วันนี้เรามาทำเมนูง่ายๆ ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ ส่วนผสมไม่มาก แต่ออกมาอร่อย ใคร ๆ ก็กินได้ .... กันนะคะ กับเมนูไก่ย่างน้ำผึ้งค่ะ
เมนูนี้เป็นเมนูไก่ย่างแบบนึงที่พิมชอบทำนะคะ เพราะว่าแค่หมักส่วนผสมทุกอย่างรวมกันไว้คืนนึง อีกวันก็เอามาย่าง เราก็จะได้ไก่ย่างอร่อย ๆ กินแล้วล่ะค่ะ เพราะงั้นไม่พูดพล่ามทำเพลง ........ มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยดีกว่านะคะ ^__^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- สะโพกไก่ติดน่อง 2 ชิ้นใหญ่ หนักประมาณ 750 กรัม)
- รากผักชี 4 รากใหญ่
- กระเทียมไทยกลีบเล็ก 1 ชต.
- พริกไทยขาว 1 ช้อนชา
- น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
- นมข้นจืด 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเลย ให้เราโขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยรวมกันให้ละเอียดก่อนนะคะ (หั่นรากผักชีก่อนค่อยโขลกนะจ๊ะ เพราะเคยมีคนถามพิมมาว่า ตำแหลกยากมาก สอบถามไปสอบถามมาคือใส่ไปทั้งรากอ่ะค่ะ) พอโขลกเสร็จก็คดใส่กาละมังที่เราจะใช้หมักไก่ ใส่น้ำตาลปี๊บ นมข้นจืด ซีอิ๊วดำ ซอสหอย ซีอิ๊วขาว และน้ำผึ้งลงไป คนทุกอย่างให้เข้ากันค่ะ
แล้วก็เอาไก่ที่ล้างสะอาดดีแล้วใส่ลงไปในกาละมัง นวด ๆ ขยำๆ ให้ไก่เข้ากับน้ำหมักสักแป๊บบบ ก็เอากาละมังไก่ใส่ตู้เย็น หมักไว้ 1 วัน 1 คืน หรือประมาณ 20-24 ชม. เพื่อให้น้ำหมึกซึมเข้าไปข้างในเนื้อไก่นะคะ
วันรุ่งขึ้นก็นำไก่ออกจากตู้เย็น พักไว้ให้คลายความเย็นสักหน่อย ก็นำไปย่างบนเตาถ่านไฟอ่อนๆ จนสุกค่ะ แต่เนื่องจากว่าวันนี้พิมไม่อยากก่อเตาถ่านอ่ะค่ะ เพราะฝนฟ้าทำท่าจะตก กลัวย่างๆ ไปฝนตกขึ้นมาจะลำบาก (เตาถ่านบ้านพิมอยู่นอกชายคาบ้าน) บวกกับแอบขี้เกียจนิ๊ดดดนึง แล้วก็ไม่ค่อยสะดวกที่จะไปคอ่ยนั่งกลับไก่ย่างที่อยู่บนเตาอยู่บ่อยๆ เนื่องจากวันนี้พิมทำกับข้าวหลายเมนูพร้อมกันในทีเดียวเน๊าะคะ >_< ........ เพราะงั้นวันนี้พิมจะขอใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน Magic Chef แทน ซึ่งการใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก ผลลัพธ์ที่ได้ก็ออกมาสวยงามไม่แพ้ย่างด้วยเตาถ่านเลยค่ะ
วิธีย่างไก่ด้วยหม้อ Magic Chef ก็คือ ให้เราเอาวางสะโพกไก่วางลงไปบนตะแกรงที่มีขาตั้งแบบในภาพด้านล้างนี้นะคะ
รีวิวหม้อทอดเพื่อสุขภาพไร้น้ำมัน Magic Chef ที่ทำได้สารพัดเมนู ทั้งคาวหวาน >> คลิ๊กดูได้ที่นี่ค่ะ <<
แล้วกดปุ่มตั้งอุณหภูมิที่ 150 องศา เวลา 15 นาที จากนั้นกดปุ่ม Start ปล่อยให้หม้อทอดทำงานไปเรื่อย ๆ ค่ะ พอเครื่องทำงานครบเวลา และมีเสียงดังปี๊ด ๆ ก็ให้เราพลิกกลับชิ้นไก่เอาอีกด้านขึ้นมา และเพิ่มเวลาไปอีก 15 นาทีนะคะ
พอครบเวลาเราก็เปิดฝาหม้อดู ลองเช็คว่าไก่สุกหรือยัง ด้วยการเอาปลายมีดแหลม หรือส้อม จิ้มลงไปที่เนื้อไก่จนถึงด้านใน หากยังมีน้ำสีแดง ๆ ไหลออกมา หรือเนื้อไก่ยังเป็นสีแดง/ชมพูอยู่ แปลว่ายังไม่สุกค่ะ ต้องย่างต่ออีกนิด อาจจะสัก 5 - 10 นาที ตามความหนาของชิ้นไก่ ซึ่งแต่ละชิ้นจะหนาไม่ค่อยเท่ากันเน๊าะคะ
และพอครบเวลาแล้ว เราก็จะได้ไก่ย่างน้ำผึ้งออกมาหน้าตาอย่างในภาพนี่แหละค่ะ
เวลาจะทานก็เอามาสับเป็นชิ้นใหญ่ ๆ เสริฟพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่ว และข้าวเหนียวร้อนๆ สักกระติ๊บ เราก็จะได้ไก่ย่างอร่อย ๆ ที่ทำได้ไม่ยุ่งยากแล้วนะคะ ซึ่งขอบอกว่าเนื้อนุ่มมาก และหนังกรอบนิด ๆ ด้วยค่ะ ^_^
แต่นิ๊ดดนึง หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราใส่แต่น้ำผึ้งอย่างเดียว ไม่ใส่น้ำตาลปี๊บได้ไหม พิมก็ขอตอบว่าไม่ได้นะคะ เพราะน้ำผึ้งมีทั้งความหวานและในขณะเดียวกันก็มีความหนืด หากเราใส่แต่น้ำผึ้งอย่างเดียว ส่วนของหนังไก่จะไหม้ได้ง่ายค่ะ ... และอีกเรื่องที่สำคัญคือ ความหอมของไก่ขึ้นอยู่กับกลิ่นหอมของน้ำผึ้งด้วย เพราะงั้นเลือกน้ำผึ้งที่มีกลิ่นที่เพื่อนๆ ชอบนะคะ ^_^
เทคนิคสำคัญอีกอย่างของการย่างไก่ที่พิมทำบ่อย ๆ (ไม่รู้เรียกว่าเทคนิคไหมนะ ^_^) ก็คือ หมั่นเอาแปรงจุ่มน้ำที่เราหมักไก่ มาทาที่บริเวณหนังไก่หรือชิ้นไก่บ่อย ๆ ในช่วงที่ย่าง จะทำให้หนังไก่ดูชุ่มชื้น และไม่แห้งอ่ะค่ะ ^_^ (พิมทาประมาณด้านละ 2 ครั้ง) ......... ลองไปทำกันดูนะคะ
แปรงที่พิมใช้คือแปรงซิลิโคน ซื้อได้ในซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป ร้านไดโซะ (ร้านขายทุกอย่าง 60 บาท) อิเกีย แผนกเครื่องครัวในห้าง ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ และอีกหลายที่ค่ะ
หากย่างไก่เสร็จแล้ว ยังไม่ทานทันที แต่อยากให้ไก่ยังคงร้อนอยู่ ก็ให้ห่อด้วยฟอยล์เอาไว้นะคะ จะช่วยยืดระยะเวลาไก่ร้อนๆ ไปได้พักนึงค่ะ ^_^