เมื่อมีแฟนเพจรีเควสมา พิมก็จัดให้นะคะ  กับ "หมูผัดกะปิ"  สูตรบ้านยายคุณสามีพิมเอง  เป็นสูตรที่ยายทำขายอยู่ในตลาดอำเภอบ้านส้อง จังหวัดสุราษฎร์มากว่า 30 ปีอ่ะค่ะ

พูดถึงหมูผัดกะปิแล้ว พิมก็อยากเล่าให้ฟังถึงความน่ารักของยายคุณสามีนะคะ  ว่าตอนสมัยยายคุณสามียังแข็งแรงอยู่เนี่ย  เวลาพิมไปบ้านคุณสามีที่สุราษฎร์  ก่อนกลับกรุงเทพฯ แทบทุกครั้ง  ยายคุณสามีจะต้องทำหมูผัดกะปิ  กับคั่วกลิ้งใส่ถุงมัดปาก ใส่กล่องทัพเปอร์แวร์ เพื่อให้หลานชายสุดที่รักของยาย  เอากลับมาเป็นเสบียงไว้กินที่กรุงเทพฯ  ครั้งละหลาย ๆ โลเลยอ่ะค่ะ  

ซึ่งหมูผัดกะปิ กับคั่วกลิ้งของยายเนี่ย  เป็นที่เลื่องลือในเรื่องของความอร่อย และรสชาติที่กลมกล่อมมาก มีทั้งความเผ็ดหอม เค็ม เผ็ดนิดๆ  และหมูนุ่มๆ    เรียกว่าสมัยที่ยายยังขายแกงถุงอยู่  ถ้าใครไปบ้านส้องแล้วไม่แวะกินข้าวร้านยายเนี่ย ถือว่าไปไม่ถึงบ้านส้องนะคะ ^_^ 

เพราะงั้นวันนี้เนี่ย พิมก็เลยขอเอาวิธีการทำหมูผัดกะปิแบบยายคุณสามีมาทำให้ดูกันค่ะ  ส่วนผสมเนี่ยได้มาจากยาย  แต่สูตร .. ได้มาจากพิมกับคุณสามีที่ทดลองทำทดลองชิมกันมา  จนคิดว่าได้รสชาติและรสสัมผัสที่ใกล้เคียงยายทำมากที่สุดแล้ว   ยังไงลองไปทำดูกันนะคะ

***  

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- หมูสามชั้น หั่นเป็นชิ้นพอคำ  350 กรัม  (ไม่ต้องตัดส่วนที่เป็นหนังทิ้ง) ฅ
- ตะไคร้ซอย 1/4 ถ้วย  (ประมาณ 2 ต้นใหญ่ ๆ)
- หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ   (ประมาณ 2 หัว) 
- พริกขี้หนูสวน สีเขียวผสมแดง   30 เม็ด   
- ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
- กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ 
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ 
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- น้ำมันสำหรับผัด 2-3 ช้อนโต๊ะ  

 :: วิธีทำ ::

เริ่มต้น เรามาโขลกเครื่องที่จะใช้ผัดกันก่อนนะคะ .... ก็ให้เราหยิบครกมาใบนึง  ใส่หอมแดงลงไป ตามด้วยตะไคร้กับพริกขี้หนูสวนอีกอย่างละครึ่ง  แล้วโขลกให้เข้ากันแบบหยาบๆ  อ่ะค่ะ   (ถ้าโขลกละเอียด เวลาเอาไปผัดแล้วจะเป็นเลน)  

หันมาตั้งกระทะบนเตา ใส่น้ำมันลงไป  เปิดไฟกลาง ๆ พอน้ำมันร้อน ก็ใส่เครื่องที่เราโขลกไว้ + ตะไคร้ซอยส่วนที่เหลือ ลงไปผัดให้หอมนะคะ   (แค่พอส่งกลิ่นหอม ไม่ต้องให้เหลือง หรือ เกรียม)

จากนั้นก็ใส่กะปิลงไปค่ะ  ใช้ปลายตะหลิว ผัด ๆ สับ ๆ ให้กะปิเข้ากับเครื่องที่อยู่ในกระทะนะคะ    (ยังไม่ต้องใส่น้ำนะ) 

***  พิมใช้กะปิ 2 แบบผสมกัน  แบบแรกเป็นกะปิเนื้อละเอียด หมักนานหลายเดือน  จะมีความหอมมาก แต่สีก็จะเข้ม ๆ หน่อย   ส่วนแบบที่สองเป็นกะปิบดหยาบ ชนิดที่ยังเห็นเป็นตัวเคยอยู่  และใช้เวลาหมักน้อย  สีก็จะอ่อน ๆ นิดนึง   เหตุที่ใช้สองอย่างผสมกัน  เพราะพิมอยากได้ความหอมมาก ๆ จากกะปิสีเข้ม   แต่ก็ไม่อยากให้หมูผัดกะปิสีเข้มมาก เลยใช้กะปิสีอ่อนผสม  และในขณะเดียวกันก็อยากให้เวลาเคี้ยว ได้รสสัมผัสจากเคยเป็นตัว ๆ  บ้างอ่ะค่ะ

*** ลองชิมกะปิก่อนที่จะเอามาใช้ปรุงรส ว่ามีความเค็มมากน้อยแค่ไหนนะคะ  ถ้ากะปิเค็มมาก อาจจะใส่แค่ 2 ช้อน หรือ 2 + 1/2 ช้อน  ไม่งั้นเวลาผัดออกมาแล้ว จะเค็มมากไปอ่ะค่ะ  

*** สีของหมูผัดกะปิ จะเข้มหรืออ่อน ส่วนนึงขึ้นอยู่กับสีของกะปิ อีกส่วนขึ้นอยู่กับส่วนของเนื้อหมูที่เลือกใช้   ถ้าเลือกใช้หมูส่วนสันคอ จะออกมาสีเข้มกว่าใช้ส่วนสะโพกหรือสามชั้น 

พอกะปิส่งกลิ่นหอมดี  ก็ใส่หมูสามชั้นที่เราหั่นไว้ลงไปผัดให้เข้ากับกะปินะคะ     ผัดไปจนพอผิวหมูตึง ๆ  ก็ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ แล้วผัดให้เข้ากันอีกทีค่ะ 

*** พยายามเลือกสามชั้นที่มันน้อย ๆ เนื้อเยอะๆ นะคะ จะทำให้ไม่เลี่ยน  (ยกเว้นแต่ใครจะชอบมันเยอะๆ ^_^)  หรือถ้าไม่ชอบหมูมีมัน  ก็เปลี่ยนไปใช้สันคอ  สะโพก แทนได้อ่ะค่ะ

ถึงตรงนี้ก็เติมน้ำซุปกระดูกหมูหรือน้ำเปล่าลงไปนะคะ   ผัดให้เข้ากัน  จนน้ำตาลปี๊บและกะปิละลาย  (ใช้เวลาแป๊บเดียว)   ก็ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน  แล้วปล่อยทิ้งไว้สักครู่จนหมูนุ่มอ่ะค่ะ   (ระหว่างนี้ก็คนเป็นระยะ ๆ ด้วย) 

 และพอหมูนุ่มตามต้องการ  + น้ำในกระทะเหลือแค่ขลุกขลิก   ก็ใส่พริกขี้หนูที่เป็นลูกโดด (ถ้าชอบเผ็ดนิดๆ  ก็โขลกให้แหลกหน่อย ๆ)  กับใบมะกรูดฉีกลงไป  ผัดให้เข้ากัน แล้วเราก็จะได้  #สามชั้นผัดกะปิ ออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ

*** หลังจากผัดเสร็จเรียบร้อย ก่อนตักใส่จาน ให้ลองตักทั้งหมูและเครื่องที่อยู่ในกระทะ ขึ้นมาชิมนิดนึงว่ารสชาติเป็นยังไง เค็มไหม เค็มโดดไปไหม หรือจืดไปไหมอ่ะค่ะ   ถ้าจืดก็อาจจะเหยาะน้ำปลาเพิ่มไปนิด  ถ้าเค็มโดดก็อาจจะเปิดเตา เติมน้ำตาลไปอีกหน่อย เติมน้ำเปล่าไปอีกนิด แล้วผัดต่ออีกสักแป๊บนะคะ 

 

 หมูผัดกะปิสูตรนี้เนี่ย จะรสเค็มนำ แต่ไม่ได้แบบว่าเค็มโด่เด่  แล้วก็หวานตามพอปะแหล่มๆ  ไม่ได้หวานเจี๊ยบ  แล้วก็มีความเผ็ดแซมนิด ๆ   ตัวหมูสามชั้นก็จะนุ่ม ๆ หน่อย  คลุกกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือกินคู่กับพวกคั่วกลิ้ง ไข่พะโล้ ผัดผักนี่ อร่อยมากเลยค่ะ   

 สำหรับคนที่ไม่กินหมูสามชั้นเนี่ย เปลี่ยนเป็นสันคอ หรือหมูสะโพกก็ได้นะคะ  อร่อยเหมือนกัน  แต่ว่าสามชั้นจะละมุนสุด เพราะว่ามีมันและหนังนุ่มๆ  ด้วยอ่ะค่ะ   และส่วนใครที่ไม่กินหมู จะเปลี่ยนเป็นหมึก กุ้ง  เนื้อวัวก็ได้นะคะ  ตามที่ชอบเลย 

ลองไปทำกันดูค่ะ  แล้วพบกับพิมใหม่ในเมนูถัดไปนะคะ ^_^