header



หลายวันก่อน พิมได้รับเชิญจากทางรายการ The Chair  ให้ไปสาธิตการทำอาหารจากปลานิล ซึ่งเป็นปลาพระราชทานจากในหลวงของเรานะคะ

ซึ่งเมนูที่พิมเอาไปสาธิตเนี่ย ก็มีอยู่หลากหลายเมนูเลยค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นแกงส้มปลานิลกับมะละกอ  ขนมจีนน้ำยากะทิปลานิล  ปลานิลนึ่งมะนาว   ต้มยำปลานิล  ปลานิลฟูกับยำมะม่วง  และก็ลาบปลานิลทอดนะคะ   และทุกเมนูเนี่ย พิมขอบอกเลยว่าอร่อยถึงอร่อยมาก  เพราะนั้นแล้ว ใครที่ไม่ชอบกินปลานิล หรือรู้สึกว่าอยากกินปลานิล แต่ยังหาเมนูที่เหมาะ ๆ กับปลานิลไม่ได ้ พิมก็อยากให้ลองติดตามครัวบ้านพิมดูนะคะ  เพราะนับจากช่วงนี้พิมจะทยอยเอาเมนูปลานิลมานำเสนอเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการเผยแพร่ปลานิล ปลาของในหลวงท่านอ่ะค่ะ ^_^

และวันนี้เนี่ย พิมก็เอามานำเสนอหนึ่งเมนูนะคะ เป็นเมนูที่พิมสาธิตสดในรายการ The Chair   และเมื่อทำเสร็จ ทั้งพิธีกร  แขกรับเชิญในรายการ และทีมงานต่างบอกว่าอร่อยมาก  จนหมดจานในชั่วพริบตาเดียวเลยอ่ะค่ะ ........ ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยนะคะ ^_^

spicy deep fried tilapia 13

spicy deep fried tilapia 15

spicy deep fried tilapia 14

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- เนื้อปลานิล   250 กรัม
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ผักชีฝรั่ง หั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอม หั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดง หั่นหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
- ใบสะระแหน่ เด็ด 1/4 ถ้วย
- พริกขี้หนูแห้งทอด 1/4 ถ้วย (หรือมากน้อยตามที่ชอบ) 
- แป้งทอดกรอบ สำหรับคลุกปลา 1/2 ถ้วย
- น้ำมันสำหรับทอดปลา   1/2 ลิตร

ถ้วย = ถ้วยตวงมาตรฐาน   ส่วน ช้อนโต๊ะ-ช้อนชา = ช้อนตวงมาตรฐาน  เพื่อน ๆ สามารถอ่านรายละเอียด  สถานที่ซื้อ และวิธีการใช้ช้อนตวง ถ้วยตวง ได้ >> ที่นี่ << ค่ะ

spicy deep fried tilapia 02

:: วิธีทำ :: 

 เริ่มต้นเราก็มาจัดการกับปลากันก่อนนะคะ  ^_^ ...... ซึ่งถ้าเราซื้อปลานิลเป็นตัว ๆ มาจากตลาดสด  เพื่อความสะดวก ตอนซื้อเราก็บอกให้คนขายเค้าแล่เนื้อปลามาให้เป็นชิ้นใหญ่ ๆ เลยค่ะ  แต่ถ้าคนขายเค้าไม่แล่ให้ เราก็กลับมาแล่เองที่บ้านนะคะ  และพอแล่เสร็จ ก็ให้เราหั่นปลาเป็นชิ้นกว้างประมาณ 2 ซม.  ส่วนความยาว ก็ตามแนวขวางของชิ้นปลาเลยค่ะ   แล้วพอหั่นเสร็จ ก็ให้เราเอาปลาไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วก็ซับด้วยผ้าหรือกระดาษอเนกประสงค์ให้แห้งนะคะ ^_^ 

spicy deep fried tilapia 03

spicy deep fried tilapia 04

พอเนื้อปลาแห้งดีแล้ว (หรือแค่หมาด ๆ ก็ได้)  ก็ให้เราเอาปลาแต่ละชิ้นมาคลุกกับแป้งทอดกรอบให้ทั่ว  แล้วก็พักไว้อ่ะค่ะ 

ถ้าไม่มีแป้งทอดกรอบ สามารถใช้แป้งสาลีอเนกประสงค์   แป้งมัน  หรือ  แป้งข้าวโพด แทนได้จ้า

spicy deep fried tilapia 055

จากนั้นหันไปตั้งกระทะบนเตาไฟ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันสำหรับทอดปลาลงไป  ..... พอน้ำมันร้อน ก็ใส่ปลาลงไปทอด  แล้วหมั่นคอยพลิกกลับปลาเป็นระยะนะคะ

spicy deep fried tilapia 06

และพอปลาเหลืองกรอบทั่วทั้งชิ้น  ก็ตักขึ้นใส่กระชอน พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ ^_^

spicy deep fried tilapia 07

ระหว่างรอปลาหายร้อน  เราก็มาผสมเครื่องลาบกันเลยนะคะ ... ก็ให้เราใส่น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย พริกป่น และข้าวคั่ว ลงไปในกาละมังที่จะใช้คลุกลาบนะคะ  จากนั้นคนทุกอย่างให้เข้ากันค่ะ   

ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนกลัวว่าจะเผ็ดมาก อาจจะใส่พริกป่นไปสักครึ่งนึงก่อน  ถ้าชิมแล้วไม่เผ็ด ค่อยเติมเพิ่มก็ได้จ้า

spicy deep fried tilapia 08

ก็จะได้ออกมาเป็นแบบนี้นะคะ   หากใครอยากชิมรสชาติว่าถูกใจไหม  ก็เอาปลายนิ้วแตะขึ้นมาชิมสักนิด  ถ้ารู้สึกว่าขาดอะไรไป หรืออยากเพิ่มรสอะไร เช่น เค็ม เปรี้ยว เผ็ด  ก็ใส่เครื่องปรุงเพิ่มได้ตามชอบเลยอ่ะค่ะ  ^_^

spicy deep fried tilapia 09

แล้วก็ใส่ต้นหอมซอย  หอมแดงซอย  และผักชีฝรั่งซอย ลงไปนะคะ  

spicy deep fried tilapia 100

 ตามด้วยปลานิลทีเราทอดเอาไว้  

spicy deep fried tilapia 11

แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกที   ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เราก็จะได้ #ลาบปลานิลทอด ออกมาหน้าตาน่าทาน อย่างในภาพด้านล่างนี้เลยอ่ะค่ะ 

spicy deep fried tilapia 12

สุดท้ายก็ตักใส่จาน โรยด้วยสะระแหน่ และพริกทอดพองาม  เสิร์ฟพร้อมกับผักสดแช่เย็น เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาว แตงกวา แตงล้าน ถั่วฝักยาว ...... ตามชอบ   เท่าที่เราก็จะได้ลาบปลานิลทอดที่อร่อยพร้อมทานแล้วอ่ะค่า

ตอนเสิร์ฟ พิมใช้หัวและก้างปลานิลที่แล่เนื้อปลาออกไปแล้ว ทอดในน้ำมันท่วมโดยไม่ต้องคลุกเกลือหรือแป้ง จนเหลืองกรอบ  มาแต่งจานด้วยนะคะ ^_^ 

spicy deep fried tilapia 13

ยังไงลองไปทำทานกันดูนะคะ หากติดขัดตรงไหนก็โพสต์ถามพิมไว้ได้  แล้วเดี๋ยวพิมจะเข้ามาตอบให้เรื่อย ๆ จ้า ^_^ 

spicy deep fried tilapia 15

spicy deep fried tilapia 14

:: เพิ่มเติม ::

เผื่อหลายคนอาจจะสงสัย #วิธีทำข้าวคั่วแบบครัวบ้านพิม ก็ให้ใช้ข้าวเหนียวเปล่าๆ ประมาณ 1 กำมือ ลงไปคั่วในกระทะด้วยไฟกลาง จนกระทั่งข้าวเหนียวเริ่มเป็นสีน้ำตาลอ่อน ก็ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไปสัก 3-4 ใบ และถ้ามีข่าแก่ ก็หั่นเป็นแว่นบาง ๆ แล้วใส่ลงไปสัก 4-5 แว่นด้วยนะคะ จากนั้นก็คั่วทุกอย่างจนกรอบ และข้าวเหนียวเป็นสีน้ำตามเข้ม แปลว่าใช้ได้ ก็ปิดไฟเตา ยกกระทะลง แล้วตักข้าวคั่ว+ทุกสิ่งในกระทะลงในครกโขลกให้ละเอียด (ถ้าไม่มีครก จะใช้เครื่องปั่นของแห้งที่มากับเครื่องปั่นน้ำผลไม้ก็ได้) ก็เป็นอันว่าเราได้ #ข้าวคั่ว พร้อมใช้แล้วล่ะค่ะ
ทีนี้เนี่ย .....ข้าวคั่วเป็นอะไรที่เก็บไว้นานจะไม่หอมนะคะ แถมยังเหม็นหืนอีกต่างหาก เพราะงั้นแล้วพิมแนะนำว่า ควรทำแบบพอใช้ไม่เกิน 1 สัปดาห์ รับรองลาบของเพื่อน ๆ จะหอมข้าวคั่วสุดๆ ไปเลยค่า

#วิธีทอดพริกขี้หนูแห้ง .. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไปไม่ต้องมากนัก (ขึ้นอยู่กับปริมาณพริกที่จะทอด) ถ้าทอดพริกสัก 2 กำมือ อาจจะให้ปริมาณน้ำมันสูงสัก 1 ซม. จากนั้นเปิดไฟอ่อน #พอน้ำมันเริ่มร้อน ก็ใส่พริกขี้หนูแห้งลงไปในกระทะเลยค่ะ เอาตะหลิวคนไปคนมา พอพริกเริ่มเปลี่ยนสี จากสีแดงปกติเป็นสีเข้มขึ้นเล็กน้อย ใช้กระชอนช้อนขึ้นทันทีเลยนะคะ เพราะความร้อนที่คงอยู่ในพริก จะทำให้พริกมีสีเข้มขึ้นอีกอ่ะค่ะ หากเราปล่อยให้พริกทอดมีสีเข้มตั้งแต่อยู่ในกระทะ พอตักพริกขึ้นมาพักไว้ พริกทอดอาจจะกลายเป็นพริกไหม้และมีรสขมได้นะคะ
#วิธีเก็บพริกแห้งทอด เอาพริกแห้งที่สะเด็ดน้ำมันแล้ว ซับด้วยกระดาษอเนกประสงค์อีกที แล้วก็ใส่ถุงหรือกล่องปิดฝาให้สนิท อยู่ได้นานเป็นเดือนค่ะ



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก