วันนี้พิมขอเอาอีกหนึ่งเมนูโปรดและทำทีไรก็ขายดีทุกที ซึ่งเมนูนั้นก็คือ  "ปลาร้าทรงเครื่อง" ... มาฝากเพื่อน ๆ ชาวครัวบ้านพิมกันค่ะ ^__^

แต่วันนี้พิมไม่ขอพูดพล่ามทำเพลงล่ะค่ะ เพราะว่าวันนี้งานพิมเยอะมาก.ก.ก.ก.ก.ก  ทั้งงานเพื่องเงินและงานบ้าน  รวมถึงงานที่ไม่ได้อยู่ในบ้าน    และมีอะไรจะต้องรีวิวอีกเพียบ T__T   (ดองไว้ประมาณ 13 โหลแล้วค่ะ)   เพราะงั้นเมนูนี้ไม่ขอเกริ่นนำนะคะ  เอาเนื้อ ๆ ไปเลย น้ำไม่ต้อง ..... เพราะงั้นจัดรูปที่ทำสำเร็จแล้วและสูตรไปเลยจ้า

/

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- ปลาร้าอย่างดี 1/2 ถ้วยตวง ......... (พิมใช้ปลาร้าปลากระดี่ผสมกับปลาหมอ)
- หางกะทิ 1 + 1/2 ถ้วยตวง
- ตะไคร้แก่ๆ  1 ต้น
- ข่าแก่ 3 แว่น
- ใบมะกรูดแก่ๆ 5 ใบ

- ปลาดุก 1 ตัว ............. (น้ำหนักประมาณ 300 กรัม) 
- น้ำปลาร้าต้มจากด้านบน
- หัวกะทิ  1 + 1/2 ถ้วยตวง
- พริกหยวก 3 เม็ด
- ถั่วฝักยาว 3 ฝักใหญ่
- พริกขี้หนูแดงเม็ดใหญ่ 15 เม็ดหรือพริกชี้ฟ้าสีแดง 3 เม็ดใหญ่
- หน่อไม้ต้มแบบในภาพ 2 หน่อ
- ตะไคร้แก่ ๆ 1 ต้น
- มะเขือเปราะ 4 ลูก 
- กระชาย 5 รากใหญ่
- ใบมะกรูด 10 ใบ 
- น้ำมะขามเปียก 5 ชต.
- เกลือป่นหรือน้ำปลา  (หากน้ำปลาร้าไม่เค็มพอ)
- น้ำตาลปี๊บ  (อาจจะต้องใส่ ถ้าปลาร้าเค็มโด่จนเกินไป แต่พิมไม่ได้ใส่ค่ะ)

ป.ล. สำหรับปลาดุก ... พิมลืมถ่ายภาพมาให้ดูโดยเฉพาะนะคะ  แต่ว่าหลังจากซื้อมาแล้วให้หั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 ซม. (ไม่เอาส่วนหัว)  แล้วเคล้าด้วยเกลือป่นสัก 2 รอบ เพื่อให้เมือกหลุดออกไป ก่อนจะล้างน้ำให้สะอาดและพักใส่ตะกร้าโปร่งไว้ให้สะเด็ดน้ำนะคะ

:: วิธีทำ ::

อันดับแรกเลยเราจะต้องมาต้มน้ำปลาร้ากันก่อนนะคะ  ... ซึ่งปลาร้าที่เราจะเอามาใช้ทำปลาร้าทรงเครื่องเนี่ย ก่อนอื่นให้พิสูจน์กลิ่นก่อนนะคะ ถ้าประมาณว่าเปิดถุงเปิดขวดเปิดกล่องมาแล้วหอมฟุ้งไปทั่วบ้านเนี่ย แสดงว่าใช้ได้ เอามาทำได้ค่ะ แต่ถ้าเปิดมาแล้วกลิ่นแปลก ๆ  สีแปลก ๆ ไม่ค่อยหอมล่ะก็ เปลี่ยนเป็นปลาร้าเจ้าอื่นดีกว่าอ่ะค่ะ

สำหรับปลาร้าที่พิมใช้ในวันนี้ แม่พิมฝากป้าที่รู้จักกันให้ซื้อมาให้จากต่างจังหวัดครั้งละประมาณ 10-20 โลค่ะ  หมดทีก็ฝากที  เป็นปลาร้าปลากระดี่บางทีก็เป็นปลารวม แต่หอมแล้วก็รสดีมากเลยค่ะ ^^

ก็ให้เราเอาหางกะทิที่เตรียมไว้เทใส่หม้อใบย่อม ๆ สักใบนะคะ  แล้วก็เทปลาร้าทั้งน้ำทั้งเนื้อใส่ลงไป ตามด้วยตะไคร้ที่ทุบพอแตกหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ  กับข่าสับหยาบ ๆ และใบมะกรูดฉีก .... ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเนื้อปลาร้าละลายไปกับกะทิทั้งหมด ก็ปิดไฟเตา ยกลง

แล้วจัดการกรองเอาแต่เฉพาะน้ำไว้ค่ะ ส่วนกากก็ทิ้งไป

ป.ล.จริง ๆ ไม่ต้องถึงขนาดกับกรองด้วยผ้าตาถี่ ๆ แบบพิมก็ได้นะคะ แต่พอดีกระชอนด้านล่างของพิมค่อนข้างเป็นตาข่ายละเอียด พิมกลัวว่าเศษก้างจะไปอุดแล้วล้างลำบาก ก็เลยเอาผ้ารองอีกทีอ่ะค่ะ

กรองแล้วก็ได้มาเป็นแบบนี้นะคะ ... พักไว้ก่อน

จากนั้นหันมาเตรียมผักต่าง ๆ ที่เราจะใช้ใส่ในปลาร้าทรงเครื่องของเรากันต่อค่ะ

สำหรับพริกหยวก ก็ล้างน้ำแล้วหั่นเป็นท่อนสั้น ๆนะคะ  ถ้าใครใช้พริกชี้ฟ้าแดงก็ทำอย่างเดียวกัน   ส่วนพริกขี้หนูแดงก็ล้างน้ำแล้วเด็ดขั้วทิ้งไปค่ะ   (พริกขี้หนูแดงเม็ดใหญ่ให้เลือกที่เม็ดสั้น ๆ จะดูไม่เทอะทะนะคะ)

ตะไคร้ ก็เลือกต้นอวบๆ ตัดโคน ลอกกาบที่ไม่ได้ใช้ทิ้งไป ล้างน้ำให้สะอาด แล้วซอยเฉียง ๆ บาง ๆ ไว้ค่ะ  (เอาเฉพาะส่วนที่อ่อน เคี้ยวได้นะคะ)    ส่วนกระชายก็ขูดผิวออกบ้าง ล้างน้ำให้สะอาด แล้วซอยเป็นเส้น ๆ ไว้เช่นกันค่ะ

ถั่วฝักยาว เลือกฝักแน่นๆ  ล้างน้ำแล้วหั่นเป็นท่อนสั้นประมาณ 1 นิ้วเอาไว้  ใบมะกรูดก็เลือกที่ใบแก่ ๆ สีเขียวเข้ม ล้างน้ำแล้วฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้ค่ะ (แกนกลางใบไม่เอา)

หน่อไม้ต้ม .. พิมซื้อที่เค้าต้มมาแล้วค่ะ 3 หน่อเล็ก ๆ 10 บาท  ก็ใช้แค่ 2 หน่อ เอามาหั่นเป็นชิ้นพอคำแบบในภาพนะคะ   ส่วนมะเขือก็ตัดขั้วออกล้างน้ำ แล้วหั่นแต่ละลูกเป็น 4 - 6 ชิ้น (ตามขนาดผล) แล้วแช่ในน้ำผสมเกลือป่นเล็กน้อยไว้ค่ะ (เพื่อไม่ให้มะเขือดำ)

เมื่อเตรียมเครื่องต่าง  ๆ เสร็จก็มาลงมือทำกันนะคะ

เริ่มต้นด้วยการเทน้ำปลาร้าที่เราต้มกับหางกะทิไว้แล้วใส่ลงไปในหม้อใบย่อมๆ สักใบนะคะ แล้วเอาไปตั้งเตาไฟ เปิดไฟกลาง  ...... พอน้ำปลาร้าเดือดก็ใส่ปลาดุกลงไป  ปิดฝาหม้อ  ไม่ต้องคนไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นค่ะ รอจนปลาดุกสุกก็ค่อยเปิดฝา  (ประมาณ 5-7 นาที)

พอปลาดุกสุกดี  (เนื้อแข็ง ไม่เละ)  ก็ใส่กระชายซอย หน่อไม้ ตะไคร้  และมะเขือเปราะผ่าซีกที่เราเตรียมไว้แล้วลงไปค่ะ  แล้วก็รอสักแป๊บนึงให้มะเขือสุก

พอมะเขือสุกก็ใส่ผักทั้งหมดที่เหลือ  (พริก 2 อย่าง ใบมะกรูด ถั่วฝักยาว) ตามด้วยหัวกะทิ ... ราดลงไปให้ทั่ว ๆ เลยค่ะ

ป.ล. บางคนเค้าก็จะใส่ผักทั้งหมดลงไปพร้อมกันเลย แต่พอมชอบใส่พวกพริกและถั่วฝักยาวทีหลัง เพราะไม่อยากให้มันสุกมากไป อยากให้เวลาเคี้ยวแล้วยังกรอบ ๆ อยู่หน่อยนึงอ่ะค่ะ  แต่ถ้าเพื่อน ๆชอบผักนิ่ม ๆ หน่อย จะใส่ไปพร้อมกับหน่อไม้ กระชายพวกนั้นเลยก็ได้นะคะ

แล้วทำการปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก   ...  พอเดือดอีกทีก็ตักน้ำขึ้นมาชิมรสชาติว่าไปไหนทางไหน  ก็ให้ออกเปรี้ยวนิด ๆ เค็มหน่อยๆ หวานจากกะทิ  และหอมกลิ่นปลาร้าอะไรประมาณนั้นอ่ะค่ะ   ซึ่งหากชาดรสไหนไปก็เติมเพิ่มได้ตามใจชอบเลยค่ะ   แต่ถ้าเกิดเค็มเกินไปหรือเปรี้ยวเกินไปก็อาจจะลดเค็มลดเปรี้ยวด้วยการเติมน้ำเปล่าหรือหางกะทิลงไปอีกสักหน่อยนะคะ

จากนั้นก็รอให้เดือดอีกทีก็เป็นอันใช้ได้ ปิดไฟเตา แล้วยกลงได้เลยจ้า

แล้วเราก็จะได้ปลาร้าทรงเครื่อง ... ออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ    (ขอแอบเข้าข้างตัวเองว่ามันดูน่ากินมาก ฮ่ะๆ)

และนอกจากหน้าตาจะดูน่าทาน  (คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อน)  ขอบอกว่ารสชาติก็ยังถูกใจพิมและคุณสามีมากเลยค่ะ

.... ขนาดคุณสามีที่ไม่เคยกินปลาร้าทรงเครื่องมาก่อน  และบอกว่าจะไม่กิน  แต่พอได้กินก็ยังซดน้ำปลาร้าในชามซะจนหมดถ้วยเลยค่ะ ^^   (ส่วนผักคุณสามีไม่แตะเลย - อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก >_<")

ก็ยังไง .. หากเพื่อนๆ สนใจก็ลองไปทำดูนะคะ ทำไม่ยากเลย  แป๊บเดียวก็ได้ทานแล้ว  (แถมอุดมไปด้วยผักอีกต่างหาก)  และหากใครที่ไม่ชอบทานปลาต้มแบบพิม จะไม่ใส่ปลาเลยก็ได้เช่นกันค่ะ (แต่ปลาร้ายังต้องใส่นะ ^^) ...... ก็หวังว่าจะเป็นอีก 1 เมนูที่เป็นเมนูอร่อยของเพื่อน ๆ ได้นะคะ  แล้วเจอกันเมนูถัดไปค่า ^^

:: เพิ่มเติม ::

เรื่องหางกะทิ หัวกะทิในเมนูนี้ ....... สำหรับบางคนเค้าก็จะใช้วิธีเอาหัวกะทิไปต้มกับปลาร้าเลย  อย่างนั้นก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ  ออกมาอร่อยเหมือนกัน แต่พิมว่าถ้าเราเอาปลาร้าต้มกับหางกะทิก่อน แล้วแยกหัวกะทิไว้มาราดทีหลัง จะทำให้สีของปลาร้าทรงเครื่องของเราดูขาวนวลตาน่ากินกว่าอ่ะค่ะ  (ความเห็นส่วนตัวจริงๆ)