ถ้าพูดถึงสถานที่เที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ยามค่ำคืนวันอาทิตย์แล้ว พิมคิดว่าหลายๆ  คนน่าจะนึกถึงถนนคนเดินวันอาทิตย์ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อว่า ถนนคนเดินท่าแพเน๊าะคะ 

พิมเองไปเชียงใหม่ค่อนข้างบ่อยค่ะ อย่างปี 2558 นี้ พิมก็ไปมา 7 ครั้งแล้ว และถ้าครั้งไหนไปตรงกับวันอาทิตย์  พิมก็ไม่พลาดที่จะไปเดินถนนคนเดินท่าแพทุกครั้งไปนะคะ  (ประมาณว่าไม่ได้ซื้อ ก็ขอให้ได้เดิน ^^")   แล้วในการไปเชียงใหม่ครั้งที่ 5 ของพิมเมื่อตอนต้นพฤศจิกายนที่ผ่านมา  พิมก็มีโอกาสได้ไปพักโรงแรมนึงที่อยู่บนถนนคนเดินท่าแพ ที่ทั้งบรรยากาศโรงแรม ห้องพัก พนักงาน ทั้งการบริการ อาหารเช้า ดีงามมากจนอยากมารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันเลยค่ะ

โรงแรมที่พิมพูดถึง ก็คือโรงแรม ยูเชียงใหม่  (U Chiangmai) นะคะ  

"U Chiangmai"  เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่  โดยใช้เวลาเพียง 20 นาทีจากสนามบินเชียงใหม่ก็จะถึงโรงแรมแล้วค่ะ    ยูเชียงใหม่เป็นโรงแรมที่มีห้องพักทั้งหมด 41 ห้อง  โดยแบ่งเป็นห้องสุพีเรีย 29 ห้องและ ดีลักซ์อีก 12 ห้องนะคะ 

ความพิเศษของ ยูเชียงใหม่ คือ ยูเชียงใหม่ เป็นโรงแรมแห่งแรกที่ให้บริการห้องพักตลอด 24 ชม  คือ ลูกค้าสามารถจะเข้าไปเช็คอินที่โรงแรมเวลาใดก็ได้ค่ะ ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเที่ยง บ่ายสอง หรือบ่ายสาม   และก็สามารถที่จะเช็คเอ้าท์ได้ในเวลาเดียวกันของวันถัดไป  เช่น เข้าพักตอน 5 ทุ่ม ก็จะสามารถเช็คเอ้าท์ได้ภายใน 5 ทุ่มของวันถัดไปได้อ่ะค่ะ    ซึ่งเหมาะมากกับคนที่ชอบเดินทางอย่างพิมนะคะ 

และความพิเศษอีกอย่างที่พิมชอบมากๆ ก็คือ  ยูเชียงใหม่ เป็นโรงแรมที่ให้บริการอาหารเช้าที่เราสามารถจะเลือกทานตรงไหนของโรงแรมก็ได้  เวลาไหนก็ได้ค่ะ  ไม่จำเป็นว่าจะต้องทานที่ห้องอาหารของโรงแรม และทานภายในเวลา 10 โมง หรือ 11 โมงนะคะ   เรียกว่าเป็นโรงแรมที่ตอบโจทย์คนที่กินไม่เป็นเวลา นอนไม่เป็นเวลาอย่างพิมมากๆ เลยอ่ะค่ะ 

ในส่วนของห้องพัก ....... จริงๆ วันนี้ที่พิมจองไว้ก็จะเป็นห้อง Superior Room นะคะ   แต่ว่าทางโรงแรมใจดี ^_^  อัพเกรดให้พิมเป็นห้องดีลักซ์ค่ะ    โดยห้องดีลักซ์จะต่างกับสุพีเรียตรงขนาดห้องที่มากกว่า 10 ตารางเมตร และมีโซฟากับอ่างอาบน้ำเพิ่มขึ้นมานะคะ   

ความพิเศษอีกอย่างนึงของ ยูเชียงใหม่ นอกจากเรื่องเวลาเช็คอินกับเรื่องอาหารเช้า ก็คือ ปกติเวลคัมดริ้งค์ของโรงแรมอื่นๆ จะถูกนำมาเสริฟขณะที่เรากำลังเช็คอินอยู่ที่ล๊อบบี้ใช่ไหมคะ  แต่ว่าเวลคัมดริ้งค์ของที่นี่จะอยู่ในตู้เย็นที่อยู่ในห้องพักค่ะ  ลูกค้าสามารถเลือกได้เลยว่าจะดื่มอะไร และจะดื่มตอนไหนนะคะ   ^_^

ในส่วนของห้องพักนอกจากจะถูกตบแต่งอย่างสวยงาม หรูหราแล้ว    ภายในห้องพักก็ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นร่ม  ไดร์เป่าผม  ตู้เซฟ

รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ให้ความบันเทิง อย่าง  iPOD  ลำโพง และ LCD TV ขนาด 37 นิ้ว อีกด้วยนะคะ

ในส่วนของห้องน้ำ ก็กว้างขวางเลยทีเดียวค่ะ   ห้องน้ำที่นี่มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ที่ลงไปนั่ง 2 คนได้ชิวๆ ^^  มีผ้าขนหนูผืนใหญ่มาก  ขนาดคุณสามีพิมตัวใหญ่ก็ยังนุ่งได้สบายๆ   มีตู้อาบน้ำที่ทั้งน้ำจากฝักบัวและน้ำจาก Rain Shower  แรงดีไม่มีตก แถมมี accessories  เล็ก ๆ น้อย ๆ ครบถ้วน โดยรวมแล้วพิมประทับใจกับห้องน้ำของที่นี่มากเลยนะคะ

และที่พิมชอบอีกเรื่องนึงคือ ห้องพักของที่นี่จะมีหมอนเยอะมากค่ะ ทั้งหมอนที่อยู่บนเตียงนอน หมอนที่อยู่บนโซฟา รวมไปถึงหมอนที่อยู่บน Day Bed ตรงริมระเบียง รวม ๆ แล้ว นับหมอนได้ 14-15 ใบเลยนะคะ  สำหรับสาวกคนชอบหมอนอย่างพิม เจอหมอนเยอะๆ  อย่างนี้ ฟินเลยค่ะ 

หลังจากเดินสำรวจห้องพักอยู่สักพักนึง และเผลอหลับด้วยความอ่อนเพลียไปงีบนึง ไม่ถึง 1 ชม.  พอตื่นขึ้นมาดูนาฬิกา ก็พบว่าได้เวลาออกไปเดินเล่นที่ถนนนคนเดินแล้วล่ะค่ะ  ^_^

แต่ก่อนจะออกไปเดินเล่น  (ซึ่งคาดว่าต้องใช้พลังงานเยอะมาก)  พิมก็ขอแวะทานข้าวเย็นที่ห้องอาหาร  "กิน" (Eat)  ซึ่งเป็นห้องอาหารของโรงแรมยูเชียงใหม่ และตั้งอยู่ที่ด้านหน้าโรงแรมก่อนนะคะ  

ที่ห้องอาหาร "กิน"  เค้าก็จะให้บริการอาหารนานาชาติแบบ Home Cooking ค่ะ    โดยจะเปิดให้บริการกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง 5 ทุ่มเลยนะคะ 

ซึ่งวันนี้พิมเลือกนั่งโต๊ะริมหน้าต่างที่ติดกับถนนคนเดินหน่อยอ่ะค่ะ ^_^ 

มองออกไปนอกหน้าต่าง ก็จะเห็นบรรยากาศของถนนคนเดินแบบในภาพด้านล่างนี้เลยนะคะ  แบบว่ามันเป็นอารมณ์ที่ชิว ๆ มากค่ะ 

ก่อนพิมจะเดินมาทาง มีน้องคนนึงแนะนำพิมมาว่าที่นี่อาหารอร่อยมากหลายอย่าง โดยเฉพาะข้าวซอย  น้ำเงี๊ยว  สปาเกตตี้ไส้อั่ว   น้ำพริกอ่อง  และก็กุ้งซอสเปรี้ยวหวาน  เพราะงั้นไหน ๆ มีโอกาสได้มาที่นี้ทั้งที แบบว่าไม่ได้มาบ่อยเน๊าะ พิมก็ขอจัดอาหารตามที่น้องเค้าแนะนำมาทั้งหมดเลยอ่ะค่ะ 

กุ้งผัดซอสเปรี้ยวหวาน ... เมนูนี้เนื้อกุ้งนุ่ม หอม หาน ส่วนซอสก็รสชาติดีเลยนะคะ  ออกเปรี้ยวหวานตามชื่อ แต่รสไม่จัดมาก  เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดีอยู่ค่ะ

เมนุนี้ ข้าวซอยไก่ (มาพร้อมกับเครื่องเคียงในภาพด้านล่าง) ... คุณสามีพิมจัดการเรียบนะคะ   คุณเธอบอกอร่อยดี  ก็น่าจะอร่อยจริง ๆ เพราะเผลอแป๊บเดียว หมดชาม แม้แต่น้ำแกงก็ไม่เหลือเลยค่ะ  >_<

ส่วนเซตนี้เป็นขนมจีนน้ำเงี๊ยว น้ำพริกอ่อง ทานคู่กับไส้อั่ว  หมูยอ แคบหมู ข้าวเหนียวและผักสดนะคะ  เมนูนี้ก็รสชาติกลมกล่อมดีนะคะ   ที่สำคัญคือเครื่องเยอะ   พิมกินเพลิน ๆ หมดไม่รู้ตัวเหมือนกันค่ะ 

ต่อมาก็เป็นแกงฮังเลนะคะ   แกงฮังเลของที่นี่จะเป็นแบบน้ำแกงไม่ข้นมากเหมือนที่อืนๆ  มีขิงอ่อนกับถั่วลิสงคั่วโรยมาด้านบน หมูก็เปื่อยกำลังดี ไม่เปื่อยมาก พอมีอะไรให้เคี้ยวเล็กน้อย  และรสชาตินุ่มนวลดีค่ะ  ^_^

และมีอีกเมนูนึงที่อร่อยมากจนไม่น่าเชื่อ นั่นก็คือ สปาเกตตี้ไส้อั่วนะคะ  ตัวซอสเป็นแบบซอสครีม มาพร้อมกับไส้อั่วหั่นเป็นชิ้นพอคำ  แลดูเหมือนจะไม่เข้ากัน แต่ขอบอกว่าเข้ากันมากอย่างนึกไม่ถึงจนอยากจะขอเบิ้ลจานที่สองเลยอ่ะค่ะ   (ติดตรง สั่งมาเป็นอย่างสุดท้าย อิ่มมาก) 

จบเมนูคาวไปแล้ว ขอปิดท้ายด้วยขนมหวานสักอย่างนะคะ กับเมนูขึ้นชื่อของที่นี่  ข้าวเหนียวมะม่วงค่ะ  ตัวข้าวเหนียวมูนจะมีทั้งหมดสามสี คือ ข้าวเหนียวมูนธรรมดา ข้าวเหนียวมูนอัญชัน และข้าวเหนียวมูนใบเตย  ตัวน้ำกะทิที่ราดก็จะทำเป็นกลิ่นใบเตยนะคะ ส่วนมะม่วงเป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ รสชาติโดยรวม หวานหอมชื่นใจ  เป็นการปิดท้ายมื้อเย็นอย่างสมบูรณ์แบบเลยอ่ะค่ะ   ^_^

จบจากมื้ออาหาร  พิมก็ขอตัวไปเดินย่อยสักหน่อยนะคะ   แล้วเดี๋ยวพบกันอีกทีพรุ่งนี้เช้าค่ะ  ^_^    

 เช้าวันนี้ พิมรู้สึกตัวตื่นตั้งแต่ 6 โมงกว่าๆ  เลยนะคะ   แต่คงเพราะว่าที่นอนนุ่มมาก  บรรยากาศในห้องก็สบายมาก  กว่าพิมจะลุกจากที่นอนได้ก็เลยปาเข้าไป 8 โมงกว่าเลยอ่ะค่ะ >_< 

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พิมก็ลงมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร "กิน"  ที่พิมทานมื้อเย็นเมื่อวานนี้นะคะ    ..... อย่างที่พิมบอกไปในตอนแรกว่าอาหารเช้าของที่นี่เนี่ย จริง ๆ แล้วกินที่ไหนก็ได้ เวลาไหนก็ได้   แต่ไหน ๆ มาทั้งทีแล้ว พิมก็อยากมากินพร้อมแขกท่านอื่นที่มาพักในโรงแรมอ่ะค่ะ  ^_^ 

อาหารเช้าของที่นี่ จะแบ่งเป็น 2 ส่วนนะคะ ส่วนแรกคือ ตักทานเอง ก็จะมีขนมปัง มีแยม มีซีเรียล มีน้ำผลไม้ และผลไม้หลากหลายชนิด  รวมถึงมีสลัดผักสด ๆ ให้ได้เลือกทานเยอะไปหมดเลยค่ะ 

และในส่วนที่สอง ก็จะเป็นอาหารจานเดียว และเครื่องดื่ม แบบสั่งเอานะคะ  ซึ่งก็จะมีให้เลือกทานหลายเมนูเลย ไม่ว่าจะเป็นแบบไทย จีน หรือ ฝรั่ง  ซึ่งพิมก็สั่งไป 2 และคุณสามีก็สั่งไป 2 รวมกันเป็น 4 อย่างค่ะ

ระหว่างรออาหารมาเสริฟ   พิมก็ขอรองท้องเบา ๆ ด้วยขนมปังและน้ำส้มสักแก้วก่อนนะคะ ขนมปังของที่นี่หอมนุ่มดี แต่ว่าในความนุ่มก็มีความเหนียวอยู่นิด ๆ ไม่ต้องทาอะไรเลยก็หอมอร่อยค่ะ

 รอไปสักแป๊บจานแรกของคุณสามีก็มานะคะ   ไข่ดาว 2 ฟอง  ไส้กรอกหมู เบคอน เสริฟคู่กับมันฝรั่งผัดหอมใหญ่พริกไทยดำ   ถั่วอบ มะเขือเทศอบ   คุณสามีบอกว่าไส้กรอกเป็นแบบเนื้อหยาบ ด้านในชุ่ม อร่อยมากค่ะ

ต่อมาเป็นจานสองของคุณสามีนะคะ  ก็คือ ไข่กวน เสริฟกับมะเขือเทศย่างและ มันฝรั่งแฮชบราวนื ... ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ 

ส่วนของพิมเป็นโจ๊กกุ้งนะคะ ... ขอบอกเลยค่ะว่า หาโจ๊กอร่อยๆ มานานแหละ เพิ่งได้มาเจอที่ยูเชียงใหม่นี่แหละค่ะ  โจ๊กเค้าจะมีเนื้อข้าวที่ละเอียดนุ่มมาก แต่ก็ไม่ถึงกับละเอียดเละจนไม่ต้องเคี้ยวนะคะ  แล้วตัวข้าวโจ๊กก็หอม  ทานคู่กับหมี่กรอบ และปาท่องโก๋ เหยาะพริกไทยป่นลงไปอีกนิด ซอสปรุงรสอีหน่อย   อร่อยมากเลยค่ะ 

ส่วนอีกจานของพิมเป็นบะหมี่หมูแดงนะคะ จานนี้ทุกอย่างโอเค  เส้นลวกมาสุกนุ่มกำลังดี  ผักหลากหลายดี  แต่พิมว่าหมูแดงน้อยไปนิ๊ดดด ทั้งชามมี 3 ชิ้นเอง   แต่ก็โอเคเพราะโดยรวมอร่อยทั้งชามค่ะ  >_<  

 เสร็จจากอาหารเช้าแล้ว  พิมก็ขอเดินชมโรงแรมสักหน่อยนะคะ   ซึ่งส่วนที่พิมจะไปเดินชมก็มีสปา ห้องสมุด ห้องออกกำลังกายค่ะ

ในส่วนของ  "ยู สปา" ก็จะอยู่ที่ชั้น 2 ด้านบนล๊อบบี้เลยนะคะ   ซึ่งแต่เดิมที่นี่จะเป็นอาคารจวนผู้ว่าการเชียงใหม่เก่าค่ะ   เท่าที่พิมได้คุยกับพนักงานที่ห้องสปา เค้าบอกว่าตัวอาคารมีอายุ 100 กว่าปีแล้วนะคะ   แต่ได้ถูกปรับปรุงและตกแต่งใหม่เพื่อให้กลายเป็นสถานที่ให้บริการสปาของทาง ยูเชียงใหม่ค่ะ

สปาของที่นี่จะมีอยู่ทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน  โดยที่นี่จะมีการนวดทั้งแบบนวดไทย และนวแบบสวีดิส  ให้บริการโดยพนักงานที่เป็นมืออาชีพ  ในส่วนของน้ำมันหอมระเหย ก็จะเป็นสูตรล้านนา ที่จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายทั้งร่ายกายและจิตใจนะคะ 

 

ในส่วนของห้องสมุด ก็จะอยู่ข้างๆ ห้องสปาเลยค่ะ  มีแค่ทางเดินกั้นนิดหน่อย   ในห้องนี้จะมีหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่และวรรณกรรมต่าง ๆ ให้ได้อ่านกันมากมายเลยนะคะ  และก็จะมีคอมพิวเตอร์ให้แขกที่มาพักได้ใช้อีกด้วยค่ะ 

 ในส่วนของห้องฟิตเนสหรือห้องออกกำลังกาย  จะตั้งอยู่ด้านหน้าโรงแรมฝั่งขวานะคะ  ฟิตเนสของที่นี่จะเปิดให้บริการ 24 ชม.   แล้วก็มีอุปกรณ์ เครื่องออกกำลังกายมากมายเลยค่ะ  รวมไปถึงจักรยานนับสิบคันที่แขกสามารถขอยืมเพื่อเอาไปขี่ชมรอบคูเมืองเชียงใหม่ได้เลยนะคะ 

หลังจากทานอาหารเช้า เดินชมภายในโรงแรมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางต่อกันล่ะค่ะ  ... จริง ๆ แล้วถ้าให้พิมเลือกได้  หากที่ ๆ พิมจะไปต่อ ไม่ใช่ธุระด่วนหรือธุระจำเป็น หรือมีนัดกับใคร  พิมก็อยากจะขอพักที่นี่ต่ออีกสักคืนสองคืนนะคะ   เพราะตั้งแต่ย่างท้าวก้าวเข้ามาภายใน ยูเชียงใหม่  พิมรู้สึกประทับใจตั้งแต่พนักงานที่ฟร้อนท์ ซึ่งพูดจาดี ยิ้มแย่มแจ่มใส  และยังเดินไปแนะนำถึงเรื่องการใช้งานอุปกรณ์ภายในห้องพักด้วย  (ปกติพิมจะเอ๋อ ๆ กับเรื่องอุปกรณ์ในห้องพักเป็นอย่างมาก)   ในส่วนของบรรยากาศภายในห้องพัก และบรรยากาศภายในโรงแรม  ก็ทำให้พิมรู้สึกว่าคนออกแบบนั้นใส่ใจทุกรายละเอียดจริง ๆ ค่ะ   ในส่วนของอาหารก็รสชาติดี หลายเมนูเป็นอาหารธรรมดา แต่กลับทำได้อร่อยกว่าธรรมดา    ที่สำคัญคือเช็คอินเวลาไหนก็ได้  กินข้าวเช้าตอนไหนก็ได้ ..... เป็นอะไรที่ทำให้พิมรู้สึกว่าที่นี่แตกต่างจากโรงแรมอื่นจริง ๆ ค่ะ

ยังไงหากเพื่อน ๆ ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม หรืออยากเช็คราคาห้องพัก  ดูได้ที่  >> เวบไซต์โรงแรม ยูเชียงใหม่ <<  เลยนะคะ

ขอบคุณสำหรับการเข้ามาชม แล้วพบกันในรีวิวถัดไปของพิมค่ะ ^_^