เมื่อคืนฝนตกหนักมากเลยค่ะ เช้านี้ก็ตกหนักอีก ทำให้พิมไม่อยากออกไปไหน พอรู้สึกหิวข้าว ก้เลยเดินไปค้นตู้เย็น แอบเจอแหนมอยู่ห่อนึง กับไข่อีก 5 ฟอง ... เพราะงั้นเลยขอเอามาทำไข่เจียวแหนมกินกับข้าวสวยร้อน ๆ หน่อยล่ะกันค่ะ
.... สำหรับไข่เจียวแหนมเนี่ย จะว่าไปเมื่อก่อนสมัยเรียนพิมทำกินบ่อยมากเลยนะคะ แบบว่าอยู่หออ่ะค่ะ แล้วร้านค้าใต้หอ (อพาร์ทเม้นท์) เค้ามีแหนมห่อละ 5 บาทขาย (อันยาวประมาณ 4 นิ้ว) เวลาไม่รู้จะกินอะไรดี ก็จะซื้อแหนม 1 ห่อกับไข่ไก่ 1 ฟอง มาเจียวรวมกัน กลายเป็นไข่เจียวแหนม กินคู่กับความสวยร้อน ๆ เหยาะด้วยพริกน้ำปลาสักหน่อย โอ้โห...ห อร่อยจนเพื่อนมาแย่งกินเลยค่ะ >_<"
แต่พอโตมาหน่อย มีตัวเลือกในการกินมากขึ้น ก็เลยลืม ๆ ไข่เจียวแหนมนี่ไปซะเลยอ่ะค่ะ น๊านนนานที กว่าจะได้ทำกินสักที ... จนบางทีแอบลืมรสชาติไปก็มีน่ะค่ะ แต่ถ้าหากใครถามพิมว่าในบรรดาไข่เจียวมีไส้เนี่ย พิมชอบอะไรมากที่สุด หนึ่งใน 2-3 อย่างที่พิมชอบ ก็ต้องมีไข่เจียวแหนมอยู่อย่างแน่นอนอ่ะค่ะ ^^
ว่าแล้วก็มาดูหน้าตาไข่เจียวแหนมบ้านพิมกันก่อนนะคะ ว่าหน้าตาเป็นยังไง ... นี่ค่ะหน้าตาอย่างนี้เลย ... น่าทานเน๊าะค่ะ ^^
สำหรับไข่เจียวแหนมเนี่ย ... แต่เดิมเค้าก็จะมีแต่ไข่กับแหนมเท่านั้นอ่ะค่ะ แต่ว่าพิมอยากเพิ่มสารอาหารและก็สีสันเข้าไปสักหน่อย ก็เลยใส่มะเขือเทศกับต้นหอมลงไปเพิ่ม ซึ่งก็ปรากฎว่าเข้ากันดี แถมช่วยชูรสของไข่เจียวแหนมให้อร่อยมากยิ่งขึ้นอีกด้วยอ่ะค่ะ
เมื่อดูหน้าตากันไปแล้ว ก็มาดูส่วนผสมกับวิธีทำกันเลยล่ะกันนะคะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- แหนม 130 กรัม
- มะเขือเทศท้อสีแดงจัด (แต่เนื้อยังแข็งอยู่) 1 ลูก
- ต้นหอม 2 ต้นเล็ก
- ซีอิ๊วขาว 1 ชต.
- น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ชต.
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นก็มาดูที่แหนมของเรากันก่อนเลยนะคะ
สำหรับแหนมเนี่ย .... วันนี้พิมเลือกใช้แหนมบ้านค่ะ ซึ่งแหนมบ้านในที่นี้ก็คือ แหนมที่ชาวบ้านเค้าทำมาขายเอง เป็นแหนมที่ทำมาจากเนื้อหมูและก็หนังหมูด้วยอ่ะค่ะ เพราะงั้นเวลาที่เราเคี้ยวนอกจากจะได้รสเปรี้ยวและความหอมตามธรรมดาของแหนมแล้ว เราก็ยังจะได้ความกรุบ ๆ หนึบๆ เล้กน้อย (แต่ไม่เหนียว) จากหนังหมูอีกด้วยค่ะ เรียกว่า อร่อยสองเด้งไปเลย ^^ (แต่ปกติเนื้อหมูมันจะเยอะกว่านี้นะคะ ประมาณว่าเนื้อหมู 80% หนัง 20% แต่ไหงวันนี้หนังเยอะมากกกกกกก ก็ไม่รู้ กลายเป็นแหนมหนังหมูไปเลย >_<")
สำหรับการเตรียมแหนมเนี่ยนะคะ หากเป็นแหนมที่เค้าทำขายเป็นอุตสาหรรมที่สีออกจะแดง ๆ หน่อย เนื้อแหนมชนิดนี้จะแน่นเป็นพิเศษ บางทีดึงก็ไม่ค่อยออก เราก็อาจจะต้องใช้ส้อมในการตะกุยให้แหนมมันกระจายตัวนะคะ แต่ถ้าเป็นแหนมบ้านๆ อย่างที่พิมเลือกใช้ในวันนี้ ก็ไม่ต้องใช้อาวุธหรืออุปกรณ์ใด ๆ ค่ะ แค่เพียงแกะถุงออกมาเท แหนมมันกระจายตัวออกมาเองเรียบร้อยแบบในภาพเลยค่ะ
เตรียมแหนมเสร็จ ก็มาจัดการกับมะเขือเทศกันต่อค่ะ ... ซึ่งสำหรับมะเขือเทศเนี่ย หากใครชอบมะเขือเทศเนื้อนิ่มๆ ก็ให้เลือกมะเขือเทศแบบสุกมากๆ มาใช้นะคะ แต่ว่าถ้าใครชอบแบบเนื้อยังไม่ค่อยนิ่ม และรสเปรี้ยวมากหน่อย ก็ให้เลือกแบบลูกสีแดงอมส้มๆ แบบในภาพอ่ะค่ะ
ซึ่งพอเราได้มะเขือเทศมาแล้วนะคะ ก็ให้เราเอาไปล้างทั้งลูกเลย ดึงขั้วออกด้วยอ่ะ ... แล้วก็นำมาผ่าครึ่ง หั่นเป็นชิ้นพอคำ เฉียงไปเฉียงมาแบบในภาพนะคะ (ลูกนึง หั่นได้ประมาณ 15 ชิ้น) ... ล่ะก็พักเอาไว้ก่อน
ส่วนต้นหอม ... ซึ่งเป็นของอย่างสุดท้ายที่เราจะต้องเตรียมเนี่ย ก็ให้เราเอามาล้างให้สะอาด แล้วก็ซอยหยาบๆ ไว้นะคะ .... (หากเป็นต้นเล็กใช้ 2 ต้น แต่ถ้าเป็นต้นใหญ่ใช้แค่ต้นเดียวก็พอค่ะ)
เมื่อเตรียมของเสร็จ ก็มาเริ่มต้นลงมือทำกันได้เลยค่ะ ... ด้วยกรตอกไข่ไก่ทั้ง 3 ใบใส่ชามใบโต ๆ สักใบ แล้วก็ตีด้วยส้อมให้ฟูกว่าตอนเราทำไข่เจียวธรรมดาสักหน่อยอ่ะค่ะ (เพื่อให้เนื้อของไข่เจียวมีความหนานุ่ม)
และก็ใส่มะเขือเทศ แหนม ต้นหอมที่เราซอยไว้ตามลงไป
ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวสักหน่อยนึง ราว ๆ 1 ชต.
คนให้เข้ากันดี ... ก็จะได้มาเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ (ถ้าใครชอบหอมใหญ่ ก็สามารถหั่นใส่ลงไปได้นะคะ)
จากนั้นก็หันไปตั้งกระทะบนเตาไฟค่ะ ใส่น้ำมันพืชลงไปสัก 2 - 3 ชต.
แล้วก็จับกระทะเอียงไปเอียงมา เพื่อให้น้ำมันเคลือบไปทั่ว ๆ กระทะ (ในบริเวณที่เราจะทำไข่เจียว)
พอกระทะร้อนดี ก็จัดการเทส่วนผสมไข่เจียวแหนมของเราใส่ลงไป (ใช้ไฟกลางนะคะ อย่าใช้ไฟแรง ไม่งั้นไข่จะไหม้ก่อนจะสุก)
แล้วก็ทิ้งระยะเวลา รอให้ไข่สุกนะคะ .... พอไข่สุกด้านนึงแล้วก็จัดการเอาตะหลิวช้อนไปข้างใต้ไข่ แล้วก็พลิกกับไข่ด้านที่ยังไม่สุกลงไป .... จากนั้นก็ทอดต่อไปจนสุกทั้งสองด้านอ่ะค่ะ
ท้ายสุดแล้วเราก็จะได้ไข่เจียวแหนมออกมาหน้าตาแบบนี้นะคะ ^^ .... น่ากินไหมเอ่ย
ป.ล. เพื่อนๆ ไม่ต้องงงไปนะคะ ว่าทำไมในรูปด้านบน ไข่เจียวยังเป็นแผ่นอยู่ แต่ทำไมรูปข้างล่างนี้ไม่เป็นแผ่นซะแล้ว คือพิมเอาตะหลิวสับ ๆ ให้เป็นชิ้นเล็กๆ เองน่ะค่ะ สามีบอกว่าจะได้กินง่ายดี
ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็ลองทำดูนะคะ ทำไม่ยากเลย แถมอร่อยด้วยอ่ะค่ะ ^^
เวลากิน ถ้าจะให้อร่อยเป็นพิเศษ ต้องกินตอนที่ยังร้อน ๆ อยู่นะคะ ...... แล้วเหยาะพริกน้ำปลาสักนิดนึง ขอบอกว่า อร่อยเหาะไปเลยค่า .... แล้วเจอกันใหม่เมนูหน้านะคะ