header



พูดถึงอาหารที่ทำจากปลาแล้วเนี่ย  พิมเชื่อว่าหลาย ๆ คนมักจะมองข้ามอาหารที่ทำจากปลานิลนะคะ ส่วนนึงอาจจะเพราะไม่ชอบกลิ่นที่ติดมากับตัวปลา อย่างกลิ่นดินโคลน และบางคนก็อาจจะไม่ชอบเพราะปลานิลดูเป็นปลาราคาถูก ... ก็เป็นได้ค่ะ ^_^     

แต่ว่าจริง ๆ แล้วเนี่ย พิมอยากให้ทุกคนลองเปิดใจดูสักนิดนะคะ เพราะนอกจากปลานิลจะเป็นปลาที่ราคาไม่แพงแล้ว  ปลานิลก็ยังเป็นปลาน้ำจืดที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ไม่น้อยไปกว่าปลาทะเลหลายชนิดค่ะ ซึ่งเจ้าโอเมก้า 3 นี่แหละที่เป็นตัวช่วยป้องกันความเสื่อมของสมอง ลดการสะสมของโคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และลดโอกาสในการเป็นอัลไซเมอร์เมื่อตอนเราสูงอายุนะคะ ^_^   และด้วยความที่ปลานิลเป็นปลาที่มีเนื้อนุ่ม ดังนั้นจึงกินง่ายและก็ย่อยง่าย  อีกทั้งเนื้อปลานิลก็ยังมีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส มีธาตุเหล็ก มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย  จึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของเราให้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่ายอีกด้วยค่ะ   

ที่สำคัญเลย ปลานิลเป็นเนื้อสัตว์ที่มีโซเดียมต่ำ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ หรือคนที่กำลังลดน้ำหนัก  ทุกคนสามารถกินปลานิลได้โดยไม่ต้องระวังเรื่องการบวมโซเดียมเลยนะคะ  ^_^  

เพราะงั้นวันนี้พิมก็เลยจะมานำเสนอเมนูอร่อย ๆ จากปลานิลกันสักเมนูนึงค่ะ  เป็นเมนูที่อาจจะมีส่วนผสมเยอะหน่อย  แต่ว่าส่วนผสมทุกอย่างสามารถหาซื้อได้ตามตลาดสดหรือซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไปเลยนะคะ ที่สำคัญไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือเก่า  ถ้าทำตามพิม  รับรองอร่อยแน่นอนค่า ^_^ 

stir fried tilapia fish 023 

stir fried tilapia fish 022

stir fried tilapia fish 020

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- ปลานิล เบทาโกร 1 ตัว
- แป้งทอดกรอบ หรือแป้งมัน  1/4 ถ้วย
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

- เม็ดมะม่วงหิมพานต์แบบเต็มเม็ด 70 กรัม
- พุทราจีนเชื่อมแห้ง หั่นครึ่งเม็ด 90 กรัม
- เนื้อเกาลัด 60 กรัม
- พริกหวานสีเขียว เหลือง แดง รวมกัน 120 กรัม
- แปะก๊วยต้มสุก 50 กรัม
- เผือกดิบ หั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 1.5 x 1.5 ซม. 135 กรัม

- น้ำตาลทราย 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 
- ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ช้อนชา
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
- เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันสำหรับทอด  

 stir fried tilapia fish 001

:: วิธีทำ ::

แต่ก่อนจะไปลงมือทำกัน มาดูที่ปลานิลของพิมกันก่อนค่ะ  คือปกติแล้วเวลาพิมจะทำเมนูปลานิลเนี่ย พิมก็จะไปซื้อปลานิลที่ตลาดนัดท้ายหมู่บ้านนะคะ  (เค้ามีตลาดทุกเย็น เดินเพลินเลย)  แต่ว่าบางทีมันก็จะมีปัญหาโน่นนิดนี่หน่อยมากวนใจ  เช่น    บางวันปลาเหม็นกลิ่นโคลน  บางวันปลาตัวผอมมาก  บางวันแม่ค้าไม่สะดวกทำปลาให้   แถมบางวันแม่ค้าก็ชั่งกิโลไม่ตรงอีกด้วยค่ะ    พิมก็เลยตัดปัญหาด้วยการไปซื้อปลานิลแบบแช่แข็งที่ช็อปของเบทาโกรสาขาใกล้บ้านมาตุนไว้แทนนะคะ   

*** ปลานิลเบทาโกร มีขายที่ Betagro Shop 

stir fried tilapia fish 002 

ปลานิลของเบทาโกรเป็นปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 3  ที่ถูกเลี้ยงในแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างเช่น เขื่อนค่ะ   ซึ่งปลาสายพันธุ์นี้นอกจากจะมีลักษณะตัวอ้วน ตัวกว้าง เนื้อหนา เนื้อแน่นแล้ว ด้วยวิธีการเลี้ยงของเค้า ด้วยระบบน้ำที่สะอาด ก็ทำให้ปลาไม่มีกลิ่นโคลนนะคะ   แถมยังเป็นปลาที่ขอดเกล็ด ควักไส้  และก็ล้างทำความสะอาดมาเรียบร้อย  แค่เราหยิบปลาออกจากถุง ไปล้างน้ำอีกรอบ วางใส่ตะแกรงพัก พอสะเด็ดน้ำดี ก็เอามาทำกับข้าวได้เลยค่ะ ^_^

stir fried tilapia fish 025

สำหรับเมนูนี้ เริ่มแรกเราก็จะมาเตรียมปลากันก่อนนะคะ  หลังจากที่เราล้างปลา พักปลาให้สะเด็ดน้ำดีแล้ว  เราก็จะมาแล่ปลากันค่ะ

ให้เราใช้มีดคม ๆ จะเป็นมีดแล่ปลาหรือมีดสับหมูก็ได้  กดลงไปที่ระหว่างหัวปลากับตัวปลา (ภาพที่ 1)   และตรงตัวปลากับหางปลานะคะ (ภาพที่ 2)  โดยกดให้ถึงกระดูกปลา  เพื่อให้เนื้อสองส่วนนี้ขาดออกจากกัน   จากนั้นก็ค่อย ๆ ใช้มีด แล่เอาเฉพาะเนื้อปลาออกมา (ภาพที่ 4-5-6)  ก็จะได้เนื้อปลาเป็น 2 ชิ้นใหญ๋แบบในภาพด้านล่างค่ะ  

stir fried tilapia fish 005

เมื่อได้เนื้อปลามาแล้ว ก็ให้เราหั่นเนื้อปลาเป็นชิ้นขนาดประมาณ 2x2 ซม. แล้วพักไว้ก่อนนะคะ 

stir fried tilapia fish 007 

ต่อมาให้เราตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟอ่อน ๆ แล้วใส่น้ำมันลงไปค่ะ  จากนั้นก็ใส่เม็ดมะม่วงลงไปเลยโดยที่ไม่ต้องรอให้น้ำมันร้อนนะคะ  ด้วยความที่เม็ดมะม่วงมีน้ำมันข้างในเมล็ดเยอะ เพราะงั้นเราจะต้องคอยคนเม็ดมะม่วงตลอด  เพื่อไม่ให้เม็ดมะม่วงสีเข้มเป็นจุด ๆ   และพอเม็ดมะม่วงเหลืองสวยทั่วกันทุกเม็ด  ก็ตักขึ้นใส่กระชอนพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันค่ะ 

** ถ้าใครใช้เม็ดมะม่วงแบบอบหรือทอดมาแล้ว ก็ให้ผ่านขั้นตอนนี้ไปได้เลยนะคะ 

** วิธีทอดแบบไม่ให้เม็ดมะม่วงเหี่ยวและไหม้ง่าย  ให้เอาเม็ดมะม่วงดิบไปแช่น้ำเปล่าสัก 3 นาที แล้วเทใส่กระชอนพักให้สะเด็ดน้ำก่อนเอามาทอดค่ะ  

stir fried tilapia fish 010

ต่อมาในกระทะใบเดิม  เร่งไฟเป็นไฟกลาง ใส่เผือกลงไปทอดต่อเลยนะคะ   คนบ้างเป็นระยะ พอเผือกเหลืองนิด ๆ  ก็ตักขึ้นใส่กระชอน พักให้สะเด็ดน้ำมันได้เลยค่ะ  

stir fried tilapia fish 009

สุดท้ายสิ่งที่เราจะต้องทอด ก็คือ เนื้อปลานิลนะคะ  

ให้เราเอาเนื้อปลานิลที่หั่นชิ้นไว้แล้วใส่ลงในชาม  ตามด้วยเกลือป่น  คลุกเคล้าให้เข้ากัน   ตามด้วยแป้งทอดกรอบ คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกทีค่ะ   (หรือจะหยิบเนื้อปลาคลุกแป้งทีละชิ้นก็ได้)   จากนั้นเอาปลาไปทอดในกระทะใบเดิม   หมั่นคนเป็นระยะ  จนปลาเหลืองกรอบดี   ก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันเช่นกันนะคะ   

stir fried tilapia fish 008

stir fried tilapia fish 011

ส่วนกระดูกปลา และหัวปลา ก็ให้เราทาแป้งทอดกรอบบาง ๆ ก่อนจะเอาลงไปทอดจนสุกเหลืองเหมือนกันค่ะ  (ส่วนนี้เราจะเอาไว้ประดับตกแต่งจานให้ดูน่ากินมากขึ้นนะคะ ^_^)  

stir fried tilapia fish 012

โอเค ... เมื่อเราเตรียมเครื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว  เราก็จะมาลงมือผัดกันล่ะค่ะ

ให้เราหยิบถ้วยมาใบนึง ใส่น้ำตาลทราย ซอสหอย ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันงาลงไป แล้วคนให้เข้ากันนะคะ  

stir fried tilapia fish 013

จากนั้นตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟกลางค่อนไปทางแรง ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมลงไปเจียวให้เหลืองหอมค่ะ  ตามด้วยพริกหวาน ผัดพอสลด 

stir fried tilapia fish 014

ก็ใส่เผือกทอด แปะก๊วย เกาลัด พุทราจีน ปลาทอด เม็ดมะม่วงลงไป  

stir fried tilapia fish 015

ตามด้วยซอสที่เราผสมไว้ และเหล้าจีน  ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน พอซอสแห้งก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ  

stir fried tilapia fish 016

แล้วเราก็จะได้  “ปลานิลผัดห้าเซียน”  ออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนะคะ 

*** วิธีจัดจานแบบในภาพ คือ เอากระดูกปลากับหัวปลาที่เราทอดไว้วางลงไปในจานก่อน แล้วค่อยตักเครื่องที่เราผัด โปะลงไปอีกทีค่ะ 

stir fried tilapia fish 024

เมนูนี้เนี่ย รสชาติจะออกเค็มหวาน  หอมกลิ่นน้ำมันงา หอมกลิ่นเหล้าจีน และมีรสสัมผัสหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปลานิลชิ้นใหญ่ เนื้อแน่น แปะก๊วย เผือกทอดที่หนึบ ๆ พริกหวาน เม็ดมะม่วงกรอบ ๆ ... จะกินเล่น กินแกล้มเครื่องดื่ม หรือว่ากินกับข้าว พิมว่าก็อร่อยนะคะ

stir fried tilapia fish 021

 ยังไงลองไปทำกินกันดูค่ะ ติดขัดตรงไหนก็แวะเวียนมาถามกันได้  พิมจะเข้ามาตอบให้เรื่อย ๆ นะคะ ^_^

stir fried tilapia fish 022



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก