เรื่องของเรื่องมันเริ่มมาจากว่า พิมอยากมัสมั่นเนื้อมากๆ  ค่ะ อยากมาน่าจะ 3-4 เดือนแล้ว  แต่ว่าจนแล้วจนรอดพิมก็ไม่ได้ลงมือทำสักที  เพราะหาแนวร่วมกินไม่ได้นะคะ

จนเมื่อหลายวันก่อน มีคนเอาเนื้อวัวออสเตรเลียมาให้พิมเซตใหญ่เบ้อเร่อเลยค่ะ  ทั้งสันคอ พื้นท้อง เสือร้องไห้ และโทมาฮอว์ค   พิมก็เลยแบ่งเอาบางส่วนไปทำเป็นซุปเนื้อแบบมุสลิม  ทำเมนูเนื้อผัดพริกป่น (แซ่บมาก ไว้จะมาแจกสูตรอีกที)  เอาไปพล่าเนื้อ ยำกับมะเขือเปราะ  บางส่วนพิมก็เอาไปทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นแบบง่าย ๆ นะคะ   และพอเหลือส่วนสุดท้าย พิมก็เลยตัดสินใจว่าจะเอามาทำแกงมัสมั่นนี่แหละ เพราะว่าอยากกินมานานหลายเดือนแล้ว  ถึงตอนนี้จะยังไม่มีผู้ร่วมกิน ก็จะทำล่ะค่ะ 555 

สำหรับเนื้ออสเตรเลียที่พิมใช้ทำเมนูนี้และเมนูอื่น ๆ เนี่ย นอกจากจะหอม นุ่ม ตุ๋นแล้วเปื่อยง่ายกว่าเนื้อวัวปกติทั่วไป  ก็ยังหาซื้อไม่ยากนะคะ  มีขายตามซุปเปอร์มาร์เกตอย่างในเดอะมอลล์ ท๊อป   หรือตามร้านขายเนื้อชั้นนำทั่วไป  เพื่อน ๆ คนไหนสนใจอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนื้ออสเตรเลีย  ก็เข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ  >>  https://www.trueaussiebeefandlamb.com.au 

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- เนื้อวัวส่วนพื้นท้อง 1000 กรัม
- พริกแกงมัสมั่น 200 กรัม
- ลูกกระวานคั่ว 6 ลูก
- มันเทศ ปอกเปลือกหั่นชิ้น 600 กรัม
- หอมใหญ่ ปอกเปลือก ผ่าสี่ส่วน 200 กรัม
- ถั่วลิสงคั่ว (ไม่มีเปลือก) 80 กรัม
- หัวกะทิ 1 + 1/2 ถ้วย
- หางกะทิ 5 ถ้วย
- น้ำมะขามเปียก 100 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว 200 กรัม
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 
- เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ 

** ถ้วย = ถ้วยตวงมาตรฐานที่มีขายตามร้านขายเครื่องครัวทั่วไป / ช้อนโต๊ะ = ช้อนโต๊ะที่อยู่ในชุดช้อนตวง  /  ช้อนชา = ช้อนชาที่อยู่ในชุดช้อนตวง 

:: วิธีทำ ::

อันดับแรก ... มาดูเนื้อที่พิมใช้กันในวันนี้ก่อนนะคะ เป็นเนื้อส่วน Plate  หรือพื้นท้อง  ชิันนี้หนัก 2000 กรัม  พิมจะใช้แค่ 1000 กรัมพอ  ส่วนอีก 1000 กรัม เดี๋ยวพิมจะเอาไปทำเมนูอื่นค่ะ ^_^  

เนื้อส่วนพื้นท้องเนี่ย เอาไปทำเมนูได้หลากหลายมาก จะเอาไปย่างก็อร่อย  ทอดก็อร่อย หรือจะเอาไปทำพวกตุ๋น ๆ ต้ม ๆ ก็ดีไม่ใช่น้อยนะคะ 

เมื่อได้เนื้อมาแล้ว ก็จัดการหั่นเนื้อเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมใหญ่นิดนึงค่ะ เพราะเดี๋ยวเวลาเราเอาไปตุ๋น มันจะหดลงอีกหน่อยนะคะ  ^_^ 

 จัดการตั้งหม้อบนเตาไฟ  เปิดไฟกลาง  ใส่หางกะทิลงไป 4 ถ้วยก่อนค่ะ  พอเดือดดีก็ใส่เนื้อที่เราหั่นไว้ลงไป  ตามด้วยเกลือป่น 1/4 ช้อนโต๊ะนะคะ   

รอจนกะทิเดือดอีกทีก็หรี่ไฟลงเป็นไฟอ่อน  แล้วต้ม ๆ ตุ๋น ๆ เนื้อด้วยความใจเย็นไปสักประมาณ  1  ชม. 10 นาที หรือถ้าใครชอบเนื้อแบบเปื่อยมากหน่อย ก็ต้มสัก 1 ชม. 30 นาที  พอครบเวลาก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ 

จากนั้น ตั้งกระทะก้นลึก หรือหม้อที่เราจะใช้แกงบนเตานะคะ  ใส่หัวกะทิลงไป 1 ถ้วย  เปิดไฟกลาง พอกะทิเริ่มแตกมันก็ใส่พริกแกงมัสมั่นลงไปผัดให้หอมค่ะ 

 พอพริกแกงหอมดีแล้ว ก็ตักเนื้อที่เราตุ๋นไว้ลงไปผัดให้เข้ากับพริกแกงนะคะ  ผัดไปผัดมาสักแป๊บบบ  ก็ใส่มันเทศ หอมใหญ่ ถั่วลิสง และลูกกระวานลงไปค่ะ 

ตามด้วยกะทิที่อยู่ในหม้อต้มเนื้อ  (ประมาณ  1 + 1/2 ถ้วย) นะคะ   แล้วก็ใส่หางกะทิที่เหลืออีก 1 ถ้วยลงไป   (รวมเป็นหางกะทิประมาณ 2 + 1/2 ถ้วย)  ซึ่งก็จะได้ปริมาณน้ำแกงที่ปริ่ม ๆ กับมันกับเนื้อพอดี ๆ ค่ะ 

จากนั้นก็ปรุงรสด้วยน้ำตาล  น้ำมะขามเปียก น้ำปลา เกลือ (ที่เหลือ) นะคะ 

*** มัสมั่นของพิม จะเป็นแบบน้ำแกงขลุกขลิก  ถ้าใครชอบน้ำแกงเยอะ ๆ ก็ให้เพิ่มกะทิไปอีกได้ แต่ต้องเพิ่มเครื่องปรุงอย่างอื่นด้วยค่ะ 

คนส่วนผสมในหม้อให้พอเข้ากัน และพอน้ำตาลละลายดี ก็ลองตักขึ้นมาชิมรสดูว่าเป็นในแบบที่ชอบไหมนะคะ   เพราะถึงแม้พิมจะให้สัดส่วนของเครื่องปรุงเอาไว้เป็นตัวเลขชัดเจน  แต่บางทีด้วยความที่มะขามเปียกแต่ละแหล่งที่มามันเปรี้ยวหวานต่างกัน   หรือพริกแกงที่เพื่อน ๆ ซื้อมามีความเค็มเผ็ดต่างกัน  ก็อาจจะทำให้รสชาติแกงของพิมกับของเพื่อน ๆ ต่างกันได้  เพราะงั้นลองชิมดู  ถ้าขาดรสไหนไป ก็เติมเพิ่มเอาตามที่ชอบได้เลยค่ะ    บางคนอาจจะชอบให้เค็มนำ  บางคนอาจจะชอบให้หวานนำ  บางคนอาจจะชอบให้เปรี้ยวนำนะคะ  แต่ที่พิมปรุงเนี่ย รสเปรี้ยวจะนำเล็กน้อย แต่ไม่โดดแบบเปรี้ยวจี๊ด  และก็มีความหวานตามมาแบบกลมกล่อม ตัดรสด้วยเค็มปลาย ๆ ค่ะ 

พอได้รสชาติที่ชอบแล้ว  ก็ให้หรี่ไฟเตาลงเป็นไฟอ่อน แล้วก็เคี่ยวส่วนผสมทั้งหมดไปอีกประมาณ 30 นาที เพื่อให้หอมใหญ่นุ่ม ถั่วนุ่ม และมันเทศสุกนิ่มดีนะคะ 

*** เนื้อวัวออสเตรเลีย จะมีความพิเศษอยู่อย่างนึงคือ ใช้เวลาในการเคี่ยวหรือต้มตุ๋นให้เปื่อยนุ่ม น้อยกว่าเนื้อวัวของไทย

และพอครบเวลา ก็ให้ราดด้วยหัวกะทิที่เหลืออีกครึ่งถ้วยลงไป  แล้วรอเดือดอีกครั้ง  เราก็จะได้ "มั่สมั่นเนื้อ" สุดแสนอร่อย ออกมาหน้าตาประมาณในภาพด้านล่างนี่เลยค่ะ  

ขอบอกว่าแค่กลิ่นหอมของน้ำแกง กลิ่นหอมของเนื้อ ก็พาเอาพิมน้ำลายไหลไม่รู้ตัวแล้วนะคะ ^_^ 

ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองไปทำกันดูน๊าา  ติดขัดตรงไหนก็มาถามกันได้ค่ะ    

แล้วเจอกันใหม่ในเมนูถัดไปนะคะ สวัสดีค่ะ  ^_^