหารเช้าของตัวเองกันก่อน เพราะพี่แดงรู้ว่าลูกทัวร์ในคราวนี้ (และทุกคราว) เกือบทุกคน ไม่ได้กินข้าวเช้ากันมาก่อนน่ะค่ะ
ซึ่งร้านที่พี่แดงพาพวกเราแวะไปเนี่ย ชื่อร้านบ้านสวนสาขา 2 นะคะ อยู่ตรงวังน้อย อยุธยา ..... เป็นร้านที่เป็นต้นตำรับของเค้กบ้านสวนและกาแฟบ้านสวนอันลือเลื่องค่ะ พิมเองก็อยากจะซื้อกลับไปฝากที่บ้านสักสามสี่กล่อง แต่ด้วยความที่คนเยอะมาก (ดูจากในภาพ) ก็เลยคิดว่าไม่เอาดีกว่าค่ะ ไว้โอกาสหลังจะดีกว่า
แล้วพิมก็เลยไปจัดการหาข้าวหาปลาให้ตัวเองกะคุณสามีกินแทนค่ะ (แทนการไปต่อคิวซื้อเค้ก) ซึ่งตอนแรกก่อนจะซื้ออาหารของที่นี่กิน พิมก็ไม่ได้คาดหวังอะไรในเรื่องรสชาติมากนะคะ เห็นแค่ว่าเอ่อที่คนเยอะแบบนี้ อาจจะเพราะราคาถูกดี เพราะชามนึงแค่ 20-25-30 เท่านั้นเอง แต่พอได้กินจริง ๆ อืม...ม รสชาติดีทุกอย่างเลยอ่ะค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นข้าวราดแกงจานบนของพิม ข้าวราดแกงในภาพด้านล่างของคุณสามี
หรือแม้กระทั่งไข่เจียวธรรมดา ๆ
กับแกงจืดมะระ ที่ดูแล้วเหมือนจะทำให้อร่อยไม่ยาก (แต่จริง ๆ พิมว่ายาก) ...... เค้าก็ยังทำได้รสชาติดีเลยอ่ะค่ะ เรียกว่าด้วยรสชาติ ราคา และปริมาณนี่ไม่ผิดหวังเลย หากใครผ่านเส้นทางนี้แล้วยังไม่ได้แวะชิมอาหารที่ร้านนี้ พิมแนะนำเลยนะคะ ^^
แล้วหลังจากกินข้าวเสร็จ พิมกับคุณสามีก็ขอตบท้ายด้วยกาแฟเย้นที่รสชาติขม ๆ สักแก้วค่ะ ....... อันนี้พิมว่าแอบแพงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับราคาอาหาร และปริมาณน้ำ (เพราะดูดไป 3-4 จึ๊ก ก็หมดแล้วค่ะ) แต่ว่าเมื่อเทียบกับร้านอื่นก็ยังโอเคนะคะ
จากนั้นพิมเห็นว่ายังพอจะมีเวลาเหลืออยู่อีกเกือบ 10 นาที (พี่แดงเค้าให้เวลาลงมากินข้าวประมาณ 30 นาที) พิมก็เลยชวนคุณสามีไปเดินเล่นดูรอบ ๆ ร้านเค้าค่ะว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
ซึ่งที่ร้านนี้นอกจากพวกอาหารหนัก ๆ อย่างในภาพด้านบนแล้ว เค้าก็ยังมีของหวาน เครื่องดื่ม ของกินเล่น ของฝากต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นพวกน้ำข้าวโพด เต้าฮวยนมสด วุ้นกะทิ วุ้นสลิ่ม วุ้นมะพร้าวแบบเป็นลูก น้ำมะพร้าว แหนมเหนือง หมูยอดเวียดนาม มะม่วงดอง กระท้อนดอง
ขนมแห้ง ๆ ทั้งหลาย ทองม้วนกรอบ ทุเรียนทอด กะหรี่ปั๊บ เผือกฉาบ มันฉาบ ครองแครงกรอบ ขนุนอบกรอบ ทุเรียอบกรอบ ลูกชิ้นปิ้ง
ไส้กรอกอิสานทอด ข้าวเม่าทอด (สวยมากเลยค่ะ) ล๊อตเตอรี่ (อันหลังนี่ พี่คนขายล๊อตบอกให้ถ่ายรูปเค้าด้วย ฮ่ะๆ)
ล๊
แล้วก็ยังมีข้าวเกรียบปลาจากภาคใต้ ฝักบัว ผลไม้สด ผลไม้ดอง ข้าวโพดต้ม ถั่วต้ม ถั่วแระต้ม
ขนมกุยช่ายสด ขนมกง ถั่วทอดกลอย
และก็มีขนมหวานไทย ๆ อย่าง ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน อาลัว ขนมชั้น เปียกปูน ขนมใส่ไส้ ข้าวต้มมัด ขนมตาลพวกนี้ด้วยนะคะ ...... ซึ่งขนมของฝาก อะไรต่างๆ เหล่านี้เนี่ย ทางร้านไม่ได้เป็นคนขายโดยตรง แต่ให้ผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ขายน่ะค่ะ และเท่าที่พิมลองไปถามราคาดู ก็ไม่แพงเลยนะคะ เรียกว่าราคาเหมือนซื้อที่ตลาดหน้าปากซอยบ้านเราเลยอ่ะค่ะ
อ้อๆ และก็ยังมีร้านไร่กำนันจุลด้วยนะคะ ที่นี่่เค้าขึ้นชื่อเรื่องของปลาส้ม และก็เรื่องของส้มมากๆ เลย ใครสนใจลองไปดูได้นะคะ ผลิตภัณฑ์เพียบบบบบบบ
และสุดท้ายระหว่างทางที่เราจะเดินกลับไปขึ้นรถกัน พิมก็แอบเห็นรถที่เข้ามาจำหน่ายผลไม้ตามฤดูกาลด้วยค่ะ พิมไม่รู้ว่าเค้าเอาผลไม้เหล่านี้มาจากไหน จากสวนของเค้าเองหรือว่าซื้อมา (น่าจะอย่างหลัง) แต่ขอบอกว่าผลไม้สดมากเลยค่ะ ราคาก็เท่าตามตลาดนัดในกรุงเทพฯ เลย ใครผ่านไปก็ลองแวะไปอุดหนุนกันได้นะคะ
แล้วเมื่อเรากินข้าวเสร็จ จัดการธุระส่วนตัวเสร็จ เดินชมทั่ว ๆ ร้านเค้าเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องกลับไปขึ้นรถทัวร์เฉพาะกิจของเราในวันนี้เพื่อเดินทางกันต่อแล้วค่ะ ^^
แล้วยังไงเดี๋ยวตามไปดูกันในตอนถัดไปนะคะว่าพิมจะทัวร์ในวันนี้จะพาไปที่ไหนกันต่อจ้า ......... ส่วนตอนนี้ขอบ๊ายบายไปก่อนน๊า ^^